ตอนที่ 261 เฉยเมย
เมื่อได้ข่าวว่าเฉินเชียนโหรวบังเอิญเจอเฉินฝานซิงแล้วถูกเธอรังแกเข้า ซูเหิงก็รีบมาที่นี่ด้วยความร้อนใจ
เขาเปิดประตูรถออกมาด้วยสีหน้ากังวล ทว่าเขากลับเห็นภาพของสองร่างที่แสนคุ้นตาปรากฏอยู่ตรงหน้าไม่ไกลนัก
นั่นฝานซิงกับสวี่ชิงจือ
สวี่ชิงจือเพิ่งปลีกตัวออกมาในตอนนั้น
แต่อีกสองคนที่เหลือกำลังหันหลังให้เขาอยู่ เพียงแค่มองจากข้างหลังเขาก็ไม่อาจรู้ได้ว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นใคร
ทำไมฝานซิงถึงได้ดูสนิทสนมกับชายคนนั้นนัก
เธอยอมให้ผู้ชายคนอื่นกอดเธอได้อย่างไร
อีกอย่าง เมื่อกี้ตอนที่เธอหันมา เธอเห็นเขาแล้วแท้ๆ แต่ว่าสายตาของเธอนั้น…
ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ เย็นชาราวกับกำลังมองคนแปลกหน้าคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
แม้ว่าเธอจะเห็นเขา ในขณะที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนอื่น เธอก็ไม่แม้แต่จะรู้สึกผิดหรือเป็นกังวลเลยสักนิด?
ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเธอออกจะแคร์เขาขนาดนั้น แม้แต่ครั้งไหนที่เผลอไปแตะเนื้อต้องตัวกับเพื่อนร่วมงานชายแม้แต่เพียงปลายก้อย พอเธอเห็นเขาเข้า สายตาคู่นั้นก็เศร้าสร้อยและร้อนรน แถมยังหลีกเลี่ยงการทำความรู้จักกับเพศตรงข้างอย่างไม่ต้องขอ เพราะกลัวว่ามันจะทำให้เขาเข้าใจผิด
แล้วทำไมพอตอนนี้ เธอถึงได้เย็นชาขนาดนั้น ราวกับมันเป็นเรื่องปกติ?
จริงอยู่ที่เขาเป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าให้พูดกันตามตรง พวกเขาเพิ่งเลิกกันกี่วันเอง
หัวคิ้วของเขายิ่งขมวดเป็นปมแน่น เฉินฝานซิงกลับไม่หันมามองเขาอีกแม้เพียงหางตา เธอก้มตัวลงก้าวขึ้นรถไป
ความใจหายที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป เขาเผลอก้าวไปข้างหน้าสองก้าวอย่างลืมตัว
“พี่!”
ในตอนนั้นเองหลินเฟยเฟยก็ร้องเรียกเขาทั้งน้ำตา เท้าของซูเหิงชะงักนิ่งลงทันที
ร่างสวยที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมฟุ้งโผเข้ามากอดเขาไว้แน่น
“พี่เหิง…”
เมื่อเฉินเชียนโหรวเห็นเขาเข้าก็รีบโผเขากอดเข้าทันที
“นี่พี่ พี่ต้องเอาคืนแทนพวกเราให้ได้นะ วันนี้เราถูกยัยชั่วเฉินฝานซิงนั่นรังแกหนักมาก พี่ดูหน้าผากเชียนโหรวสิ เพราะนั่งชั่วนั่นทั้งนั้น มันกดหัวเชียนโหรวกระแทกพื้นแรงๆ ตั้งสามครั้ง!”
ป๋อจิ่งชวนที่กำลังเบี่ยงตัวเดินไปยังประตูรถอีกฝั่ง ชะงักตัวเล็กน้อย ดวงตำลึกล้ำคู่นั้นค่อยๆ หรี่ลง เขาหันมองอวี๋ซงวูบหนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวขึ้นรถไป
“อะไรนะ กระแทกหัว? ให้ฉันดูหน่อย!”
ซูเหิงรีบประคองหน้าของเฉินเชียนโหรวเอาไว้ เมื่อเห็นรอยแดงเป็นปื้นตรงหน้าผากของเธอ ความสงสารก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
“ทำไมถึงเจอกับเธออีกล่ะ เธอจะออกห่างจากฝานซิงสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอ”
เฉินเชียนโหรวร้องไห้ออกมาอย่างปวดใจ “เธอ…เธอเป็นพี่สาวของฉันนะ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยทำเรื่องที่เลยเถิดขนาดนี้มาก่อน? ฉันไม่คิดเลยว่า เธอจะทำมัน…เธอทำมัน…”
ทั้งหมดนี่เป็นความผิดของเขาเอง ที่ทำให้เฉินฝานซิงกลายเป็นคนไร้เหตุผลแบบนี้ แล้วก็ทำให้เฉินเชียนโหรวเจ็บหนักเช่นนี้
“ขึ้นรถก่อน ฉันจะพาเธอไปทำแผลที่โรงพยาบาล”
“งั้นพี่ชาย พี่ก็ดูแลเชียนโหรวให้ดีๆ ล่ะ ฉันกับเวยเวยจะขับรถกลับกันเอง”
“อืม ขับรถระวังๆ”
ซูเหิงเอ่ยขึ้นเรียบๆ ก่อนจะขับรถออกไป
รถของซูเหิงเคลื่อนตัวออกไปไม่กี่นาที หลินเฟยเฟยก็หันตัวมา ร่างสูงของอวี๋ซงกยืนอยู่เบื้องหน้าเธอก่อนแล้ว
“คุณหนูหลิน เจอกันอีกแล้วนะครับ”
หลินเฟยเฟยขมวดคิ้วมุ่น “นายคือ…อ๊า!”
แค่เธออ้าปากพูด ฝ่ามือหนักๆ ก็ประทับลงไปบนปากเธอหนึ่งที
เธอแทบจะจำขึ้นมาได้เดี๋ยวนั้น ว่าชายคนนี้คือคนที่แทบจะหักแขนเธอหลุดไปข้างหนึ่ง
“แกจะทำอะไร!”
“เปล่าครับ ผมก็แค่คิดว่าปากคุณมันน่ารังเกียจจริงๆ”
ข้ออ้างนี้ใครบ้างจะรับได้ “แกเป็นบ้าเหรอ! ฉัน…อ๊า!”
เป็นฝ่ามือหนักๆ นั่นอีกครั้งที่ทำเอาหลินเฟยเฟยขาพับลงไปกองกับพื้น!
ริมฝีปากขึ้นสีแดงด้วยความเจ็บแสบ!
“ผมขอเตือนเอาไว้สักหน่อย ต่อไปหัดพูดเรื่องดีๆ ซะบ้าง ไม่อย่างนั้นขืนผมยังได้ยินอะไรที่ไม่เข้าหูอีก ครั้งต่อไปมันคงไม่จบลงง่ายๆ แบบนี้!”
เขาว่าจบก็เดินจากไป
หลินเฟยเฟยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอทำผิดอะไร หลายวันมานี้เธอถึงได้รับแต่เรื่องน่าอายและอัปยศที่สุดในชีวิต
เธอกรีดร้องเสียงแหลมอยู่บนพื้นอย่างบ้าคลั่ง
—
ภายในตัวรถ เฉินฝานซิงเฝ้ามองทุกอย่างด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนจะถอนสายตากลับมา
ตอนที่ 262 เมื่อไหร่คุณจะแต่งงานกับผม
ภายในตัวรถ เฉินฝานซิงเฝ้ามองทุกอย่างด้วยสายตาเฉยเมย ก่อนจะถอนสายตากลับมา
เธอถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง นึกถึงของมูลค่าสองแสนกว่าที่จู่ๆ ก็ได้มา เฉินฝานซิงสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะหันไปคุยกับอีกฝ่าย
“ยังพอมีเวลา ไปที่ที่หนึ่งเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม”
“อืม”
_
สถานสงเคราะห์เด็กเหอซือ
ในนาทีที่รถจอด ป๋อจิ่งชวนหันไปมองดูสถานที่แห่งนั้นผ่านหน้าต่าง
จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น
“คุณสนับสนุนที่นี่เสมอ?”
เฉินฝานซิงประหลาดใจ “คุณ…สืบเรื่องฉัน?”
ป๋อจิ่งชวนชำเลืองมองเธอวูบหนึ่ง “ครั้งก่อนหลังจากที่คุณได้เงินแปดล้านมาจากห้าง คุณก็มาที่นี่เป็นที่แรก”
แบบนี้นี่เอง?
เฉินฝานซิงเลียริมฝีปากอย่างประหม่า ที่แท้เธอก็เข้าใจเขาผิดไป
“อื้ม…ที่นี่เป็นสถานที่ที่แม่ฉันโตมา ที่แบบนี้ ขาดคนสนับสนุนแล้วอยู่ยาก ฉันยังไม่อยากให้มันหายไปต่อหน้าต่อตาฉัน”
เฉินฝานซิงหันไปยิ้มให้เขาแล้วเปิดประตูลงไป
“ลงมาสิ เดี๋ยวแนะนำเด็กคนหนึ่งให้รู้จัก”
“หืม?” เขาเลิกคิ้ว ยื่นมือไปคว้าแขนเธอเอาไว้แล้วดึงเข้ามาในอ้อมกอด
ใบหน้ารูปงามเคลื่อนเข้ามาประชิดเธออย่างไม่ทันตั้งตัว “ชอบเด็ก? ผมไม่กลัวลำบากหรอกนะ”
เฉินฝานซิงสั่นเทาขึ้นทันที “ยังไม่ทันจะแต่งงานคุณก็คิดเรื่องนี้แล้ว”
“ไม่ได้รึไง”
“…ไม่ได้”
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะแต่งงานกับผม”
เฉินฝานซิงสีหน้าที่เปลี่ยนไป เธอแอบกลบเกลื่อนความรู้สึกเล็กน้อย
“นี่ก็ต้องใช้เวลา!”
ป๋อจิ่งชวนนิ่งลง เขามองหญิงสาวที่ห่างกันเพียงคืบก่อนจะก้มลงไปมอบจุมพิตลงบนริมฝีปากของเธอหนึ่งครั้ง
“ขี้อ้อน”
“ว้าว! ชิงชิง พวกเขากำลังจุ๊บๆ กันละ…”
“อื้ม เห็นแล้วละ เคยได้ยินว่าแค่จุ๊บๆ กันก็จะมีน้องน่ารักๆ ออกมาด้วย พวกเขากำลังจะมีน้องกันแล้ว!”
ประตูรถของเฉินฝานซิงถูกเปิดออกแล้ว ในตอนนั้นเด็กอายุสี่ห้าขวบกำลังพิงประตูรถพร้อมกับสองศีรษะน้อยๆ ที่โผล่ขึ้นมองเธอ
แววตาไร้เดียงสาที่สีขาวดำแยกกันอย่างแจ่มชัดนั้นกำลังมองมาตาแป๋ว
เฉินฝานซิงหน้าแดงขึ้นเป็นปื้น
จู่ๆ ก็ดันปล่อยให้เด็กตัวน้อยขนาดนี้มาเห็นพวกเขาเข้า…
พลาดจริงๆ!
พักนี้ดูเหมือนหน้าจะดูบางลงถนัดตา!
ป๋อจิ่งชวนหัวเราะเสียงแผ่ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นข้างหูของเธอ
“หากแค่จูบกันก็มีลูกได้ นั่นก็คงเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ชาย ที่ความสุขต้องลดลงไปกว่าครึ่ง”
เฉินฝานซิงมองของอย่างไร้คำพูด ก่อนโน้มตัวลงจากรถไป
ในตอนนั้นอาจเป็นเพราะหาเด็กๆ ไม่เจอ คุณครูหนุ่มสาวสองคนจึงรีบวิ่งเข้ามาทางนี้ เมื่อเห็นว่าสองมือของเฉินฝานซิงกำลังจูงมือเด็กๆ อยู่พวกเขาจึงผ่อนลมหายใจได้อย่างโล่งอก
“คุณหนูฝานซิง คุณมาแล้ว?”
“อืม”
ป๋อจิ่งชวนก้าวลงมาจากอีกฝั่งหนึ่งของตัวรถในนาทีนั้น ร่างสูงตระหง่านก็ดึงดูดสายตาของครูสาวได้ในชั่วพริบตา
จนกระทั้งเขาหันมา ดวงตาของคุณครูก็เบิกกว้าง
“ว้าว! เขาหล่อจังเลย!” เสียงหวานของเด็กสาวที่เฉินฝานซิงกุมมืออยู่ร้องขึ้น
จากนั้นจึงผละมือจากเฉินฝานซิงแล้ววิ่งเข้าไปหาเขา
ร่างน้อยๆ ตัวนุ่มนิ่มนั้นวิ่งเตาะแตะเข้ามาราวจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
ป๋อจิ่งชวนก้มมองเด็กน้อยที่จู่ๆ ก็โผเข้ามากอดเข่าของเขา หัวคิ้วย่นเข้าหากันเล็กน้อย ใบหน้านั้นก้มลงมองร่างจิ๋วที่กำลังเงยหน้ามองเขาอยู่
“คุณอาๆ…ซินซินอยากแต่งงานกับคุณอา…คุณอามาสู่ขอซินซินได้ไหม”
“…”
ป๋อจิ่งชวนขมวดคิ้วพร้อมเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่ได้”
หนูน้อยซินซินเบ้ปากอย่างปวดใจ หยาดน้ำใสเอ่อล้นออกมาจากด้วยตากลมโต
“ทำไมอะ ซินซินไม่ฉวยหยอ”
เขาพยักหน้า พลางยกมือชี้เฉินฝานซิงแล้วเอ่ยขึ้น
“หนูไม่น่ารักเท่าเธอ”