ตอนที่ 114 ยอมเเต่งงานกับฉันเเล้วใช่ไหม

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“ฉันเข้าไปดูฮ่อหยุนเฉิงหน่อย” ซูฉิงพูดอย่างอดไม่ไหว
“แต่ว่าผู้ช่วยหลินบอกว่าหากไม่มีคำสั่งจากเขาก็ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้น่ะครับ” บอดี้การ์ดพูดด้วยท่าทางลำบากใจ
พวกเขาเองก็รู้ว่าซูฉิงเป็นคู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิง แต่ในเมื่อหลินเหยียนเฟิงมอบหมายงานให้พวกเขาแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงกันซูฉิงไว้ตรงประตู
ซูฉิงคิดไปคิดมาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาแล้วโทรหาหลินเหยียนเฟิง
หลินเหยียนเฟิงที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก็ก้มหน้าเหลือบมอง เห็นเป็นซูฉิงจึงกดปุ่มลำโพง
“มีอะไรเหรอครับคุณซู?” หลินเหยียนเฟิงเอ่ยถาม
เสียงซูฉิงจากปลายสายค่อนข้างกังวลร้อนใจ “ฮ่อหยุนเฉิงฟื้นแล้วเหรอ?”
“เปล่านี่ครับ” หลินเหยียนเฟิงก้มศีรษะลงเหลือบมองฮ่อหยุนเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายและพูดเสียงเรียบ
ยังไม่ฟื้น?
ผิดหวังอยู่พักหนึ่ง ซูฉิงก็กัดริมฝีปาก “ฉันยังเป็นห่วงฮ่อหยุนเฉิง ขอเข้าไปหาเขาได้ไหม?”
เสียงของซูฉิงนั้นเข้าหูฮ่อหยุนเฉิงทุกคำ
มุมปากเซ็กซี่ของเขาอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นเล็กน้อย
ผู้หญิงคนนี้ยังรู้จักเป็นห่วงเป็นใยเขา
หลิวเหยียนเฟิงมองฮ่อหยุนเฉิงด้วยสาตาที่ขอคำแนะนำ
เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย หลินเหยียนเฟิงจึงกล่าวว่า “โปรดรอสักครู่นะครับ”
หลินเหยียนเฟิงเปิดประตูห้องและเห็นร่างผอมบางของซูฉิงยืนอยู่ตรงประตู
หลินเหยียนเฟิงยิ้ม “เชิญเข้ามาได้เลยครับ”
“ต่อไปคุณซูสามารถเข้าออกได้ตามต้องการ” หลินเหยียนเฟิงหันไปบอกบอดี้การ์ด
“ฮ่อหยุนเฉิงเขาโอเคดีไหม?” ดวงตาของซูฉิงจับจ้องอยู่ที่ชายบนเตียงซึ่งยังคงหล่อแม้ในยามโคม่า
ดวงตาปิดสนิท เสียงห่วงใยของซูฉิงดังเข้าหูเขาจนส่วนที่นุ่มนวลที่สุดหน้าอกด้านซ้ายของเขานั้นราวกับถูกขนนกปัดผ่านไปมา
“ท่านประธานไม่เป็นอะไรครับ สถานการณ์ยังสงบดี” หลินเหยียนเฟิงเม้มปาก
“เมื่อกี้เหมือนฉันได้ยินเสียงเขาพูดน่ะ” ซูฉิงจ้องฮ่อหยุนเฉิง เมื่อกี้เหมือนเธอได้ยินเสียงของฮ่อหยุนเฉิง
“ไม่มนะครับ ผมกำลังคุยโทรศัพท์น่ะครับ” หลินเหยียนเฟิงรีบส่ายหัวและพูด
“อย่างนั้นหรอกเหรอ” ซูฉิงรัวรู้สึกผิดหวัง
หลินเหยียนเฟิงมองซูฉิง จากนั้นมองฮ่อหยุนเฉิงและกล่าวว่า “คุณซู ในเมื่อคุณอยู่เป็นเพื่อนเขา งั้นผมกลับก่อนนะครับ หากมีอะไรก็สั่งบอดี้การ์ดได้เลย พวกเขาเป็นคนสนิทของท่านประธานครับ”
ในเมื่อซูฉิงก็อยู่ที่นี่แล้ว เขาไม่อยู่เป็นก้างขวางคอดีกว่า
“ขอบคุณ” ซูฉิงยิ้มจางๆ ให้หลินเหยียนเฟิง
หลินเหยียนเฟิงหันหลังเดินออกจากห้องไปก่อนจะปิดประตูให้
ในใจเขาบ่น ท่านประธานแสร้งทำเป็นหมดสติจริงๆ เพียงเพื่อหาผู้กระทำผิดที่อยู่เบื้องหลังแค่นั้น?
เกรงว่าอยากให้ซูฉิงเป็นห่วงเขาต่างหากที่เป็นเรื่องจริง
ซูฉิงนั่งอยู่ตรงหัวเตียง มองชายที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสบายเงียบๆ ใจก็รู้สึกหนักอึ้ง
คลื่นแห่งความเหนื่อยล้ากระทบเข้ามาจนทนไม่ไหว ซูฉิงจึงผล็อยหลับไป
ห้องเงียบมาก มีเพียงเสียงหายใจแผ่วเบาในความเงียบ
ชายที่ไม่ได้สติก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา
สายตาฮ่อหยุนเฉิงที่ไม่แยแสและเย็นชา เมื่อมองมายังหญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่ที่โต๊ะที่หัวเตียง สายตาก็อ่อนโยนลงก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อย
ฮ่อหยุนเฉิงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบผ้าห่มบางๆ จากเตียงคลุมให้ซูฉิง
ซูฉิงที่กำลังง่วงซึมพึมพำออกมา “ฮ่อหยุนเฉิง นายต้องไม่เป็นไรนะ”
หัวใจที่อบอุ่น สายตาที่หาความอ่อนโยนได้ยากของฮ่อหยุนเฉิงก็มองไปยังซูฉิง
ใบหน้าที่บอบบางแสนเล็กนั้นดูอ่อนล้า ริมฝีปากบางซีดเล็กน้อยจากความอ่อนล้า เธอคงจะเหนื่อยจากการวิ่งวุ่นไปมาในช่วงนี้แน่ๆ
ฮ่อหยุนเฉิงโน้มตัวกดจูบเบาๆ ที่หน้าผากของชูฉิง “อีกไม่นานทุกอย่างก็จะผ่านไปนะ”
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น แสงแดดสาดส่องลงมาบนใบหน้าของซูฉิงผ่านหน้าต่างกระจก
แสงส่องจนซูฉิงตื่น
เธอประหลาดใจเมื่อเห็นว่ามีผ้าห่มคลุมไว้อยู่
เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอผล็อยหลับไป ทำไมถึงมีผ้าห่มคลุมบนตัวได้?
หรือว่าจะเป็นฮ่อหยุนเฉิง? เขาฟื้นแล้วเหรอ?
ชูชิงมองไปที่เตียงด้วยความตื่นเต้น
แต่ชายคนนั้นยังคงหลับตาและยังไม่ได้สติ
หัวใจ ค่อยๆ ดิ่งลงทีละน้อย
ทุกๆ อย่างที่เคยทำร่วมกันกับฮ่อหยุนเฉิงค่อยๆ ผุดขึ้นมาในหัวของซูฉิง
ที่เขาปกป้องเธอ ห่วงใยเธอ ขวางเพดานไว้แทนเธอ เรื่องทีละเรื่องคอยวนเวียนอยู่ในหัวซูฉิง
“ฮ่อหยุนเฉิง นายจะมาเป็นอะไรไม่ได้นะ รีบตื่นขึ้นมาเร็ว ตราบใดที่ทำให้นายตื่นได้ ฉันยอมทำทุกอย่าง” ซูฉิงพึมพำด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“ยอมทำทุกอย่างจริงๆ เหรอ? ถ้างั้นเธอก็ยอมแต่งงานกับฉันแล้วน่ะสิ?” ในขณะที่ซูฉิงตกอยู่ในภวังค์ ก็มีเสียงใสราวกับเสียงสวรรค์ดังขึ้น เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย
ฮ่อหยุนเฉิง!
เป็นเสียงของฮ่อหยุนเฉิง!
เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี ซูฉิงมองไปที่หัวเตียงก็เห็นชายที่หมดสตินั้นจู่ๆ ก็ลืมตาขึ้น
“ฮ่อหยุนเฉิง นายฟื้นแล้วเหรอ?” มีรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของซูฉิง
ในเวลานั้นเองหัวใจของเธอที่วิตกกังวลอยู่ตลอดเวลาก็พลันหายไป
ฮ่อหยุนเฉิงฟื้นแล้ว!
ในที่สุดเขาก็ฟื้นแล้ว!
เยี่ยมไปเลย!
ฮ่อหยุนเฉิงกระตุกริมฝีปากเล็กน้อย คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้น “ที่เธอพูดเมื่อกี้นับไหม?”
“พูดอะไร?” ซูฉิงตกตะลึงไปครู่หนึ่งถึงนึกถึงที่ตัวเองพูดได้
เมื่อมองไปที่ชายตรงหน้าที่สายตากำลังยิ้ม จู่ๆ ซูฉิงก็รู้สึกตัวและจ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิงอย่างโกรธจัด สองมือตบแผ่นอกของเขา “ฮ่อหยุนเฉิง นายแกล้งกันนี่!”
มือใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงคว้ามือของอีกคนแล้วกดมือของเธอลงแผ่นอกตัวเอง “ซูฉิง เธอรู้สึกไหมว่าหัวใจฉันมันเต้นเพื่อเธอน่ะ?”
เมื่อสัมผัสกล้ามเนื้อที่แข็งแรงของเขา ใบหน้าของซูฉิงก็แดงอย่างช่วยไม่ได้
ชายคนนี้ อย่าหยอกกันแบบนี้ได้ไหมเนี่ย!
ซูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์แล้วพูดด้วยใบหน้าเย็นชา “ฮ่อหยุนเฉิง ทำไมนายถึงแกล้งโคม่าด้วย?”
“เธอว่ายังไงล่ะ?” ฮ่อหยุนเฉิงยกยิ้มและถามกลับ
ซูฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อันที่จริงนายมีคำตอบอยู่แล้วใช่ไหมว่าใครเป็นคนริเริ่มการระเบิดครั้งนี้?”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าเบาๆ “ฉันสงสัยว่าเป็นโจนส์ แต่ยังไม่มีหลักฐาน”
ซูฉิงเข้าใจ “เพราะอย่างนั้นนายเลยจงใจแกล้งหมดสติเพราะจะได้ให้โจนส์คิดว่าแผนของเขาประสบความสำเร็จ และเมื่อเขาดำเนินการต่อก็จะทำให้นายเปิดโปงได้?”
ฮ่อหยุนเฉิงกลับตอบไม่ตรงคำถาม และมองที่ซูฉิงด้วยสายตาที่ลึกล้ำ “เมื่อกี้ที่เธอพูดนั้นจริงหรือเปล่า?”