นัยน์ตาแสนลึกของฮ่อหยุนเฉิงจ้องไปที่ใบหน้าของซูฉิง
เสียงทุ้มนุ่มของเขายังวนเวียนข้างหูซูฉิง
ซูฉิงหายใจติดขัด เชยตามอง สบกับสายตาแสนลึกล้ำก่อนจะทำปากมุ่ยแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่านายกำลังพูดถึงอะไร”
ฮ่อหยุนเฉิงยิ้มเบาๆ “เมื่อกี้ที่เธอพูดฉันได้ยินทุกคำเลยนะ”
“ฉันพูดอะไร นายได้ยินอะไร” ซูฉิงทำตัวไม่ถูก ทั้งยังจ้องไปที่ฮ่อหยุนเฉิงด้วยความโกรธเล็กน้อย
ชายเจ้าเล่ห์นี่แกล้งไม่ได้สติกับเธอ!
ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้เธอก็ไม่น่าไปห่วงเขาขนาดนั้นเลย
ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือใหญ่ไปจับมือซูฉิง วางมือของเธอบนฝ่ามือของเขา ก่อนจะแนบมือใหญ่อีกข้างหนึ่งเป็นการห่อมือของซูฉิงเอาไว้
“เธอบอกว่าถ้าฉันฟื้น เธอจะยอมทำทุกอย่างเพื่อฉัน” เขาพูดเสียงทุ้ม “ถ้าอย่างนั้นเธอยอมแต่งงานกับฉันแล้วใช่ไหม?”
ความอบอุ่นจากฝ่ามือฮ่อหยุนเฉิงแผ่ซ่านจนใจซูฉิงเกิดความรู้สึกสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
“นี่นายกำลังขอฉันแต่งงานอยู่งั้นเหรอ?” ซูฉิงเม้มริมฝีปาก
“ฉันกำลังจีบเธออยู่” ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้ว ดวงตาแสนลึกล้ำราวกับเวทมนต์ที่ทำให้คนจมลงไป
จีบ…
หัวใจของซูฉิงเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
ในเวลานี้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะพูดเรื่องพวกนี้ในห้องคนไข้
ซูฉิงดึงฝ่ามือของเธอออกมาแล้วพูดอย่างเย็นชา “ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้เป็นโมฆะ ใครใช้ให้นายแกล้งไม่ได้สติล่ะ?”
“พูดแล้วไม่มีคืนคำ โมฆะไม่ได้” ฮั่วหยุนเฉิงขมวดคิ้ว
ซูฉิง: …
บรรยากาศในห้องคนไข้ค่อนข้างกระอักกระอ่วนอยู่พักหนึ่ง
หลังจากเงียบไปไม่กี่วินาที ฮ่อหยุนเฉิงก็กระแอมในลำคอ “หลังจากอีกสองเดือน เธอช่วยให้คำตอบที่ฉันต้องการได้ไหม?”
ซูฉิงคิดอย่างจริงจังก่อนจะพยักหน้า “ถึงตอนนั้นฉันจะให้คำตอบนายเอง”
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น เขาเชื่อว่าเขาจะสามารถได้รับคำตอบที่เขาต้องการ
“นายไม่ใช่ว่าแกล้าโคม่าหรือไง ยังไม่รีบนอนลงไปอีก” ซูฉิงเปลี่ยนเรื่อง “อย่าให้คนอื่นเห็นล่ะ”
“ไม่มีทางหรอก บอดี้การ์ดคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกนะ” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างเฉยเมย
ทันทีที่สิ้นเสียง โทรศัพท์มือถือของซูฉิงก็ดังขึ้น
ก้มมองก็เห็นเป็นคุณปู่ที่โทรมา
ซูฉิงรับโทรศัพท์ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน “คุณปู่”
“ฉิงฉิง หลานไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เสียงของท่านผู้เฒ่าซูดังมาจากคลื่นวิทยุ
ซูฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าไม่เป็นไรค่ะ”
“ที่ข่าวรายงานนั่นเป็นความจริงไหม?” ท่านผู้เฒ่าซูเอ่ยถามอีกครั้ง
ซูฉิงตอบว่า “มีทั้งจริงและเท็จค่ะ คุณปู่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เวลาตกปลาก็ต้องตกปลา เวลารดน้ำดอกไม้ก็ต้องรดน้ำ เรื่องทางนี้หนูจัดการเองค่ะ”
“ปู่จะไปกังวลอะไรล่ะ?” คุณปู่ซูฉิงหัวเราะอยู่ปลายสาย “ถ้าปู่เดาไม่ผิด ข่าวรายงานว่าฮ่อหยุนเฉิงอยู่ในอาการโคม่าจากแรงระเบิดคงจะแกล้งทำล่ะสิ?”
“แม้แต่คุณปู่ก็รู้เหรอเนี่ย…” ซูฉิงเม้มริมฝีปาก อยากจะคำนับคุณปู่ตัวเองจริงๆ
“ตอนแรกยังไม่ค่อยแน่ใจนักหรอก แต่ก็นะ ได้ยินเสียงหลานก็รู้แล้วล่ะ คู่หมั้นตัวเองไม่ได้สติแล้วจะสงบขนาดนี้ได้ยังไงล่ะจริงไหม?” คุณปู่ซูฉิงลูบเคราตัวเองก่อนพูดด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น
“คุณปู่อย่าพูดมั่วสิคพ เขาไม่ใช่คู่หมั้นหนูเสียหน่อย ทันทีที่ข้อตกลงครบสามเดือน หนูกับเขาก็ยุติการหมั้นแล้ว” ซูฉิงพูดด้วยน้ำเสียงขี้อาย จริงครึ่งเท็จจริง
“เอาล่ะ ปู่ไปรดน้ำดอกไม้ก่อน” คุณปู่ซูฉิงวางสายไป
เมื่อวางโทรศัพท์แล้วหันกลับมา ลมหายใจที่เยือกเย็นของฮ่อหยุนเฉิงก็พุ่งเข้ามา
“ที่เธอพูดกับคุณปู่เมื่อกี้จริงหรือเปล่า?”
ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว ผู้หญิงคนนี้ชอบพูดถึงการถอนหมั้น หมายความว่ายังไงกัน?
“ถึงตอนนั้นก็รู้เองแหละ” ซูฉิงเมินความไม่พอใจของชายตรงหน้าเธอและพูดเบาๆ “ฉันสัญญากับนายแล้วว่าอีกสองเดือนจะให้คำตอบ”
ในขณะนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตู
“รีบนอนลงเร็วเข้า” ซูฉิงลดเสียงของเธอ
ฮ่อหยุนเฉิงนอนลงช้าๆ ก่อนที่ซูฉิงช่วยห่มผ้าให้
เมื่อเปิดประตู ก็เห็นโจนส์ยืนอยู่หน้าประตู
“โจนส์ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ซูฉิงถาม
โจนส์มองเข้าไปในห้องก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงกังวล “ประธานฮ่อเป็นยังไงบ้างครับ?”
ซูฉิงหลุบตาลง พลางถอนหายใจยาวแล้วกล่าวว่า “ยังไม่ได้สติเหมือนเดิมเลย”
“หมอว่ายังไงบ้างครับ? เมื่อไหร่เขาจะฟื้นเหรอครับ?” โจนส์ถามต่อ
ซูฉิงส่ายหัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า “หมอบอกว่า…โอกาสที่จะฟื้นนั้นมีน้อย”
มุมปากของโจนส์แอบยกยิ้มก่อนจะตบไหล่ของซูฉิงเบาๆ ทั้งยังพูดปลอบใจ “อย่าห่วงไปเลยครับ ประธานฮ่อต้องไม่เป็นอะไรแน่นอนครับ”
“หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” ซูฉิงกล่าวอย่างแผ่วเบา
หลังจากเงียบไปชั่วครู่ ซูฉิงราวกับนึกอะไรขึ้นได้ “จริงสิ ระบุตัวตนของผู้ที่ตายในจากการระเบิดได้หรือยังคะ?”
“ผมมาก็เพื่อเรื่องนี้เลยครับ” โจนส์กระแอมในลำคอและกล่าวว่า “เราระบุตัวตนของผู้ตายทั้งสองคนได้แล้ว เป็นผู้จัดการคลังสินค้า วัสดุที่มีปัญหาพวกนั้นก็เป็นสองคนนี้ที่เล่นตุกติกครับ”
“ทำไมพวกเขาถึงต้องทำแบบนี้ล่ะคะ?” ซูฉิงถามอย่างแสร้งเป็นกังวล
“คืออย่างนี้ครับ ผู้จัดการคลังสินค้าสองคนนี้มีท่าทีที่ไม่ดีนักจนถูกหัวหน้าตำหนิ พวกเขาที่ไม่พอใจทางบริษัทจึงคิดแก้แค้นครับ” โจนส์ยักไหล่แล้วพูดว่า “สำหรับการระเบิดครั้งนี้ เป็นอุบัติเหตุทั้งหมด ผู้จัดการคลังสินค้าคนหนึ่งสูบบุหรี่แล้วก้นบุหรี่ตกลงไปบนวัตถุดิบที่เป็นปัญหาจนทำให้เกิดการระเบิด”
“ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้” ซูฉิงขมวดคิ้ว “แค่เพราะเรื่องเล็กน้อย ดันสร้างปัญหาใหญ่ให้กับบริษัท”
“ตอนนี้มีข่าวเกี่ยวกับการระเบิดไปทั่วอินเทอร์เน็ต ผมอยากจัดงานแถลงข่าวเพื่อชี้แจงและประกาศความจริงสู่สาธารณะ เพื่อไม่ให้บริษัทต้องสงสัยน่ะครับ” โจนส์มองซูฉิงด้วยแววตาถึงการตั้งคำถาม “คุณซูคิดว่ายังไงครับ?”
ซูฉิงพยักหน้าเห็นด้วย “โจนส์ คุณคิดรอบคอบดีมาก เรื่องนี้ก็รบกวนคุณแล้วล่ะนะ”
“แล้วทางหลินเหยียนเฟิง…” โจนส์แสร้งทำเป็นลังเล
“หลินเหยียนเฟิงไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ในฝรั่งเศส ตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็อยู่ในอาการโคม่า คุณเหมาะที่จะเป็นคนชี้แจงในงานแถลงข่าวแล้วล่ะ” ซูฉิงยิ้มบางๆ
“ได้ครับ งั้นผมไปเตรียมตัวก่อนนะครับ” โจนส์ก้มมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง จากนั้นจึงหันหลังเดินจากไป
“เป็นยังไงบ้าง? ฉันแสดงได้ดีไหม?” หลังจากที่โจนส์จากไป ซูฉิงก็กลับไปที่หน้าเตียงและมองไปยังชายบนเตียง
ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงนิ่งลง ในเมื่อโจนส์แทบรอไม่ไหว พวกเขาก็จะเล่นเป็นเพื่อน