เล่ม 1 ตอนที่ 140 ผู้อาวุโสของสมาคม

สลับชะตา ชายามือสังหาร

พวกเขาต่างคิดว่าตนเองจะสงบจิตใจกับเรื่องประหลาดของซือหม่าโยวเย่ว์ได้แล้ว แต่เธอก็ยังกระตุ้นพวกเขาอย่างรุนแรงได้ทุกครั้งอยู่ดี

“อันที่จริงแล้วก็ไม่มีอะไรหรอก การหลอมยาและการฝึกสัตว์อสูรล้วนต้องอาศัยพลังจิตทั้งสิ้น เพราะเหตุผลบางอย่างทำให้พลังจิตของข้าแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปอยู่เล็กน้อย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

“มิใช่คนน่ะสิ!” ผ่านไปครู่ใหญ่ เจ้าอ้วนชวีจึงพ่นวาจาหนึ่งออกมา

“เห็นด้วย” โอวหยางเฟยพยักหน้า

“มิผิด” เป่ยกงถังเห็นพ้อง

“ข้ากำลังคิดว่าข้าจะต้องชำแหละสมองของโยวเย่ว์มาดูสักหน่อยหรือไม่ว่าภายในเก็บสิ่งใดเอาไว้กันแน่” เว่ยจือฉีที่สุภาพนุ่มนวลมาโดยตลอดถูกกระตุ้นจนเผยสัญชาตญาณดิบของตนออกมาเสียแล้ว

เอ่อ…

ซือหม่าโยวเย่ว์มองพวกเขาอย่างอับจนคำพูด เธอเองก็รู้ดีว่าการที่ตนเป็นเช่นนี้ออกจะพิลึกคนอยู่เล็กน้อย แต่เจ้าพวกนี้ก็ไม่เห็นต้องกลายเป็นเช่นนี้เพราะถูกทำให้ตกใจนิดหน่อยเลยนี่นา

ในขณะนี้เอง ประธานสมาคมและรองประธานสมาคมของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็เข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของพวกเขาพอดี

“ท่านประธานสมาคม ท่านอา” เว่ยจือฉียืนขึ้นคารวะพวกเขาทั้งสองก่อน จากนั้นจึงบอกสถานะของพวกเขาให้พวกซือหม่าโยวเย่ว์รู้

พวกซือหม่าโยวเย่ว์จึงลุกขึ้นคารวะ ประธานสมาคมก็โบกมือให้ทุกคนนั่งลง

ประธานสมาคมเดินมายังที่นั่งประธานแล้วนั่งลง ก่อนจะเริ่มมองประเมินซือหม่าโยวเย่ว์

ซือหม่าโยวเย่ว์สบสายตากับประธานสมาคมแน่วนิ่ง ในขณะที่เขามองประเมินเธอนั้น เธอก็มองประเมินประธานสมาคมเช่นเดียวกัน

ล้ำลึก… นี่คือความประทับใจแรกที่เธอมีต่อเขา

มั่นใจในตนเอง… นี่คือความรู้สึกแรกที่เขามีต่อเธอ

“คุณชายห้า เมื่อครู่ข้าได้ฟังเรื่องของเจ้าในวันนี้แล้ว สำหรับเรื่องที่เจ้าสำเร็จเป็นปรมาจารย์ฝึกสัตว์อสูรตั้งแต่อายุยังน้อย ช่างทำให้ข้าพรั่นพรึงไม่น้อยเลยจริงๆ” ประธานสมาคมลูบเคราของตนแล้วพูดว่า “มิทราบว่าคุณชายห้าศึกษามาจากที่ใดหรือ”

“อาจารย์ของข้าอยู่อย่างสันโดษภายในหุบเขามาโดยตลอด มิชมชอบความยุ่งยากของโลกภายนอก ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ข้าเอ่ยถึงเรื่องของเขา ต้องขออภัยท่านประธานสมาคมด้วย” ซือหม่าโยวเย่ว์พูดเหลวไหลไปอย่างนั้น

เธอไม่มีอาจารย์เสียหน่อย แล้วจะให้เธอไปหามาจากไหนกันเล่า

หากให้พูดถึง หมัวซาผู้นั้นเคยชี้แนะเธอตอนที่ฝึกสัตว์อสูร ทั้งยังเป็นผู้มอบเคล็ดควบคุมสัตว์อสูรให้เธอด้วย ดังนั้นหากพูดกันจริงๆ แล้วก็นับได้ว่าเขาเป็นอาจารย์เธอครึ่งตัว แต่การดำรงอยู่ของเขานั้นเป็นความลับอย่างยิ่ง เป็นสิ่งที่มิอาจพูดออกมาได้

ประธานสมาคมพยักหน้า เข้าใจว่าบุคคลเช่นนี้ล้วนมีความชอบของตนเองทั้งสิ้น มีคนที่ชอบชื่อเสียงโด่งดัง มีคนชอบความสมถะถ่อมตน ในเมื่อเธอไม่เต็มใจบอก เขาก็ไม่ควรฝืนบังคับเธอ

“เจ้าบอกว่าเจ้าอยากร่วมมือกับสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเราอย่างนั้นหรือ”

ซือหม่าโยวเย่ว์พยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้อง ท่านประธานสมาคมย่อมทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลซือหม่าอยู่แล้ว ตอนนี้สถานการณ์ของพวกเรามิสู้ดีนัก ขุมอำนาจจำนวนไม่น้อยเห็นว่าพวกท่านปู่ของข้าไม่อยู่จึงคิดจะทำลายตระกูลซือหม่าของข้า ดังนั้นข้าจึงอยากร่วมมือกับสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร พวกท่านจัดหาสัตว์อสูรวิเศษให้พวกเราสักระยะหนึ่ง แล้วข้าจะฝึกสัตว์อสูรทิพย์จำนวนหนึ่งให้สมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเป็นการตอบแทน”

เธอเคยได้ยินเว่ยจือฉีพูดว่าคนของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรที่ฝึกสัตว์อสูรทิพย์ให้เชื่องได้นั้นมีอยู่ไม่มากนัก นอกจากนี้ระยะเวลาฟื้นฟูของพวกเขายังเนิ่นนานอีกด้วย ดังนั้นเธอจึงเชื่อว่าหากเธอหยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุยกับสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็น่าจะดึงดูดพอสมควร

“พวกเราไม่ต้องให้เจ้าฝึกสัตว์อสูรทิพย์มากมายนักก็ได้” ประธานสมาคมพูด “ข้าอยากเชิญเจ้าเข้าร่วมสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเรา พอถึงเวลานั้นสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรของพวกเราจะจัดหาสัตว์อสูรวิเศษที่พวกเจ้าต้องการให้ได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเลย”

“เข้าร่วมสมาคมอย่างนั้นหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์ลังเลใจอยู่บ้าง สิ่งนี้มิได้อยู่ในความคาดหมายของเธอเลย เพราะเธอไม่อยากถูกผูกมัด

“ใช่แล้ว เจ้าเข้าร่วมสมาคมในฐานะผู้อาวุโสได้ ยามปกติเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไร เพียงแค่ฝึกสัตว์อสูรวิเศษไม่กี่ตัวให้กับสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเป็นครั้งคราวเท่านั้น หากสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรมีภัยก็ออกหน้าสักหน่อยเป็นใช้ได้ เช่นนี้ย่อมดีกว่าให้เจ้าฝึกสัตว์อสูรทิพย์ให้ตั้งมากมาย” ประธานสมาคมพูด

“แต่ตอนนี้ข้ายังไม่มีความคิดที่จะเข้าร่วมองค์กรใดๆ เลยน่ะสิ นอกจากนี้ท่านคงจะทราบว่าอีกสองปีข้างหน้าข้าก็จะไปจากอาณาจักรตงเฉินแล้ว หากเข้าร่วมกับพวกท่านเช่นนี้คงจะไม่ดีนัก” ซือหม่าโยวเย่ว์ปฏิเสธ

เว่ยจือฉีได้ฟังคำพูดของซือหม่าโยวเย่ว์แล้วเป็นกังวลแทนเธออยู่บ้าง ตำแหน่งผู้อาวุโสสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรนี้มิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะครอบครองได้เลย!

“เจ้าไม่ต้องรีบปฏิเสธนักหรอก” ประธานสมาคมโบกไม้โบกมือแล้วพูดว่า “ข้าย่อมรู้เรื่องที่เจ้าจะจากไปดีอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เจ้ายังอยู่ที่นี่ นอกจากนี้หากเจ้าเข้าร่วมสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร ขอเพียงแค่ไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อสมาคมเท่านั้น ก็จะเป็นผู้อาวุโสของสมาคมตลอดไป พอถึงเวลาที่เจ้าไปจากอาณาจักรตงเฉิน ตระกูลซือหม่าก็ต้องการความช่วยเหลือจากขุมอำนาจมิใช่หรือ”

ซือหม่าโยวเย่ว์นิ่งเงียบไป ประธานสมาคมพูดได้ถูกต้อง อีกไม่นานตนก็จะจากไปแล้ว ถึงเวลานั้นบางทีรากฐานของตระกูลซือหม่าอาจยังไม่มั่นคง จำเป็นต้องมีผู้หนุนหลังที่แข็งแกร่งจริงๆ และสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็เหมาะสมกับเงื่อนไขนี้พอดี

ผู้คนภายในห้องนั่งเงียบกริบเพื่อให้เธอมีเวลาคิดไตร่ตรอง เพราะนี่เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่เลยทีเดียว

ผ่านไปครู่ใหญ่ ซือหม่าโยวเย่ว์จึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้ ข้ารับปากเข้าร่วมสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร”

ผู้คนภายในห้องพากันแย้มยิ้ม ประธานสมาคมพยักหน้าแล้วหยิบป้ายคำสั่งอันหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บวัตถุพลางเอ่ยว่า “นี่คือของผู้อาวุโสสมาคมนักฝึกสัตว์อสูร เจ้ารับไปสิ”

ซือหม่าโยวเย่ว์ก้าวเข้าไปข้างหน้าแล้วยื่นมือทั้งสองไปรับป้ายคำสั่งมา

“เอาละ ต่อจากนี้ไปเจ้าก็คือผู้อาวุโสเก้าแล้วนะ” ประธานสมาคมพูดยิ้มๆ

“เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ” ซือหม่าโยวเย่ว์หลุดปากถาม

ขุมอำนาจแห่งหนึ่งมีผู้อาวุโสเพิ่มขึ้นมาอีกคน ไม่จำเป็นต้องมีขั้นตอนใดๆ เลยหรือ

เมื่อเห็นความสงสัยในแววตาของเธอ ประธานสมาคมจึงอมยิ้มไม่เอ่ยวาจา

รองประธานสมาคมที่อยู่ข้างๆ พูดว่า “เพราะรู้ว่าเจ้าไม่ชอบเรื่องยุ่งยากซับซ้อนน่ะสิจึงได้ข้ามไป ต่อไปพวกเราอค่ประกาศออกไปว่าเจ้าเป็นผู้อาวุโสของพวกเราก็ใช้ได้แล้ว”

“ขอบคุณท่านประธานสมาคมและท่านรองประธานสมาคมมากขอรับ” ซือหม่าโยวเย่ว์เก็บป้ายคำสั่งเข้าไปในแหวนเก็บวัตถุก่อนจะหมุนกายกลับไปยังที่นั่งของตน

“ส่วนเรื่องสัตว์อสูรวิเศษนั้น พอถึงเวลาเจ้าก็ส่งคนมาพบผู้จัดการสมาคมก็พอแล้ว เขาย่อมจัดการให้เจ้าได้อย่างแน่นอน” ประธานสมาคมพูด

“ขอบคุณท่านประธานสมาคมมากขอรับ”

……

หลังออกมาจากสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรแล้ว ซือหม่าโยวเย่ว์ยังคงรู้สึกเหมือนอยู่ในเมฆหมอก ตนได้กลายเป็นผู้อาวุโสของสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรไปเสียแล้ว

“เจ้าไม่รู้หรอกว่าคนทั่วไปอยากจะเป็นผู้อาวุโสของสมาคมนั้นจำเป็นต้องผ่านการทดสอบและคัดเลือกตั้งกี่ขั้น หลังจากคัดคนแล้วยังมีพิธีสามประการอีก ยุ่งยากยิ่งนัก” เว่ยจือฉีพูดอธิบาย “คาดว่าคงมีแต่เจ้านี่แหละที่มีอภิสิทธิ์เช่นนี้”

“แหะๆ ไม่มีก็ดีแล้ว” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด “วันนี้ต้องขอบใจเจ้ามาก ถ้าหากมิใช่เพราะเจ้า แค่การพบหน้ารองประธานสมาคมก็ทำให้ข้าปวดหัวแล้วละ” ซือหม่าโยวเย่ว์พูด

“มาเกรงใจอะไรกันเล่า” เว่ยจือฉีพูดยิ้มๆ “เอาละ พวกเราสี่คนขอตัวกลับวิทยาลัยก่อนนะ หากเจ้ามีเรื่องอันใดก็ส่งคนไปหาพวกเราได้เลย”

“อื้ม ข้าจะทำตามนั้น”

เมื่อแยกจากพวกเขาแล้วเธอจึงกลับไปยังจวนซือหม่า วันนี้ชื่อเสียงของเธอแพร่ออกไปแล้ว เพียงไม่นานเรื่องที่เธอกลายเป็นผู้อาวุโสสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรก็คงแพร่ออกไปเช่นเดียวกัน เรื่องของร้านค้าสัตว์อสูรวิเศษก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เธอต้องกลับไปหารือเรื่องก้าวต่อไปกับพ่อบ้าน

เธอยังคงเคยชินกับการเดินบนเส้นทางเดิมไปยังประตูหลัก เมื่อไปถึงแล้วเห็นพื้นราบเรียบจึงนึกขึ้นได้ว่าไม่มีประตูใหญ่อีกต่อไปแล้ว

เธอยืนแน่วนิ่งอยู่ตรงบริเวณที่เคยเป็นประตูใหญ่ เมื่อนึกขึ้นว่าก่อนหน้านี้จวนแม่ทัพเคยตั้งตระหง่านอยู่ตรงนี้ ในใจก็เจ็บแปลบขึ้นมา

ท่านปู่ พี่ๆ รอโยวเย่ว์ก่อนนะ ข้าจะต้องไปช่วยพวกท่านอย่างแน่นอน…