ตอนที่ 253 หน้าตาเหมือนกันเป๊ะเลย / ตอนที่ 254 ไม่ได้ใส่ใจ

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 253 หน้าตาเหมือนกันเป๊ะเลย

 

 

ขณะนี้เฮ่อเล่อเฟิงยืนอยู่บนโซฟา สายตามองไปยังโทรทัศน์ มองดูเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาเดินออกมาจากซิลเวอร์กาแล็กซี่แล้วหันไปมองหน้าหลินเยียน

 

 

มองซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง สีหน้าของเฮ่อเล่อเฟิงเริ่มประหลาดขึ้นเรื่อยๆ

 

 

“แปลกจริงๆ เลย… ทำไมรู้สึกว่าตรงไหนมันแปลกๆ นะ” เฮ่อเล่อเฟิงจ้องไปยังหลินเยียนแล้วพึมพำอยู่คนเดียว

 

 

“ทำไมเหรอ?” หลินเยียนจ้องเฮ่อเล่อเฟิงอย่างทำตัวไม่ถูก เขาขานชื่อแต่ก็ไม่พูดต่อซะอย่างงั้น

 

 

“พี่เยียน ผมเพิ่งรู้เมื่อกี้เลย พี่ลองดูเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวานี่สิ หุ่นทรงของเขากับของพี่น่ะเหมือนกันมากเลยนะ… นอกจากสูงกว่าพี่หน่อยแล้ว เหมือนทุกจุดเลยล่ะ” เฮ่อเล่อเฟิงหันไปทางหลินเยียนแล้วพูดขึ้น

 

 

หลินเยียน “…” สูงกว่าเธอ…หน่อยหนึ่ง?!

 

 

นั่นเพราะว่าหมวกกันน็อกถึงทำให้ดูสูงกว่าเฉยๆ หน่า

 

 

ถ้าถอดหมวกออก พวกเขาไม่ได้แค่หุ่นเหมือนกันอย่างเดียว เฮ่อเล่อเฟิงจะรู้ว่าหน้าตาพวกเขาก็เหมือนกันเป๊ะเลยล่ะ

 

 

“รีบอาบน้ำแล้วไปนอนเถอะ” หลินเยียนถอนหายใจแล้วหันหลังจากไป

 

 

“เฮ้ พี่เยียนเหมือนจริงๆ เลยนะ!”

 

 

เสียงเฮ่อเล่อเฟิงดังขึ้นมาจากด้านหลัง

 

 

 

 

หลินเยียนนอนอยู่บนเตียงใหญ่ในห้องรับแขกด้วยความรู้สึกร้อยพันประการ

 

 

หลายปีที่ผ่านมานี้ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน

 

 

หลินเยียนคิดไปคิดมา ด้วยประสบการณ์ของตัวเองเพียงพอแล้วที่จะเขียนเป็นหนังสือที่มีเนื้อเรื่องพิศวงได้แน่นอน

 

 

โดยเฉพาะในวันนี้ เจ้าเจี๋ยปานั่น แล้วก็คนที่มาไล่ตามหาเจี๋ยปาเป็นใครมาจากไหนกันแน่ มีความสัมพันธ์อะไรกับห้องแล็บหรือเปล่า ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้หลินเยียนรู้สึกสับสนไปหมด

 

 

ความจริงแล้ว สิ่งที่หลินเยียนตราตรึงใจที่สุดคือกัปตันของคนกลุ่มนั้น เขาพูดต่อหน้าทุกวันว่าจะจับตายเธอเพื่อแลกกับเงิน

 

 

ถ้าเป็นคนทั่วไปหลินเยียนยังพอเข้าใจได้ เพราะก็คงเป็นพวกค้ามนุษย์ที่น่ารังเกียจแน่ๆ

 

 

ทว่า คนพวกนั้นไม่ใช่คนทั่วไป อีกทั้งพกอุปกรณ์บ้าบออะไรติดตัวไว้ก็ไม่รู้ อุปกรณ์นั่นยังสามารถตรวจสอบวัดค่าสภาพร่างกายเธออย่างเหนือคาดอีกด้วย…

 

 

“นักล่าเงินรางวัลหรือเปล่านะ?” หลินเยียนนอนอยู่บนเตียง หัวคิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย

 

 

เธอพลิกไปพลิกมา สุดท้ายหลินเยียนกดโทรหาใครสักคน

 

 

หลินเยียนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างละเอียด

 

 

“จากการคาดเดาของเธอ น่าจะไม่มีผิด” ผ่านไปไม่นานก็มีเสียงดังขึ้นมาจากปลายโทรศัพท์

 

 

“จริงๆ แล้วมีองค์กรคล้ายๆ แบบนี้อยู่มากมาย มีอาชีพไล่ล่าผู้ที่มีสภาพร่างกายพิเศษ ส่วนผู้ล่าเองก็มีสภาพร่างกายพิเศษเช่นกัน องค์กรพวกเขาส่วนมากลึกลับมาก อีกทั้งมีเครือข่ายที่ซับซ้อน ถ้าเจอคนแบบนี้อีกพยายามหลีกเลี่ยงซะ”

 

 

“แล้วน้องชายของฉันจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาไหม” หลินเยียนรีบถามขึ้น

 

 

“จากการคาดเดาแล้ว น่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไร”

 

 

 

 

เมื่อวางสายไปแล้ว หลินเยียนนอนคิดทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้อยู่บนเตียง

 

 

หลังจากโดนตาข่ายจำกัดแล้ว มีภาพความทรงจำมากมายที่ไม่ใช่ของเธอทะลักเข้ามาในหัว ระหว่างนั้นเธอได้ยินเสียงคร่ำครวญเรียกตัวเองว่าแม่อย่างเลือนราง

 

 

อีกทั้งเธอยังนอนกอดกับเผยอวี้เฉิงอีกด้วย

 

 

คิดมาถึงจุดนี้ หลินเยียนรู้สึกสันหลังเย็นวูบ สภาพจิตของเธอต้องมีปัญหาแล้วแน่ๆ!

 

 

ยามเช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น

 

 

หลินเยียนตื่นนอนแต่เช้า

 

 

แม่เฮ่อมู่อวิ๋นได้จัดเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว

 

 

“เสี่ยวเยียน ล้างหน้าแปรงฟันแล้วมากินข้าวลูก” เฮ่อมู่อวิ๋นถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วพูดไปทางหลินเยียน

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว หลินเยียนพยักหน้าตอบรับ ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วเดินมายังโต๊ะอาหาร

 

 

ผ่านไปไม่นาน ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุน เฮ่อสยงแล้วก็เฮ่อหมิงไข่ต่างเดินออกมาจากในห้อง

 

 

เฮ่อหมิงไข่เหลือบมองหลินเยียน “วันนี้ถ้าเธอทำตัวถ่วงฉันล่ะก็ บ้านหลังนี้จะไม่ต้อนรับพวกแกอีกต่อไป”

 

 

หลินเยียนยังไม่ทันได้พูด เฮ่อสยงก็เดินต้อนเข้าไปแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “การแข่งขันในวันนี้ มีตัวเต็งภายในประเทศอย่าง ซีเอ็ชวัน แล้วก็เผยอวี่ถังเถ้าแก่ทีมรถแข่งบลาสท์ ทั้งหมดนี้ล้วนมาเพราะ หมิงไข่คนเดียว อย่าทำให้หมิงไข่ขายหน้าขายตา”

 

 

 

 

ตอนที่ 254 ไม่ได้ใส่ใจ

 

 

“พี่ เสี่ยวเยียนยังไม่ค่อยรู้เรื่องทีมรถแข่งเท่าไหร่ เธอแค่หวังดีอยากช่วยแค่นั้นเอง พี่พูดแบบนี้ได้ไงล่ะ” เฮ่อมู่อวิ๋นมองไปทางเฮ่อสยงแล้วเอ่ยปากพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้น

 

 

“เหอะๆ ถ้าไม่รู้เรื่องก็อยู่บ้านเฉยๆ สิ ไปวุ่นวายอะไรที่สนามแข่งล่ะ ฉันบอกไว้ตรงนี้เลยนะ ทีมแข่งยอดฝีมือภายในประเทศแล้วก็พวกสปอนเซอร์ต่างๆ อยู่กันพร้อมหน้า ถ้าเกิดข้อผิดพลาดอะไรเพราะพวกแกล่ะก็ มีเรื่องแน่ๆ ทีมรถแข่งอย่างซีเอ็ชวันแล้วก็เผยอวี่ถัง ถ้าไม่ใช่เพราะหมิงไข่ พวกเขาจะมาสนใจการแข่งขันเล็กๆ แบบนี้เหรอ อีกทั้งยังมาสนับสนุนหมิงไข่ด้วยตัวเองอีกด้วย”

 

 

เห็นเฮ่อมู่อวิ๋นไม่พูดอะไรต่อ เฮ่อสยงหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้วพูดขึ้น “หมิงไข่นำพาความภาคภูมิใจและความหวังให้ครอบครัวและทีมรถแข่งมากมายนี้ พอไปถึงสนามแล้วก็ให้หมิงไข่เป็นผู้สั่งการทุกอย่างนะ!”

 

 

“พ่อครับ จำเป็นต้องพูดกับพวกเขาเยอะขนาดนี้เหรอ พวกเขาไม่เข้าใจหรอก” เฮ่อหมิงไข่เหลือบมองหลินเยียนและเฮ่อมู่อวิ๋นด้วยสีหน้าไม่แยแส

 

 

“พอแล้ว! เถียงอะไรกัน!” จู่ๆ คุณปู่เฮ่อติ้งคุนตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

 

 

“พ่อครับ ที่ผมพูดเป็นความจริงทั้งนั้น พ่อดูสิ ถ้าครั้งนี้ไม่ใช่เพราะหมิงไข่ ซีเอ็ชวันแล้วก็เผยอวี่ถังเถ้าแก่ของทีมรถแข่งบลาสท์จะมาสนใจทีมรถเล็กๆ ของเราได้ไงล่ะ” จากนั้น เฮ่อสยงพูดกับเฮ่อติ้งคุนด้วยน้ำเสียงที่เบาลง

 

 

สิ้นประโยค คุณปู่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่สายตาจ่อไปทางเฮ่อหมิงไข่

 

 

จากนั้นไม่นาน เฮ่อติ้งคุนเอ่ยปากพูดกับเฮ่อหมิงไข่ “เสี่ยวไข่ ครั้งนี้แกทำผลงานได้ดี… ลงสนามแข่งแล้วต้องทำตัวดีๆ ล่ะ ถึงแม้ครั้งนี้จะแพ้ แต่ถ้าแกทำได้ดี เผลอๆ มีโอกาสได้เข้าร่วมทีมยอดเยี่ยมอย่างซีเอ็ชวันด้วยนะ”

 

 

“ปู่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถ้าไม่มีใครถ่วงผมน่ะ ถึงผมจะไม่กล้าบอกว่าชนะได้อย่างเต็มปาก แต่ว่าต่อให้แพ้ก็แพ้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีแน่” เฮ่อหมิงไข่พยักหน้ากับเฮ่อติ้งคุนแล้วพูดขึ้น

 

 

หลินเยียนเหลือบมองเฮ่อสยงและเฮ่อหมิงไข่ สองพ่อลูกคู่นี้ไม่เข้าใจสถานการณ์กันจริงๆ

 

 

แต่ว่าหลินเยียนเองก็ขี้เกียจสนใจพ่อลูกคู่นี้เช่นกัน เป้าหมายของเธอในครั้งนี้มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือรักษาทีมรถแข่งของคุณตาเอาไว้ ส่วนอื่นนอกจากนั้นเธอไม่ได้ใส่ใจอะไร

 

 

หลังทานอาหารเช้าเสร็จ หลินเยียนและคนในครอบครัวตระกูลเฮ่อเดินทางไปสนามแข่งพร้อมกัน

 

 

สนามแข่งขันในครั้งนี้แตกต่างไปจากสนามที่ประลองฝีมือกับทีมสปีดโดยสิ้นเชิง

 

 

สนามแข่งระหว่างหลินเยียนกับทีมสปีดในครั้งที่แล้วเป็นการแข่งขันภาคสนาม

 

 

การแข่งขันภาคสนามที่ว่านี้หมายถึงขับตามเส้นทางที่กำหนดไว้ในสนามแข่งรถที่สร้างขึ้น

 

 

ส่วนการแข่งขันที่ไม่ใช่ภาคสนามนั้นคือแข่งขันกันนอกสถานที่ เส้นทางซับซ้อนวกวนมาก ดังนั้นจึงต้องการเนวิเกเตอร์ในการนำทาง

 

 

สถานที่สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้อยู่ที่เขตชานเมืองซึ่งห่างจากเมืองหลวง เป็นที่ที่กว้างมาก เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางเนินเขา

 

 

“สนามแข่งนอกสถานที่ระดับ B…”

 

 

มองดูสนามแข่งรอบๆ แล้ว สีหน้าเฮ่อเล่อเฟิงเริ่มไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่

 

 

ภาคสนามนอกสถานที่ที่เฮ่อเล่อเฟิงว่าในอดีตนั้น ส่วนมากจะเป็นสนามระดับ C

 

 

ถึงแม้เฮ่อเล่อเฟิงจะเคยขับในสนามระดับ C มาบ้าง แต่ว่าไม่ได้ออกมาดูดีทุกครั้ง รวมถึงเนวิเกเตอร์ของตัวเองก็ไม่ได้มืออาชีพเท่าไหร่ด้วย มักจะมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้น

 

 

“พวกแกจำไว้”

 

 

ขณะนี้ เฮ่อสยงเดินมาพร้อมกับเฮ่อหมิงไข่ เฮ่อสยงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เดี๋ยวพอการแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว พวกแกทำหน้าที่ขวางทางรถแข่งของทั้งสองทีม ให้หมิงไข่วิ่งนำหน้าได้ตั้งแต่แรกจนจบเกม เข้าใจไหม”

 

 

เมื่อสักครู่ราวกับว่าหลินเยียนอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เฮ่อเล่อเฟิงกลับพยักหน้าตอบรับพร้อมพูดขึ้นอย่างรีบร้อนเสียก่อน “ครับ… ผมและพี่เยียนจะพยายามให้ถึงที่สุด เพื่อรับประกันความเร็วตลอดทางของพี่หมิงไข่”

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

“อีกอย่าง เธอแค่มาเข้าร่วมด้วยเฉยๆ แกขับของแกให้ดี ไม่ต้องฟังเธอมาก เธอไม่เข้าใจอะไรเลย” เฮ่อสยงชำเลืองตามองหลินเยียน