ตอนที่ 166 ของเล่นที่ถูกชิงไป

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

กาลเวลาผันผ่าน

หนึ่งร้อยปีต่อมา ชื่อเสียงของเมิ่งจือและปิงฝูดังกระฉ่อนทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์เหมันต์

พวกเขาบรรลุระดับหวนสู่ความว่างเปล่าติดต่อกัน กลายเป็นเจ้าแห่งวังที่อายุน้อยที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เหมันต์ เป็นใหญ่ในอาณาเขตของตน

เมิ่งจือได้เป็นผู้สมัครเลือกตั้งเป็นสังฆราชินีสมใจหวัง

วันนี้ นางมายังวังบงกชมรกตด้วยความปลาบปลื้มเต็มอก แจ้งข่าวนี้แก่ปิงฝู

“ของเล่น ตอนนี้ข้ากลายเป็นผู้สมัครเลือกตั้งสังฆราชินีแล้ว เข้าใกล้ความฝันที่จะได้ทำทุกอย่างตามใจชอบอีกก้าวแล้ว!”

ยามนี้เมิ่งจือเติบโตเป็นหญิงสาวรูปร่างแช่มช้อย เมื่อนางเห็นร่างที่คุ้นเคย ความเคร่งขรึมและความเย็นชาบนใบหน้าก็มลายหายไปจนสิ้น เอ่ยเสียงหวานหยาดเยิ้มดุจสาวน้อย

ปิงฝูยังคงงดงามบอบบางเช่นเดิม เพียงแต่ว่ามีพลังมหาศาลและลุ่มลึกกว่าเดิมแล้ว

เมื่อเขาเห็นหญิงสาวตรงหน้า ก็ยื่นมือออกไปดีดหน้าผากขาวผ่องของนาง พูดยิ้มๆ ว่า “อย่าดีใจเร็วไปหน่อยเลย ผู้สมัครมีสามคนไม่ใช่หรือ หากว่าแพ้การเลือกตั้ง อย่าวิ่งมาร้องไห้ขี้มูกโป่งที่นี่ล่ะ”

เมิ่งจือย่นจมูก พูดอย่างฉุนเฉียวว่า “นี่…มีใครพูดกับเจ้านายอย่างเจ้าบ้าง รีบชมข้าเร็ว!”

ปิงฝู “…”

“นายหญิงช่างมีความสามารถ พรสวรรค์ไร้ผู้ใดเทียบ เป็นที่หนึ่งในหล้า…”

พอได้ยินคำชม เมิ่งจือก็ยิ้มบางๆ จดจ้องชายหนุ่มตรงหน้า ภายในดวงตาที่ปราศจากความน่าเกรงขาม ทอสีสันอันเย้ายวนใจ

ต้องมีสักวันที่ข้าจะได้นั่งบนบัลลังก์สังฆราชินี จากนั้นให้เจ้าปรากฏตัวต่อหน้าชาวโลกในฐานะของบุรุษเพศอย่างเปิดเผย…

ความฝันของนางยังไม่เป็นจริง สงครามใหญ่ที่แผ่อิทธิพลไปทั่วแดนศักดิ์สิทธิ์เหมันต์ก็ปะทุ

ความโศกเศร้าแผ่กระจาย เนื่องด้วยจำเป็น อิทธิพลของสาวหิมะจึงเริ่มขยายไปยังแดนจิ่วโจว

ขุนพลสวรรค์ห้าหมื่นนายของสรวงสวรรค์จะร่วมมือกับกองทัพนักพรตห้าหมื่นชีวิตของสำนักเซียนหมื่นชีวิต ขัดขวางการรุกรานของกองทัพสาวหิมะที่แคว้นเฟิงหยวน

ศึกครั้งนี้ทำให้ท้องนภาเปลี่ยนสี แผ่นดินทรุดตัว

ปิงฝูเจอกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวอย่างยิ่งคนหนึ่ง เฉินหวังฮ่าว เจ้าแห่งยอดเขาแสงสวรรค์ของสำนักเซียนหมื่นชีวิต

เฉินหวังฮ่าวถือหอสยบปีศาจ เพียงพลิกฝ่ามือ สายลมก็พัดกระโชก คาถากำราบนับหมื่นพันแฝงด้วยอานุภาพอันไร้เทียมทาน

ปิงฝูกับเขาประมือกันหนึ่งทิวาหนึ่งราตรีก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ

ยิ่งเฉินหวังฮ่าวรบ อากัปกิริยาบนใบหน้าก็ยิ่งพิกลมากเท่านั้น

หลังเขาใช้หอสยบปีศาจสะเทือนปิงฝูจนกระเด็นแล้ว ในที่สุดก็อดพูดออกมาไม่ได้ว่า “ลูกพ่อ”

ปิงฝูถือกระบี่ดาวหมาป่า ขณะที่กำลังจะรุกจู่โจมต่อนั้น กลับชะงักเพราะประโยคนี้ จากนั้นก็บันดาลโทสะ “ถุย! เจ้านักพรตเฒ่า อย่าคิดจะเอาเปรียบข้า!”

ตูมๆ ๆ! ทั้งคู่สู้กับอีกครั้ง

หนึ่งชั่วยามผ่านไป เฉินหวังฮ่าวเอ่ยขึ้นมาอีกคราว่า “ไม่ผิดแน่ แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะเปลี่ยนไปมาก อรชรอ้อนแอ้น และมีหน้าอกนูนขึ้นมาแล้ว แต่พลังจิตวิญญาณที่เชื่อมสายเลือดนั้นไม่มีทางโกหกเป็นแน่ ลูกพ่อ นี่พ่อเอง!”

“ข้าต่างหากที่เป็นพ่อเจ้า!” ปิงฝูตวาดลั่น กระบี่ดาวหมาป่าสาดลำแสงสีม่วง ก่อตัวเป็นหมาป่านับพัน กระโจนใส่เฉินหวังฮ่าวด้วยพลังมหาศาล

หอสยบปีศาจระเบิดแสงสีทองสว่างเจิดจ้า บดขยี้หมาป่านับพันตัวจนสิ้นซาก

เฉินหวังฮ่าวพุ่งไปหาปิงฝู กรีดฝ่ามือของตน เมื่อเลือดสาดกระจาย อักขระวิเศษมากเหลือคณานับไหลเวียนรอบฝ่ามือ “ความทรงจำถูกผนึกหรือ เช่นนั้นก็ให้เลือดของข้า ปลุกความทรงจำของเจ้าให้ตื่น!”

“อยากตายหรือ!” ยื่นกระบี่ดาวหมาป่าของปิงฝูไปแทงเฉินหวังฮ่าว

ใครจะรู้ว่าเฉินหวังฮ่าวไม่หลบไม่หลีก กระบี่ทะลวงร่างของเฉินหวังฮ่าว ฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของตนก็กระแทกหน้าผากของปิงฝูในเวลาเดียวกัน

ตูม!

คลื่นพลังที่น่ากลัวกระจายไปรอบทิศทาง

ปิงฝูเบิกตากว้าง สมองถูกพลังลึกลับที่เชื่อมต่อกับสายเลือดโจมตี ความทรงจำมากมายเริ่มปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ราวกับหัวจะระเบิดแล้ว

“อ๊าก…” ปิงฝูทรุดตัวคุกเข่า แผดร้องเสียงดังลั่น

ในตอนนั้นเอง มังกรน้ำแข็งมืดฟ้ามัวดินก็เริ่มพุ่งไปหาเฉินหวังฮ่าว

“บังอาจ กล้าทำร้ายปิงฝู ตายเสียเถอะ!”

เมิ่งจือสวมมงกุฎหงส์ ดวงหน้างามล่มเมืองเต็มไปด้วยความโกรธ

ความน่ายำเกรงที่ฉายในดวงตาสีทองของนาง แผ่คลุมทั่วผืนนภา ทำให้ทุกสรรพสิ่งยอมศิโรราบ

บัดนี้ นางก็คือจักรพรรดินีผู้ยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่งในปฐพี

หอสยบปีศาจสร้างม่านแสงครอบคลุมหมื่นจั้ง ขัดขวางการโจมตีของมังกรน้ำแข็ง

ทุกครั้งที่เกิดการพุ่งชนดังตูมตาม ล้วนทำให้พสุธาทรุดตัวและแตกร้าว แผ่นดินเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

แต่เฉินหวังฮ่าวกลับกัดฟันอดทน รอให้บุตรชายของตนฟื้นคืนสติ

“ข้า…ข้าคือเฉินชิงหางหรือ” ผ่านไปครู่หนึ่ง ปิงฝูกุมศีรษะพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง

พอเฉินหวังฮ่าวได้ฟังก็สั่นระริก พูดอย่างดีใจว่า “ใช่…เจ้าชื่อเฉินชิงหาง! เจ้าจำได้แล้วหรือ ฮ่าๆ ในที่สุดลูกชายข้าก็กลับมาแล้ว!”

“ไม่สิ…ตอนนี้น่าจะเป็นลูกสาว”

“แต่ไม่เป็นไร ต่อไปเจ้าชื่อเฉินชิงชิงก็แล้วกัน!” เฉินหวังฮ่าวนึกขึ้นได้ จึงรีบพูดเสริมทันควัน

ปิงฝู “…”

“ท่านพ่อ ข้าเป็นผู้ชาย หน้าอกเป็นของปลอม” เฉินชิงหางถอดหายใจแล้วเอ่ยปาก

เฉินหวังฮ่าวมองเฉินชิงหางอึ้งๆ นัยน์ตามีทั้งความเต็มตื้นและความตื่นเต้น “ฮ่าๆ ในที่สุดเจ้าก็เรียกข้าว่าพ่ออีกครั้งแล้ว นานแล้วที่ไม่ได้ยินใครเรียกเช่นนี้!”

“ปิงฝู…เมื่อ…เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ” เมิ่งจือมองชายหนุ่มที่คุกเข่าอย่างตะลึง ใบหน้ามีแต่ความไม่เชื่อ ประหนึ่งว่าความเชื่อสำคัญบางอย่างถล่มทลายอย่างไรอย่างนั้น ร่างอรชรเริ่มสั่นเทิ้มขึ้นมา

ความจริงประการนี้เด่นหราอยู่ตรงหน้า ทำให้นางรับมันไม่ได้

ขณะนั้นเอง ฝ่ามือสีทองก็ลอยมาจากท้องฟ้า บดบังเวหาในรัศมีสามพันจั้ง

ปราณหยวนมโหฬารพันลึกกระเพื่อมดุจผืนทะเล นภาลัยกลายเป็นสีทองผ่องอำไพภายใต้ฝ่ามือนี้ มิติถูกพันธนาการ ไม่มีผู้ใดหลบฝ่ามือนี้พ้น

“นางปีศาจ ตายเสียเถอะ” กระแสเสียงดังก้องดุจอสนีบาต

ตูม!

มังกรน้ำแข็งยาวหลายร้อยจั้งแหลกสลายเพราะพลังของฝ่ามือ แม้แต่เมิ่งจือก็ถูกผลักลงพุสธา

ผิวดินแตกระแหงโดยพลัน ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเศษธุลีภายใต้หนึ่งฝ่ามือ

“ปรมาจารย์เทียนอู่จวินลงมือแล้ว นางปีศาจตนนั้นไม่รอดแน่!” เฉินหวังฮ่าวโล่งอก พูดด้วยรอยยิ้ม

“เมิ่งจือ!” เฉินชือหางมองหญิงสาวที่ถูกอัดให้จมดิน พลันหัวใจก็กระตุก เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมา

หญิงที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล ผมยาวสีเงินเปื้อนคราบเลือดกัดฟัน ตะเกียกตะกายออกจากฝ่ามือยักษ์

นางเงยหน้าอย่างยากเย็น สิ่งที่รอคอยนางคือลำแสงสีทองที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่สิ้นสุด

ลำแสงสีทองแต่ละเส้น ทัดเทียมกับการโจมตีสุดกำลังของยอดฝีมือระดับหวนสู่ความว่างเปล่า

พวกมันหลั่งไหลลงมาปานหยาดน้ำฝน เพียงพอจะชะล้างทุกสรรพสิ่งในโลกหล้า!

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง ชายที่สวมชุดสีฟ้าคนหนึ่งก็ยืนขวางนางและชูกระบี่ดาวหมาป่าขึ้น

“ลูกพ่อ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ” เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวของเฉินหวังฮ่าวดังอยู่ไกลๆ

เพียงครู่เดียว การระเบิดอันรุนแรงก็กลบเสียงตวาดของเฉินหวังฮ่าว

แผ่นดินถูกความร้อนระอุของแสงกระบี่ระเบิดจนเป็นหลุมดำสนิท

เมื่อฝุ่นควันมลายไปแล้ว เฉินชิงหางที่ขวางอยู่เบื้องหน้าเลือดอาบ หงายหลังช้าๆ จมสู่อ้อมอกของเมิ่งจือ

เมิ่งจือกอดเฉินชิงหางด้วยมือที่สั่นเทา น้ำตาล้นทะลักออกมา “ทำไม…ทำไมต้องทำเช่นนี้เพื่อข้า…”

เลือดไหลออกจากมุมปากของเฉินชิงหาง แต่ใบหน้ากลับแต้มด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ปาดน้ำตาบนพวงแก้มของหญิงสาวตรงหน้าอย่างเบามือ ตอบว่า “ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเป็นสัญชาตญาณที่อยากปกป้องเจ้านายของของเล่นกระมัง”

กลางนภา เทียนอู่จวินฮึดฮัดในลำคอ ขณะที่กำลังจะลงมือกำจัดปีศาจร้ายสองตนนี้อีกหน

เฉินหวังฮ่าวกลับหายตัวมาโผล่หน้าเฉินชิงหาง “ผู้อาวุโสโปรดยั้งมือ เขาคือเฉินชิงหาง เป็นลูกชายของข้า! เขาถูกปีศาจร้ายลุ่มหลงขาดสติในตอนที่สูญเสียความทรงจำ ถึงได้ทำเรื่องโง่เขลาเช่นนี้ เมตตาไว้ชีวิตเขาได้หรือไม่!”

“เขาคือเฉิงชิงหางงั้นหรือ!” เทียนอู่จวินได้ฟังก็ออกอาการตกใจ

เขาเพ่งมองเจ้าแห่งวังชุดสีฟ้าเลือดอาบที่ล้มอยู่ตรงนั้น ครุ่นคิดเล็กน้อยก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆ

เฉินชิงหางมีพรสวรรค์เลิศล้ำ หากกลับตัวกลับใจ หวนสู่สำนักอีกครา ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร

เทียนอู่จวินเอ่ยปากหลังใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งว่า “โทษประหารละได้ แต่เขากลายเป็นเจ้าแห่งวังศักดิ์สิทธิ์แล้ว เข่นฆ่าลูกศิษย์สำนักเรานั้นเป็นความจริง เฉินหวังฮ่าว ข้าขอสั่งให้เจ้าพาเขากลับสำนัก กักขังอยู่ในหอสยบปีศาจหนึ่งพันปีเพื่อชดใช้ความผิด และใช้หอสยบปีศาจลบล้างความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหมันต์ให้หมด!”

เมื่อได้ฟังคำของเทียนอู่จวิน เมิ่งจือก็ชะงักงัน จากนั้นบีบกระจกจนแหลกละเอียด

นางจดจ้องเฉินชิงหางอย่างลึกซึ้ง ริมฝีปากอ่อนนุ่มแตะลงไปอย่างแผ่วเบา

จากนั้น ริมฝีปากของเขาก็สัมผัสถึงความอุ่นละมุน

“นางปีศาจสามหาว ยังไม่รีบปล่อยลูกชายข้าอีก!” เฉินหวังฮ่าวได้เห็นก็ลุแก่โทสะ ตวาดเสียงดังลั่น

หากผู้หญิงคนอื่นจูบลูกชายเขาก็ยังดี อย่างมากเขาก็แค่ยอมรับลูกสะใภ้คนนี้

ทว่าหญิงตรงหน้ากลับเป็นสาวหิมะซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตของสำนักเซียนหมื่นชีวิต จะให้เขาทนได้อย่างไร

เทียนอู่จวินบนเวหาดีดนิ้วใส่เมิ่งจือ ลำแสงสีทองทะลุทะลวงมิติ พุ่งมาประชิดในชั่วอึดใจ

ฟิ้ว!

ลำแสงทะลุผ่านร่างของเมิ่งจือ แต่ทำอันตรายนางไม่ได้เลยแม้แต่นิด

“เอ๊ะ จักรพรรดินีตนนั้นจะลงมือแล้วหรือ…” เทียนอู่จวินทอดมองฟากฟ้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย

ร่างของเมิ่งจือเริ่มเลือนราง นางมองเฉินชิงหางด้วยความอาลัย เอ่ยเสียงนุ่มว่า “ของเล่น รอข้านะ ข้าจะกลับมาหาเจ้าแน่นอน ไม่มีใครแย่งของเล่นของข้าได้ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตาม…”

เฉินชิงหางน้ำตาไหลพราก ส่ายหน้าอย่างขมขื่น

“อย่ามา ให้มันสิ้นสุดเช่นนี้เถอะ อย่ามาเลย…”