ตอนที่ 781 ครั้งหน้าผมจะเบามือกว่านี้

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“จื่อเฮ่า ฉันกลัวจังเลย” เฉินซิงเยียนไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าควรจะต้องตอบโต้อย่างไร

 

 

ว่ากันด้วยเหตุผลแล้ว หญิงสาวอยากจะตอบโต้ ทว่าร่างกายของเธอไม่ได้โกหก

 

 

“ผ่อนคลายนะ ให้ฉันจัดการทุกอย่างเอง โอเคไหม”

 

 

บางทีอาจเป็นเพราะหญิงสาวปรารถนาร่างกายของอันจื่อเฮ่ามานาน หรือบางทีอาจเป็นเพราะน้ำเสียงอันสุดแสนจะยั่วยวนของอันจื่อเฮ่า เฉินซิงเยียนพบว่าตัวเองผ่อนคลายลง ไม่นานนักเปลวไฟแห่งความเสน่ห์หาก็ลุกท่วมทั้งคู่

 

 

มวลความปรารถนาในอากาศเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ทว่าอันจื่อเฮ่าไม่ได้หยุดอยู่เท่านั้นเหมือนที่เคย ชายหนุ่มขยับตัวลงไปตามเรือนร่างของหญิงสาว ทุกความเคลื่อนไหวนั้นรุนแรงยิ่งกว่าครั้งก่อนหน้า

 

 

และในตอนสุดท้าย ชายหนุ่มก็ได้ข้ามผ่านข้อจำกัดของตัวเอง…

 

 

“ฉันหวังว่าเธอจะไม่เสียใจกับเรื่องนี้ทีหลังนะ”

 

 

พวกเขามาถึงจุดนี้กันแล้ว หญิงสาวจะยังถอยกลับไปได้อีกหรือ จิตวิญญาณของคู่รักเชื่อมโยงกันมานานแล้ว ดังนั้นในตอนนี้ร่างกายของพวกเขาจึงเป็นเพียงภาชนะหนึ่งเท่านั้น แม้ครั้งแรกของเธอจะเจ็บปวดจนรู้สึกเหมือนกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เฉินซิงเยียนก็สัมผัสได้ถึงความเป็นเจ้าของ

 

 

ตอนนี้หญิงสาวเป็นของชายคนนี้แล้ว…

 

 

เขาคือชายคนแรกที่เธอรักมากที่สุด

 

 

หลังจากที่เริงรักกันเสร็จ เฉินซิงเยียนก็เจ็บจนขยับไปไหนไม่ได้ เธอนอนอยู่บนแผ่นอกของอันจื่อเฮ่าพลางอิ่มใจไปกับห้วงเวลาแห่งความชิดใกล้นี้ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเจ็บขนาดนี้”

 

 

“ขอโทษ คราวหน้าจะอ่อนโยนกว่านี้” อันจื่อเฮ่าปลอบพลางลูบหลังเฉินซิงเยียน “งีบสักหน่อยเถอะ แล้วฉันจะอาบน้ำให้ทีหลัง”

 

 

“โอเค” เฉินซิงเยียนรู้สึกเหนื่อย ดังนั้นหลังจากที่หลับตาลงไปได้พักหนึ่ง หญิงสาวจึงผล็อยหลับไป ตอนนั้นเองที่อันจื่อเฮ่าอุ้มเธอไปวางไว้ในอ่างอาบน้ำแล้วอาบน้ำให้เธออย่างอ่อนโยน ทว่าหลังจากที่อาบไปได้ครึ่งทาง อันจื่อเฮ่าก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเสียการควบคุม ประสบการณ์ของเฉินซิงเยียนในครั้งนี้นั้นเพลิดเพลินกว่าเป็นอย่างมาก เมื่ออาบน้ำเสร็จ หญิงสาวก็กระฉับกระเฉงขึ้นเยอะ

 

 

ทว่าเมื่อหญิงสาวกลับไปที่เตียง หญิงสาวก็หมดแรงเสียแล้ว ตอนนั้นเองที่อันจื่อเฮ่าเอื้อมแขนมากอดเธอไว้ เฉินซิงเยียนซุกตัวด้วยความกลัวอย่างรวดเร็ว “นายอยากทำอีกเหรอ”

 

 

“นอนเถอะ เป็นเด็กดีหน่อย” อันจื่อเฮ่าเพียงแค่ห่มผ้าให้เธอเท่านั้น หลังจากจูบเฉินซิงเยียน ชายหนุ่มก็ผล็อยหลับไป

 

 

อันจื่อเฮ่าลืมไปแล้วว่าเขาได้นอนหลับสบายอย่างนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ รู้เพียงแค่ว่าทั้งหมดเป็นเพราะเฉินซิงเยียน กลับกลายเป็นว่าเขารักเด็กสาวคนนี้มากเหลือเกิน คืนนั้นเฉินซิงเยียนรู้สึกโชคดีเป็นอย่างยิ่ง โม่ถิงไม่ได้ยอมรับเธอเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในที่สุดหญิงสาวก็ได้กลายเป็นผู้หญิงของอันจื่อเฮ่า ตอนนี้เธอเป็นหญิงสาวโดยแท้จริงแล้ว

 

 

ทว่าผลกระทบของอุบัติเหตุรถยนต์นั้นยังอยู่…

 

 

เช้าวันถัดมา เฉินซิงเยียนเดินทางไปที่สตูดิโอเพื่อถ่ายโฆษณาตามที่ได้เซ็นสัญญาไว้ ทว่าผู้โฆษณาได้เปลี่ยนตัวเธอไปแล้วและพูดว่า “พวกเรายอมจ่ายค่าชดเชยในการละเมิดสัญญาดีกว่าจะจ้างลูกสาวฆาตกร ถ้าเราจ้างคุณ ใครจะซื้อสินค้าของเรากันล่ะครับ

 

 

“เรื่องราวของพ่อคุณยังไม่ทันคลี่คลาย แต่คุณกลับรีบมาถ่ายโฆษณา ไม่คิดเหรอครับว่านี่มันไร้เหตุผลไปหน่อย

 

 

“กลับบ้านไปเถอะ พวกเราไม่กล้าจ้างคุณหรอก”

 

 

เฉินซิงเยียนไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะได้มาเจอกับปัญหาเช่นนี้และไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้

 

 

หลังจากกลับถึงบ้าน หญิงสาวก็หวาดกลัวเกินจะเล่าให้อันจื่อเฮ่าฟังเพราะปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวเองของเธอเพียงอย่างเดียว

 

 

แม้เฉินซิงเยียนจะเป็นน้องสาวของโม่ถิง โม่ถิงก็ไม่เคยยอมรับเรื่องนี้ต่อหน้าทุกคน ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่คิดว่าเขาจะทำมันในตอนที่กำลังมีข่าวฉาวอันใหญ่หลวงเช่นนี้

 

 

เป็นใครก็คงเลี่ยงที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ใช่ไหมล่ะ

 

 

ไม่นานจากนั้น เฉินซิงเยียนก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติและเลิกสนใจเรื่องเฉินเทียนเหา ทว่าจู่ๆ สมาชิกครอบครัวที่เคยปฏิเสธเธอในตอนที่เธอพยายามจะมอบเงินชดเชยให้พวกเขานั้นกลับออกมาตามหาเธอในตอนที่เธอไม่สนใจไยดีพวกเขาอีกต่อไปแล้ว อันที่จริง พวกเขาถึงกับสร้างกระแสบนหนังสือพิมพ์ทั้งหลายด้วย

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาหาเบอร์โทรศัพท์ของเฉินซิงเยียนมาได้และติดต่อเธอโดยตรง

 

 

“คุณเฉินคะ สามีฉันยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลยนะ คุณจะไม่สนใจเขาเลยเหรอ ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าคุณจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ไม่ใช่เหรอคะ”

 

 

เฉินซิงเยียนมองโทรศัพท์ของเธออย่างทำอะไรไม่ถูก ตอนนั้นเองที่อันจื่อเฮ่าคว้าโทรศัพท์ไปจากมือของเธอแล้วตอบว่า “ตอนเธอจะมอบเงินให้คุณ คุณไม่อยากได้นี่ครับ”

 

 

“เรา…เราต้องการมันอย่างแน่นอนค่ะ การผ่าตัดของสามีของฉันยังต้องใช้เงินอีกมาก”

 

 

“ผมคิดว่ามันจะเป็นการเหมาะสมมากกว่านะครับถ้าคุณไปคุยกับเฉินเทียนเหา เฉินซิงเยียนและเฉินเทียนเหาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน ศาลยืนยันแล้วว่าไป๋ลี่หวาและเฉินเทียนเหาหย่าร้างกันไปเป็นสิบปีแล้ว ดังนั้นต้องขอโทษด้วยนะครับ แต่เฉินซิงเยียนกับแม่ของเธอจะไม่รับผิดชอบเรื่องนี้”

 

 

ผู้หญิงที่ปลายสายดูจะโกรธกับคำตอบของอันจื่อเฮ่าและโพล่งคำด่าออกมามากมาย อันจื่อเฮ่านั้นอยู่ในสนามรบมาเป็นเวลาหลายปีและชินกับสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงถือโทรศัพท์เดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วใช้เหตุผลกับผู้หญิงคนนั้นจนกระทั่งเธอยอมขอโทษ

 

 

“จากนี้ไปถ้ามีใครพยายามโทรหาเธออีก บอกให้พวกเขาไปคุยกับตำรวจเลยนะ”

 

 

“เข้าใจแล้ว” เฉินซิงเยียนตอบ

 

 

เมื่อเห็นว่าเฉินซิงเยียนคอตก อันจื่อเฮ่าก็ดูออกทันทีว่าหญิงสาวมีสภาพที่ไม่สู้ดีนัก ดังนั้นเขาจึงยื่นแขนออกมากอดเธอเอาไว้ “มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นล่ะ”

 

 

“อื้อ ฉันรู้”

 

 

ไม่ว่าสาธารณชนจะทำให้เธอดูย่ำแย่แค่ไหน หญิงสาวก็เชื่อมั่นในตัวโม่ถิงและถังหนิง ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างสวยงามเป็นแน่

 

 

สมาชิกครอบครัวของเหยื่อพยายามติดต่อหาเฉินซิงเยียนต่อไป ทว่าในแต่ละครั้งเฉินซิงเยียนทำเพียงแค่โทรแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนเรื่องตระกูลเฉินและค้นพบว่าพ่อของเฉินซิงเยียนหายตัวไปตอนที่เธออายุได้หกขวบและเพิ่งจะออกมาปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ และทันทีที่เขาปรากฏตัว สิ่งแรกที่เขาทำก็คือขอเงินจากลูกสาวและจงใจเอาประวัติการรักษาพยาบาลของผู้เป็นลูกชายมาหลอกเธอ

 

 

ตำรวจยังค้นพบอีกว่าเฉินซิงเยียนเข้าไปขอขมาสมาชิกครอบครัวนี้อย่างเป็นการส่วนตัว ทว่าเธอกลับถูกทำร้ายร่างกายในระหว่างนั้น

 

 

“เฉินเทียนเหาอาจเป็นพ่อของเฉินซิงเยียน แต่เขาไม่เคยทำหน้าที่ของคนเป็นพ่อเลย พูดกันด้วยเหตุผลแล้ว เราไม่สามารถคาดหวังให้เฉินซิงเยียนชดใช้ในสิ่งที่พ่อของเธอทำลงไปได้หรอก ยิ่งเธอติดต่อครอบครัวนั้นไปเพื่อขอโทษแล้วด้วยอีก”

 

 

“แล้วค่ารักษาพยาบาลของสามีฉันล่ะ”

 

 

“จ้างทนายมาทำให้เฉินเทียนเหาจ่ายสิครับ”

 

 

ตอนที่เฉินซิงเยียนติดต่อเธอไปเพื่อมอบค่าชดเชยให้ เธอก็ไม่ต้องการเงินนั่นและถึงขึ้นทำร้ายเฉินซิงเยียน แม้ความโกรธของเธอจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่เธอไม่ได้พิจารณาเลยหรือว่าเฉินซิงเยียนเองก็เป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน

 

 

เดิมทีเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจด่วนสรุปและสันนิษฐานว่าพ่อลูกคู่นี้เป็นบุคคลที่ไม่น่าพิศมัยหลังจากที่ได้ยินมาว่าเฉินซิงเยียนเป็นเซเลบที่มีพ่อเมาแล้วขับทั้งยังใช้สารเสพติด ทว่าความจริงก็เผยให้เห็นว่าเฉินซิงเยียนไม่ได้ผิดอะไรเลย ดังนั้นทำไมเธอถึงต้องรับผิดชอบในที่พ่อของเธอทำลงไปด้วยล่ะ

 

 

สมาชิกครอบครัวของเหยื่อนั้นทำตัวไม่ถูกหลังจากที่ตระหนักว่าตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวกเขาสันนิษฐานว่าเฉินซิงเยียนและแม่ของเธอจ่ายเงินซื้อตำรวจไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจติดต่อสื่อมวลชนโดยที่หวังว่าความคิดเห็นของสาธารณชนจะช่วยให้พวกเขาไปถึงเส้นชัยและได้รับเงินชดเชย

 

 

“ตอนที่เฉินซิงเยียนติดต่อพวกเรามา เธอก็แค่แสร้งทำ จากนั้นพวกเราก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้อีก

 

 

หลังจากที่พ่อของเธอก่ออาชญากรรมอันแสนร้ายแรงนั่นไป เธอคิดเหรอว่าการหลบซ่อนตัวจะช่วยได้ พวกเราต้องการให้เฉินซิงเยียนออกมามอบคำอธิบายที่เหมาะสมค่ะ!

 

 

“หากเฉินซิงเยียนไม่ออกมาอธิบายและแสดงจุดยืนของเธอ พวกเราจะไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตที่สงบสุขแน่!”