ถังหยินไม่รู้หรอกว่าถ้ำมันลึกแค่ไหน แต่เขาก็ไต่ลงมาได้มากกว่าหลายชั่วยามแล้ว และดูท่าว่าจะยังไม่ถึงพื้นในเร็ว ๆ นี้

เมื่อเขามองขึ้นไปก็ไม่เห็นทางเข้าแล้วด้วย ราวกับว่าร่างของชายหนุ่มกำลังอยู่กลางอากาศที่ไม่รู้เหนือใต้ มีแต่ต้องเดินหน้าต่อเท่านั้น

คิดได้แบบนั้นถังหยินก็ปลดเกราะออกแล้วกินโสมเพื่อเพิ่มพลังก่อนทำการปีนต่อไป

ผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หากแต่ในที่สุดชายหนุ่มก็รู้สึกว่าเท้าของเขาแตะลงที่พื้นถ้ำแล้ว จึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

แต่ก่อนที่เขาจะทันผ่อนคลาย พื้นก็เริ่มสั่น ทำให้ถังหยินก้มมองลงตามไป

ไม่มีแม้แต่แสงในถ้ำนี้ ดังนั้นต่อให้เป็นผู้ใช้ศาสตร์มืดก็ยังมองได้ยากลำบากมาก เขาจึงได้แต่ย่อตัวลง เพื่อให้เห็นภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น

มันมีลักษณะขาวซีด แต่ด้วยรูปร่างคล้ายมนุษย์ของมัน ก็ทำให้มันดูน่ากลัวมากทีเดียว

“บ้าอะไรวะเนี่ย ?” ถังหยินตะลึงที่เห็นแบบนี้จนต้องถอยหลังกลับมา

วินาทีที่เขาตะโกน ปีศาจตัวนี้ก็พลันคำรามลั่น ก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนร่างของถังหยิน อ้าปากกว้างหมายจะขย้ำคอของเขา

พลังของมันมหาศาลมากจนแม้แต่ถังหยินยังไม่อาจต้านเอาไว้อยู่ ทำให้หัวของเขากระแทกกับกำแพง

โชคยังดีที่เกราะปราณของเขาหนาพอที่จะป้องกันคมเขี้ยวของสัตว์ร้ายตัวนี้ได้ หากแต่นั่นก็ยิ่งทำให้มันโกรธที่ไม่อาจกัดทำลายเกราะของถังหยินได้จนทำการกัดอย่างบ้าคลั่ง

ในเวลานี้ถังหยินก็เริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขาคือสัตว์ประหลาดร้ายกาจ ดังนั้นจึงไม่รอช้า เรียกดาบออกมาแล้วแทงเข้าในร่างของมันในชั่วลมหายใจนั้น !

เจ้าสัตว์ร้ายกรีดร้อง พยายามจะหลบหนี หากแต่ก็ถูกคว้าตัวเอาไว้แล้วโดนดาบแทงเข้าไปลึกขึ้นพร้อมกับใช้ไฟจากดาบเผาร่างของมันจนกลายเป็นฝุ่นไป

ถังหยินหยิบดาบขึ้นมาแล้วสูดเอาปราณเข้าไปแล้วตะโกน “คิดจะมาหลอกข้างั้นเหรอ ? หนังของเจ้ามันยังไม่ทนทานต่อดาบของข้าเลย !”

หลังพูดเสร็จเขาก็รู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลก ๆ จึงได้กลอกตามองไปรอบ ๆ ก่อนพบว่าตนกำลังถูกสัตว์ร้ายเหล่านี้ล้อมตัวเอาไว้

บรรลัยแล้วไง ! เขาสบถลั่นหลังจากที่พบว่าถูกล้อมไว้ด้วยตัวประหลาดเหล่านี้

เขายืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เช่นเดียวกับสัตว์เหล่านั้น

ถังหยินย่อตัวลงแล้วค่อย ๆ คลานไปข้างหน้า และเมื่อมาถึงเป้าหมาย เขาก็ลองขยับตัวเล่น ๆ ดู ก่อนพบว่าพวกมันยังคงยืนนิ่งไม่ไปไหน และแม้ว่าชายหนุ่มจะลองโบกดาบดู เขาก็พบว่าพวกมันก็ยังยืนนิ่งเช่นเดิม

อย่างนี้นี่เอง ถังหยินเริ่มมีความกล้ามากขึ้นเมื่อเห็นว่าพวกมันไม่ขยับแบบนี้ สองมือจึงถือดาบแน่นและเหวี่ยงมันให้กระทบกันจนเกิดเสียงก้องกังวาลไปทั่วทั้งถ้ำนี้พร้อมตะโกน “ข้าอยู่ตรงนี้โว้ย !”

พวกปีศาจวิ่งตามทิศทางของเสียงไปทันทีด้วยความบ้าคลั่งและกระโดดเข้าใส่ชายหนุ่ม

ถังหยินรวมดาบให้กลายเป็นเคียวแล้วเรียกไฟให้ออกมา

แม้ว่าพวกมันจะมีร่างกายที่แข็งแรงแต่ก็ไม่อาจต้านทานชายหนุ่มได้เลย จึงได้แต่กระโจนเข้าใส่ถังหยินและโดยไฟเผาสวนกลับไปเท่านั้น

พวกมันไม่มีดวงตา ดังนั้นจึงไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเพื่อนของพวกมันนั้นกำลังถูกเผาอย่างโหดร้ายอยู่

มันเหมือนกับซาลาเปาเนื้อหมาที่อร่อยสำหรับถังหยิน วันนี้เขาจะได้รับการเติมเต็มพลังปราณจนกว่าจะพอใจอย่างแน่นอน !

พวกปีศาจนี้เหมือนกับพวกปีศาจจากนรกก็ไม่ปาน ทั้งยังมีพลังปราณที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าให้เขาได้ดูดกลืนอย่างมากมาย และยิ่งเขากินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น

ผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ เสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกสัตว์ร้ายเริ่มหยุดลง พวกมันพากันถอยหนีถังหยินด้วยความหวาดกลัว

เมื่อดูดพลังพวกมันมาได้มากพอ ถังหยินก็เริ่มรู้สึกว่าพลังของเขาพัฒนาไปไกลมากแล้ว จึงรีบไล่ล่าพวกมันเพื่อเพิ่มพลังตัวเองต่อ

ข้างล่างนี้ไม่ใหญ่มาก กว้างยาวประมาณ 2 จั้งเห็นจะได้ เมื่อถังหยินมาถึงสุดทางก็รู้แล้วว่ามีหินใหญ่น้อยมากมายที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ

เขาพบห้องที่มีขนาดใหญ่ จึงยื่นหน้าเข้าไปตรวจสอบดูข้างในก่อนที่จะกระโดดเข้าไป

แต่ก่อนที่จะเดินออกไปได้ เขาก็ได้ยินเสียงสั่นไหวจากข้างในและมีของหนัก ๆ กำลังเข้ามาใกล้เขาเรื่อย ๆ

ถังหยินเริ่มสงสัยและค่อย ๆ เดินช้าลง เขาหรี่ตามองไปข้างหน้า

เสียงมันเริ่มใกล้เข้ามามากขั้น และก่อนที่ถังหยินจะทันยืนยันถึงที่มาของมัน เขาก็พบร่าง ๆ หนึ่งวิ่งผ่านหน้าเขาไป มันคือสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ !

ไม่รู้ว่าเพราะมันเร็วเกินไปหรือว่าถ้ำมันมืดเกิน ทำให้ถังหยินไม่รู้ว่ามันมีขนาดใหญ่เท่าใด

เขาเดินเข้าไปหามันและถูกมันซัดกระเด็นออกมาอย่างง่ายดาย

ก๊อง !

ด้วยแรงมหาศาล ต่อให้มีเกราะที่หนาแค่ไหนถังหยินก็ยังคงต้องลอยกระเด็นออกไปอยู่ดี เขากระอักเลือดออกมาเต็มพื้นไปหมด

ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นหลังจากไอเอาเลือดออกมา ก่อนจะเห็นว่ามีสัตว์ร้ายตัวใหญ่อยู่ตรงหน้าตน

มันสูงเกือบ 6 ศอกแต่มีความยาวมากถึง 2 จั้งเศษ ร่างของมันมีเกล็ดสีดำเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานที่อยู่มานานนับพันปี

เมื่อเห็นมันแบบนี้สิ่งที่ถังหยินคิดเพียงอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือ มังกร

ไม่ว่ามันจะเป็นมังกรจริง ๆ หรือไม่ แต่ในใจของเขายืนยันในลักษณะนี้นี่แหละ เพราะมันไม่มีทางที่สัตว์เลื้อยคลานจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียว กรงเล็บ 4 ข้าง และมีหางที่ยาวพร้อมกับดวงตาเขียวมรกตแบบนี้ได้ อีกทั้งน้ำลายของมันก็ยังไหลยืดออกมาจากปากด้วย

ในตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่าพวกสัตว์มนุษย์เหล่านั้นไม่ได้หนีไปเพราะกลัวเขา แต่มันหนีไปเพราะหวาดกลัวมังกรตัวนี้ต่างหาก ถังหยินยืนขึ้นมาแล้วใช้เคียวชี้ไปยังอีกฝ่าย “เข้ามาเลย !”

มันพุ่งเข้าใส่ถังหยินตามคำเรียกทันที

ถึงมันจะตัวใหญ่แต่ก็รวดเร็วมาก มันมาถึงข้างหน้าเขาพร้อมเปิดปากเตรียมสวาปามเหยื่อในชั่วพริบตา

ถังหยินหลีกเลี่ยงมันด้วยวิชาสับเปลี่ยนเงา แล้วจึงเหวี่ยงเคียวที่เสริมพลังปราณทั้งหมดในร่างที่เขามีเข้าใส่หลังของมันอย่างเต็มแรง

เคร้ง !

เกล็ดของมันหนาเกินไป ดาบของเขาไม่สามารถฟันทะลุเข้าไปได้แถมยังส่งผลให้เขากระเด็นกลับมาอีกต่างหาก

ในวินาทีที่เขากระเด็นออกมา มังกรก็ได้วกหัวกลับไปกัดเข้าที่เอวของเขาแล้วยกร่างขึ้นมา

สิ่งมีชีวิตตนนี้ทรงพลังมากเสียจนทำให้แรงกัดของมันสามารถทลายเกราะปราณของถังหยินได้ ทำให้ชายหนุ่มต้องกัดฟันด้วยความเจ็บปวด

ก่อนที่เขาจะพบว่ามันไม่มีเกล็ดคอยปกป้องในส่วนปากนี้ ดังนั้นถังหยินจึงใช้ไฟเสริมพลังให้กับเคียวในมือของเขาแล้วหวังที่จะจัดการมันจากในปาก ทว่าเขาคิดผิด เพราะทันทีที่ไฟเผามันจากในปากก็ปรากฏแค่ควันสีเขียวเท่านั้น ทั้งยังทำให้มันยิ่งกัดเขาแรงขึ้นอีก

เมื่อเขาเริ่มถูกมันกัดแรงขึ้น ถังหยินก็กระอักเลือดออกมามากขึ้น หากแต่เขาก็ไม่คิดยอมแพ้ รีบใช้คลื่นพลังปราณซัดเข้าไปที่ดวงตาของมังกรตัวนี้ทันที

อย่างที่เขาคิดเอาไว้ไม่มีผิด ดวงตาของมันบอบบางผิดกับเกล็ดของมาก ดังนั้นคลื่นปราณจึงเข้าทำลายดวงตาของมันหมดสิ้น ทำให้มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะเปิดโอกาสให้เขาร่วงหล่นลงมาพร้อมกับใช้วิชาสับเปลี่ยนเงาหนีไป

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันโกรธมากจนคำรามดังก้อง จากนั้นมันก็ได้วิ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่งจนขาทั้งสี่ทำลายถ้ำจนพังทลาย