บทที่ 165 ข้าแค่เกาะไปเฉยๆ เจ้าจะให้ข้ารับผิดชอบหรือ

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 165 ข้าแค่เกาะไปเฉยๆ เจ้าจะให้ข้ารับผิดชอบหรือ

ศิษย์พี่ใหญ่ฟางฉางปิดด่านบำเพ็ญทะลวงแก่นพลังทองรอบเก้า ปรากฏว่าธาตุไฟเข้าแทรกแก่นพลังทองแตกรึ

เมื่อได้ฟังข่าวนี้ ทุกคนพลันรู้สึกตกใจ เป็นห่วงฟางฉางกัน

ควรรู้ไว้ว่าสำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญแล้ว แก่นพลังทองสำคัญเท่ากับชีวิต

นั่นคือรากฐานการฝึกคู่ประสานเท่าชีวิต แฝงไว้ด้วยความเข้าใจในวิถีฟ้า หากแก่นพลังทองแตก นั่นคือหายนะสู่ความตายสำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญ จะสิ้นพลังบำเพ็ญและตายตกเอาได้ง่ายๆ!

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมือนกับเสิ่นเทียน ธาตุไฟเข้าแทรกแปดสิบเจ็ดครั้งยังรอดมาได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือแก่นพลังทองแตกจนธาตุไฟเข้าแทรกรุนแรงกว่าหลอมปราณแตกแยกเยอะมาก

เมื่อได้ยินว่าฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรก เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเขาสั่นไหวเบาๆ “ได้ ข้ารู้แล้ว อวิ๋นถิง เจ้าพาฉางเอ๋อร์ไปหาศิษย์พี่หญิงบัวขาวที่ยอดเขาบัวขาวก่อน ให้นางช่วยไว้ก่อน รอข้าพาพวกเทียนเอ๋อร์กลับไปแล้วค่อยลงมือรักษาให้ฉางเอ๋อร์”

ขณะพูดอยู่นั้น เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เย็นชามาก แสดงท่าทีที่มีสติตั้งมั่นของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เต็มที่

กล่าวจบเขาก็เก็บป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไป “เมื่อครู่เราพูดถึงไหนแล้วนะ อ้อใช่ เหมืองแร่นี้เป็นของเทียนเอ๋อร์ เทียนเอ๋อร์เจ้าอย่าปฏิเสธให้เสียเวลาเลย รีบตัดสินใจรับเหมืองแร่เร็วๆ เถอะ จะได้กลับไปช่วยฉางเอ๋อร์”

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีท่าทีสุขุมไม่ตระหนกแม้แต่น้อยแล้ว เสิ่นเทียนยังอึ้ง

อาจารย์ ท่านมั่นใจนะว่ารีบกลับไปช่วยศิษย์พี่ฟางฉางจริงๆ น่ะ จะสุขุมไปแล้วนะ!

เสิ่นเทียนรู้สึกว่าหากตนไม่รับเหมืองแร่ไว้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะโน้มน้าวเขาอีกหลายชั่วยาม

เสิ่นเทียนจนปัญญากับตรงนี้ ช่างเถอะ ข้าจะรับไว้เพื่อช่วยศิษย์พี่ฟางฉางแล้วกัน!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พูดขึ้น “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ศิษย์ก็จะขอรับไว้ อาจารย์ เรารีบกลับไปช่วยศิษย์พี่เถอะ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ไม่ต้องรีบ วิชาแพทย์ของศิษย์น้องหญิงบัวขาวไม่ด้อยไปกว่าข้า นางมีฝีมืออยู่ ในเมื่อข้ามาแล้วก็จะพาพวกเจ้าทั้งหมดกลับแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยเลย จะปลอดภัยกว่า”

เมื่อกล่าวจบ ก็มีประตูมิติบานหนึ่งลอยขึ้นมาตรงหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แผ่กระจายท่วงทำนองแห่งมรรค

เสิ่นเทียนเพิ่งเข้าไปใกล้ประตูก็ถูกดูดเข้าไป หายไปจากบนที่ราบ ต่อมานักพรตชรากับจางอวิ๋นซีก็เดินเข้าไปเช่นกัน ข้ามผ่านมิติไปในพริบตา

ช่วงที่ปรากฏแสงสีสันหลากหลายขึ้นอีกครั้ง ทุกคนมาปรากฏบนฟ้าเมืองหมอกลับแล เมื่อเห็นเสิ่นเทียน คนมากมายในเมืองหมอกลับแลต่างโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น กระทั่งมีคนร้องไห้โฮ

“ท่านเซียนกลับมาแล้ว ในที่สุดท่านเซียนก็กลับมาแล้ว! ใช่ ใช่ท่านเซียนเสิ่นเอ้าเทียนจริงๆ!”

“ตอนท่านเซียนทำนายชะตาสวมหน้ากากไม่ใช่รึ เหตุใดเจ้าจำเขาได้ล่ะ”

“ถ้าสหายไม่เอาสมองแล้วก็บริจาคให้คนที่ต้องการเถอะ ดูหน้าสิ!”

“เอกลักษณ์ของท่านเซียนจะโดนหน้ากากบดบังได้อย่างไร น่าหัวร่อจริงๆ!”

“ข้ามองแวบเดียวก็รู้ว่าเขาคือท่านเซียน นอกจากท่านเซียนแล้วยังมีใครรูปงามดั่งเซียนเช่นนี้อีก”

“ท่านเซียนๆ ข้าอู๋เสียเอง! ข้าเคยสาบานว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากท่าน ท่านยังจำอู๋เสียได้หรือไม่”

“สหายเสิ่น แซ่จ้าวฟื้นพลังบำเพ็ญสำเร็จแล้ว อีกทั้งแซ่จ้าวยังเข้าลัทธิปรมาจารย์เซียนแล้วด้วย!”

“ท่านเซียน พวกเราเผยแพร่คำสอนของกลุ่มสวรรค์พิทักษ์ไปทั่วเมืองหมอกลับแลแล้ว!”

“ใช่ๆ หลายวันมานี้ตาแก่อย่างข้าเผยแพร่คุณความดีของท่านตลอดเลย”

“ข้าด้วย คัมภีร์ชะตาเซียนของแซ่หลิวออกตีพิมพ์แล้ว!”

“ข้าก็ลงแรงกับศิษย์พี่ทุกท่านช่วยด้วยเช่นกัน!”

“ขอบคุณฟ้าขอบคุณดิน ขอบคุณพระสนมหลาน องค์ชายกลับมาแล้ว!”

…..

การปรากฏตัวของเสิ่นเทียนทำให้ทั้งเมืองหมอกลับแลคึกคักอย่างยิ่ง

สาวกกำลังโห่ร้องกระโดดโลดเต้น มีผู้หญิงเฮโลกันเข้ามาถูๆ ไถๆ และยังมีคนคิดจะเบียดมาข้างเสิ่นเทียน ปรากฏว่าโดนคนอื่นด่าทอ

สรุปว่าทั้งพระราชวังอาณาจักรอู้อิ่นปกคลุมด้วยความตื่นเต้นมีความสุข

พอเห็นเสิ่นเทียนถูกล้อมอยู่ตรงกลาง โดยเฉพาะผู้หญิงที่จับนู่นจับนี่เหล่านั้นแล้ว จางอวิ๋นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย สายฟ้าสีเงินสว่างจ้าพลันแผ่ขยายไปทางเสิ่นเทียน

ซื่อๆ~

หลังจากสายฟ้าผ่าไปแล้ว คนกลุ่มใหญ่ที่ล้อมเสิ่นเทียนเป็นศูนย์กลางก็ผมตั้งชี้และถอยไปสามฉื่อ

ตอนนี้เองจ้าวเฮ่ากับเสวี่ยอู๋เสียฝืนเบียดเสียดมาอยู่หน้าเสิ่นเทียนได้ สองคนมองเขาด้วยความตื่นเต้น

เสวี่ยอู๋เสียยิ้มหลงใหล “ท่านเซียนๆ ท่าน…ท่านยังจำข้าได้หรือไม่”

เสิ่นเทียนมองเสวี่ยอู๋เสียก่อนจะอึ้งไป สาวน้อยคนนี้หน้าตาอย่างกับเน็ตไอดอลเลย!

ดวงตาโต คางแหลม สันจมูกโด่ง หน้าตาเจ้าเช่นนี้ข้าจะจำได้อย่างไร

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็พูดด้วยความจนปัญญา “อืม~ คุ้นๆ เจ้าชื่อ…”

เสวี่ยอู๋เสียพลันตื่นเต้นขึ้นมา “ใช่ ข้าเสวี่ยอู๋เสีย ไม่อยากเชื่อว่าท่านเซียนจะจำข้าได้!”

จ้าวเฮ่ามองเสวี่ยอู๋เสียด้วยความอิจฉาก่อนขยับมาหน้าเสิ่นเทียนเช่นกัน “สหายเสิ่น ยังจำข้าได้หรือไม่”

จ้าวเฮ่ารึ

จะไปลืมได้อย่างไร!

เสิ่นเทียนมองจ้าวเฮ่าด้วยความตื่นเต้นมาก เขาเดาไว้ไม่ผิดจริงๆ เจ้าเด็กนี่มีของ ตอนนี้วงรัศมีเหนือศีรษะจ้าวเฮ่ากลายเป็นสีทองทั้งหมดแล้ว

เจ้านี่สิที่มีรูปแบบชะตามังกรซ่อนทะยานขึ้นฟ้าอย่างแท้จริง เป็นแบบอย่างพระเอกที่ได้มาตรฐาน

สำหรับเสิ่นเทียนแล้ว จ้าวเฮ่าคือผักกุยช่ายใหญ่ระดับสุดยอดที่เทียบเท่าฟางฉางและจางอวิ๋นซี ทั้งหนา ทั้งยาวและมีพลัง ได้เกาะดวงชะตาไปจะสบายอย่างยิ่ง!

คิดได้ดังนั้นแล้ว เสิ่นเทียนก็เผยรอยยิ้มอบอุ่น “สหายจ้าวพูดเล่นแล้ว ข้าจะไปลืมเจ้าได้อย่างไร เป็นอย่างไรบ้าง ทำตามวิธีที่ข้าบอกแล้ว สหายจ้าวได้ฟื้นพลังบำเพ็ญหรือไม่”

จ้าวเฮ่ามีสีหน้าซาบซึ้งใจขึ้นมาทันที “สุดยอด สหายเสิ่นเจ้าสุดยอดมาก! บุญคุณและคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ไม่อาจทดแทนได้ ข้าจะโขกหัวให้สหายเสิ่นแล้วกัน!”

เมื่อกล่าวจบ เจ้าเด็กนิสัยตรงไปตรงมานี่ก็จะคุกเข่าให้เสิ่นเทียน

แต่เสิ่นเทียนจะกล้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้หรือ

เขายังเป็นเด็กน้อยน่ารักที่มีวงรัศมีสีเขียวแก่! ให้บุตรแห่งโชคคุกเข่าให้ตน นี่จะไม่ซวยเพราะเขาทุกนาทีเลยหรือ

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็รีบประคองจ้าวเฮ่า “สหายจ้าว อย่าทำเช่นนี้ เจ้ากับข้าเพิ่งเจอกันก็เหมือนรู้จักกันมานาน ข้าเพียงแค่ถือโอกาสช่วยเจ้า เป็นการผูกวาสนาดีกันเท่านั้น ถ้าสหายจ้าวมีใจจะตอบแทนจริงๆ ภายภาคหน้าหากข้าลำบาก ด้วยพลังบำเพ็ญของสหายจ้าวจะต้องช่วยได้อย่างมากแน่นอน”

จ้าวเฮ่าลูบคางพลางครุ่นคิด รู้สึกว่าเสิ่นเทียนพูดมีเหตุผล เขาควรทำอะไรบ้าง

ทันใดนั้นจ้าวเฮ่าฉุกคิดขึ้นมาได้ “สหายเสิ่น ถ้าไม่อย่างนั้นให้ข้าเป็นน้องเล็กเจ้าเถอะ! สหายเสิ่นมีบุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจทดแทนได้ แซ่จ้าวยินดีติดตามเจ้าสามปี จะหนักเอาเบาสู้ทุกอย่าง!

แม้พรสวรรค์ของแซ่จ้าวจะเทียบกับสหายเสิ่นไม่ได้ แต่ดีเลวอย่างไรก็เป็นอัจฉริยะหมายเลขหนึ่งของอาณาจักรอู้อิ่น ภายภาคหน้าหากสหายเสิ่นต้องไปที่ใดก็ให้ข้าติดตามไปได้เลย”

จ้าวเฮ่าตรงไปตรงมามาก อยากตอบแทนคุณอย่างบริสุทธิ์ แต่คนอื่นกลับไม่พอใจแล้ว

หลิวไท่อี่จดจำจ้าวเฮ่าไว้เงียบๆ วาดวงกลมสาปแช่งเงียบๆ

เถ้าแก่ซ่งหรี่ตาลงและเข้ามาแย่งประจบอีก กระทั่งกุ้ยกงกงยังจ้องจ้าวเฮ่าด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ

อะไรคือถ้าจะไปที่ใดก็ให้เจ้าติดตามไปด้วย

เจ้าหนูนี่ดูเป็นคนซื่อตรง แต่ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นคนเช่นนี้ คิดจะแย่งงานของข้ารึ!

……

พอเห็นจ้าวเฮ่ามีดาวเล็กๆ ขยับประกายในดวงตาดูเหมือนแฟนบอยแล้ว เสิ่นเทียนก็จนปัญญา ข้าเพียงแค่เกาะวงรัศมีของเจ้าเท่านั้นเอง

เจ้าหนู เหตุใดถึงยังเกาะข้าไม่ยอมไปไหนอีกล่ะ!

ยังคิดจะให้ข้ารับผิดชอบอีกหรือ

ข้าทำไม่ได้หรอก!

……………………………..……..