เมื่อสายถูกรับ คนขายวัตถุโบราณก็เปิดลำโพงขึ้น
ชัดเจนว่าเขาต้องการให้คนอื่นได้ยินบทสนทนาด้วย
“ว่าไงครับ พี่ชายเฟลิกซ์ ผมเองนะครับ” คนขายวัตถุโบราณพูดผ่านมือถือ เขาจ้องไปที่แดร์ริล
พี่ชายเฟลิกซ์?
เมื่อได้ยินแบบนั้น ทุกคนถึงกับสั่นสะท้าน มีคนมากขนาดไหนกันในเมืองตงไห่ที่ชื่อเฟลิกซ์?
หรือว่า…
ทุกคนล้วนสงสัย
ในตอนนั้นเอง เสียงทุ้มลึกก็ดังลอดผ่านสายมา “เกิดอะไรขึ้น ลูกพี่ลูกน้องของฉัน?”
“เฟลิกซ์ เบลคลีย์?”
“เวรแล้ว หมอนี่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฟลิกซ์ เบลคลีย์?”
ทำไมเฟลิกซ์ เบลคลีย์ ที่มีทรัพย์สินนับพันล้านเหรียญถึงมีลูกพี่ลูกน้องขี้โกงแบบนี้?
เป็นความจริง ชายที่อยู่ปลายสายเป็นประธานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์พยัคฆ์ดำ เฟลิกซ์ เบลคลีย์ เขามีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในเมืองตงไห่ ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเขา!
ทุกคนดูกังวล โดยเฉพาะเหล่าเจ้าของร้านวัตถุโบราณ พวกเขาไม่กล้าเปิดปากพูดอะไรเลย พวกเขาค่อย ๆ หลบฉากออก เพราะกังวลว่าพวกเขาเองจะมีปัญหา
อีวอนเม้มปากแน่น ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะต้องเสียเงินสองล้านเหรียญไป
“ประธานยัง เราไปกันเถอะค่ะ” ลิลี่กระซิบ เธอเองก็กังวลเช่นกัน
อีวอนพยักหน้า เดินออกไปด้วยรองเท้าส้นเข็ม เธอคงไม่รอให้เฟลิกซ์มาถึงหรอก
“จะไม่มีใครไปจากที่นี่ได้ในวันนี้!” คนขายวัตถุโบราณตะโกนลั่น
“ลูกพี่ลูกน้อง” เขากล่าวต่อ “ผมกำลังขายของที่นี่ แต่ดูเหมือนจะมีคนต้องการสร้างปัญหา” คนขายวัตถุโบราณแกล้งทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ
“อะไรนะ? ใครกันที่กล้ามาตอแยนาย?” เฟลิกซ์ตะโกนมาจากปลายสายหลังจากได้ยินคำพูดของคนขายวัตถุโบราณ
เมื่อได้ยินคำจากลูกพี่ลูกน้อง เฟลิกซ์จึงรู้สึกปวดหัวกับเขามาก เขามันไม่มีอะไรดี ทำเพียงแค่สร้างปัญหาแล้วท้าต่อยตีไปเรื่อง เฟลิกซ์ต้องเป็นคนจัดการปัญหาให้เขาทุกครั้งไป ไม่นานมานี้เขาไปได้ยินมาว่าการนำวัตถุโบราณมาขายซ้ำนั้นจะทำเงินได้ดี เขาจึงใช้เงินของเฟลิกซ์มาเปิดร้านแผงลอยเล็ก ๆ นี้
เฟลิกซ์นั้นโล่งใจกับเรื่องนี้ เพราะอย่างน้อยเขาก็ทำบางอย่างที่ถูกกฏหมายบ้างแล้ว เฟลิกซ์มีแผนจะรับเขาเข้าทำงานในบริษัทของเขาเองเมื่อน้องชายคนนี้เลิกนิสัยเสียได้แล้ว
เฟลิกซ์จึงไม่พอใจเมื่อได้ยินว่ามีคนมาสร้างปัญหาให้ลูกพี่ลูกน้องเขา
อีวอนต้องการจะจากไปในตอนนั้น แต่คนขายของหยุดเธอไว้ เธอเริ่มกระวนกระวาน
“นายอยู่ไหน?” เฟลิกซ์ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว
“ลูกพี่ลูกน้อง ผมอยู่ที่-”
เมื่อคนขายวัตถุโบราณกำลังจะบอกสถานที่นั้น แดร์ริลก็เดินเข้ามาแล้วแย่งมือถือมา!
“เฟลิกซ์ เบลคลีย์” แดร์ริลกล่าวอย่างเย็นชา
“นั่นใคร?” เฟลิกซ์ถาม
“นายคิดว่าฉันเป็นใครล่ะ?”
“แดร์ริล? ลูกพี่แดร์ริลเหรอครับ?”
เฟลิกซ์ตะลึง เขาพูดไม่ออกไปเลย
อะไรกัน? เฟลิกซ์ เบลคลีย์ เรียกเขาว่าลูกพี่แดร์ริล?
ทุกคนรอบ ๆ ถึงกับตกตะลึง!
ลิลี่มองไปที่แดร์ริล เธอหมดคำพูดโดยสิ้นเชิง
เธอเคยรู้จักชายคนนี้ดี แต่ตอนนี้เขากลับเหมือนคนแปลกหน้า! ยังมีอะไรอีกที่เธอไม่รู้เกี่ยวกับเขา?
“เฟลิกซ์ นี่นายกล้ามองข้ามผิดถูกเพียงเพราะตำแหน่งของนายแล้วงั้นเหรอ?” แดร์ริลแค่นเสียง “นายปล่อยให้ลูกพี่ลูกน้องของนายเป็นพวกกุ๊ย เที่ยวโกงคนตามถนนไปทั่วแบบนี้แล้ว?”
อีกด้านหนึ่ง เฟลิกซ์รู้สึกดุ เขาดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ด้วยซ้ำ
“แดร์ริล… ลูกพี่แดร์ริล เกิด…เกิดอะไรขึ้นครับ?”
แดร์ริลหน่ายเกินกว่าจะตอบสนอง “ถามลูกพี่ลูกน้องนายเอาเองสิ” เขาเย้ยหยัน
เขาโยนมือถือกลับไปให้คนขายวัตถุโบราณพูดแทน ชายคนนั้นรับมันแล้วจ้องแดร์ริล
“พี่เฟลิกซ์…” เขากล่าว
“อย่ามาเรียกฉันว่าพี่! ไอ้เวร แกทำอะไรลงไป? แกหาที่ตายรึไง? นี่แกกล้าข่มขู่คนอื่นงั้นเหรอ? ฉันตามใจแกมากเกินไปสินะ!” เฟลิกซ์ตะวาดด้วยโทสะ
คนขายวัตถุโบราณตัวสั่น ลูกพี่ลูกน้องของเขาตามใจเขาจริง เขาช่วยให้ตัวเขาเองรอดปัญหาที่เขาก่อเองได้ทุกครั้ง เฟลิกซ์ไม่เคยโกรธเขาเลย แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เฟลิกซ์โมโหอย่างรุนแรง
เสียงของคนขายวัตถุโบราณสั่นเทา ในขณะที่พยายามเรียกความสงสารจากเฟลิกซ์
“ไอ้สารเลว ฉันสอนแกว่ายังไงที่ผ่านมา?” เฟลิกซ์เดือดดาลไปด้วยโทสะ “แกไม่รู้รึไง? ว่าแม้แต่ฉันยังต้องให้การเคารพลูกพี่แดร์ริล ไอ้เวร แกอยากให้ฉันหักขาแกนักใช่ไหม? ขอโทษลูกพี่แดร์ริลเดี๋ยวนี้ แล้วคืนเงินเขาด้วย!”
ลิลี่รู้สึกว่าขาของเธอสั่น เธอจ้องไปที่แดร์ริลตาไม่กะพริบ