

คนขายวัตถุโบราณตกใจแต่ก็ยังพยักหน้า เขาไม่กล้าต่อต้านต่อคำพูดของ

“ส่งมือถือไปให้ลูกพี่แดร์ริล!” เขาสั่ง

เมื่อมือถือถูกส่งไปให้แดร์ริล เสียงอันสั่นเทาของเฟลิกซ์ก็ดังออกมาจากปลายสาย

“ลูกพี่แดร์ริล เป็นความผิดของผมเองครับ ผมควบคุมคนของผมไม่ดี ผมจะไปที่นั่นเดี่ยวนี้เพื่อขอโทษคุณยังตอนนี้เลย…”

“ไม่ ไม่จำเป็นหรอก…” อีวอนพูดขึ้น เธอยังตะลึงอยู่ เธอจะให้เฟลิกซ์มาขอโทษเธอได้ยังไง?

แดร์ริลส่ายหัว “ไม่เป็นไร นายไม่ต้องมาที่นี่หรอก แค่ควบคุมคนให้ดีในอนาคตต่อไป เขายังโชคดีที่วันนี้เป็นฉัน ไม่งั้นเขาอาจจะสร้างปัญหาใหญ่ได้”

“ครับ แน่นอนครับลูกพี่แดร์ริล คุณพูดถูกแล้วครับ” เฟลิกซ์ตอบ

แดร์ริลไม่ต้องการจะพูดอะไรอีก เขากล่าวลาแล้ววางสายไป

คนขายวัตถุโบราณดูเหมือนกำลังจะร้องไห้ เขายังคงก้มลงขอขมาแดร์ริลต่อไป

“ผมขอโทษ ขอโทษอย่างสูง ลูกพี่แดร์ริล ถ้าผมรู้ว่าคุณคือเพื่อนของพี่เฟลิกซ์ ผมคงไม่กล้าทำแบบนี้แน่ครับ”

จากนั้นเขาก็ขอโทษอีวอนและส่งจานดินเผาให้เธอในขณะที่กล่าวขอโทษ

“งั้นก็ไปกันเถอะ” แดร์ริลกล่าว เขาหันหลังเพื่อจะจากไป แต่ร้านแผงลอยเล็ก ๆ ตรงมุมถนนไปเตะตาเขาเข้า มันคือหม้อที่มีดอกไม้อยู่ในนั้น

ดอกไม้นั่นพิเศษ กลีบดอกสุกงอม แต่พวกมันกลับเบ่งบานอย่างสวยงาม แต่สิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือใบของมัน ครึ่งหนึ่งเป็นสีเขียวสว่าง และอีกครึ่งเป็นเขียวเข้ม ภายในการกวาดสายตาเดียว มันดูเหมือนกับรูปวาดด้วยซ้ำ

“นี่มันดอกไม้ชนิดไหนกัน?” แดร์ริลทึ่งในขณะที่ถามคนขาย

คนขายส่งหม้อดอกไม้ให้เขา

“ลูกพี่แดร์ริล ผมเก็บมันมาจากหุบเขาได้โดยบังเอิญ ผมคิดว่ามันเป็นพันธุ์หายาก ผมเลยนำมันกลับบ้านด้วย หลังจากที่ใช้เวลาค้นคว้าอยู่พักหนึ่ง ผมจึงรู้ว่ามันคือบุพผาสองสี มันเป็นพืชหายากจริง ๆ ครับ”

บุพผาสองสี?

ชื่อมันฟังดูคุ้น ๆ เขาเคยได้ยินมันมาจากไหนกันนะ?

แดร์ริลใช้เวลาคิดอย่างหนัก ใช่แล้ว มันถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ “โอสถแห่งอนันต์” นั่นเอง ดอกบุพผาสองสีนี้เป็นวัตถุดิบสำหรับยาหลากหลายชนิด

ในความเป็นจริง บุพผาสองสีนั้นเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการกลั่นยามากมายเลยด้วยซ้ำ

“นายจะขายมันเท่าไหร่?” แดร์ริลถาม

“ลูกพี่แดร์ริล คุณตัดสินใจเองเลยครับ ผมไม่กล้าขออะไรจากคุณหรอก” คนขายยิ้ม “เอาเป็นผมขอมอบบุพผาสองสีนี้ให้คุณเป็นของขวัญแล้วกันครับ”

แดร์ริลรับข้อเสนอ เขาพยักหน้าในขณะที่กำลังถือหม้อที่ใส่ดอกไม้ไว้ ก่อนจะเดินออกจากศูนย์การค้ากับลิลี่

“แดร์ริล นายมีความสัมพันธ์ยังไงกับเฟลิกซ์?” ลิลี่ทนไม่ไหว เธอถามออกมา

แดร์ริลยิ้มและตอบอย่างผ่อนคลาย “แค่เพื่อนน่ะครับ”

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ต้องการจะเปิดเผยอะไรไปมากกว่านี้ ลิลี่จึงไม่ได้ถามอะไรอีก ชายคนนี้ไม่ง่ายต่อการเข้าใจของเธอเลย

สามปีที่แต่งงานกันมา ทุกคนเห็นว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ เธอเองก็คิดเหมือนกัน แดร์ริลไม่มีเพื่อน เขาไปร้านขายของชำคนเดียว แล้วทำไมจู่ ๆ เขาถึงได้มีเพื่อนมากมายเข้าตอนนี้? และพวกเขาทั้งหมดก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

“มันใกล้ถึงเวลามื้อค่ำแล้ว ทำไมเราสามคนไม่ไปดินเนอร์ที่บ้านฉันล่ะ?” อีวอนเดินมาด้วยรองเท้าส้นเข็มของเธอ “แดร์ริลช่วยฉันไว้มากก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นได้โปรดมาทานมื้อค่ำที่บ้านฉันเถอะค่ะ”

ก่อนที่แดร์ริลจะได้ตอบ ลิลี่ก็ยิ้มแล้วกล่าว “งั้นก็เยี่ยมเลยค่ะ แดร์ริล ไปกันเถอะ”

ตระกูลยังนั้นทรงอำนาจและมีอิทธิพลในเมืองตงไห่ ลิลี่อยากจะสานสัมพันธ์กับอีวอน นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีในการรู้จักเธอให้มากกว่านี้

ลิลี่ตอบรับไปแล้ว แดร์ริลจึงปฏิเสธไม่ได้อีก

ในรถของเขา แดร์ริลมองไปรอบ ๆ สตรีผู้งดงามสามคน ลิลี่ อีวอน และเจด ทั้งสามดูงดงามในแบบของพวกเธอเอง บนถนน คนมากมายจึงช่วยไม่ได้ที่จะมองเข้ามาในรถของพวกเขา

เดือนสิงหาคมในเมืองตงไห่นั้นร้องระอุในเวลากลางวัน แต่หนาวเย็นในเวลากลางคืน อุณหภูมินั้นเปลี่ยนไปมาอย่างรุนแรง แดร์ริลเปิดกระจกขึ้นแล้วจาม

เวรล่ะ นี่เขาเป็นหวัดเหรอ? เขาเป็นผู้บ่มเพาะแล้ว แต่เขาดันเป็นหวัดเนี่ยนะ? แดร์ริลถอนหายใจเฮือกใหญ่

บ้านของตระกูลยังนั้นเป็นคฤหาสน์แบบดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองตงไห่ ต้องบอกว่ามันเป็นอาคารที่มาจากสมัยราชวงศ์หมิงถึงราชวงศ์ชิง การตกแต่งภายในนั้นยังคงเป็นแบบดั้งเดิมและงดงาม ช่างเหมาะสมกับตระกูลที่ทำธุรกิจวัตถุโบราณ

เมื่อเข้ามาภายใน แดร์ริลก็หลงไหลในการจัดวางของคฤหาสน์

ห้องโถงนั้นตั้งอยู่ทางเหนือ หันหน้าเข้าทิศใต้ ทิวทัศน์จึงไม่ถูกบดบังโดยอาคารอื่น การจัดวางแบบนี้แบบนี้มีเหตุผล ฮวงจุ้ยของที่นี่ยอดมาก แม้ว่ามันจะไม่ใช่ทำเลทองคำ แต่มันก็เป็นทำเลที่เยี่ยมมากทีเดียว

แม้ว่าตระกูลยังนั้นจะทำธุรกิจวัตถุโฐราณ แต่กลับไม่มีวัตถุโบราณในบ้านเลย เพราะวัตถุโบราณอาจถูกสิงสู่ได้ ดังนั้นจึงไม่ควรนำมาตั้งแสดงไว้ ยกตัวอย่าง สิ่งของขององค์จักรพรรดิยุคก่อนนั้นไม่ควรนำมาแสดงไว้ในบ้านของสามัญชน

สำหรับวัตถุโบราณที่ถูกใช้โดยสตรีในยุคก่อน พวกมันจะมีของทุพภิกขภัยที่รุนแรง ดังนั้นพวกมันจึงไม่เหมาะที่จะจัดแสดงเช่นกัน

ในบ้าน อีวอนนั้นกำลังทำตัวเหมือนเป็นพนักงานต้อนรับ เธอเข้าไปในครัวแล้วเริ่มทำอาหาร

ลิลี่และเจดเองก็ช่วยเธอเช่นกัน ไม่นาน สตรีผู้เลอโฉมทั้งสามก็ยุ่งกับการพูดคุยและหัวเราะกันไป ผู้หญิงนั้นมีเรื่องมากมายที่ต้องพูดคุย พวกเธอทั้งสามหัวเราะคิกคักในขณะที่ทำอาหารไปด้วย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหญิงสาวทั้งสามมีความงดงามในแบบฉบับของพวกเธอเอง แต่พวกเธอมีรูปร่างที่เซ็กซี่เช่นเดียวกัน

จากรูปร่างและความตันตนของพวกเธอ อีวอนนั้นจะดูเยือดเย็นและสง่างาม ลิลี่นั้นจะดูเฉลียวฉลาดและงดงาม เจดนั้นจะดูเซ็กซี่และยั่วยวน