ตอนที่ 383 ความโกรธแค้นของแคว้นและบ้านเมือง ฝูงชนรวมใจเป็นกำแพง (4)/ตอนที่ 384 ทนไม่ได้ที่จะทิ้งนางไว้คนเดียว (1)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 383 ความโกรธแค้นของแคว้นและบ้านเมือง ฝูงชนรวมใจเป็นกำแพง (4)

ในขณะเดียวกัน

ในหอแห่งแรก

ทุกคนมารวมตัวกันแววตาแฝงด้วยความโศกเศร้า

“ยังติดต่อคุณชายไม่ได้หรือ?”

ครึ่งเดือนกว่าๆ ก่อนหน้านี้ในตระกูลเกิดเรื่อง คุณชายเก้าพากลุ่มคนฝีมือระดับสูงกลับไปตระกูล หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก

ทว่าคุณชายมักจะติดต่อไม่ได้บ่อยๆ พวกเขาชินนานแล้ว

เดิมก็ไม่เป็นไรแต่ดันมาเป็นวันนี้ สี่แคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นหลิวอวิ๋น พวกเขาต้องการฟังคำสั่งของคุณชายแต่กลับไม่สามารถติดต่อได้

“พวกเราต้องไปช่วยใช่หรือไม่” ชายหนุ่มคนหนึ่งขมวดคิ้ว “หอแห่งแรกของพวกเราไม่ได้ขึ้นกับแคว้นหลิวอวิ๋น ว่าตามเหตุผลแล้วพวกไม่จำเป็นต้องยื่นมือ แต่คุณชายก็ดูเหมือนจะคิดไม่ธรรมดากับองค์หญิงเฟิงหรูชิง หากไม่ยื่นมือแล้วทำให้คุณชายโกรธ…”

เขาทุกข์ใจเสียจริง

หอแห่งแรกของแคว้นหลิวอวิ๋นเป็นเพียงจุดย่อยเท่านั้นจุดใหญ่ไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นหอแห่งแรกที่นี่ไม่ได้มีคนมีฝีมือระดับสูง เสวียนอู่เพียงคนเดียวก็ยังตามคุณชายจากไปแล้ว

เหลือไว้เพียงพวกเขาหลิงอู่สองสามคนก็ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์หรือไม่

ที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาอยากรู้ความคิดของคุณชาย หากคุณชายต้องการให้ช่วยพวกเขาก็จะไปช่วยสุดชีวิต แต่กลับติดต่อไม่ได้

ครืด

หนึ่งในนั้นลุกขึ้นยืนขมวดคิ้วแน่น “คุณชายดูเหมือนจะชอบองค์หญิงเฟิงหรูชิงมาก หากคุณชายรู้ว่าพวกเราเห็นความลำบากแล้วไม่ช่วยอาจจะโกรธมาก เอาแบบนี้เถอะ เฟิงหลานเจ้าไปวังหลวงข้าได้ยินข่าวว่ามีคนแอบเข้าไปในวังหลวง ข้ากับจ้าวซีจะไปช่วยศึกที่หน้าประตูเมือง”

เฟิงหลานเป็นหญิงเพียงคนเดียวในพวกเขาทั้งสาม นางพยักหน้าน้อยๆ “ได้”

คุณชายให้ความสนใจเฟิงหรูชิงเช่นนี้จะต้องชอบนางแน่ เพราะฉะนั้นศึกนี้หอแห่งแรกไม่ยุ่งไม่ได้!

ตำหนักหย่างซิน

เฟิงเทียนอวี้กระแอมไอสีหน้าของเขาซีดขาว ค้ำยันร่างขึ้นขยับถอยหลังไปสองสามครั้งเพื่อให้ศีรษะตนเองพิงกับผนัง

“หลินกงกง เจ้าอยู่กับข้ามากี่ปีแล้ว?”

หลินกงกงที่รออยู่ข้างๆ ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ตอนนั้นฝ่าบาทยังเป็นองค์ชายอยู่ กระหม่อมก็ติดตามฝ่าบาทแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

มุมปากเฟิงเทียนอวี้ยกยิ้มขม

มือของเขาหยิบแหวนหยกออกมาจากใต้หมอน

แหวนนี้ใสกระจ่างงดงามยิ่งนัก ราวกับแก้วเจิดจ้าส่องประกาย

“หลินกงกงเจ้าออกจากวังหลวงไป ไปหาชิงเอ๋อร์ นำแหวนหยกนี่…ให้นาง…”

แววตาหลินกงกงแฝงด้วยความตื่นตระหนก “นี่ไม่ใช่…ของฮ่องเต้องค์ก่อนหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“หลินกงกง นี่คือของที่เสด็จพ่อให้ข้าไว้ก่อนจะจากไป และก็เป็น…สิ่งยืนยันให้เขาได้รู้จักกับชิงเอ๋อร์ พรสวรรค์ของชิงเอ๋อร์…แข็งแกร่งมาก ต้องมีสักวันที่นางจะได้เหยียบที่แห่งนั้น นางจะได้…เจอกับเขา”

“น่าเสียดาย ข้าถูกร่างกายนี้ฉุดรั้ง เกรงว่าชีวิตนี้ของข้าจะไม่สามารถไปที่แห่งนั้นได้อีกแล้ว” เฟิงเทียนอวี้หลับตาลงช้าๆ น้ำเสียงอ่อนแรง

คนบนโลกรู้เพียงว่าเสด็จพ่อเป็นฮ่องเต้แห่งแคว้นหลิวอวิ๋น อยู่เหนือคนนับหมื่น

แต่อีกฐานะหนึ่งของเสด็จพ่อไม่มีผู้ใดล่วงรู้!

แต่เขากลับจำต้องไปในที่แห่งนั้น และไม่มีทางได้กลับมาอีกในชีวิตนี้!

ส่วนเขาไม่เพียงแต่จะถูกร่างกายฉุดรั้ง ซ้ำยังเหนื่อยกับการบ้านการเมืองไม่สามารถตั้งใจฝึกฝน

บวกกับชิงเอ๋อร์ในตอนแรกไม่รู้ความ เขาไม่สามารถเหมือนกับเสด็จพ่อในตอนนั้น เพื่อออกไปฝึกฝนจึงทิ้งเรื่องการบ้านการเมืองทั้งหมดเอาไว้ให้เขา ทำให้…ชาตินี้เขาคงไม่มีทางได้ไปหาเสด็จพ่อแล้ว

ดีที่ตอนนี้ชิงเอ๋อร์ยอดเยี่ยมเช่นนี้ บางทีเขาอาจจะยังมีโอกาส…

…………………..

ตอนที่ 384 ทนไม่ได้ที่จะทิ้งนางไว้คนเดียว (1)

“ฝ่าบาท ฮ่องเต้องค์ก่อนพระองค์ พระองค์ไม่ใช่ว่า…” หลินกงกงตกตะลึงจนพูดไม่ออก

ฟังคำของฝ่าบาทแล้ว ฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่?

หากฮ่องเต้องค์ก่อนยังมีชีวิตอยู่ ฝ่าบาทในตอนแรกกับเหนียงเหนียงคงไม่ต้องรับบาปมากมายเพียงนี้ และก็ไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้กับพวกเขา

เฟิงเทียนอวี้ส่ายหน้ายิ้มขมขื่น “พระองค์ยังไม่สวรรคตจริงๆ แต่พระองค์ลงนามสัญญากับคนพวกนั้น พระองค์ต้องจากไปและชีวิตนี้ไม่อาจกลับมายังที่แห่งนี้อีก”

เช่นนี้จึงจะทำให้ใต้หล้านี้สงบสุข

“หลินกงกง” เฟิงเทียนอวี้ถอนหายใจเศร้า “ความสงบสุขในใต้หล้านี่ เสด็จพ่อใช้อิสระทั้งชีวิตของพระองค์แลกมา ไม่เช่นนั้นห้าแคว้นจะมีหรือไม่มีอยู่ก็ไม่อาจรู้…หากให้เสด็จพ่อรู้ว่าความสงบสุขที่พระองค์ใช้อิสระทั้งชีวิตแลกมา คนพวกนั้นกลับมาแคว้นหลิวอวิ๋นบีบพวกข้า พระองค์จะทรงเสียใจหรือไม่…”

ปีนั้นเขาอายุยังน้อยกำลังอ่านฎีกาแทนเสด็จพ่อ เสด็จพ่อของเขากลับมาพร้อมเลือดท่วมตัวและบอกลาเขา และวันนั้นเองเขาถึงได้รู้พลังที่แท้จริงของเสด็จพ่อ

เขาใช้พลังของเขาคนเดียวต่อสู้กับคนพวกนั้นสามวันสามคืนเต็มๆ ยังไม่อาจรู้ผลแพ้ชนะ

ไม่มีทางเลือก เพื่อไม่ให้คนพวกนั้นกำเริบเสิบสานเข่นฆ่าประชาชนแคว้นหลิวอวิ๋นอีก และก็เพื่อไม่ให้คนพวกนั้น…ทำร้ายคนข้างกายเขาทุกคน

เขาจึงจำต้องลงนามในสัญญากับคนพวกนั้น

เขาต้องไปยังสถานที่ที่ไม่อาจหวนกลับ และตามเงื่อนไข เลือกสามกองกำลังจากโลกสันโดษบังคับจำกัดทุกคนในโลกสันโดษไม่ให้ลงมือกับแม้กระทั่งคนธรรมดาของโลกปุถุชน

หากผิดกฎนี้จะต้องถูกอาญาสวรรค์!

“ฝ่าบาท” หลินกงกงถอนหายใจ “ฮ่องเต้องค์ก่อนพระองค์…ใจมีแต่ใต้หล้า อีกอย่างพระองค์ไม่รู้ว่าโลกสันโดษยังมีคนกล้าลงมือกับฝ่าบาทและฮองเฮาเหนียงเหนียงอยู่อีก…”

เฟิงเทียนอวี้ยิ้มข่มเอ่ยขึ้น “วันนั้นข้าไม่เข้าใจการตัดสินใจของพระองค์ หากเป็นข้าประชาชนในใต้หล้าสำคัญเพียงใดก็ไม่เท่าภรรยาและลูกของข้า ข้าไม่มีทางทำเพื่อประชาชนแล้วเสียสละอิสระทั้งชีวิต”

“แต่หลังจากนั้นข้าก็เข้าใจแล้ว เสด็จพ่อพระองค์เป็นจักรพรรดิ เป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาดอย่างแท้จริง พระองค์คิดไว้ก่อนแล้วว่าจะไปหาคนโลกสันโดษพวกนั้น จึงได้ปกปิดพลังที่แท้จริงของตนเอง เกรงว่าข้าจะถูกแก้แค้น พระองค์ให้ข้าจัดการราชการบ้านเมืองตั้งแต่เล็กก็เพื่อฝึกฝนข้า”

“พระองค์เป็นพ่อ เป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาด พระองค์ต้องการปกป้องข้าเช่นเดียวกับที่เป็นห่วงใต้หล้า แม้ข้าจะไม่สามารถทำเช่นพระองค์ได้ แต่ความทะเยอทะยานของพระองค์ทำให้ข้าชื่นชมมาตลอด”

หลังจากป่วยเฟิงเทียนอวี้นานๆ ทีจะพูดเยอะเพียงนี้ เขาเหมือนกลัวว่าถึงเวลาแล้วเฟิงหรูชิงจะไม่รู้อะไรเลยจึงได้บอกเรื่องทุกอย่างกับหลินกงกง

“ฝ่าบาท” เสียงหลินกงกงสั่นเทา “พระองค์ก็เป็นกษัตริย์ที่ชาญฉลาด”

เฟิงเทียนอวี้ส่ายหน้าเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ ข้าเป็นเพียงพ่อคนหนึ่งเท่านั้น”

เขาทำเช่นนั้นไม่ได้ ชาตินี้ก็ทำไม่ได้

ให้เขาไปจากลูกสาวเขาทำไม่ได้เด็ดขาด!

“หลินกงกง ชิงเอ๋อร์ไปตระกูลถัง เจ้านำแหวนหยกนี่ไปหาชิงเอ๋อร์ ให้นางอย่ากลับมาแคว้นหลิวอวิ๋นเป็นอันขาด” เฟิงเทียนอวี้ยิ้มบาง

“ข้ามีลูกสาวเพียงคนเดียว ไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องมีชีวิตอยู่ เจ้าบอกนางด้วยว่าก่อนที่จะมีพลังที่แน่นอนห้ามแก้แค้นเด็ดขาด!”

นั่นไม่ใช่เพียงแค่สี่แคว้น

เรื่องในวันนี้ มีตระกูลหลิวเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นั่นก็หมายความว่า…อำนาจนั่นก็เกี่ยวด้วย

เขาไม่อยากให้ชิงเอ๋อร์ไปยั่วโมโหสิ่งที่ใหญ่โตก่อนที่นางจะเติบโต