ตอนที่ 262 ข้อตกลงการหย่า

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

ตอนที่ 262 ข้อตกลงการหย่า

  

“หนังสือข้อตกลงการหย่าฉันเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว และฉันก็เซ็นแล้วด้วย!” โอวหยางลี่หันไปหยิบใบหย่าขึ้นมาแล้วโยนไปที่หน้าเธอ แม้ว่าเลือดจะสกปรกแต่ก็ยังมีประโยชน์ทางกฎหมาย “เซ็นชื่อซะ แล้วอย่าลืมให้คนมาส่งที่โอวหยางกรุ๊ปด้วย การหย่าแบบนี้ดีต่อเธอ ไม่อย่างนั้นเธอก็ไปตัวเปล่าได้เลย!”

  

โอวหยางลี่หยิบเสื้อสูทจากโซฟาขึ้นมาและเดินออกไปด้วยสีหน้าที่เฉยเมย

  

เหลียวเว่ยเดินตามเขาออกไป เธอที่อยู่ด้านหลังเอื้อมมือไปตีเขา “โอวหยางลี่! นายอย่าเพิ่งหนีนะ ฉันจะไม่หย่ากับนาย ถึงนายหย่ากับฉัน นายคิดว่าอันโหรวจะหย่ากับจิ่งเป่ยเฉินเพื่อมาหานายงั้นเหรอ?”

  

“นายตื่นซะทีเถอะ! ตอนนี้เธอเองก็มีจิ่งเป่ยเฉินแล้ว เธอไม่มีทางกลับมาหานายหรอก นายอย่าลืมว่าเธอมีลูกแล้วด้วย เด็กทั้งสองคนนั้นก็เป็นลูกของจิ่งเป่ยเฉิน! นายต้องการเธอที่น่าเบื่อและเป็นแบบนั้นงั้นเหรอ!” ผู้หญิงเมื่อห้าปีก่อนที่ยังคงติดอยู่ในใจโอหยางลี่ ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว และกำลังจะขโมยหัวใจลี่กลับไปอีกครั้ง

  

อันโหรวมีสิทธิ์อะไร?

  

มีอะไรดีกว่าเธอกันแน่?

  

“ฉันไม่สนว่าเธอจะมีลูกกี่คน เธอออกไปซะ!” โหรวโหรวของเขาจะต้องอยู่ข้างกายเขาเท่านั้น พวกเขาเป็นคู่รักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาไม่เชื่อว่าเธอจะทิ้งเขาไปง่าย ๆ แบบนี้

  

“ไม่ ฉันไม่ไป!” เธอไม่อนุญาตให้โอวหยางลี่ไป เธอมีสัญชาตญาณว่าหลังจากที่เขาเดินจากไป เขาจะไม่กลับมาอีก!

  

“ไปให้พ้น! ฉันเห็นเธอแล้วรำคาญชะมัด” โอวหยางลี่ผลักเธอล้มลงกับพื้นอย่างกะทันหัน

  

“โอ๊ย!” เดิมทีร่างกายของเธอที่ไม่ได้รับการพักผ่อน ร่างกายของเธออ่อนแรงและไม่มีเรี่ยวแรงมากนัก เมื่อถูกเขาผลักล้มลงจึงไม่มีแรงที่จะต้านทานได้เลย

  

ทำได้เพียงมองดูเขาเดินจากไป เงาด้านหลังของเขายังคงดูหล่อเหลา เพียงแค่เมื่อคืนไม่ได้นอน ดูแล้วคงแทบไม่ได้พักผ่อน เขาจึงเดินโซซัดโซเซออกไป

  

นี่คือคนที่เธอชอบมานานแสนนาน!

  

แต่เขากลับทิ้งเธอไป และจะหย่ากับเธอ!

  

เธอค่อย ๆ พยุงตัวเองขึ้นมาอย่างช้า ๆ ก่อนจะหยิบใบหย่านั้นขึ้นมาฉีกโดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่มือ แต่เรี่ยวแรงของเธอนั้นน้อยเกินไป

  

เธอวางมันไว้บนโต๊ะและใช้ปากกัดกระดาษและค่อย ๆ ฉีกมัน เธอจะไม่หย่า! ไม่มีวัน!

  

วันรุ่งขึ้น ณ สวนซิว

  

อันโหรวมองไปที่หยางหยางและจิ่งเป่ยเฉินที่เหงื่อท่วมตัวแต่ดูดีเอาการ พวกเขาตื่นนอนตอนหกโมงเช้า เมื่อวานจิ่งเป่ยเฉินตอบรับหยางหยางว่าจะมาฝึกเป็นเพื่อนเขา

  

แต่ว่าเมื่อดูมาถึงตอนนี้ คนที่ฝึกฝนก็มีเพียงหยางหยางคนเดียว จิ่งเป่ยเฉินดูแล้วเหมือนจะเป็นโค้ชฝึกซ้อมให้มากกว่า

  

“พี่ชาย เช็ดเหงื่อหน่อย” หน่วนหน่วนหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาก่อนจะยื่นไปให้พี่ชายที่ตอนนี้หน้าของเขาแดงก่ำ พลางเหลือบไปมองจิ่งเป่ยเฉิน “พ่อจ๋าป่วยอยู่ก็ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ”

  

“เด็กดี” เขาลูบไปที่ผมของเธอ ก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ อันโหรว

  

“ที่รัก” เขานั่งลงใกล้ ๆ เธอก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ และหอมแก้มเธอ

  

อันโหรวไม่สนใจเขาเลยสักนิด เธอมองหยางหยางอย่างกระตือรือร้น “หยางหยาง วันหลังไม่ต้องฝึกกับพ่อจ๋าแล้วนะ แล้วก็ไม่ต้องเรียกให้พ่อจ๋าสอนลูกด้วย เขามันโรคจิต!”

  

“โหรวโหรว เธอพูดแบบนี้กับสามีตัวเองเหรอ?” เขามีร่างกายที่แข็งแรงเธอควรดีใจไม่ใช่เหรอ?

  

“ที่รัก ฉันกำลังชมคุณอยู่ต่างหาก!” เธอเป็นห่วงลูกที่ดูลำบากอยู่ทุกวัน

  

“แม่จ๋าผมไหว” เขายกแก้วนมบนโต๊ะขึ้นดื่มจนหมดแก้วอย่างรวดเร็ว

  

อันโหรวเห็นท่าทางแบบนั้นก็หมดหนทาง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่จิ่งเป่ยเฉิน สุภาพบุรุษตัวน้อยของเธอ!

  

ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ดื่มนมแล้วดูภูมิใจขนาดนี้?

  

หลังจากที่เขามองสายตาของเธอ จิ่งเป่ยเฉินก็รีบพูดขึ้นมาทันที “หยางหยาง!”

  

หยางหยางมองที่เขา การเคลื่อนไหวของเขาเริ่มช้าลง ใบหน้าก็ยังคงแดงก่ำ

 

อันโหรวหมดคำพูด จิ่งเป่ยเฉินมีอำนาจกับลูกของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

  

เธอตัดสินใจที่จะไม่สนใจเขาและกินข้าวต่อ!

  

ในระหว่างที่กินข้าว โทรศัพท์ของอันโหรวก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสายจากหลินจือเซี๋ยวที่โทรวีแชตมา เธอจึงกดรับทันที

  

“โหรวโหรวช่วยฉันด้วย! ผู้จัดการฉีจะฆ่าคน!” เสียงหลินจือเซี๋ยวดังขึ้นมาจากปลายสาย

  

อันโหรวรีบวางแก้วน้ำในมือทันที เธอโทรศัพท์ยื่นโทรศัพท์ไปหาจิ่งเป่ยเฉินและเปิดเสียงหลินจือเซี๋ยว หยางหยางและหน่วนหน่วนก็ตั้งใจฟังอยู่อย่างเงียบ ๆ

  

ทันทีที่ต่อสายติด หลินจือเซี๋ยวก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือขึ้นมาทันที “ฮือ ๆ ๆ โหรวโหรวช่วยฉันด้วย!”

  

“จือเซี๋ยว เธอใจเย็น ๆ ก่อน ค่อย ๆ พูดว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” ฉีเซิงเทียนไม่น่าจะฆ่าเธอหรอก!

  

อย่างมากก็แค่กินเธอ!

  

“จู่ ๆ เมื่อคืนผู้จัดการฉีก็มาที่บ้านของฉัน บอกว่าฉันหลอกเขาที่ไม่ยอมบอกตัวตนของเธอ ปั่นหัวเขาอยู่ตั้งนาน เลยจะมาคิดบัญชีกับฉัน พอฉันได้ยินว่าเขาจะมาคิดบัญชีกับฉัน ฉันกลัวมากจนแทบไม่กล้าเปิดประตูออกไป! สุดท้ายเช้ามาฉันก็เห็นว่าเขายังอยู่ด้านนอก ทำยังไงดี ทำยังไงดี?” เธอที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสองชะโงกหน้าไปดูตรงช่องเล็ก ๆ ก็เห็นว่ารถของฉีเซิงเทียนยังคงจอดอยู่หน้าบ้าน ในใจของเธอตอนนี้กลัวมาก ๆ

  

ถึงแม้จะไม่เห็นเงาของฉีเซิงเทียน แต่ว่าเขาก็เพิ่งจะโทรหาเธอเมื่อครู่

  

“จือเซี๋ยว เธอลองเปิดประตูไปดูเขาหน่อยว่าเขายังมีชีวิตอยู่ไหม?” ข้างนอกอากาศหนาวแบบนั้น หนำซ้ำหิมะก็ตกอีก ถ้าหากฉีเซิงเทียนยังอยู่ด้านนอกทั้งคืนแบบนั้นคงได้แข็งกลายเป็นสโนว์แมนไปแล้วแน่ ๆ

  

“ยังอยู่สิ! เขาเพิ่งจะพูดว่าฉันกล้าปล่อยให้เขาอยู่ข้างนอกทั้งคืน ถ้าเจอฉันจะฆ่าฉันทิ้งแน่! ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่บ้านนี่แหละ โหรวโหรวเธอช่วยบอกเรื่องวันลาหยุดกับบิ๊กบอสด้วยนะ! หากน้องชายเขาแข็งตายขึ้นมาจริง ๆ ฉันไม่ผิดนะ! ใครใช้ให้เขาไม่กลับไปกัน! มีคนบ้าแบบนั้นด้วยเหรอ?” หลินจือเซี๋ยวเลื่อนสายตาลงไปมองเขาอีกครั้ง แต่ก็ยังคงไม่เห็นเงาของฉีเซิงเทียน เขาคงไม่ได้ยืนพิงประตูอยู่หรอกนะ

 

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เธอก็ค่อย ๆ ก้าวเดินลงไปดูด้านล่าง เธอสาบานเลยว่าเธอแค่จะลงไปดูให้เห็นกับตาเท่านั้น จะไม่เปิดประตูเด็ดขาด

  

อันโหรวมองไปที่จิ่งเป่ยเฉิน ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “บิ๊กบอสฟังอยู่นะ!”

  

“อะ อะ โหรวโหรว เธอ……” หลินจือเซี๋ยวรีบตัดสายไปทันที บิ๊กบอสกำลังฟังอยู่ เธอจึงไม่อยากจะพูดอะไรออกไปเยอะ

  

เธอเดินไปที่หน้าประตู ก่อนจะส่องไปที่ตาแมว เห็นฉีเซิงเทียนกำลังยืนพิงประตูอยู่ เขายังไม่ไปจริง ๆ ด้วย!

  

เมื่ออันโหรวมองหน้าจิ่งเป่ยเฉิน วีแชตของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสายเรียกเข้าจากหลินจือเซี๋ยว

  

“โหรวโหรว เขายังยืนอยู่หน้าประตู ดูเหมือนเขากำลังจะตายเลย เธอบอกบิ๊กบอสให้ส่งคนมารับเขาไปเถอะ! ฉันไม่กล้าเปิดประตู ผู้จัดการฉีเขาจะชิงลงมือทำร้ายฉันจริงๆนะ” ใครจะไปรู้ว่าข่าวจิ่งเป่ยเฉินกับอันโหรวจะสามารถยั่วยุเขาได้

  

ฉีเซิงเทียนก็รู้อยู่แล้วว่าจะรังแกเธอ แต่ก็ทำยังคิดจะรังแกเธออยู่ดี!

  

จิ่งเป่ยเฉินหยิบโทรศัพท์ของอันโหรวมาพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าว่า “หิมะตกหนัก ถนนก็ลื่น ไม่สามารถส่งคนไปรับได้ ดูแลเขาให้ดี ๆ ถ้าหากพรุ่งนี้เขาไม่มาบริษัทก็เป็นปัญหาของเธอ!”

  

อันโหรวได้ยินเขาพูดแบบนั้นก็ยกนิ้วชื่นชม หลินจือเซี๋ยวแกะน้อยจะเป็นคู่ต่อของฉีเซิงเทียนได้ยังไง

  

เขารู้ว่าการให้ของขวัญเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาสำหรับหลินจือเซี๋ยว ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ทันที