ฟีเรนเทียใช้ปลายนิ้วบดขยี้เศษคุกกี้ในขณะที่บ่นพึมพำไปด้วย

 

“ไอ้พวกผู้ชายนี่นะ…”

 

“แค็ก! ”

 

หลังจากได้ยินคำพูดพร่ำบ่นของเด็กสาวเฟเรสที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็สำลักจนไอไม่หยุด

 

ตอนนี้เธออยู่ที่พระราชวัง เพื่อรับบทบาทเพื่อนเล่นของเฟเรสที่ถูกเลื่อนออกไปเสียนาน

 

แต่สถานที่ที่เธอนัดพบกับเฟเรสไม่ใช่ที่วังโฟอิรัคหรอกนะ

 

มันคือสวนประจำวังส่วนกลางที่เปิดให้แขกทุกคนที่แวะมาเยือนพระราชวังสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ต่างหากล่ะ

 

เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องถูกขังอยู่แต่ในวังโฟอิรัคทุกวี่ทุกวัน

 

แคทเธอรีนและคาอิลรัสช่วยตั้งโต๊ะกับเก้าอี้ให้ในตำแหน่งดีๆ มีแสงแดดส่องลงมาอย่างอบอุ่นใกล้กับบริเวณน้ำพุ

 

เค้กที่คราวนี้เธอก็ยังคงซื้อมาจากร้านคาราเมล อเวนิวถูกจัดเรียงใส่จานอย่างสวยงาม

 

ส่วนเครื่องดื่มนั้นทั้งเธอกับเฟเรสต่างก็ไม่ได้ชื่นชอบดื่มชาเท่าไหร่นัก เพราะทั้งคู่ยังอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต พวกเขาจึงจัดเตรียมนมสีขาวเอาไว้ให้แทน

 

แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากกินเค้กเสียเท่าไหร่

 

ฟีเรนเทียเล็งหาเศษขนมปังชิ้นอื่นต่อ ก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วดีดมันกระเด็นไปไกล

 

“…เทีย”

 

เฟเรสเรียกเธอด้วยใบหน้าตื่นตกใจเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรเขา

 

จริงๆ เลย เพราะเจ้าเวสตินนั่นแท้ๆ เลยทำให้เธอรู้สึกไม่ไว้ใจพวกผู้ชาย เจ้านั่นกล้านอกใจคนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มได้ยังไงกัน

 

“อืม”

 

เฟเรสมองเธอที่ความดันต่ำจนโมโหเดือด เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็หันไปมองรอบๆ

 

หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินพุ่งตรงไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เด็ดเอาดอกไม้กลับมากองโต

 

มันเป็นดอกไม้สีขาวดอกเล็กดูบอบบางเป็นช่อตูมที่กำลังจะเบ่งบาน

 

เขายัดมันใส่ในอุ้งมือของเธอ

 

“…”

 

ทำแบบนี้ใครจะไปหงุดหงิดต่อได้ลงคอล่ะก็เขาเล่นใส่ใจกันขนาดนี้

 

เฟเรสมองหน้าเธอในระยะประชิด ใกล้มากเสียจนเหมือนกับเขากำลังลอบประเมินปฏิกิริยาตอบรับของเธอหลังจากได้รับดอกไม้ มันเป็น ‘หน้าตาที่หล่อเหลามากเสียจนทำให้คนต้องหายโกรธโดยไม่รู้ตัว’

 

ฟีเรนเทียถอนหายใจเสียงแผ่วกึ่งยอมแพ้ ก่อนที่จะสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้

 

พอสูดกลิ่นหอมหวานของดอกไม้เข้าไป กลิ่นหวานๆ ก็ติดค้างอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้อารมณ์เดือดพล่านเริ่มสงบลงได้บ้าง

 

“ขอบใจนะ เฟเรส”

 

“ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย”

 

เธอเองก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน

 

ดันเผลอทำตัวโมโหใส่เฟเรสเสียได้

 

ฟีเรนเทียอธิบายให้เขาฟังด้วยความละอายใจ

 

“ไม่ได้โมโหเพราะเจ้าหรอก”

 

“ข้ารู้”

 

“งั้นทำไมถึงได้เอาดอกไม้มาให้ล่ะ”

 

“ถ้าขนาดของหวานยังทำให้อารมณ์ดีขึ้นไม่ได้ ข้าคิดว่าอย่างน้อยดอกไม้สวยๆ ก็น่าจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้บ้างน่ะ”

 

“อ่า”

 

“ก็เทียชอบดอกไม้”

 

อืม ก็จริง

 

รู้สึกแปลกอยู่เหมือนกัน ที่เฟเรสอ่านความรู้สึกของเธอออกแบบนี้

 

โดยเฉพาะนัยน์ตาสีแดงคู่นั้น เวลาที่เขาจ้องมองเธอโดยไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกล้วงความลับ

 

รู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว

 

เธอยกแก้วนมขึ้นดื่มเพื่อหลบสายตาของเด็กหนุ่มขณะเดียวกันก็แอบใช้หางตาลอบสังเกตเขาไปด้วย

 

เฟเรสกำลังปัดเศษหญ้าที่เปรอะติดเสื้อผ้าจากการที่เขาไปเด็ดดอกไม้มาให้เธอเมื่อครู่ แคทเธอรีนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาเองก็คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง

 

คนส่วนใหญ่บอกว่า เมื่อเข้าถึงวัยแตกหนุ่มอายุใกล้สิบหกปี รูปร่างหน้าตาจะเริ่มเปลี่ยนไปจนดูไม่ค่อยได้

 

แต่เฟเรสไม่ได้ดูหน้าตาแย่ลงเลย เขากลับหล่อเหลามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

 

ตอนนี้ก็เหมือนกัน เจ้าตัวแค่ปัดเศษหญ้าตามเสื้อผ้าเท่านั้นเอง แต่แววตาที่เป็นประกายคู่นั้น ทั้งจมูกโด่งดั่งรูปสลัก ไหนจะสันกรามคมชัดนั่นอีก ทั้งหมดนั่นมันดึงดูดสายตาของผู้คนให้ต้องสนใจเขาอยู่เรื่อย

 

พอเห็นภาพตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เผลอหลุดพูดออกไปด้วยแรงกระตุ้นในใจ

 

“เฟเรส ต่อไปเจ้าห้ามนอกใจเด็ดขาดเลยนะ”

 

ชะงัก

 

การเคลื่อนไหวของเฟเรสกับแคทเธอรีนหยุดชะงักทันที

 

แม้แต่คาอิลรัสที่ยืนเก็บจานเค้กที่เพิ่งกินกันไปเมื่อครู่อยู่ด้านข้างก็เช่นกัน

 

ทั้งสามคนหันมามองเธออย่างพร้อมเพรียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

ทำไมล่ะ มีอะไรเหรอ

 

คนที่มีปฏิกิริยาเป็นคนแรกคือคาอิลรัส

 

เขากัดริมฝีปากล่างแน่น พยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นผ่านนัยน์ตาสื่อความรู้สึกดั่งอีโมติคอน ก่อนจะหันหน้าหลบไปทางอื่น

 

แคทเธอรีนเบิกตากว้าง นางกะพริบตาถี่อยู่หลายครั้ง เอาแต่มองเธอสลับไปมากับเฟเรสด้วยใบหน้าตกใจ

 

ส่วนเฟเรส

 

“เจ้า…เป็นอะไรหรือเปล่า”

 

เธอสะกิดหลังมือของเด็กหนุ่มพลางถาม

 

ทันใดนั้นใบหน้าแข็งทื่อเหมือนน้ำแข็งของเขาก็ลุกเป็นไฟในชั่วพริบตา รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาจริงๆ นะ

 

ผิวขาวเนียนถูกย้อมไปด้วยสีแดงลามลงมาจนถึงต้นคอ สุดท้ายมันก็แดงก่ำลามไปจนถึงใบหู

 

“อะ…อื้อ…”

 

เฟเรสพยักหน้าลงอย่างเชื่องช้า

 

ปฏิกิริยาของทุกคนทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ

 

เธอพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือไง

 

“ใบหน้าเจ้า…แดงมากเลย นี่เป็นหวัดหรือเปล่าเนี่ย”

 

หรืออากาศหนาวเกินไปที่จะมาออกนั่งด้านนอกแบบนี้

 

“ปะ…เปล่า ไม่เป็นไร”

 

เฟเรสยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าในขณะตอบมือของเขาใหญ่มากจนฝังใบหน้าลงไปได้มิด

 

“ตกใจนิดหน่อย”

 

“ที่บอกว่าห้ามนอกใจน่ะเหรอ”

 

“…อื้อ”

 

ทำไมล่ะ

 

“แต่เฟเรสเองตอนนี้ก็เริ่มถึงวัยแบบนั้นแล้วไม่ใช่หรือไง”

 

“วัย…แบบนั้น?”

 

“อืม ก็วัยที่เริ่มสนใจในตัวผู้หญิง”

 

ก็เขาเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้วนี่นะ

 

เฟเรสค่อยๆ ลดมือที่ปิดใบหน้าลงอย่างเชื่องช้า ก่อนจะถามเธอ

 

“แล้ว?”

 

“เพราะฉะนั้นข้าถึงได้บอกไงว่า ถ้าไปคบกับใครก็อย่าได้นอกใจเป็นอันขาด”

 

“…หมายความแบบนั้นเองสินะ”

 

เฟเรสพึมพำเสียงแผ่ว

 

“ฮู่ว”

 

“เฮ้อ”

 

ฟีเรนเทียได้ยินเสียงคาอิลรัสกับแคทเธอรีนที่ยืนอยู่ด้านหลังถอนหายใจอย่างพร้อมเพรียง

 

“ทุกคนทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย”

 

เธอถาม แต่แคทเธอรีนกับคาอิลรัสกลับเอาแต่หลบสายตาของเธอ