บทที่ 279 ผมเลือกเขา / บทที่ 280 Boss ของคุณหาเรื่องผมน่ะ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 279 ผมเลือกเขา / บทที่ 280 Boss ของคุณหาเรื่องผมน่ะ โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 279 ผมเลือกเขา

ลั่วเฉิน…

ผลงานชิ้นเอกเรื่อง มังกรผงาด

สำหรับชื่อลั่วเฉินชื่อนี้ เยี่ยหวันหวั่นพอจะจำได้อยู่บ้าง เพราะเธอคลั่งไคล้ละครแนวกำลังภายในเป็นอย่างมาก เป็นธรรมดาที่ต้องเคยดูละครแนวกำลังภายในสุดคลาสสิกอย่าง ‘มังกรผงาด’

ถ้าหากเธอจำไม่ผิดละก็ ลั่วเฉินคนนี้เดบิวต์ตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว รับบทเป็น BOSS ใหญ่ของฝ่ายตัวร้ายในเรื่องมังกรผงาด และดังเป็นพลุแตกในเวลาเพียงข้ามคืน

เริ่มต้นได้ดีขนาดนี้ บวกกับมีหน้าตาโดดเด่น เดิมทีหนทางการเป็นนักแสดงควรจะราบรื่น แต่ว่าหลังจากเรื่องนี้แล้วข่าวคราวกับเงียบหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

ประสบการณ์การแสดงในใบประวัติของลั่วเฉินธรรมดาจนน่าสงสาร เข้าวงการมาสามปี นอกจากผลงานซีรีส์เรื่องมังกรผงาดที่โด่งดังแล้ว แม้แต่บทตัวประกอบสักเรื่องก็ยังไม่เคยได้รับ

จุดเด่นเดียวบนในประวัตินี้ มีเพียงรูปถ่ายของเขา

ในรูปภาพ ชายหนุ่มสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์นั่งแหงนหน้ารับลมอยู่บนรั้วสนามหญ้าใต้แสงอาทิตย์ ใบหน้าด้านข้างหล่อเหลาไร้ที่ติ เส้นผมอ่อนนุ่มยุ่งเล็กน้อยเพราะแรงลม แววตาใสกระจ่างเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา…

หน้าตาและบุคลิกเช่นนี้ สมแล้วที่เคยได้สวมมงกุฎฉายา ‘รักแรกแห่งชาติ’…

เพียงแต่น่าเสียดาย ไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวมาสามปีแล้ว ทำให้ผู้คนลืมเลือนผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็น ‘รักแรกแห่งชาติ’ คนนี้ไป

ว่ากันตามหลักเหตุผล นักแสดงที่ตกกระป๋องแล้วแบบนี้ไม่มีทางที่จะโด่งดังขึ้นมา ทำเงินถุงทองถังให้เยี่ยหวันหวั่นได้ในระยะเวลาสั้นๆ

แต่ว่า ตอนที่เยี่ยหวันหวั่นเห็นชื่อของลั่วเฉิน นัยน์ตาพลันฉายแววยินดี

เธอเดาได้แต่แรกแล้วว่าฉู่หงกวงไม่มีทางเก็บเธอไว้ที่สำนักงานใหญ่ และก็ไม่มีทางให้เธอไปที่ไหนดีๆ ได้ เพราะฉะนั้นก่อนหน้านี้เธอจึงคำนวณไว้แล้วว่าฉู่หงกวงจะ ‘เนรเทศ’ เธอไปที่กวงเย่า ที่ที่เส้นทางดาราแร้นแค้น และมีแนวโน้มว่าจะล้มละลาย

ทว่าเยี่ยหวันหวั่นตั้งแต่แรกจนจบมีศิลปินที่ต้องตาคนแรก ก็คือลั่วเฉิน!

จากที่เธอจำได้ ไม่นานหลังจากนี้ลั่วเฉินจะมีโอกาสกลับมาดังเปรี้ยงปร้างอีกครั้ง ขอแค่คว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี ลั่วเฉินก็จะสามารถกลับมาโด่งดังได้อีกครั้ง

แต่ว่าในชาติก่อน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดลั่วเฉินถึงได้พลาดโอกาสนี้ไป เหมือนกับตอนเขาอายุสิบแปดซึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงเวลาที่โด่งดังที่สุด

หลังจากนั้น ลั่วเฉินสองคำนี้ก็ไม่ปรากฏในสายตาของผู้คนอีกเลย

แต่ว่าครั้งนี้…เธอจะไม่ให้ลั่วเฉินพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไปง่ายๆ

เธอจะต้องทำให้ลั่วเฉินชื่อนี้ดังกระหึ่มไปทั้งวงการบันเทิง!

คิดถึงตรงนี้ นิ้วมือของเยี่ยหวันหวั่นเคาะลงบนข้อมูลของลั่วเฉินทีหนึ่ง จากนั้นเอ่ยออกมาตรงๆ “ผมเลือกเขาครับ!”

ฉู่หงกวงมองตามนิ้วมือของเยี่ยหวันหวั่นไป ใบหน้าเผยความแปลกใจ “นายแน่ใจใช่ไหม?”

ฉู่หงกวงค่อนข้างแปลกใจกับการเลือกของเยี่ยหวันหวั่น ศิลปินในสังกัดของกวงเย่ามีเดียมีไม่กี่คนที่ใช้งานได้ ทว่าคนที่เยี่ยหวันหวั่นเลือกคนนี้ ไร้ตัวตนยิ่งกว่าคนอื่นๆ เสียอีก แม้แต่เขาเองยังลืมว่ามีคนนี้อยู่เลย

“มั่นใจ” เยี่ยหวันหวั่นไม่ลังเลแม้แต่น้อย

ฉู่หงกวงเห็นท่าทางแน่วแน่ของอีกฝ่ายแล้ว ในใจพลันยิ้มเย็น

ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มสามารถจัดการเรื่องหานเซี่ยนอวี่ได้ดี เขายังคิดอยู่ว่าเยี่ยไป๋คนนี้จะมีความสามารถขนาดไหน มาดูตอนนี้ แม้จะมีฝีไม้ลายมืออยู่บ้าง แต่ความสามารถในการมองคนกลับแย่มาก

เขาไม่เคยได้ยินชื่อของศิลปินคนนี้มาก่อน เหมือนว่าจะเคยถ่ายซีรีส์แนวจอมยุทธ์ที่นับว่าดังเรื่องหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีผลงานอื่นอีก ไม่มีความดังเลยสักนิด มีแค่หน้าตาเท่านั้น

ในวงการบันเทิงมีคนหน้าดีเยอะเกินไป ในทุกๆ ปีมีคนแบบเขาจมหายตายไปไม่รู้เท่าไหร่

เยี่ยไป๋คนนี้สุดท้ายก็ยังเด็กเกินไป มีอนาคตแต่ประสบการณ์ยังไม่มากพอ

………………………………….

บทที่ 280 Boss ของคุณหาเรื่องผมน่ะ

ฉู่หงกวงตั้งใจจะให้เขาลำบากเล็กน้อย จึงมองผลลัพธ์นี้ในแง่ดี และไม่ได้โน้มน้าวต่อ แค่ขยับปากกาเซ็นชื่อลงไปบนเอกสารฉบับหนึ่งในนั้น “ได้ ตอนนี้คนนี้คืนให้นายแล้ว นายเอาคนนี้ไปได้”

เยี่ยหวันหวั่นเซ็นชื่อตัวเองลงในเอกสารเหมือนกัน “ขอบคุณครับ ประธานฉู่”

“ห้องทำงานนายฉันให้คนเก็บกวาดให้แล้ว หอพักพนักงานก็จัดหาให้อย่างดีที่สุด วันนี้ไปดูได้เลย ถ้ามีตรงไหนไม่พอใจก็บอกได้!”

ฉู่หงกวงใจกว้างมาก วางกุญแจพวกหนึ่งไว้หน้าเยี่ยหวันหวั่น ยิ้มพูดว่า “หึๆ เยี่ยไป๋ ทำให้ดี! ฉันตั้งความหวังกับนายไว้สูงมากนะ!”

เยี่ยหวันหวั่นรับกุญแจมา มองบนตัวอักษรสีทองที่อยู่บนกุญแจ

วั่นจิ่งหมิงหยวน…

ข้อนี้ฉู่หงกวงไม่ได้หลอกเธอ เป็นที่พักพนักงานที่ดีที่สุดของโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์จริง ผู้จัดการมือทองและดาราดังต่างก็พักอยู่ที่นี่ ก่อนหานเซี่ยนอวี่จะดังก็เคยอยู่ที่นั่นมาก่อนช่วงหนึ่ง

วันนี้ไปดูที่หอพักก่อน มาปักหลักก่อนแล้วค่อยว่ากัน

จากที่เธอสังเกตการณ์มาช่วงนี้ ซือเยี่ยหานทำอย่างที่เขาให้สัญญาไว้จริง ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวเรื่องของเธอเลย แต่ว่า เรื่องใหญ่ขนาดย้ายออกมาจากจิ่นหยวนนี้ เธอก็ไม่มั่นใจแล้ว…

หลังออกมาจากตึกโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์ เยี่ยหวันหวั่นลองส่งข้อความถึงซือเยี่ยหานก่อน

‘เบบี๋ วันนี้ฉันไปโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์มา งานเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพรุ่งนี้ก็จะเริ่มทำงาน ถ้ายังอยู่ที่บ้านคุณจะไม่ค่อยสะดวก เพราะงั้น…ฉันว่าจะย้ายไปอยู่ที่หอพักพนักงานนะคะ…’

ปกติเวลาเธอส่งข้อความไป ซือเยี่ยหานจะตอบกลับเร็วมาก แต่ครั้งนี้กลับเหมือนโยนหินลงในมหาสมุทร รออยู่นานไม่มีการตอบกลับ

รออยู่นานไม่มีข้อความตอบมา เยี่ยหวันหวั่นเลยส่งข้อความไปหาสวี่อี้อีกที ‘พ่อบ้านสวี่ ซือเยี่ยหานกำลังทำอะไรอยู่? ฉันเพิ่งส่งข้อความไปหาเขา เขาได้รับหรือเปล่าน่ะ?’

ผ่านไปครู่หนึ่ง สวี่อี้ตอบเธอกลับมา ‘เอ่อ กำลังประชุมอยู่ครับ เขาเพิ่งดูมือถือ น่าจะเห็นแล้ว นายหญิงน้อย คุณส่งอะไรให้เขาไปครับ?”

ถึงแม้สวี่อี้ไม่ได้บอกว่าหลังซือเยี่ยหานเห็นแล้วมีปฏิกิริยายังไง แต่แค่ฟังจากน้ำเสียงของสวี่อี้ เธอก็เดาได้แล้ว

โกรธจริงด้วย…

เยี่ยหวันหวั่นเอามือกุมหน้าผาก ถอนหายใจเบาๆ ออกมา

ช่วยไม่ได้ ปกติแล้วผู้จัดการจะไม่พักอยู่ไกลจากศิลปินมาก กระทั่งยังมีผู้จัดการหลายคนอยู่ด้วยกันกับศิลปินด้วยซ้ำ จะได้รับมือกับสถานการณ์แต่ละอย่างได้ทันท่วงที อยู่ที่จิ่นหยวนไม่ค่อยสะดวกนัก ไม่ช้าเร็วเธอก็ต้องย้ายอยู่ดี ยังไงขั้นนี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

เฮ้อ ครั้งที่แล้วใช้กุหลาบ ครั้งนี้ใช้อะไรถึงจะคลายความโกรธเขาดีนะ?

เยี่ยหวันหวั่นคิดอยู่นาน กลับมาที่จิ่นหยวนรอบหนึ่ง แล้วไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

หลังซื้อของเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นเห็นเวลาใกล้เลิกงานแล้ว จึงไปที่ซือกรุ๊ปอีกครั้ง

เลขาคุ้นเคยหน้าแขกเป็นอย่างดี พอเห็นเข้าก็ตาเป็นประกาย

“คุณเยี่ย มาหาท่านประธานซือใช่ไหมคะ? ท่านประธานซือน่าจะใกล้เลิกประชุมแล้ว! เดี๋ยวฉันพาคุณขึ้นไปค่ะ!”

เยี่ยหวั่นหวั่นเกือบจะตาบอดเพราะถูกตาที่ฉายประกายอยากรู้อยากเห็นนั่นแผดเผา เธอยิ้มมุมปากเล็กน้อย พยักหน้าให้อย่างมีมารยาท “ขอบคุณครับ”

หลังจากขึ้นมาชั้นบน เลขาพาเธอมานั่งรอบริเวณของพนักงานหน้าห้องประชุม “ประธานซือน่าจะใกล้เลิกเร็วๆ นี้แล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นคุณรออยู่ที่นี่นะคะ?”

“ได้ครับ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า วางของในมือลง จากนั้นมองไปทางห้องประชุม

จากมุมมองของเธอ สามารถมองผ่านกระจกเห็นซือเยี่ยหานที่กำลังประชุมอยู่พอดี

ซือเยี่ยหานกำลังพูดกับทุกคนด้วยสีหน้าเย็นเยือกราวน้ำแข็ง ดูเหมือนว่าจะเห็นเธอแล้ว สายตาหยุดมองมาที่เธอแวบหนึ่ง

เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะโบกมือทักทาย ซือเยี่ยหานก็ถอนสายตาไปแล้ว

เลขาย่อมไม่สามารถทิ้งแขกคนสำคัญไว้คนเดียวได้ จึงมาอยู่เป็นเพื่อนข้างๆ ขณะเดียวกันก็แอบสังเกตเขาตลอดเวลา

ผู้ชายหน้าสวยเหมือนภาพวาด ผิวก็ดีกว่าผู้หญิงเสียอีก ใบหน้าด้านข้างสมบูรณ์ไม่มีที่ติราวกับชิ้นงานศิลปะ เวลานี้กำลังเอามือเท้าคาง มองไปทางห้องประชุมเหมือนมีเรื่องกังวลใจ

เลขาเห็นท่าทีแล้วอดถามไม่ได้ “คุณเยี่ย ฉันเห็นวันนี้คุณดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?”

ชายหนุ่มจับจ้องทางหนุ่มรูปงามที่สูงส่งเย็นชาในห้องประชุม ถอนหายใจเบาๆ “ใช่แล้ว อารมณ์ไม่ค่อยดี Boss ของคุณหาเรื่องผมน่ะ…”

เลขางงงัน

…………………………………………………