บทที่ 281 อยากฉลองกับคุณ / บทที่ 282 กลัวคุณอยู่ไม่ชิน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 281 อยากฉลองกับคุณ / บทที่ 282 กลัวคุณอยู่ไม่ชิน โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 281 อยากฉลองกับคุณ

น้ำเสียงแบบ ‘แฟนสาวงอนฉันแล้ว’ นี่หาเรื่องแบบไหนกัน!

เจ้านายเธอที่หล่อเหลาสูงส่งดั่งเทพบุตรบนฟ้า…หา…เรื่อง…?

เลขารู้สึกว่ามุมมองทั้งสามอย่างของตัวเองพบเจอภัยครั้งใหญ่แล้ว

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เยี่ยหวันหวั่นรออยู่ด้านนอกมาสองชั่วโมงกว่าโดยไม่รู้ตัว

นานๆ ทีเลขาจะชะโงกหน้ามองไปทางห้องประชุม สีหน้าแสดงออกชัดเจนว่าอึดอัด “ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยสวี่บอกอยู่ว่าประชุมจะเลิกแล้ว ทำไมถึงได้นานขนาดนี้… ขอโทษด้วยค่ะคุณเยี่ย… คิดว่าในที่ประชุมน่าจะมีปัญหาอะไร…”

เจ้านายคงไม่ได้อารมณ์เสียหรอกนะ? เทียบกับครั้งที่แล้ว เขายังออกมาจากห้องประชุมก่อนเวลาเลิกอีก…

“ไม่เป็นไร งานสำคัญ คุณไปทำงานของคุณเถอะ ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนผมหรอกครับ” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างอารมณ์ดี

เลขาสาวยังมีงานอีกเป็นกองจริง พอได้ยินก็เพียงออกไปก่อนอย่างอาลัยอาวรณ์

ขณะเดียวกัน ในห้องประชุม

ตามกำหนดการปกติ ประชุมควรจะเลิกตั้งนานแล้ว ปรากฏว่าไม่รู้ทำไมถึงยืดเยื้อมาถึงตอนนี้

พอเห็นท้องฟ้าเริ่มมืด ที่ประชุมไม่มีทีท่าว่าจะจบ เยี่ยหวันหวั่นทนไม่ไหวส่งข้อความไปหามือถือซือเยี่ยหาน “คุณจะเสร็จธุระเมื่อไรคะ?”

เธอมั่นใจว่าตัวเองมองผ่านกระจก เห็นซือเยี่ยหานที่กำลังฟังลูกน้องรายงานอยู่หยิบมือถือขึ้นมามอง

แต่ว่าชายหนุ่มอ่านจบก็ละสายตาออกไป ไม่ตอบกลับใดๆ

เยี่ยหวันหวั่นจึงได้แต่คอยต่อไป

ผ่านไปอีกสักพัก เห็นประชุมยังไม่เลิก เธอเลยส่งไปอีกข้อความ “ยังไม่เสร็จหรือคะ?”

……….

ส่งไปหลายข้อความติดต่อกันแต่ไม่มีคำตอบกลับมา เยี่ยหวันหวั่นฟุบไปบนโต๊ะ พิมพ์ตัวอักษรไม่กี่คำอย่างช้าๆ ‘ผักกาดขาวที่ฉันเก็บมาใกล้จะเหี่ยวหมดแล้ว…’

จนกระทั่งท้องฟ้ามืด ในที่สุดซือเยี่ยหานถึงออกมาจากห้องประชุม

เหล่าผู้บริหารระดับสูงโดนทรมานจนแม้แต่เรื่องซุบซิบก็ไม่กล้ามองแล้ว พอออกมาก็สลายตัวหายกันไปหมด วิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายอีก มีเพียงสวี่อี้ที่กัดฟันฝืนทนอยู่ด้านหลัง

ซือเยี่ยหานก้าวขายาว เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่เหลือบมองด้านข้าง ขณะเดียวกันก็สั่งสวี่อี้ที่อยู่ข้างๆ “จองตั๋วไปปารีสเที่ยวบินถัดไป”

สวี่อี้เหลือบมองเยี่ยหวั่นหวั่นที่รออยู่ข้างๆ ด้วยความระมัดระวัง ไม่กล้าชักช้า รีบตอบทันที “ครับ ผมจะจองให้เดี๋ยวนี้!”

ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าตึกๆ เยี่ยหวันหวั่นเห็นว่าในที่สุดซือเยี่ยหานออกมา จึงรีบลุกขึ้นยืน ปรากฏว่าเพิ่งลุกก็ได้ยินว่าซือเยี่ยหานเหมือนจะไปทำงานที่ต่างประเทศ

เธออึ้งไป กำลังจะเอ่ยปาก วินาทีต่อมาก็มีเสียง ‘โครม’ ดังขึ้นมา

เพราะว่ารีบลุกขึ้น ข้าวของถุงใหญ่เต็มอ้อมกอดจึงหล่นกระจายลงบนพื้นหมด

ในถุงมีผัก เนื้อ วัตถุดิบทำหม้อไฟ นอกจากนี้ยังมีของใช้ในชีวิตประจำวันพวกแปรงสีฟัน ผ้าขนหนูต่างๆ น่าจะเพราะเธอเตรียมย้ายไปใช้ที่หอพัก

เมื่อเห็นของพวกนั้นที่หล่นกระจายอยู่ที่พื้น สีหน้าซือเยี่ยหานเย็นชาขึ้นมาหลายเท่า

จากนั้น วินาทีต่อมาเขากลับเห็น…

ของใช้ในชีวิตประจำวันที่เยี่ยหวันหวั่นเตรียมมาพวกนั้น…ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟัน ผ้าขนหนู หรือรองเท้าแตะผ้า ทั้งหมดมีสองชุด…

ชุดหนึ่งสีชมพู อีกชุดสีฟ้า อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่เขาใช้ประจำด้วย น่าจะให้แม่บ้านที่จิ่นหยวนหยิบมา

หลังจากเห็นของใช้ต่างๆ ที่เป็นคู่ สีหน้าซือเยี่ยหานเปลี่ยนไปทันใด หยุดเดินทันที…

เยี่ยหวันหวั่นก้มลง เก็บของขึ้นมาทีละชิ้นๆ จากนั้นเงยใบหน้าเล็กขึ้นมา พึมพำถามว่า “คุณจะเดินทางเหรอคะ ฉันหางานได้แล้ว…เลยอยากฉลองกับคุณ…”

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปาก พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เปล่า เป็นสวี่อี้ที่จะไป”

สวี่อี้อุทาน “…เอ๋?”

……………………………………………….

บทที่ 282 กลัวคุณอยู่ไม่ชิน

“ไม่ใช่คุณที่ไปเหรอ?” ใบหน้าเล็กๆ ที่ดูมัวหมองของเยี่ยหวันหวั่นฟื้นคืนกลับมาทันที

“ไม่ใช่” คนคนหนึ่งพูดโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน

“…!” สวี่อี้สีหน้ามึนงงไปหมด

นายท่าน ไม่ควรทำแบบนี้ไหมครับ ผมจะไปทำงานนอกสถานที่ตั้งแต่เมื่อไร?

ไม่ใช่ตัวคุณเองจะไปเหรอ?

วันลาพักร้อนผมนายท่านเพิ่งอนุมัติวันนี้เอง ลืมแล้วหรือครับ?

สวี่อี้พอรู้สถานการณ์ในช่วงนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ถึงแม้ครั้งนี้นายท่านจะเป็นคนรับปากให้เธอออกไปด้วยตัวเอง แต่คงคาดหวังว่าจะให้เธอไปลำบากอยู่ข้างนอก จากนั้นค่อยยินยอมกลับมาแต่โดยดี

แต่ใครจะรู้ ตั้งแต่นายท่านปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่เจออุปสรรคอะไรเลย แถมอยู่ข้างนอกยังไปได้ดีอีก ยิ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมขึ้นทุกที หากมีโอกาสก็คิดจะหลบซ่อนไปให้ไกลที่สุด นายท่านจะสงบสุขได้ยังไง!

เดิมทีเขายังคิดว่าครั้งนี้นายตัวเองต้องโกรธนานเป็นพิเศษแน่ ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่ตัวเองจะย้ายไป ยังจะพานายท่านย้ายไปด้วย…

สุดท้าย พ่อบ้านได้แต่น้ำตานองหน้ามอง Boss ที่ข่มขู่ตนให้ไปปารีสตามเยี่ยหวันหวั่นไปที่อยู่ใหม่ทั้งแบบนั้น ส่วนตัวเองกล้ำกลืนฝืนทนไปทำงานนอกสถานที่…

……….

ว่านจิ่งหมิงหยวน

“ที่นี่แหละ…” เยี่ยหวันหวั่นเปิดประตูเข้าไป กดเปิดไฟด้านข้างกำแพง แล้วหยิบรองเท้าใส่ในบ้านออกมาให้ซือเยี่ยหาน

แววตาเย็นเยือกของซือเยี่ยหานกวาดมองในห้อง เห็นเยี่ยหวันหวั่นกำลังเปิดกล่องตรงมุมกำแพง แววตาที่ขรึมลึกยิ่งดูมืดมนยิ่งขึ้น

ตัวเยี่ยหวันหวั่นเองไม่ได้ย้ายข้าวของมามากเท่าไร เห็นได้ชัดว่าถือว่าที่นี่เป็นที่พักชั่วคราวให้ทำงานสะดวกขึ้น แต่กลับเตรียมของที่เขาใช้อยู่เป็นประจำมาไม่น้อยเลย แทบจะมีครบทุกอย่าง รองเท้าแตะที่ใส่อยู่ก็เป็นแบบเดียวกับที่จิ่นหยวน

เยี่ยหวันหวั่นเอาวัตถุดิบอาหารในถุงเข้าไปในห้องครัว พลางบ่นพึมพำ “ที่จริงสภาพแวดล้อมหอพักก็พอใช้ได้ แต่ฉันกลัวตอนที่คุณมาอยู่กับฉันจะไม่ชิน เลยให้คนงานที่บ้านเอาข้าวของที่คุณใช้เป็นประจำเตรียมไว้ที่นี่อีกชุดหนึ่ง อืม ถ้าไม่กลัวว่าจะทำให้คนตกใจ ฉันยังคิดอยากจะพาต้าไป๋มาเล่นด้วยเลย ยังดีว่าที่นี่ถ้าไม่จำเป็นต้องทำงาน ฉันก็จะไม่มาอยู่บ่อยๆ ใช่แล้ว ที่รัก คุณกินอันนั้นไหม…”

เยี่ยหวันหวั่นกำลังก้มหน้าล้างผัก พูดไปได้ครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นเอวด้านหลังโดนโอบไว้แน่น วินาทีต่อมาถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดอันร้อนผ่าว

พริบตานั้น ลมหายใจเย็นที่คุ้นเคยดีปกคลุมรุกรานเข้ามาในทุกประสาทสัมผัส….

โดนชายหนุ่มกอดจากด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตาปริบๆ มือหยุดเคลื่อนไหว “เป็นอะไรไป?”

ด้านหลัง ซือเยี่ยหานไม่พูดอะไร กอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่นยิ่งขึ้น จูบที่เย็นเล็กน้อยพรมลงไปที่ข้างหูและซอกคอของเธอ…

“ติ๊งต่อง”

ในตอนนี้เอง เสียงกริ่งประตูดังขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นรีบหันหน้ามาพูด “มีคนกดกริ่งประตู!”

ในดวงตาซือเยี่ยหานมีคลื่นถาโถมซ่อนอยู่ เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจมากที่โดนรบกวน

“เด็กดี เดี๋ยวฉันไปดูหน่อยว่าใคร อาจจะเป็นคนที่บริษัท”

วันนี้เธอย้ายมาเป็นวันแรก น่าจะมีแค่คนในบริษัทที่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่ หรือว่าจะเป็นคนที่ฉู่หงกวงส่งมา?

ซือเยี่ยหานแทบไม่เคยเปิดเผยใบหน้าให้คนภายนอกเห็น ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร ถึงแม้จะโดนเห็นก็ไม่เป็นไร ดังนั้นเยี่ยหวันหวั่นจึงไม่เป็นห่วง

หลังปลอบซือเยี่ยหานแล้ว เยี่ยหวันหวั่นไปเปิดประตูก่อน

“มาแล้ว” เยี่ยหวันหวั่นเปิดประตูออก

วินาทีที่ประตูเปิดออก เห็นใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นตรงหน้าประตู เยี่ยหวันหวั่นก็แปลกใจทันที “หานเซี่ยนอวี่…?”

……………………………………………….