ตอนที่ 389 ฉินเฉิน (2)/ตอนที่ 390 ฉินเฉิน (3)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 389 ฉินเฉิน (2)

ผู้หญิงคนหนึ่ง ช่วงอายุที่ดีที่สุดล้วนใช้ไปในวังนี้

เพราะรักนางจึงยินดีเข้าวังแต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นความทุกข์ทรมานทั้งชีวิต

นี่ล้วนเป็นความผิดของน่าหลานเยียน! นางเผด็จการเห็นแก่ตัวไม่ยอมให้ฝ่าบาทเหยียบย่างเข้าไปตำหนักของพวกนาง มิเช่นนั้นก็คงไม่เกิดเรื่องมากมายเพียงนี้?

“ข้ากับเยียนเอ๋อร์พูดไว้แต่แรกแล้ว พวกเจ้าหากเข้าวังมาจะต้องโดดเดี่ยวทั้งชีวิตข้าไม่มีทางอุปถัมภ์หญิงคนใด! หากพวกเจ้าไม่ยินยอมต่อให้แรงกดดันของข้ากับฮองเฮาจะมากเพียงใดก็จะคืนอิสระให้พวกเจ้าแน่!”

“แต่สุดท้ายพวกเจ้าเลือกตัวเลือกนี้ก็ต้องเผชิญหน้ากับผลที่ตามมา!”

ตอนแรกเสด็จพ่อเลือกที่จะจากไปเขาอายุยังน้อยพละกำลังไม่แข็งแกร่งพอ หลิวอวี๋นเซียวตาแก่ตายยากนั่นพาคนมาบีบให้เขารับสนม ให้เขารับแรงกดดันนับไม่ถ้วน สุดท้ายเยียนเอ๋อร์ทนดูต่อไปไม่ได้จึงตัดสินใจเช่นนี้

ทว่าพวกเขาก็ให้โอกาสให้เลือก เขากับเยียนเอ๋อร์ไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ไม่ทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งทั้งชีวิตเพื่อรับมือกับขุนนางใหญ่พวกนั้น

ขอเพียงพวกนางต้องการจากไป ต้องรับแรงกดดันมากเพียงใดเขาก็จะต้องคืนอิสระให้พวกนางแน่

แม้เป็นเช่นนี้พวกนางก็ยังโลภในทรัพย์สมบัติไม่ยอมออกจากวัง ก็จำเป็นต้องรับกับผลที่ตามมา!

เขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร ยิ่งไม่มีทางหันหลังให้เยียนเอ๋อร์เพื่อไม่ให้คนพวกนี้ต้องโดดเดี่ยว

“ไม่! เป็นความผิดของพวกเจ้า!” หน้าตาหลิวหรงบ้าคลั่งยิ่งกว่าเก่า “เป็นพวกเจ้าที่ทำร้ายข้า! เจ้าเป็นฮ่องเต้เดิมก็ควรจะเป็นฝนตกทั่วฟ้ามีสิทธิ์อะไรรักแค่เพียงคนเดียว? นางเป็นคนแย่งความสุขไปจากข้า นางตายก็ยังไม่สาสม!”

ต่อให้นางให้ท่านพ่อบีบเฟิงเทียนอวี้ให้รับสนมแล้วอย่างไรเล่า? เดิมเขาควรจะเป็นฝนตกทั่วฟ้าไม่ใช่รักเพียงแค่คนเดียว!

เฟิงเทียนอวี้ยกมือขึ้นด้วยความสั่นเทา ฝ่ามือลมพัดออกไปตบที่หน้าหลิวหรง

ฝ่ามือนี้เขาใช้พลังไปมาก ร่างของหลิวหรงกระเด็นลอยออกไปล้มลงกับพื้น

แค่กแค่ก!

เขาเพิ่งจะตบหลิวหรงเสร็จก็ไอสำลักเลือดออกมา ใบหน้าหล่อเหลาขาวซีดยิ่งกว่าเก่าร่างกายไร้เรี่ยวแรง

“เจ้า…” หลิงหรงเบิกตาโตด้วยความไม่เชื่อสายตา

เฟิงเทียนอวี้ถูกพิษไม่สามารถใช้พลังวิเศษได้ไม่เช่นนั้นพิษจะแพร่กระจายลึกขึ้น แต่เพียงเพราะนางว่าน่าหลานเยียนคนเลวนี่แม้จะตายก็ยังจะตีนาง?

เพราะอะไร?

เขาจึงรักนางเช่นนั้น? แม้แต่ว่าสักคำก็ไม่ได้?

“อ๊ากกก!” หลิวหรงโกรธจนแทบจะระเบิด มือนางกุมดาบสาวเท้าไปทางเฟิงเทียนอวี้อย่างรวดเร็ว “เฟิงเทียนอวี้ วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าไปอยู่กับนาง!”

ในเมื่อเจ้ารักนางเช่นนี้และไม่ยอมใช้ความรักต่อข้าแม้แต่น้อยนิด เช่นนั้นเจ้าก็ไปอยู่กับนางเสียเถอะ

เพียงก้าวได้ไม่กี่ก้าวขาของหลิวหรงก็หนักอึ้ง นางก้มลงดูก็เห็นหลินกงกงกอดขานางไว้แน่นไม่ยอมให้นางก้าวต่อไปได้แม้แต่น้อย

“ไสหัวไป!” หลิวหรงยังไม่คิดจะฆ่าหลิวกงกง

นางอยากจะเก็บไว้ทรมานเขาในวันหน้า

ดังนั้นนางจึงเพียงแค่ถีบหลิวกงกงอย่างแรง

หลิวกงกงแข็งขืนรับเท้านั้นเต็มๆ มือก็ไม่ยอมปล่อยกอดเอาไว้แน่น

“เข้ามา ใครก็ได้รีบเข้ามา รีบมาคุ้มกัน รีบมาคุ้มกันฝ่าบาทเร็ว!”

หลิวหรงถีบที่ร่างของหลิวกงกงด้วยความโกรธ “เจ้าเลิกร้องตะโกนได้แล้ว คนพวกนั้นไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถมาช่วยเขาได้! หากเจ้ายังไม่ปล่อยมือข้าจะฆ่าเจ้าก่อน!”

มุมปากหลิวกงกงมีเลือดทะลักออกมาฟันของเขาถูกหลิวหรงเตะจนหักไปหลายซี่

เท้าของนางกระแทกเข้าที่ศีรษะหลิวกงกงอย่างแรง ทุบซ้ำลงไปสองครั้ง

ขันทีสมควรตายนี่ในเมื่อเขารนหาที่ตายก็จะโทษนางไม่ได้!

แววตาหลิวหรงฉายแววโหดเหี้ยม ชักดาบออกมาฟันไปที่ศีรษะของหลิวกงกง

หลิวกงกงรู้สึกเย็นเข้าไปถึงกระดูกแต่เขาก็ไม่ปล่อยมือ

………………..

ตอนที่ 390 ฉินเฉิน (3)

เขาไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าคนในวังล้วนตายกันหมดแล้ว!

ขอเพียงช่วยยื้อเวลาให้ฮ่องเต้ได้สักนิดจะต้องมีคนมาช่วยเขาแน่! ต่อให้แค่เสียววินาทีก็ยังดี!

ลมหนาวพัดมาหลินกงกงค่อยๆ หลับตาลง ใบหน้าของเขาแฝงด้วยความเจ็บปวด

ฝ่าบาท…สุดท้ายแล้วกระหม่อมก็ไม่สามารถไปหาองค์หญิงได้

ดูเหมือนว่าองค์หญิงจะต้องอยู่เดียวดายคนเดียว…

ฉัวะ!

ทันใดนั้นดาบยาวดาบหนึ่งก็ฟันเข้ามาตัดฝ่ามือหลิวหรงขาดไปครึ่งฝ่ามือในทันที วินาทีนี้เองเสียงร้องราวกับจะขาดใจของหลิวหรงก็ดังขึ้น!

“อ๊า!”

หลินกงกงที่เดิมคิดว่าตัวเองจะตายอย่างไม่ต้องสงสัยก็พบว่าไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้น และได้ยินเสียงหลิวหรงร้องด้วยความเจ็บปวดตามมาติดๆ

เขาชะงักไป ในตอนที่หันกลับไปมองก็เห็นหญิงชุดเขียวคนหนึ่งนำคนเข้ามาจากนอกประตู

หลังจากเฟิงหลานเห็นเฟิงเทียนอวี้ปลอดภัยก็ถอนหายใจ นางเดินไปข้างหน้าทำความเคารพแล้วเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท หม่อมฉันคือเฟิงหลานแห่งหอแห่งแรก หม่อมฉันได้รับคำสั่งจากคุณชายของหม่อมฉันให้มาช่วยเหลือ”

คุณชายโปรดปรานองค์หญิง เช่นนั้นนางในฐานะผู้ใต้บัญชา ในเวลาเช่นนี้ต้องสร้างความโปรดปรานในตัวคุณชายต่อหน้าฮ่องเต้

รอคุณชายกลับมาจะต้องอารมณ์ดีแน่

หลิวหรงเลือดไหลจากมือไม่หยุดเจ็บปวดจนนางแทบเป็นลมหมดสติ

นางเสียใจแล้ว เสียใจที่พูดมากกับเฟิงเทียนอวี้ถึงเพียงนี้ ควรจะฆ่าขันทีสุนัขนี่เสียก่อนแล้วค่อยฆ่าเฟิงเทียนอวี้!

เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าคนหอแห่งแรกจะเข้ามาช่วย!

“ขอบใจ…” เฟิงเทียนอวี้ยิ้มขม

“แต่ว่าพวกเจ้าไปเถอะ ที่ต้องการจัดการกับแคว้นหลิวอวิ๋นเราคือพรรคเภสัชเทพ”

พรรคเภสัชเทพ?

ได้ยินสี่พยางค์นี้หนังศีรษะเฟิงหลานก็ชาวาบ

นี่…ไม่ใช่สี่แคว้นรวมกำลังกันหรือ? เหตุใดพรรคเภสัชเทพจึงเข้ามาร่วมด้วย?

แต่นางก็มาแล้ว หากคนของพรรคเภสัชเทพยื่นมือเข้ามาเกี่ยวจริงเช่นนั้นก็ต้องรู้ว่านางเข้ามาช่วย

ยิงธนูไปแล้วลูกศรไม่อาจหวนกลับ นางจำต้องไปต่อ!

“ฝ่าบาท พวกเรามากันแล้ว อย่างไรเสียที่ผิดใจก็ผิดใจไปแล้ว หากไม่ได้พาพระองค์ออกไปหม่อมฉันเกรงว่าจะไม่มีหน้าไปพบคุณชายอีก”

มุมปากเฟิงเทียนอวี้กระตุก “แต่ร่างกายนี้ของข้าเกรงว่าจะไม่สามารถออกไปได้แล้ว แม่นางเฟิง ข้าสามารถรบกวนให้เจ้าช่วยเรื่องหนึ่งได้หรือไม่?”

“เรื่องอะไรเพคะ? ฝ่าบาทโปรดรับสั่ง”

“พาเขาไปเถอะ”

สายตาของเฟิงเทียนอวี้มองไปทางหลินกงกง “พาเขาไป ข้าไม่อาจให้ชิงเอ๋อร์อยู่ตัวคนเดียวโดดเดี่ยวข้างกายไม่มีคนดูแลได้ หากเป็นไปได้ขอเจ้า…ช่วยข้าไปที่จวนแม่ทัพ เอาไต้เอ๋อร์กลับฮูหยินแม่ทัพไปด้วย”

เขารู้ดีแคว้นกำลังคับขัน แม่ทัพเฒ่าไม่มีทางเชื่อฟังคำเขาจากไป

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องเหลือสายเลือดตระกูลน่าหลานไว้

และถ้าทายไม่ผิด เรื่องศึกที่ชายแดนพรรคเภสัชเทพก็ยื่นมือเข้าแทรกด้วย นั่นจะต้องมีหลิงอู่อยู่ในสนามรบ จิ้งเอ๋อร์กับฉางเฉียนเกรงว่าจะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว…

เฟิงเทียนอวี้ปวดใจขึ้นมา

เหล่านั้นล้วนเป็นญาติของเยียนเอ๋อร์ แต่เขากลับไม่สามารถปกป้องได้…

“เช่นนั้นพระองค์…” เฟิงหลานมองเฟิงเทียนอวี้ด้วยความตะลึง

เฟิงเทียนอวี้ยิ้ม “ข้าไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้พาข้าไปพวกเจ้าจะเดินทางลำบาก ไม่สู้เจ้าพาไต้เอ๋อร์กับฮูหยินแม่ทัพไป อย่างน้อยให้ข้าไปอธิบายกับเยียนเอ๋อร์ได้ในใต้แหล่งน้ำบาดาลทั้งเก้า”

เดิมเขาป่วยหนักไปก็มีแต่จะพลอยทำให้ลำบาก ไม่สู้นำความหวังที่จะมีชีวิตไปให้จวนแม่ทัพ…ไม่อย่างงั้นเมื่อถึงเวลาเยียนเอ๋อร์จะตำหนิว่าเขาไม่สามารถปกป้องสายเลือดตระกูลน่าหลานได้