ตอนที่ 391 ฉินเฉิน (4)/ตอนที่ 392 ฉินเฉิน (5)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 391 ฉินเฉิน (4)

ในใจเฟิงหลานสัมผัสได้ ฮ่องเต้แคว้นหลิวอวิ๋นผู้นี้คลั่งรักเสียจริง

น่าหลานฮองเฮาตายไปนานหลายปีแล้วพระองค์ก็ยังคิดถึงไม่เคยลืม จนถึงตอนนี้ก็มีเฟิงหรูชิงกับเฟิงหรูซวงเป็นลูกสองคน

“ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย หม่อมฉันจะพาพวกนางจากไปอย่างปลอดภัยเพคะ”

เฟิงหลานเห็นเฟิงเทียนอวี้ตัดสินใจแล้วก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมอีก หันหลังเตรียมจากไป

ตอนนี้ทั้งเมืองหลวงล้วนกำลังลำบาก จวนแม่ทัพจะต้องถูกรุกรานด้วยแน่ นางต้องรีบใช้เวลาทุกวินาทีเพื่อไปช่วยคน!

ในตอนนี้เองด้านนอกตำหนักหย่างซินก็มีเสียงเฉยเมยแต่ราวกับดังกึกก้องอยู่ในหูดังขึ้น

“ในเมื่อหอแห่งแรกยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องนี้แล้วเจ้าก็ต้องอยู่ด้วย”

ร่างเฟิงหลานแข็งทื่อ สายตานางมองออกไปด้านนอกตำหนักก็เห็นร่างหลายร่างปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

“หลิงอู่ห้าคน?” สีหน้าเฟิงหลานเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองทันที

ไม่ได้บอกว่าหลิงอู่ของสี่แคว้นล้วนไปที่ประตูเมืองหรือ? เหตุใดในวังยังมีหลิงอู่เข้ามาหลายคนได้อีก?

หรือว่า…เป็นคนของพรรคเภสัชเทพ?

ไม่! ไม่น่าจะใช่ คนพรรคเภสัชเทพก็ไม่กล้าฝ่าฝืนกฎโดยไม่ได้รับอนุญาต คนผู้นั้นหลบซ่อนมานานหลายปีไม่ได้ลงมือกับเฟิงเทียนอวี้ คงจะเกรงกลัวกฎนั่น

ดังนั้นเขาไม่มีทางให้คนพรรคเภสัชเทพลงมือ มิเช่นนั้นหากทิ้งด้ามจับ[1]ไว้ชีวิตของเขาจะต้องถูกทำลาย!

“เป็นเจ้า?”

แค่กแค่ก!

เฟิงเทียนอวี้ไอสำลักเลือดออกมา สายตาของเขามองไปทางชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นนิ่งค้าง “เจ้าคือ…หลินอีโย่ว?”

ตอนแรกเขายังเป็นองค์ชายออกไปข้างนอกกับเยียนเอ๋อร์ พบกับนายน้อยตระกูลหลินที่มึนเมาผู้นี้ที่ตลาด

หลินอีโย่วไม่รู้ว่าเขามีฐานะเป็นองค์ชายกลับเห็นเยียนเอ๋อร์ก็เกิดรักแรกพบ เข้ามายั่วยุ

ผลปรากฏด้วยความโกรธเขาจึงตีหลินอีโย่วจนเกือบตาย

คิดไม่ถึงว่าเขาจะถึงระดับหลิงอู่แล้ว…

เฟิงเทียนอวี้หรี่ตาลง “เจ้าก็ใช้ยาต้องห้าม?”

หลินอีโย่วหัวเราะเยาะ “เฟิงเทียนอวี้ ตอนนั้นเจ้าดูหมิ่นข้าเช่นนั้นเคยคิดหรือไม่ว่าจะมีวันหนึ่งที่ข้าจะเหยียบอยู่เหนือหัวเจ้า?”

เฟิงเทียนอวี้ท่าทีสงบนิ่ง นอกจากตกใจในตอนแรกแล้วก็ไม่มีอารมณ์ใดอีก

หลินอีโย่วคนเดียวเขาไม่เอามาอยู่ในสายตา ที่เขากลัวมีเพียงพรรคเภสัชเทพ!

“แม่นางเฟิง” เฟิงเทียนอวี้ยิ้มอย่างจนใจ “วันนี้ข้าทำให้เจ้าลำบากแล้ว”

เฟิงหลานขมวดคิ้ว

ในบรรดาหลิงอู่เหล่านี้มีคนถึงขั้นสูงสุดแล้ว นางคนเดียวเกรงจะไม่ใช่คู่ปรับ

หากคุณชายอยู่ก็คงดี…

คุณชายไม่อยู่เหล่าผู้เฒ่าอยู่ก็ยังดี แต่กลับมีพวกนางไม่กี่คนไม่อาจปกป้องแคว้นหลิวอวิ๋นนี้ได้

หลิวหรงเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลอาบ นางมองเฟิงหลานด้วยความเกลียดชัง “ฆ่านาง ฆ่าผู้หญิงคนนี้ซะ!”

“เจ้าหุบปาก!” หลินอีโย่วสะบัดฝ่ามือไป

หลิวหรงยังไม่ทันฟื้นคืนก็ถูกพัดกระเด็นลงพื้นกระอักเลือดหน้าซีดขาว

“เจ้ากล้าตีข้า?” แววตาหลิวหรงเต็มไปด้วยความโกรธ “ข้าคือผู้หญิงของคุณชาย เจ้ากล้าตีข้า?”

“แค่คนไร้ประโยชน์เท่านั้น ผู้หญิงเช่นเจ้าสำหรับคุณชายแล้วมีหรือไม่มีก็ได้”

ยิ่งหลิวหรงที่เป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วด้วย คุณชายเพียงแค่เห็นนางใช้ประโยชน์ง่ายก็เท่านั้นไม่ใช่ไม่มีนางไม่ได้เสียหน่อย

หลังจากหลินอีโย่วพูดจบก็ชักดาบในมือออกมาแล้ว พริบตาเดียวก็มาถึงหน้าเตียง

เฟิงหลานขยับตัวเข้าหยุดฝีเท้าหลินอีโย่วเอาไว้ นางยกดาบขึ้นรับผลักดันจนหลินอีโย่วถอยหลังไปหลายก้าว

…………………….

ตอนที่ 392 ฉินเฉิน (5)

และหลิงอู่คนอื่นๆ ก็เริ่มขยับ…หอแห่งแรกคนอื่นยังไม่ถึงแม้หลิงอู่ย่อมไม่ใช่คู่ปรับของคนเหล่านี้ เพียงครู่เดียวก็ล้มเกลื่อนพื้นเลือดสีแดงย้อมวังหลวง แม้แต่แสงอาทิตย์ยังเจิดจ้ากว่าที่ผ่านมา

“สมควรตาย!” เฟิงหลานกัดฟันกรอด เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ใช่เพียงแต่จะปกป้องคนอื่นไม่ได้ แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ยังต้องมาทิ้งไว้ที่นี่

อาศัยตอนที่เฟิงหลานสนใจอย่างอื่นหลิงอู่อีกคนหนึ่งก็จู่โจมเข้ามาฝ่ามือปะทะเข้าที่บริเวณไหล่ของเฟิงหลาน

ร่างของนางเซถลาไปฝืนเอาไว้จึงจะไม่ล้มลงพื้น

“แม่นางเฟิง เจ้าไม่ต้องสนใจข้า” เฟิงเทียนอวี้เอ่ยเสียงเรียบ “ด้วยพลังของเจ้าจะออกไปไม่ใช่ปัญหายิ่งพวกเขามาเพื่อข้าโดยเฉพาะแล้วด้วย เจ้าไปเถอะ ไม่มีความจำเป็นต้องเสียสละ”

เขาไม่เข้าใจว่าเหตุใดหอแห่งแรกจึงต้องช่วยเขา แต่เขารู้ว่าเขาต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีความจำเป็นต้อง…ทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องเดือดร้อน

และเขาเฟิงเทียนอวี้ไม่เคยกลัวตาย

สิ่งเดียวที่วางไม่ลงก็คือชิงเอ๋อร์…

เฟิงเทียนอวี้ไม่รู้เรี่ยวแรงมาจากไหนฝืนลุกขึ้นจากเตียง

เขาค่อยๆ ลุกขึ้นเดินเซลงไป

แม้แต่ยืนเขายังยืนไม่มั่นแท้ๆ แต่หลังของเขากลับตั้งตรง

อย่างภาคภูมิ

หลังของชายไม่ควรค้อมลง เผชิญหน้ากับความตายก็ต้องยืดหลังให้ตั้งตรง ไม่ยอมให้ผู้ใดมาดูถูกแคว้นหลิวอวิ๋นของเขา!

“พวกเจ้าต้องการฆ่าข้า ข้าก็อยู่นี่แล้ว แต่ว่าข้าเฟิงเทียนอวี้ไม่เคยเสียใจกับการกระทำใดที่เคยทำมาก่อน!”

“หึ๊!”

หลินอีโย่วไม่พูดมากความกับเฟิงเทียนอวี้ เขาเดินไปตรงหน้าเขา มองเขาด้วยความถือตัว “เช่นนั้นข้าก็จะทำตามที่เจ้าต้องการ”

เฟิงเทียนอวี้บกมุมปากขึ้นใบหน้าไร้ความหวาดกลัว ไม่ว่าวันนี้เขาจะเป็นหรือตายความภาคภูมิใจของเขาไม่ยินยอมให้เขาเสื่อมเสียศักดิ์ศรีใด

หลินอีโย่วเงื้อดาบยาวขึ้น

“อย่า!” ดวงตาหลินกงกงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขารีบพุ่งไปทางหลินอีโย่ว

ในที่สุดกลับทำได้เพียงมองดูดาบยาวของหลินอีโย่วฟันลง

ฉึก!

เสียงอู้อี้ดังขึ้น ดาบแทงทะลุร่างเลือดสาดกระเด็นเต็มหน้าหลินกงกง

มุมปากหลินอีโย่วมีรอยยิ้มได้ใจแต่ร่างกายของเขากลับเซไปด้านหลัง ปึ้ง ล้มลงกับพื้น

เลือดสดไหลออกจากด้านหลังหลินอีโย่วย้อมทั่วพื้นแดงฉานอย่างรวดเร็ว

เห็นได้ชัดว่าหลินกงกงตกใจไม่น้อยสีหน้าขาวราวกระดาษใจสั่นไม่หยุด

ทุกคนล้วนตกตะลึง พวกเขามองหลินอีโย่วที่ล้มลงกลางกองเลือดแล้วเบนสายตาไปทางนอกประตู…

แสงอาทิตย์ราวกับไฟเจิดจ้าเบ่งบาน

ร่างบอบบางของชายหนุ่มอยู่ใต้แสงอาทิตย์นั้น เสื้อคลุมที่ดำแปลกตาคลุมตามความยาวของร่างกายเขา ใบหน้าสง่างามเย็นยะเยือก แผลเป็นสีจางด้านขวาของหน้าทำให้ใบหน้าของเขายิ่งเย็นชาขึ้นไปอีกหลายส่วน

หลิวหรงแทบจะเป็นบ้า

เมื่อครู่ตอนที่นางเกือบจะฆ่าเฟิงเทียนอวี้ คนของหอแห่งแรกก็ยื่นมือเข้ามาทำร้ายนางมือขาดไม่ครึ่งฝ่ามือ

ตอนนี้เฟิงเทียนอวี้เกือบจะตายอยู่ตรงหน้านี้แล้ว ไม่รู้เด็กหนุ่มนี่มาจากไหนกลับฆ่าระดับหลิงอู่ไป

เพราะเหตุใด…สถานการณ์แคว้นหลิวอวิ๋นเป็นเช่นนี้แล้วก็ยังมีคนเข้ามาช่วย?

“เจ้า…คือ?” สายตาเฟิงเทียนอวี้ตกตะลึงเล็กน้อย

ฉินเฉินตามเฟิงหรูชิงเข้าวังมาหลายครั้ง แต่เขาชอบความสงบจึงไม่ได้ตามนางเข้าพบเฟิงเทียนอวี้ด้วยเหตุนี้เฟิงเทียนอวี้จึงเห็นฉินเฉินเป็นครั้งแรก

ไม่รู้เพราะเหตุใดเห็นเด็กหนุ่มครั้งแรกเฟิงเทียนอวี้ก็รู้สึกดี สาเหตุอาจจะเป็นเพราะสถานการณ์เช่นนี้แล้วเด็กหนุ่มก็ยังมาช่วยเขา

……………………………..

[1] ด้ามจับ หมายถึง หลักฐาน