บทที่ 72 ต้องถอดเสื้อกั๊กของเธอออกทีละชิ้น!

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ในที่สุดชินจังก็ตอบตกลงจะไปโรงเรียน
เส้นหมี่ดีใจมาก รีบจัดกระเป๋านักเรียนให้เขา แล้วแต่งตัวให้เขาอย่างหล่อ สองคนแม่ลูกก็จูงมือกันเดินออกจากประตู จากนั้นก็ขึ้นรถตู้แล้วจากไป
เคในตอนนี้ก็มารับท่านประธานด้วยเช่นกัน เมื่อเห็นภาพนี้ เขาก็เหลือบมองไปยังเจ้านายที่ภูมิฐานและสง่างาม
“ท่านประธาน คุณวางใจให้เธอพาคุณชายเล็กไปโรงเรียนอนุบาลจริงๆเหรอครับ ?”
“มีปัญหาเหรอ?”
“เปล่าครับไม่มีครับ แค่ไม่อยากจะเชื่อ ปัญหานี้ของคุณชายเล็กแม้แต่ท่านประธานเองก็ยังเอาไม่อยู่ คุณเส้นหมี่เธอจะจัดการได้เหรอครับ?”
เครีบส่ายหัวเพื่อบ่งบอกว่าเขาไม่ได้หมายความอย่างนั้น เขาแค่สงสัยในความสามารถของผู้หญิงคนนี้
แต่ที่น่าแปลกกว่านั้นคือ ท่านประธานที่มักจะดูถูกเหยียดหยามหญิงสาวคนนั้น ในตอนนี้กลับไม่มีท่าทีอะไร ชายหนุ่มก้าวเดินด้วยท่วงท่าสบายๆ ท่าทีนิ่งเฉย เมื่อเดินมาถึงที่ตัวรถ เปิดประตูแล้วขึ้นนั่งในทันที
เค“……”
โอ้ ช่างมัน เขาไม่ถามแล้วดีกว่า
เคก็รีบตามไป แล้วขึ้นรถเช่นกัน
แต่ว่า ในตอนที่เขากำลังจะสตาร์ทรถและเดินทางไปที่บริษัท ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังและกำลังอ่านเอกสารที่ถืออยู่จู่ๆก็พูดขึ้นว่า“นายไปเช็กประวัติของเส้นหมี่ในช่วงห้าปีที่อยู่ต่างประเทศมาด้วย”
“ห๊า?”เคมองกระจกมองหลังทันที“ท่านประธานหมายความว่า ……?”
“ฉันอยากรู้ทุกอย่าง แล้วก็ รวมไปถึงเรื่องของเธอที่นี่ด้วย!”
แสนรักจ้องมองไปยังเอกสารในมือ ดวงตาดำขลับที่ลุ่มลึก แต่ก็มองไม่เห็นถึงอารมณ์ที่แท้จริง แต่น้ำเสียงที่เย็นเยือก กลับฟังออก ว่าคำพูดนี้ของเขาไม่ได้กำลังล้อเล่น
ห้าปีแล้ว ในที่สุดเขาก็นึกอยากจะรู้ประวัติของอดีตภรรยาคนนี้
โอ้ ไม่สิ พวกเขายังไม่ได้หย่ากัน เขาเป็น“หม้าย” ดังนั้นที่ตรวจสอบก็น่าจะเป็น“ภรรยาที่ตายไปแล้ว”ของเขา
เค“จิ๊”ปาก จากนั้นก็สตาร์ทรถ……
——
เป็นครั้งแรกที่เส้นหมี่ได้เห็นโรงเรียนอนุบาลที่หรูหราและอลังการขนาดนี้
โอ้แม่เจ้า นี่มันโรงเรียนอนุบาลจริงๆเหรอ?ไม่ใช่สถานศึกษาระดับสูงเหรอ? ดูอาคารเรียนที่เรียบร้อยและสวยงามนี้ รวมไปถึงพื้นที่เปิดโล่งของโรงเรียนที่เทียบได้กับสวนสาธารณะ
เอาจริงนะ หากไม่ใช่เพราะเธอยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วเห็นคนตัวเล็กตัวน้อย เธอคงคิดว่าเธออยู่ในมหาลัยสุดหรูที่ไหนสักที่แล้วจริงๆ
แต่โรงเรียนอนุบาลที่คิวคิวกับรินจังเรียนเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว มันดูเรียบง่ายกว่ามาก
เส้นหมี่รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
“คุณเป็นอะไร?”
“……เปล่า น้าเห็นโรงเรียนอนุบาลของหนู แล้วรู้สึกว่ามันสวยมาก ไปกันเถอะ น้าจะพาหนูไปหาคุณครู”
เส้นหมี่รีบจัดระเบียบอารมณ์ของตัวเอง แล้วเดินจูงมือเด็กน้อยไปที่ประตูโรงเรียน
“หืม ? นี่ชินจังไม่ใช่เหรอ? วันนี้มาโรงเรียนแล้วจริงๆเหรอ?”
เมื่อเห็นชินจัง ครูที่รับผิดชอบยืนรอรับเด็กนักเรียนที่หน้าประตู ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ
เมื่อชินจังเห็น ราวกับปฏิกิริยาตอบสนองรีบไปแอบอยู่ทางด้านหลังของหม่ามี๊ในทันที
เส้นหมี่กอดเขาเอาไว้แน่น
“ใช่ค่ะ ก่อนหน้านั้นชินชินของเราไม่ค่อยสบาย ก็เลยไม่ได้มา แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ก็เลยมาค่ะ”
“ห๊า ไม่สบายเหรอคะ ? ฉันก็คิดว่าแกไม่มาอีกแล้ว ”
คิดไม่ถึง ครูคนนี้มองไปยังชินจังที่หลบอยู่ด้านหลัง แล้วเผยให้เห็นถึงความไม่เชื่อในคำพูดของเส้นหมี่ออกมา
เส้นหมี่“……”
ช่างมัน อย่าไปสนใจพวกเขา
เส้นหมี่จูงมือลูกชาย“ ขอโทษนะคะ ฉันจะขอเข้าไปส่งแก สุขภาพของแกไม่ค่อยจะดี ฉันอยากจะพูดคุยกับคุณครูของแกค่ะ”
“คงไม่ได้หรอกค่ะ ? คุณมาที่โรงเรียนอนุบาลศรีราชาครั้งแรกเหรอคะ ? ไม่รู้กฎระเบียบของที่เหรอ ?”
“ไม่ใช่ค่ะ……”
“ผู้ปกครองท่านนี้ ครูผู้สอนของโรงเรียนอนุบาลศรีราชามีมาตรฐานสากล ทั่วทั้งเมืองต่างต้องการที่จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนที่นี่ หากคุณสงสัยว่าครูของเราจะไม่สามารถดูแลบุตรหลานของท่านได้ ก็สามารถพากลับบ้านได้เลยค่ะ!”
ครูคนนี้ ท่าทีแข็งกร้าวจะให้เส้นหมี่ปล่อยให้ชินจังเดินเข้าไปเอง หรือไม่อย่างนั้นก็ให้เธอพาเขากลับบ้านไป !
นี่มันโรงเรียนอนุบาลอะไรกัน?
ต้องทำขนาดนี้เชียวเหรอ ?
เส้นหมี่ไม่มีทางเลือก จำต้องให้เด็กน้อยเดินเข้าไปเองคนเดียว
และที่เธอไม่รู้ก็คือ โรงเรียนอนุบาลที่อยู่ตรงหน้านี้ สำหรับที่นี่แล้วถือว่าสุดยอดมากจริงๆ เด็กที่เข้าเรียนที่นี่ ในชั้นอนุบาลล้วนต้องดูภูมิหลังทางครอบครัวแล้วจึงจะรับเข้าเรียน หากไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ เขาก็ไม่รับเข้าเรียนอีก
ดังนั้น ในตอนที่มาสมัครเรียน แสนรักไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของชินจังอยู่ที่นี่ก็จึงไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบมากสักเท่าไร