บทที่ 73 ชินชินถูกรังแกที่โรงเรียนอนุบาล

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ในที่สุดเส้นหมี่ก็ทำได้เพียงมองดูเด็กน้อยเดินเข้าไปเอง
แต่ว่า ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไป เธอได้พูดปลอบโยนเขา“ชินชิน ไม่ต้องกังวลนะ น้าจะรอหนูอยู่ที่ด้านนอก ไม่ไปไหน ตอนเที่ยงหลังเลิกเรียน เราไปกินข้าวด้วยกัน ตกลงไหม ?”
“……ได้”
จากที่ต่อต้านอย่างรุนแรงและแล้วชินจังก็ตอบตกลง
อาจเพราะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ หรืออาจเพราะหม่ามี๊บอกว่าจะรออยู่ข้างนอกไม่ไปไหน จึงทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาได้บ้าง
และเส้นหมี่ก็เดินออกไป
ส่วนชินจัง ก็เดินตามคุณครูเข้าไปในห้องเรียนที่เขาไม่ได้มาเป็นเวลานาน
“หืม ?เจ้าทึ่มนี่กลับมาอีกแล้วเหรอ?”
“ใช่ๆๆ เขากลับมาอีกทำไม ? เขาถูกที่บ้านมารับตัวไปรักษาแล้วไม่ใช่เหรอ ?”
“ฮ่าๆๆๆ……”
เด็กนักเรียนในห้อง ทันทีที่เห็นชินจังปรากฏตัวขึ้น ก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที
เมื่อชินจังได้ยิน ทันใดนั้น ใบหน้าอันเล็กของเขาก็ซีดเซียว และจะหันหลังเดินจากไป
“ชินจัง เธอจะไปไหน ? ไม่เชื่อฟังอีกแล้วใช่ไหม ? ”เมื่อครูที่พาเขามาเห็นเข้า ก็คว้าตัวเขาไว้ทันที
ในที่สุดชินจังก็ถูกนำตัวกลับเข้าไปที่ห้องเรียน
เด็กที่เป็นโรคออทิซึม ในเวลาแบบนี้ อันที่จริงแล้วก็ควรจะต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ หากสามารถปลอบประโลมเขาได้ ต่อไป เขาก็จะไม่เป็นอะไร
ทว่า ก็เห็นได้ชัด ว่าครูคนนี้ไม่ได้มีความสามารถอย่างครูคนที่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนคนนั้นได้พูดเอาไว้
“นั่งอยู่ตรงนี้ อ่านหนังสือนี้ไป อย่าลุกเดินไปไหน เข้าใจไหม?”
ครูหยิบหนังสือของโรงเรียนออกมา วางไว้บนโต๊ะเล็กๆของชินจัง จากนั้นก็ให้เขาท่องจำมันให้ได้ทั้งหมด
หลังจากนั้น เธอก็พาเด็กคนอื่นๆออกไปเล่น
ท่องจำมันให้ได้ทั้งหมด ?
เด็กที่ไอคิวสูงอย่างชินจังไม่ได้สนใจอะไรไร้สาระพวกนี้เลย
ชินจังหยิบเอาหุ่นยนต์ทรานฟอร์เมอร์ออกจากกระเป๋านักเรียน ขณะที่เล่น ก็นับรอบเข็มนาฬิกาเข็มสั้นกับเข็มยาวที่หมุนอยู่ตรงผนัง รอเวลาหม่ามี๊มารับ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร มีเด็กน้อยสองสามคนแอบกลับเข้ามา
“พวกนายดูสิ เขาเอาแต่มองนาฬิกาอีกแล้ว ครูบอกให้เขาอ่านหนังสือก็ไม่อ่าน เขานี่มันโง่จริงๆหรือเปล่า?”
“นี่ยังต้องถามอีกเหรอ ? ก็ต้องโง่จริงสิ นายดูเอาว่าเขาเหมือนคนปรกติตรงไหน ?”
“นี่ เจ้าทึ่ม!!”
เด็กพวกนี้เดินเข้ามา ตรงมาที่หน้าชินจังแล้วหัวเราะเยาะขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะเด็กร่างอ้วนเจ้าเนื้อคนหนึ่ง เมื่อเห็นชินจังไม่สนใจที่ถูกพวกเขาหัวเราะเยาะ เขาก็เดินปรี่เข้ามาที่ตรงหน้าของเด็กน้อย
“นี่เจ้าทึ่ม ทำไมนายไม่พูด ? ไหนเอามาดูสิว่านายเล่นอะไรอยู่ ?”
เขาเห็นในมือของชินจังกำลังเล่นหุ่นยนต์ทรานฟอร์เมอร์อยู่ ไม่พูดไม่จาเข้ามายื้อแย่งทันที
ในที่สุดชินจังก็ตอบสนอง เขามีนิสัยแปลกๆ เป็นคนที่หวงของมาก เวลาอยู่บ้าน หากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ใครก็ห้ามแตะของของเขาเด็ดขาด
ชินจังออกแรงยื้อแย่งกลับมา ไม่ยอมให้เจ้าเด็กอ้วนเอาหุ่นยนต์ของตัวเองไป
แต่ว่า เมื่อเจ้าเด็กอ้วนเห็นเขาไม่ยอมปล่อย ก็โมโห“เจ้าทึ่มนี่กล้าไม่ให้ฉันเหรอ นี่พวกนายมาจับตัวเขาไว้ แย่งเอามันมาให้ได้”
จากนั้นเด็กพวกนี้ก็กรูกันวิ่งเข้ามา จับร่างชินจังกดไปกับโต๊ะ
ชินจังผู้น่าสงสารเดิมทีก็สุขภาพไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว ไม่นาน เขาก็หมดแรง ได้แต่มองดูของของตัวเองถูกคนอื่นแย่งไป
“เอาคืนมานะ!”
“โอ้ เจ้าทึ่มนี่พูดเป็นด้วย ได้ จะคืนให้ นายไปคุกเข่าอยู่ในห้องเล็กๆนั่น คุกเข่าจนกว่าฉันจะพอใจ แล้วฉันจะคืนของให้นาย !”
เจ้าเด็กอ้วนชี้ไปยังห้องเก็บของเล็กๆภายในห้องให้ชินจังเข้าไปคุกเข่าในนั้น
เพราะฉะนั้น เด็กบางคน ใช่ว่ายังเล็กแล้วจะไร้เดียงสาเสมอไปจริงๆ สภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตของพวกเขา และอุปนิสัยใจคอของพวกเขา มันถูกกำหนดให้เป็นพวกปีศาจ
ในที่สุดชินจังก็ถูกลากไปที่ห้องเก็บของเล็กๆนั่น เขาดิ้นรนขัดขืนยังไงก็ไม่มีประโยชน์ เด็กคนอื่นภายใต้การชี้นำของเจ้าเด็กอ้วน ก็ลากเขาเข้าไปในนั้น
จากนั้น ก็ล็อกประตูที่ด้านนอก
และทั้งหมดนี้ ครูคนนั้นก็ไม่สังเกตเห็น หรือบางทีอาจจะ แกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ได้
——
เส้นหมี่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ในโรงเรียนอนุบาล
ตอนนี้เธออยู่ในรถกำลังหาบางอย่างบนโทรศัพท์มือถือ พอเลิกเรียนแล้ว จะพาลูกชายคนโตไปกินข้าวที่ไหน ?
ขณะที่กำลังดูอยู่ จู่ๆหางตาเธอก็เหมือนจะเห็นอะไรแวบๆวิ่งผ่านไปทางหน้าต่างรถอย่างรวดเร็ว
เฮ้ย ?
นี่มันอะไรกัน ? แมวป่าเหรอ ?
เธอตกใจมาก ไม่ได้ดูโทรศัพท์มือถือต่อ โผล่หน้าออกมา
แต่ว่า เพราะเธอช้าเกินไป ตอนที่เธอมองหา ของสิ่งนั้นก็ไม่เห็นแล้ว มีเพียงประตูของโรงเรียนอนุบาลที่อยู่ไม่ไกล จู่ๆก็มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งโผล่มา
“คุณลุง ผมสายแล้ว เปิดประตูให้ผมหน่อยครับ”
“ทำไมมาสายจัง ? ต้องมาให้เร็วกว่านี้ !”
รปภ. ที่หน้าประตูโรงเรียนไม่ได้สงสัยอะไร เห็นใบหน้าเล็กๆของเด็กน้อยถูกสแกนในระบบทางเข้าออกที่ประตู ตรงนั้นก็ปรากฏชื่อ“ชินจัง”ขึ้นมา
บ่นพึมพำ แล้วเปิดประตูให้เข้าไป
“ชินจัง?เธอออกมานี่ได้ยังไง ? ให้เธอนั่งอ่านหนังสือในห้องไม่ใช่เหรอ ?”