ตอนที่ 124 จริงๆ เเล้วเธอสนใจเขา

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“แอนนี่ เธอเป็นอะไรไปน่ะ?” สวีหว่านเอ๋อร์แสร้งถามอย่างเป็นห่วง
แอนนี่ทำตัวไม่ถูก ก่อนจะดึงกระโปรงแต่กลับปิดไม่อยู่จึงทำได้เพียงยิ้มเขินๆ “เผลอล้มน่ะ”
“โอ้ อย่างนั้นเองหรอกเหรอ” สวีหว่านเอ๋อร์ไม่ได้พูดขัด และพูดด้วยท่าทีมีน้ำใจว่า “ไปนั่งห้องฉันกันไหม ห้องฉันมียาทาอยู่นะ รอยช้ำมันหนักเดี๋ยวจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้จะไม่ดีนะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณสวีหน่อยนะคะ” แอนนี่พยักหน้า เธอถูกโจเซฟทรมานจนร่างกายเจ็บจนแทบแหลก และตอนนี้อยากจะพักพอดี
สวีหว่านเอ๋อร์พาแอนี่เข้าห้องตัวเองก็จะหยิบยาออกมาให้
“ขอบคุณนะ” แอนนี่ประทับใจ
“กับบรูซเป็นยังไงบ้างคะ?” สวีว่านเอ๋อร์ถามทั้งที่รู้
เมื่อได้ยินบรูซ ดวงตาของแอนนี่ก็หรี่ลงทันที
“เราเลิกกันแล้วค่ะะ” น้ำเสียงของแอนนี่ค่อนข้างเศร้าและไม่พอใจ
“ทำไมถึงเลิกกันล่ะคะ? เป็นเพราะเรื่องในงานเลี้ยงวันนั้นเหรอคะ?” สวีหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่สนใจ
แอนนี่กัดริมฝีปาก “เป็นเพราะซูฉิง! ทั้งหมดเป็นเพราะซูฉิงนั่นแหละ!”
ไวน์แดงแก้วนั้นที่งานเลี้ยงเห็นได้ชัดว่าให้ซูฉิงดื่ม แต่ซูฉิงกลับแกล้งดื่มเพื่อหลอกเธอก่อนจะกรอกไวน์เข้าปากเธอจนทำให้เธอดูน่าเกลียดต่อหน้าทุกคน!
ถ้าไม่ใช่เพราะซูฉิง แล้วบรูซจะเลิกกับเธอได้ยังไง และเธอจะถูกลดตัวลงจนต้องไปนอนกับโจเซฟเพื่อรับบทได้ยังไงล่ะ
สวีหว่านเอ๋อร์ทำท่าทางใหญ่โต “ที่แท้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นก็เป็นเพราะซูฉิงเป็นคนสร้างขึ้นมางั้นเหรอเนี่ย”
“ใช่ หล่อนนั่แหละ!” เมื่อพูดถึงซูฉิง แอนนี่กัดฟันด้วยความเกลียดชัง
“ซูฉิงมีดีอะไร? นอกจากยั่วยวนผู้ชายได้แล้ว เธอทำอะไรได้อีก?” สวีหว่านเอ๋อร์รี่ตาลง “ที่จริงแล้ว ถ้าต้องการให้บรูซเปลี่ยนใจนั้นง่ายมาก”
“คุณสวีมีวิธีทำให้บรูซเปลี่ยนใจเหรอคะ?” แอนนี่ที่ได้ยินอย่างนั้นจึงถามอย่างกระตือรือร้น
ถ้าทำบรูซเปลี่ยนใจได้ เธอก็พร้อมทุ่มเททำทุกอย่าง!
สวีหว่านเอ๋อร์ยิ้มและพูดว่า “ที่บรูซเลิกกับคุณ อาจเป็นเพราะหลงเสน่ห์ของซูฉิง ตราบใดที่ทำให้บรูซสามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูฉิง ทำให้หล่อนยอมรับว่าวันนั้นใส่ร้ายคุณก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ซูฉิงจะไปยอมรับได้ยังไงล่ะ!” แอนนี่พูดอย่างโกรธเคือง
สวีหว่านเอ๋อร์ก้าวไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของแอนนี่ครู่หนึ่ง
แอนนี่ยิ้มออก “คราวนี้ ซูฉิงตายศพไม่สวยแน่!”

กลางคืนมืดครึ้ม
ซูฉิงนอนอยู่บนเตียง พลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ
ในหัว คำพูดที่ฮ่อหยุนเฉิงบอกรักกับเธอบนชิงช้าสวรรค์สลับกันกับคำพูดที่เขาโพล่งออกมาในห้องสองคำนั้น “ถังถัง”
ใจเธอสบสนราวกับมีเรื่องวุ่นวาย จนไม่สามารถตัดสินใจได้
จู่ๆ ซูฉิงก็ลุกขึ้นนั่งก่อนจะโทรหายวี๋น่า “ไปบาร์แล้วดื่มกับฉันทีสิ!”
ยวี๋น่าที่กำลังหลับสบาย แต่ถูกปลุกด้วยสายโทรศัพท์จากซูฉิง และเธอก็พูดอย่างหมดคำพูด “สาวคะ ดูเวลาหน่อยสิว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ เธอเป็นอะไรน่ะ?”
“ฉันอารมณ์ไม่ดี” ซูฉิงพูดอย่างขุ่นเคือง
ยวี๋น่าตื่นขึ้นและถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไป?”
“เจอแล้วค่อยว่ากัน” ซูฉิงพูดเบาๆ
ยวี๋น่าลุกขึ้นหยิบกุญแจรถ “ส่งที่อยู่โรงแรมเธอมา เดี๋ยวฉันไปรับ”
ซูฉิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเดินออกจากห้อง และรอยวี๋น่าอยู่ที่ล็อบบี้
แอนนี่ออกมาจากห้องของสวีหว่านเอ๋อร์และกำลังจะกลับก็เห็นซูฉิงที่ยืนอยู่ตรงประตู
เธอรีบซ่อนตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง
เมื่อกี้ได้ยินจากสวีหว่านเอ๋อร์ว่าซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงเองก็พักอยู่ที่โรงแรมนี้ด้วย
ดึกขนาดนี้แล้ว ซูฉิงมายืนทำอะไรคนเดียวที่ประตู?
แอนนี่จ้องไปที่ซูฉิงอย่างโกรธเคือง หรือว่าเธอแอบนัดผู้ชายคนอื่นโดยไม่บอกฮ่อหยุนเฉิงกลางดึก?
ในขณะนั้นเอง รถของยวี๋น่าก็เข้ามาจอดข้างซูฉิง หล่อนเปิดหน้าต่าง “ซูฉิง ขึ้นรถ!”
ซูฉิงเปิดประตูและเข้าไปนั่งข้างคนขับ
แอนนี่เห็นเพียงซูฉิงขึ้นไปนั่งบนรถมาเซราติสีขาว แต่ไม่เห็นคนในรถ
ตามสัญชาตญาณ ซูฉิงต้องแอบไปกับผู้ชายแน่
แอนนี่รีบเรียกแท็กซี่ “ช่วยฉันตามรถที่อยู่ข้างหน้าไปที”
ยวี๋น่าเหลือบมองซูฉิงที่อยู่ข้างๆ “เธอเป็นอะไรน่ะ? ฮ่อหยุนเฉิงทำให้คุณซูของฉันโกรธอีกแล้วใช่ไหม?”
“อย่าพูดถึงเขา!” ทันทีที่เธอได้ยิน สีหน้าก็พลันดูไม่ดีทันที
ยวี๋น่ายิ้ม ดูท่าเธอจะเดาถูกอีกแล้ว
นอกจากฮ่อหยุนเฉิงแล้ว จะมีใครอีกที่สามารถทำให้ซูฉิงโกรธได้ขนาดนี้?
ยวี๋น่าพาซูฉิงมาที่บาร์ ก่อนจะหามุมนั่ง ทั้งยังรินไวน์แดงให้อีกคน “คุณซู ไหนว่ามาซิว่าฮ่อหยุนเฉิงเขาไปทำอะไรให้เธอโกรธ?”
ซูฉิงหยิบแก้วขึ้นมาดื่ม “ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน”
“ห๊ะ?” ยวี๋น่าทำหน้างง
ซูฉิงรินไวน์ให้ตัวเองแล้วเขย่าแก้วเบาๆ “ใจฮ่อหยุนเฉิงรักผู้หญิงคนหนึ่งมาตลอด”
ซูฉิงบอกยวี๋น่าสั้นๆ เกี่ยวกับฮ่อหยุนเฉิงและถังถัง
ยวี๋น่าพยักหน้า “เพราะอย่างนั้นเธอเลยคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงคิดว่าเธอเป็นตัวแทนของถังถังสินะ?”
“แล้วมันไม่ใช่หรือไง” ซูฉิงหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะครุ่นคิดอย่างหนัก
“ฉันกลับไม่คิดอย่างนั้นนะ” ยวี๋นาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ในเมื่อฮ่อหยุนเฉิงกำลังจีบเธอ ทำไมเธอถึงไปยึดติดมันมากขนาดนั้น?”
“ฉันเป็นคนรักความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความสัมพันธ์” ซูฉิงพูดเสียงเรียบ “ฉันจะไม่มีวันยอมให้คนสำคัญในอนาคตของฉันมีใครในหัวใจหรอก”
“เอาล่ะ…แล้วเฉินจุนเหยียนล่ะ เขาอุทิศใจให้กับเธอ แต่เธอก็ยังไม่ชอบเขาอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?” ยวี๋น่าทำปากมุ่ย “แล้วถ้าเฉินจุนเหยียนมีคนในใจ เธอจะใส่ใจไหม?”
ซูฉิงใส่ใจอย่างมากเกี่ยวกับความรักของฮ่อหยุนเฉิงที่มีต่อผู้หญิงอีกคน ไม่ได้หมายความว่าเธอสนใจเขาจริงๆ หรอกเหรอ?
“เฉินจุนเหยียน?” ซูฉิงตกตะลึง “เราเป็นแค่เพื่อนกัน เขาจะมีใครในใจแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?”
“โอ้ งั้นก็ใช่แล้วล่ะ” ยวี๋น่าพูดอย่างเฉียบขาด “ซูฉิง เธอตกหลุมรักฮ่อหยุนเฉิงเข้าแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นเธอจะไปใส่ใจคนที่ชื่อถังถังนั่นขนาดนั้นทำไม?”
“อย่างนั้นเหรอ?” ซูฉิงนวดขมับอย่างหงุดหงิด “เธอช่วยหยุดพูดถึงเขาได้ไหม?”
เมื่อเห็นท่าทางของซูฉิงที่ไม่รู้เรื่องความรัก ยวี๋น่าจึงยิ้มอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องถาม “งานประมูลการกุศลในคืนพรุ่งนี้ หัวหน้าใหญ่อย่างเธอจะไปไหม?”
“ไปสิ” ซูฉิงพยักหน้า
การประมูลเพื่อการกุศลในคืนพรุ่งนี้เป็นลีโอสตูดิโอที่เป็นผู้สนับสนุนและผู้นำ เดิมทีซูฉิงไม่ได้คิดจะเข้าร่วม แต่จู่ๆ ตอนนี้เธอก็เกิดอยากไป
แอนนี่นั่งแท็กซี่มาที่บาร์ ปิดหน้าปืดตาด้วยหมวกก่อนจะมองรอบๆ เพื่อหาซูฉิง
คงจะวิเศษมากถ้าเธอเห็นว่าผู้ชายคนไหนที่ซูฉิงแอบมานัดเดทด้วย
ซูฉิงทำร้ายเธอขนาดนี้ เธอต้องเอาคืนเป็นร้อยเป็นพันเท่าให้ได้!