ตอนที่ 371 เธอไม่เคยเหมือนใคร / ตอนที่ 372 ความเจ้าเล่ห์ของคุณชายหาน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 371 เธอไม่เคยเหมือนใคร

 

 

เลขาตะลึงไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็เข้าใจความหมายในคำพูดนั้น

 

 

พวกเขาแค่จัดการประธานซูคนเดียว ไม่ได้จัดการคู่ค้าคนอื่นสักหน่อย

 

 

จบการร่วมมือกับบริษัททีเอสอย่างรุนแรงแบบนี้ เท่ากับตักเตือนคนอื่นไปพร้อมๆ กัน

 

 

ถ้าหากยังมีใจเป็นอื่นอีก ก็ต้องรับผิดชอบผลลัพธ์เอง!

 

 

สีหน้าของเลขาพลันตื่นเต้นขึ้นมา

 

 

ความโมโหที่อัดอั้นอยู่ราวกับหายไปในทันที

 

 

สีหน้าที่เธอมองเหนียนเสี่ยวมู่ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน!

 

 

ทีแรกพวกเขาเคยสงสัยความสามารถของเหนียนเสี่ยวมู่ เพราะเธอได้ลงมาทำงานที่นี่

 

 

ครั้นเหนียนเสี่ยวมู่จัดการงานได้สำเร็จลุล่วงครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ทำให้พวกเขายอมรับได้

 

 

แต่ทำงานสำเร็จกับจัดการทั้งแผนกก็เป็นคนละเรื่องกัน แม้ทุกคนจะไม่ได้พูด แต่เรื่องที่บริษัทตระกูลฟ่านแย่งลูกค้าหลายครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ในใจของพวกเขากังวลขึ้นมาบ้าง

 

 

และกลัวว่าเหนียนเสี่ยวมู่ขึ้นมารับตำแหน่งใหม่ ทำให้มัดใจลูกค้าเก่าบางคนไว้ไม่ได้

 

 

วันนี้เลขาได้เห็นวิธีการและความเจ้าเล่ห์ของเธอแล้ว สุดท้ายความกังวลภายใจจึงหายไปจนหมดสิ้น

 

 

หญิงสาวหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมากอด ก่อนจะโค้งตัวด้วยความนอบน้อม

 

 

“ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ค่ะ!”

 

 

เงาร่างของเลขาเพิ่งหายไป เหนียนเสี่ยวมู่ก็ไม่ได้ว่าง

 

 

จัดการลูกค้าที่มีใจเป็นอื่นครั้งนี้ด้วยวิธีขู่ให้กลัว แต่การทำธุจกิจจริงๆ ยังต้องมองผลกำไรที่จับต้องได้

 

 

อยากให้ลูกค้ามีใจเอนเอียงมาหาพวกเขา ก็ต้องดึงแผนร่วมงานที่พอจะทำให้คนอื่นหวั่นไหวออกมา

 

 

วินวินกันทั้งสองฝ่าย ถึงจะเป็นวิธีการที่ยั่งยืน!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยื่นมือไปต่อสายใน

 

 

“เสี่ยวเสี่ยว คุณช่วยฉันติดต่อประธานอันที บอกเขาว่าเตรียมสัญญาเรียบร้อยแล้ว ถามว่าเขาสะดวกเวลาไหน ฉันจะไปคุยกับเขาด้วยตัวเอง!”

 

 

จากนั้นเธอก็วางสาย หลังจากเก็บของคร่าวๆ แล้ว เธอถึงออกจากห้องทำงานไป

 

 

ทางเสี่ยวเสี่ยวส่งข่าวมาแล้ว

 

 

“วันนี้ประธานเฉินนัดตีกอล์ฟกับเพื่อนค่ะ บอกว่าจะว่างตอนกลางวัน ให้ผู้จัดการเหนียนไปพบเขาได้โดยตรงเลย”

 

 

เสี่ยวเสี่ยวพูดพลางส่งที่อยู่ในเหนียนเนียนเสี่ยวมู่

 

 

หญิงสาวกวาดสายตามองครั้งหนึ่ง จำที่อยู่นี้ได้

 

 

“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”

 

 

ครั้นพูดจบ เลขาก็นำสัญญาที่เตรียมเรียบร้อยแล้วมาให้เธอ

 

 

“ผู้จัดการเหนียน ต้องให้ฉันไปด้วยไหมคะ” เลขาถามอย่างนอบน้อม

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ไปเจรจากับประธานอันครั้งแรก จัดการเองได้ค่ะ คุณไปทำงานอื่นที่ฉันสั่งไว้เถอะ”

 

 

หลังจากพูดจบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตบไหล่ของเลขาเบาๆ แล้วนำสัญญาออกจากบริษัทไป

 

 

ประธานอันอยู่ในคลับกอล์ฟที่มีชื่อเสียง

 

 

นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงมากมาย ต่างก็ชอบมาตีกอล์ฟเพื่อผ่อนคลายที่นี่

 

 

ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งรับช่วงต่อแผนกประชาสัมพันธ์ เธอศึกษาความชอบของลูกค้าคนสำคัญแล้ว นับว่าคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้

 

 

บรรยากาศดี การเก็บความลับดีเยี่ยม การบริการครบครัน

 

 

เธอเพิ่งลงจากรถ ก็มีคนเข้ามาถามว่า “คุณมีนัดไว้ไหมคะ”

 

 

“ฉันชื่อเหนียนเสี่ยวมู่ มาหาประธานอันค่ะ รบกวนคุณช่วยบอกเขาทีค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่พูดจบ ก็เห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยโทรศัพท์ ก่อนจะหันหน้าไปพิจารณารอบข้าง

 

 

สนามกอล์ฟรูปแบบส่วนตัว มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก

 

 

ทิวทัศน์ก็สวยงาม

 

 

เธอกวาดสายตามองครั้งหนึ่ง กำลังจะถามพนักงานรักษาความปลอดภัย ว่าเธอเข้าไปได้หรือยัง

 

 

ทันทีที่หมุนตัว เธอพลันเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยนั่งอยู่ในรถฝั่งตรงข้าม

 

 

หญิงสาวตะลึงงัน ก่อนจะหันกลับไปมองอีกครั้ง แต่รถเคลื่อนตัวเข้าไปในคลับแล้ว

 

 

เธอมองผิดไปหรือเปล่า

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำลังเหม่อมอง พนักงานรักษาปลอดภัยจึงเดินมาข้างๆ เธอ “คุณเหนียนครับ ขออภัยที่ทำให้คุณรอนาน ประธานบอกว่า ให้เชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”

 

 

เมื่อดึงสติกลับมาได้ เธอก็ถือกระเป๋าเดินเข้าไป โดยไม่คิดมากอีก

 

 

หลังจากนั้น เธอก็เห็นประธานอันยืนรออยู่ตรงประตูส่วนพักผ่อนแล้ว

 

 

 

 

ตอนที่ 372 ความเจ้าเล่ห์ของคุณชายหาน

 

 

ตอนอวี๋เยว่หานรับช่วงต่อบริษัทตระกูลอวี๋ ประธานอันก็ร่วมงานกับพวกเขามาโดยตลอด

 

 

หากพูดถึงลำดับอาวุโส เขาก็เป็นผู้อาวุโสของอวี๋เยว่หาน

 

 

แต่เขาคนนี้เห็นเรื่องธุรกิจเป็นสำคัญมาโดยตลอด ไม่ค่อยจะวางท่าสักเท่าไหร่

 

 

ตอนนี้ได้ยินว่าเหนียนเสี่ยวมู่มาคุยเรื่องสัญญากับเขาด้วยตัวเอง จึงมายืนรอเธอที่หน้าประตูพักใหญ่แล้ว

 

 

เขาจำเหนียนเสี่ยวมู่ได้ จึงเดินเข้ามาหาเอง “ผู้จัดการเหนียน พอดีว่าผมนัดเพื่อนที่คลับนี้ ไปไหนไม่ได้จริงๆ เลยต้องลำบากให้คุณมา!”

 

 

“ประธานอันเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ คุณเชิญฉันกินข้าวแล้ว แบบนี้ถือว่าฉันได้กำไรนะคะ” เหนียนเสี่ยวมู่จับมือของเขา พลางยิ้มทักทาย

 

 

คุณมาฉันอยู่ ทุกคนต้องเกรงใจอยู่แล้ว

 

 

ทั้งสองคนเดินเข้าไปข้างในท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้น

 

 

เมื่อการพูดคุยกันเกี่ยวพันถึงการร่วมมือทางธุรกิจ ประธานอันจึงจองห้องส่วนตัว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ทำอะไรเปิดเผยมาโดยตลอด เมื่อเข้าไปนั่งแล้ว เธอก็ส่งสัญญาให้ประธานอัน “มีหลายส่วนในสัญญาที่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ แต่ด้วยผลประโยชน์แล้ว ฉันทำการปรับแก้ไปแล้วค่ะ ประธานอันลองดูนะคะ ว่ามีความเห็นอะไรหรือเปล่า”

 

 

หลังจากได้ยินดังนั้น ประธานอันก็เปิดสัญญาในมือ เมื่อกวาดสายตามองส่วนที่เธอพูดถึงแล้ว เขาพลันยิ้มมุมปากทันที

 

 

“เพิ่มผลกำไรส่วนหนึ่งให้ผมเหรอ”

 

 

กำไรส่วนหนึ่งเต็มๆ เชียวนะ!

 

 

ตามการคำนวณกำไรจากหนึ่งไตรมาส ก็เป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย

 

 

ทำไมถึงให้เขาล่ะ

 

 

ประธานอันเหมือนจะสงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงอ่านซ้ำอีกหลายครั้ง แต่ตัวเลขบนนั้นก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

เขายื่นมือไปดันกรอบแว่นบนสันจมูก ก่อนจะมองไปทางเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

“คุณชายหานรู้เรื่องนี้ไหม”

 

 

“ไม่รู้ค่ะ” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบเขาไปตรงๆ

 

 

อีกฝ่ายพลันตะลึง แล้วจึงปิดสัญญา พลางโบกมือ “อย่างนั้นคงไม่ได้ ถ้าเซ็นสัญญานี้ไปจริงๆ ผมกลัวว่าคุณชายหานจะยกเลิกในภายหลัง!”

 

 

ความเจ้าเล่ห์ของอวี๋เยว่หาน เป็นที่ขึ้นชื่อในวงการธุรกิจนะ!

 

 

“ประธานอันวางใจเถอะค่ะ เขาไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอน” เหนียนเสี่ยวมู่ยิ้มตอบ แล้วยื่นสัญญาให้เขา

 

 

รอยยิ้มหวานเหมือนกระต่ายสีขาวตัวน้อยที่ไร้เดียงสา

 

 

แต่ในแววตากลับซุกซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้

 

 

ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจจะดูไม่ออก แต่ประธานอันนับว่าเป็นคนที่มีประสบการณ์โชกโชนอยู่ในวงการธุรกิจมาหลายสิบปีแล้ว

 

 

ไม่นานเขาก็ตอบกลับมา “มีเงื่อนไขไหม”

 

 

“เจรจาธุกิจกับคนฉลาดอย่างประธานอันเนี่ย ฉันมีความสุขมากเลยค่ะ ไม่มีเงื่อนไขอะไร แค่มีเรื่องเล็กน้อยอยากให้ประธานอันช่วยสักหน่อย…” เหนียนเสี่ยวมู่พูดพร้อมรอยยิ้มกริ่ม

 

 

จัดการประธานซู ก็เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู

 

 

ให้ผลประโยชน์กับประธานอัน ก็เพื่อเป็นการปลอบใจ

 

 

หากมีใครรู้เข้า เช่นคนที่ร่วมงานกับบริษัทตระกูลอวี๋มาหลายปีอย่างประธานอัน คนที่รักเดียวใจเดียวแบบนี้ สุดท้ายแล้ววินวินทั้งสองฝ่ายแน่นอน

 

 

ทั้งอ่อนโยนและเข้มแข็ง พวกเขาถึงจะไม่รู้สึกถึงการใช้อำนาจบาตรใหญ่

 

 

ประธานอันก็เป็นคนเก่าคนแก่คนหนึ่ง

 

 

หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ เขาพลันหัวเราะเสียงสดใสออกมา “สมแล้วที่ผู้จัดการเหนียนเป็นคนเก่งที่คุณชายหานได้มา มีโลกทัศน์กับความเจ้าเล่ห์ไม่แพ้ผู้ชายเลย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในบริษัทตระกูลอวี๋อยู่แล้ว ผมคงอดไม่ได้ ต้องแย่งคุณมาแน่นอน!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตาเป็นประกาย “พูดแบบนี้ ประธานอันรับข้อเสนอของฉันแล้วใช่ไหมคะ”

 

 

“ก็แค่ช่วยพวกคุพูดคำหวานๆ สองสามคำเท่านั้น แลกกับผลกำไรหนึ่งส่วน เท่ากับผมได้กำไรอยู่แล้ว!” ประธานอันนำปากกาออกมาเซ็นชื่อบนสัญญา แล้วยื่นให้เหนียนเสี่ยวมู่

 

 

“สัญญาราบรื่น!”

 

 

“สัญญาราบรื่น!”

 

 

เจรจางานเรียบร้อย บรรยากาศมื้อกลางวันจึงครึกครื้นยิ่งขึ้น

 

 

เมื่อถึงเวลาที่เหนียนเสี่ยวมู่ต้องกลับ ประธานอันก็ส่งเธอออกจากห้องอาหารด้วยตัวเอง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งออกไป ก็ชนกับใครบางคนเข้าอย่างจัง!

 

 

หลังจากยืนมั่งคงแล้ว และมองเห็นคนตรงหน้าชัดเจน เธอพลันตะลึงงัน “ฟ่านอวี่…คุณมาอยู่ที่นีได้ยังไง”

 

 

เขาคงไม่ได้คิดจะแย่งลูกค้าเธออีกใช่ไหม!

 

 

จากนั้นเธอก็ยิ้มแป้น “ขอโทษทีนะ คุณลงมือช้าเกินไป ฉันเพิ่งเซ็นสัญญากับประธานอัน”