บทที่ 170 ใบหน้ากรุณา รัศมีอำนาจกดข่ม

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 170 ใบหน้ากรุณา รัศมีอำนาจกดข่ม

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือดูเป็นผู้คลั่งไคล้ภักดีของฉีเซ่าเสวียนอย่างชัดเจน เวลาพูดถึงฉีเซ่าเสวียนจะหน้าบานเป็นกระด้งทันที

“ของเหลวศักดิ์สิทธิ์พวกนี้มากพอจะช่วยให้อาการบาดเจ็บแห่งมหามรรคของศิษย์พี่ฟางฉางนิ่งลงได้ ต่อให้แย่กว่านี้ก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้ ศิษย์พี่เซ่าเสวียนบอกว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานพวกนี้ เขาจะให้เป็นของขวัญพบหน้ากันกับศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซี

ถ้าศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซียินดีติดตามเขา ตบแต่งเป็นคู่ชีวิตกับเขา ให้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์มากกว่านี้ก็เป็นเรื่องง่ายๆ ถึงตอนนั้นศิษย์พี่ฟางฉางอาจจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บแห่งมหามรรคได้ทั้งหมด กระทั่งทุบแก่นพลังให้เป็นดรุณก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือยิ้มอย่างมั่นใจ

ได้รับความสนใจจากศิษย์พี่เซ่าเสวียนนั่นคือความโชคดีของจางอวิ๋นซี

ในสายตาของเขา ลำพังแค่จางอวิ๋นซีไม่คู่ควรกับศิษย์พี่เซ่าเสวียนเลย

แต่ในเมื่อฉีเซ่าเสวียนกำชับให้เขามาสู่ขอยังแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เขาก็ขัดคำสั่งไม่ได้เช่นกัน ถึงอย่างไรแม้จะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน แต่ฉีเซ่าเสวียนที่มี ‘คุณสมบัติมหาจักรพรรดิ’ อยู่คนละระดับกับเขาเลย

เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์คนแรกที่เลือกติดตามฉีเซ่าเสวียน หากภายภาคหน้าฉีเซ่าเสวียนไร้พ่ายได้เป็นจักรพรรดิ เช่นนั้นเขาจะเป็นผู้ติดตามที่สำคัญที่สุดของฉีเซ่าเสวียน มีหรือจะไม่ได้มหาโชคลิขิต

อย่างอื่นไม่ว่า แค่มอบของเหลวศักดิ์สิทธิ์ให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เท่านั้น

จริงๆ แล้วฉีเซ่าเสวียนไม่ได้มีแค่ขวดเดียวเลย ฉีเซ่าเสวียนได้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมากกว่าร้อยชั่งในระหว่างการเดินทางฝึกฝนครั้งหนึ่ง

ในขวดที่ให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เป็นแค่หนึ่งชั่งเล็กๆ เท่านั้น ส่วนเฉินจงเทียนบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็ได้แบ่งจากฉีเซ่าเสวียนมาหนึ่งชั่งเช่นกัน

และเพราะของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานหนึ่งชั่งนี้เอง ที่ทำให้เฉินจงเทียนสำเร็จแก่นพลังทองรอบแปดและมาอยู่อันดับสี่ในรายนามแก่นพลังทอง

ถ้าไม่มีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานชั่งนั้นช่วย ด้วยศักยภาพจริงๆ ของเขาคงได้อย่างมากสุดอันดับสิบในรายนามแก่นพลังทอง ด้วยเหตุนี้ เฉินจงเทียนจึงไม่ได้เพ้อฝันจะทะลวงแก่นพลังทองรอบเก้า

หลังจากปรับเสถียรภาพแก่นพลังทองรอบแปดแล้วก็เลือกจะทุบแก่นพลังสร้างเป็นดรุณอย่างแน่วแน่ ในมุมมองเขา ขอแค่กอดต้นขาศิษย์พี่ฉีเซ่าเสวียนไว้ให้แน่นก็มากพอจะบรรลุเซียนแล้ว!

……..

เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินจงเทียน จางอวิ๋นถิงขมวดคิ้วมุ่น ‘เจ้าสุนัขรับใช้เฉินจงเทียนหน้าซื่อใจเหี้ยมเกินไปแล้ว ผู้สืบทอดแกนหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาทั้งหมดรู้กันดีว่าศิษย์พี่ใหญ่รักซีเอ๋อร์ยากจะถอนตัวมาตลอด ศิษย์พี่ใหญ่แบกรับภาระมาตลอด พลังบำเพ็ญสิ้นมันจะทำให้เขาทุกข์ใจมากแล้ว จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงใช้ซีเอ๋อร์แลกชีวิตกลับมา

อะไรคือถ้าซีเอ๋อร์ยินดีจะตบแต่งกับฉีเซ่าเสวียน เขาก็จะได้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมากกว่านี้ แต่ถ้าจะใช้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานของฉีเซ่าเสวียนจริงๆ ต่อให้ฟื้นพลังบำเพ็ญกระทั่งทะลวงแก่นพลังทองรอบเก้า

ศิษย์พี่ใหญ่จะต้องลบความยึดมั่นลงไม่ได้เช่นกัน ถึงตอนนั้นจิตมารพันกาย ศิษย์พี่ใหญ่ก็พิการแล้ว!’

ในรุ่นเยาว์นั้น จางอวิ๋นถิงรับนิสัย ‘รักการอ่าน อ่านหนังสือดี’ ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มา จึงมองแผนการของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเฉินจงเทียนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงฉีเซ่าเสวียนออกอย่างชัดเจนที่สุด

แต่แม้เขาจะรู้ว่าเจ้าสองคนนี้คิดไม่ดี ตอนนี้ก็จะโกรธกันไม่ได้ ได้แต่ต้องขอบคุณอย่างนุ่มนวล เพราะไม่ว่าจะจากมารยาทหรือจากน้ำใจ บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือก็ทำได้แบบไร้ที่ติ

นี่คือแผนการอย่างโจ่งแจ้ง เจ้าจะไม่สนใจความเป็นตายของฟางฉาง ไม่รับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานนี่เอาไว้หรือ ขอแค่เจ้าอยากช่วยฟางฉาง เช่นนั้นก็ต้องยอมบีบจมูกยืนถูกทุบตีอย่างว่านอนสอนง่าย

ส่วนถ้าเหล่าผู้อาวุโสระดับหลอมรวมเทพพวกนั้นจะลงมือสั่งสอนเฉินจงเทียนเลยล่ะ

เหอะๆ นั่นไม่ช่วยกู้หน้าให้แดนศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย ในทางตรงข้ามหากแพร่งพรายออกไป จะมีแต่เสียหน้ายิ่งกว่าเดิม

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแขกอย่างสุภาพ พวกเจ้าจะรังแกคนที่อ่อนแอกว่าหรือ

เวลานี้ทุกคนทั้งยอดเขาบัวขาวต่างโกรธแค้นอยู่เต็มอก

อืม มีเพียงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ไร้ความรู้สึกกับนักพรตชราไม่มีหนังหน้าเท่านั้นที่ยังสงบนิ่งมาก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เก็บของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานไปอย่างสงบนิ่ง “แม้จะไม่พอใช้ แต่ก็ต้องขอบใจมาก ส่วนเรื่องซีเอ๋อร์กับบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง ก็ให้ซีเอ๋อร์ตัดสินใจเองเถอะ! ข้าจะไม่ตัดสินอย่างเผด็จการ”

เมื่อเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เก็บของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยแล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเฉินจงเทียนยังอดอึ้งไปมิได้

บทนี้มันไม่ถูกต้องนะ!

ข้าโอ้อวดอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้แล้ว กระทั่งด้อยค่าฟางฉางราวกับกิ้งก่าได้ทองเช่นนี้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เจ้าไม่ควรจะโมโหไม่ยอมรับความอัปยศหรือ จากนั้นก็ปาของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกลับมาด้วยความโกรธ ให้ข้าเอากลับไปไม่ใช่รึ

ดังนั้น ข้าก็จะเอาของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกลับไป

แต่ศิษย์พี่ฉีเซ่าเสวียนเป็นคนระดับใด ให้ของแล้วจะเอาคืนได้อย่างไร

ในเมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่รับ เช่นนั้นก็มีโอกาสสูงที่ศิษย์พี่จะมอบให้ข้า

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือกดลูกคิดตามใจดังตึกๆๆ แต่ไม่นึกเลยว่าบทจะถูกแก้

เวลานี้บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือยืนอึ้งอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ผงะไปเลย

ผ่านไปนานเขาถึงกลืนน้ำลายลงคอ “ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานนี่ให้ศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซี”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “ข้ารู้ ข้าแค่รับแทนซีเอ๋อร์เท่านั้น มีอะไร บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงจะให้ของขวัญพบหน้าซีเอ๋อร์ยังต้องมีเงื่อนไขด้วยรึ”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือหน้าแดงขึ้นมา “คะ…คือว่าไม่มี”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “ในเมื่อไม่มี เช่นนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือจะสงสัยอะไร”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “ศิษย์พี่เซ่าเสวียนกับศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซีเหมาะสมกับอย่างกับกิ่งทองใบหยก ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ท่านไม่ตรึกตรองหน่อยจริงๆ หรือ ศิษย์พี่เซ่าเสวียนเคยบอกว่า ขอแค่…”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขัดคำพูดของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ “ความจริงแล้ว บุตรสาวข้ามีคนในใจมานานแล้ว”

เมื่อเอ่ยจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็หันมามองเสิ่นเทียนข้างๆ “เทียนเอ๋อร์ มานี่หน่อย”

วินาทีนั้น ทุกสายตาจับจ้องเสิ่นเทียน กลายเป็นที่สนใจของทุกคน

เสิ่นเทียนถอนหายใจอย่างจนปัญญา สารภาพตามตรงตอนนี้เขาไม่พอใจมากจริงๆ

เหตุใดเขาถึงเจอบทแย่งผู้หญิงอันเป็นประเพณีชั่วช้าเช่นนี้กัน

วิธีผูกอาฆาตจะให้มีแปลกใหม่หน่อยไม่ได้หรือ

เห็นๆ อยู่ว่ารับของได้แล้วก็ไล่มันออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไปสิ แต่จะให้ข้าออกหน้า จากนั้นเป็นปฏิปักษ์กับเจ้านี่

โครงเรื่องต่อไปเสิ่นเทียนก็คิดมาดีแล้ว ตนเองโดนบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือดูถูก แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่พอใจแน่ สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็จะไม่พอใจ ทุกคนจะไม่พอใจ!

ถึงตอนนั้น เขาจะมีที่ยืนในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หรือ น่าขายหน้าแย่!

หรือไม่ก็เสิ่นเทียนคิดหาทางตบหน้าบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือแสดงอำนาจแทนแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แต่ถ้าอย่างนั้นเขาก็จะล่วงเกินบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงอย่างแน่นอน

ถึงตอนนั้นตบตีตัวเล็กตัวใหญ่มา ตบตีตัวใหญ่ตัวพ่อมา มันน่ารำคาญยิ่งนัก!

เสิ่นเทียนกอดความจำใจไว้เต็มอกพลางเดินมาหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “ขอคารวะอาจารย์”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ คนนี้คือเสิ่นเทียนบุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ของฝ่ายข้า บุตรศักดิ์สิทธิ์คนใหม่เตรียมพิธีแต่งตั้งอย่างยิ่งใหญ่แล้ว อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะแจกบัตรเชิญให้ทุกแดนศักดิ์สิทธิ์

และเขาก็เป็นคนนั้นในใจบุตรสาวข้า”

เฉินจงเทียนจ้องเสิ่นเทียนเขม็ง สารภาพตามตรง ก่อนหน้านี้เขาไม่สังเกตเห็นเลย

แต่ตอนนี้เสิ่นเทียนยืนอยู่ตรงหน้าเขา บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือพลันรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

นี่…โลกนี้มีคนหน้าตาหล่อเหลาเช่นนี้อยู่จริงๆ หรือ ใบหน้าตะลึงโลกเกินไปแล้ว!

โดยเฉพาะเอกลักษณ์ที่แผ่มาจากกายเขา โดดเด่นเหนือคนอื่นลอยล่องเหนือธรรมดา

กระทั่งเฉินจงเทียนรู้สึกว่าคนนี้เทียบกับศิษย์พี่ฉีเซ่าเสวียนแล้ว ยังเหมือนเซียนกลับชาติมาเกิดมากกว่า มีเอกลักษณ์แห่งเซียนลงมาเยือนมากกว่า

จางอวิ๋นซีชอบเขาก็ไม่แปลกเลย!

บัดซบ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หาผู้สืบทอดที่เหนือธรรมดาเช่นนี้ได้อย่างไรกัน

พวกลูกศิษย์ฝ่ายข่าวกรองทำงานกันอย่างไร

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือรู้สึกว่าสถานการณ์กำลังถูกสั่นคลอน

รัศมีอำนาจของเขาถูกกดข่มเสียแล้ว

เขากำลังรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

พลังในตัวเขารั่วไหลออกมา!

………………….