บทที่ 169 คุณธรรมสูงเทียมฟ้า ฉีเซ่าเสวียน

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 169 คุณธรรมสูงเทียมฟ้า ฉีเซ่าเสวียน

ปรากฏชายสวมเกราะนักรบสีเงินคนหนึ่งท่ามกลางปรากฏการณ์ คิ้วกระบี่ดวงตาดารา แบกกระบี่ล้ำค่าเจ็ดดาว รอบกายวนเวียนด้วยประกายแสงแห่งดาว

ทันทีที่เขาปรากฏกาย ปรากฏการณ์เจ็ดดาวเหนือก็เปล่งแสงสว่างขึ้นราวกับเทพแห่งดารามาเยือน

ชายคนนี้ดูอายุพอๆ กับพวกจางอวิ๋นถิง แต่กลิ่นอายพลังกลับทรงพลังอย่างยิ่ง

กระทั่งพลังของเขายังเหมือนอยู่เหนือกว่าบุตรพุทธะขู่ตัว

ชายคนนี้ปรากฏบนยอดเขาบัวขาว ก่อนก้มตัวคารวะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “เฉินจงเทียนแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือ ขอคารวะท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!”

แม้จะกำลังคารวะ แต่ตอนคารวะ พลังในตัวเฉินจงเทียนก็ยังคงกดดันคน ไม่ได้หุบกลับมาเลย

เห็นได้ชัดมากว่าเจ้านี่มาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ครั้งนี้ไม่ได้มีไมตรีอย่างที่เห็นภายนอก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเฉินจงเทียนอย่างเฉยชา “ไม่เลว ทะลวงถึงระดับดวงจิตดรุณแล้ว”

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนรอบข้างตกใจ แอบยกระดับความตื่นตัวเงียบๆ

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเฉินจงเทียน เดิมทีอยู่อันดับสี่ในรายนามแก่นพลังทอง พรสวรรค์ของเขาเป็นรองเพียงฉีเซ่าเสวียน บุตรพุทธะขู่ตัวและฟางฉางเท่านั้น

แต่วันนี้เฉินจงเทียนไม่ได้ขัดเกลาแก่นพลังทองรอบที่แปดต่อเหมือนคนอื่น เขาตัดสินใจใช้แก่นพลังทองแปดรอบเป็นรากฐาน ทุบแก่นเป็นดรุณ ทะลวงระดับดวงจิตดรุณที่มีชื่อเรียกว่าผู้สูงศักดิ์

ดังนั้น กำลังรบของเฉินจงเทียนจึงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ดูแล้วคงไม่อ่อนแอไปกว่าโอรสสวรรค์ลำดับต้นๆ หลายคน

เกรงว่าตอนนี้แม้แต่บุตรพุทธะขู่ตัวออกมือสุดกำลังก็ไม่แน่ว่าอาจจะสูสีกับเฉินจงเทียน กระทั่งอาจจะเสียเปรียบหนัก

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือหมุนตัวมามองบุตรพุทธะขู่ตัวก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่นึกเลยว่าศิษย์พี่ขู่ตัวก็มาที่นี่เช่นกัน”

บุตรพุทธะขู่ตัวตอบกลับเหวี่ยงๆ “ทำไมกัน เจ้ามาก่อกวนได้ อาตมาจะมาไม่ได้รึ”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือหัวเราะก๊าก “แซ่เฉินไม่ได้มาก่อกวน นักบวชผู้ไม่เอาไหนอย่าพูดจาสุ่มสี่สุ่มห้าสิ!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือพูดพลางหยิบขวดหยกเล็กมาจากแหวน ก่อนจะส่งไปตรงหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างนอบน้อม

เขากล่าวแนะนำว่า “ได้ยินว่าศิษย์พี่ฟางฉางพลาดตอนทะลวงแก่นพลังทองรอบเก้า อาการร่อแร่ ช่างน่าปวดใจจริงๆ ในขวดนี้บรรจุสมบัติล้ำค่าที่ศิษย์พี่เซ่าเสวียนไหว้วานให้ข้ามารักษาศิษย์พี่ฟางฉาง ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน

สมบัติล้ำค่าชนิดนี้แฝงด้วยพลังชีวิตไร้ขีดจำกัด แม้แต่อาการบาดเจ็บแห่งมหามรรคยังรักษาได้ บางทีศิษย์พี่ฟางฉางอาจจะใช้ได้”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือเอ่ยจบ พลันเกิดเสียงสูดลมหายใจเย็นๆ ดังขึ้นบนยอดเขาบัวขาว นั่นคือหลี่อวิ๋นเฟิง

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาสงสัยจากคนรอบๆ แล้ว หลี่อวิ๋นเฟิงจึงอธิบาย “เป็นของดีจริงๆ!”

จ้าวเฮ่าถามด้วยความแปลกใจ “ทำไมรึ ศิษย์พี่อวิ๋นเฟิงรู้จักสิ่งนี้ด้วยรึ”

หลี่อวิ๋นเฟิงพยักหน้า “แน่นอน ข้าคือผู้รอบรู้เทพสวรรค์นี่! พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานคืออะไร ล้ำค่าเพียงใด”

พอเห็นทุกคนทำหน้า ‘เริ่มการแสดงของเจ้าเถอะ’ แล้ว หลี่อวิ๋นเฟิงก็เริ่มพูดจาฉะฉานน่าฟัง

“ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานคือสมบัติสูงสุดที่ปีศาจประเภทพฤกษาเซ่นไหว้ตัวเองรวมออกมาเป็นแก่นสารสำคัญ ราชาปีศาจพฤกษาที่แข็งแกร่งบางพวกอาจจะเลือกบรรลุนิพพานนอนจำศีลในช่วงที่ร่อแร่กำลังจะตาย เพื่อรอฟื้นกลับขึ้นมาใหม่

พวกมันจะหลอมร่างขนาดใหญ่ของตัวเองเป็นแหล่งต้นกำเนิดพลังที่บริสุทธิ์ที่สุดเพื่อใช้ในการบรรลุนิพพาน ปกติจะมีเพียงปีศาจพฤกษาระดับจุดสูงสุดหลอมรวมเทพเท่านั้นถึงจะบรรลุนิพพานได้

อีกทั้งการรวมของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานต้องให้ปีศาจพฤกษายินยอมเองถึงจะมีสรรพคุณยาดี ไม่อย่างนั้น เจ้าไปบังคับให้ปีศาจพฤกษาบรรลุนิพพาน พวกมันจะไปเต็มใจได้อย่างไร หรือก็คือการจะกลั่นเป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน จะต้องทำตามสามเงื่อนไข

ข้อแรก หามหาปีศาจประเภทพฤกษาที่มีพลังบำเพ็ญสูงส่งต้นหนึ่ง

ข้อสอง ปีศาจนี่จะต้องเต็มใจบรรลุนิพพาน หลอมกายหยาบเป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์

ข้อสาม จะต้องเก็บของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานในช่วงเวลาสั้นๆ ตอนที่ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานกลั่นออกมา สามข้อนี้หากมีข้อใดไม่สำเร็จก็จะไม่มีทางได้ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน นี่เรียกได้ว่าโหดมาก”

เมื่อได้ฟังหลี่อวิ๋นเฟิงบรรยายเกี่ยวกับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแล้ว เสิ่นเทียนมีสีหน้ายากจะเข้าใจได้

เขามองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือที่ยืนอยู่ข้างๆ มองไปเงียบๆ ก่อนเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เปิดขวดของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน

ทันใดนั้นกลิ่นหอมสดชื่นของสมุนไพรวิญญาณเข้มข้นก็แผ่กระจายออกมา

เสิ่นเทียนคุ้นกับกลิ่นหอมนี้มาก แต่ก็ต่างกันไปเล็กน้อย เขาเห็นรางๆ ว่าในขวดในมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มีของเหลวอยู่ แต่ของเหลวนั่นไม่ใช่สีขาวเงิน แต่เป็นสีชมพู ดูเพ้อฝันมาก

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานนี่น่าจะกลั่นมาจากมหาปีศาจจุดสูงสุดระดับหลอมรวมเทพ หากข้าเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์จากปีศาจดอกโบตั๋นบรรลุนิพพาน ถือว่าหายากเช่นกัน”

เฉินจงเทียนตาเป็นสมาธิเล็กน้อย “สมกับเป็นท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ มีความรู้กว้างขวางจริงๆ จงเทียนนับถือ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานนี่มีประโยชน์กับฉางเอ๋อร์ ขอบคุณสำหรับน้ำใจของบุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือพูด “จงเทียนเพียงแค่วิ่งเต้นให้เท่านั้น ข้าเอาสมบัติสูงสุดนี้ออกมาไม่ได้หรอก ความจริงแล้ว ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานนี่ ศิษย์พี่เซ่าเสวียนจะให้ศิษย์น้องอวิ๋นซี หญิงแกร่งมีคุณธรรมเป็นที่ชื่นชมของบุรุษ ศิษย์พี่เซ่าเสวียนเลื่อมใสมาตลอด…”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือยังเอ่ยไม่จบ ก็ถูกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขัดก่อน “บุตรศักดิ์สิทธิ์หมายความว่าอย่างไรกัน”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเฉินจงเทียนอย่างเฉยชา “คำพูดนี้ เหตุใดฉีเซ่าเสวียนไม่มาพูดด้วยตัวเองล่ะ”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือตอบด้วยความเคารพ “ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ระงับโทสะก่อน เมื่อวันก่อนศิษย์พี่เซ่าเสวียนจุดกำยานถือศีลกินเจเตรียมทะลวงแก่นพลังทองรอบสิบ!

เขาได้ยินว่าศิษย์พี่ฟางฉางธาตุไฟเข้าแทรกในแก่นพลังทองรอบที่เก้า เลยกลัวว่าศิษย์น้องหญิงอวิ๋นซีจะเป็นกังวลเพราะเรื่องนี้ เลยไหว้วานให้ผู้เยาว์นำของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดนี้มาให้เพื่อช่วยศิษย์พี่ฟางฉาง รอจนศิษย์พี่เซ่าเสวียนสำเร็จแก่นพลังทองรอบสิบแล้วจะต้องมาขอตบแต่งด้วยตัวเองอย่างแน่นอน”

คำพูดของบุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือฟังหยาบๆ แล้วดูมีสัมมาคารวะ ไม่มีอะไรไม่เหมาะสมเลย แต่ถ้าวิเคราะห์อย่างละเอียด จะเห็นคมมีดซ่อนอยู่ได้ไม่ยาก

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นหนึ่งในระบบความคิดที่เก่าแก่ที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์ ส่วนแดนศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนือกับแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง เทียบกันแล้วเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่

ขุมอำนาจระหว่างทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ซับซ้อนกัน บ้างก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน ก็ย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงไม่ค่อยลงรอยกันมาตลอด แอบปะทะกันลับๆ มาตลอด

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงปรากฏฉีเซ่าเสวียนโอรสสวรรค์เหนือธรรมดาขึ้น ได้รับขนานนามว่ามีสวรรค์พิทักษ์ มีพรสวรรค์ของมหาจักรพรรดิโบราณ

แต่ฟางฉางผู้แข็งแกร่งหมายเลขหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับธาตุไฟเข้าแทรกตอนแก่นพลังทองรอบเก้า

คนหนึ่งกำลังจะก้าวข้ามขีดจำกัดทะลวงรอบที่สิบ อีกคนกลับล้มเหลวในรอบที่เก้า

การตัดสลับขึ้นลงกันเช่นนี้ แดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงย่อมไม่พลาดโอกาสสำแดงอำนาจ การมาขอตบแต่งจางอวิ๋นซีบางทีอาจจะเป็นความตั้งใจของฉีเซ่าเสวียนจริงๆ

แต่ที่มากกว่านั้นคือจงใจยั่วยุแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

……

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กำของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานอย่างเย็นชา ประกายสายฟ้าสะท้อนออกมากลางฝ่ามือ ขวดหยกแตกออกทันที ของเหลวสีชมพูขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่กลางอากาศ

กลิ่นหอมเข้มข้นฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งยอดเขาบัวขาว ทำให้คนมากมายเกิดความกระหายในใจ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเฉยชา “มีแต่คนบอกว่าฉีเซ่าเสวียนเป็นบุตรแห่งโชค แต่ข้าว่ามันก็ไม่เท่าไรหรอก ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานแค่นี้ก็คิดจะขอลูกสาวข้ารึ บุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคงไม่เคยเห็นโชคลิขิตอย่างนั้นสิ”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ดาวเหนืออธิบาย “ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พูดเล่นแล้ว นี่คือของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานในตำนาน แค่หยดเดียวก็ช่วยชีวิตได้ ขวดนี้คือสมบัติล้ำค่าที่ประเมินค่ามิได้!

นอกจากศิษย์พี่เซ่าเสวียนแล้ว ยังมีใครมีคุณธรรมสูงเทียมฟ้า ถึงขนาดให้สมบัติประเมินค่าไม่ได้เช่นนี้ได้ง่ายๆ อีก”

…………………..