ในเวลานี้หมิงหยางก็ได้สติแล้ว เขารีบวิ่งมาที่ห้องก่อนพบเข้ากับถังหยิน แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร ซ่งซานตัวปลอมก็ได้ชิงพูดก่อน “ข้าคือร่างปลอม ตัวจริงนั้นตายไปแล้ว”

หมิงหยางชี้นิ้วไปข้างหน้าด้วยความตะลึง ก่อนจะเห็นร่างของซ่งซานที่นอนตายอยู่ที่พื้น จึงได้หันมองร่างแยกด้วยสายตาที่งุนงง “สุดยอด โคตรเหมือนจริงเลยพับผ่าสิ !”

ร่างปลอมหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ ก่อนที่จะมองนางหมิงด้วยสายตาอ่อนโยน “มีอะไรหรือแม่นางหมิง ?”

หมิงหยางพลันระลึกได้ว่าภรรยาของเขาก็ยังอยู่ที่นี่ด้วย จึงได้เรียกคนให้มาพานางออกไปก่อน

หมิงหยางคิดว่าร่างปลอมคือการหยอกล้อกันเล่น แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่อย่างนั้น ด้วยร่างปลอมของซ่งซานนั้นมีลักษณะท่าทางและนิสัยเหมือนกับตัวจริงเลยทีเดียว

เมื่อเห็นท่าทีตะลึงของทั้ง 2 คนแบบนี้ เขาก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง “ซ่งซานมันตายไปแล้ว ดังนั้นเจ้าจะอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป ตามข้ามาเดี๋ยวนี้เลย”

เขารู้ดีว่าซ่งซานตรงหน้าคือตัวปลอม แต่ด้วยความรู้สึกประหลาดนี้มันก็ทำให้เขาไม่คุ้นชินอย่างแรง ยิ่งไปกว่านั้นโทนเสียงก็ยังเหมือนกับถังหยินอีกด้วย “หมิงหยาง เจ้าจัดการเก็บกวาดที่นี่ซะ ข้าจะส่งคนมารับตัวเจ้าไปทีหลัง”

“ท่านจะไปไหนกัน ?”

“จวนของซ่งเทียนน่ะสิ” ระหว่างที่พูดเขาก็ดูดเอาพลังปราณของซ่งซานเข้ามาด้วย ตอนนี้เขามีพลังทุกส่วนของแม่ทัพหนุ่มคนนี้แล้ว ดังนั้นการจะเข้าไปในจวนซ่งเทียนมันก็ไม่ต่างอะไรจากการเข้าบ้านตัวเองเลย

สมาชิกหน่วยลับของถังหยินช่วยหมิงหยางเก็บกระเป๋าย้ายของ ส่วนถังหยินก็พาคนทั้งหมดตรงไปยังบ้านของจีเจีย

ในเวลานี้ลู่ฟางกับคนอื่นได้ออกไปนอกเมืองด้วยทางลับเรียบร้อยแล้ว

ทันทีที่ถังหยินมาถึง จีเจียก็ออกมาต้อนรับพวกเขา ซึ่งในตอนนี้พวกเขาต่างก็แต่งกายด้วยชุดทหารสีแดง พร้อมกับพวกข้ารับใช้ที่นำเอาอาวุธที่ได้จากหมิงหยางมาให้ เพื่อความแนบเนียนในการปลอมตัว

“พร้อมแล้วขอรับนายท่าน” จีเจียกล่าว

“เยี่ยมมาก” ถังหยินกล่าวพร้อมมองทหารชุดแดงและอาวุธที่ได้มา พวกเขาในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากพวกของซ่งเทียนเลย ดังนั้นเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว ชายหนุ่มก็พลันสั่งให้พวกเขาขึ้นรถม้าแล้วเดินทางตรงไปยังจวนของซ่งเทียนในทันที

ด้วยดึกมากแล้ว จึงมีทหารเดินเต็มท้องถนนไปหมด พวกเขาพากันเดินตรวจตรารอบข้างอย่างระมัดระวัง

ด้วยรถม้าที่มากมายขนาดนี้ ถ้าหากไม่มีชุดทหารแบบเดียวกันก็คงจะมีทหารมาตรวจสอบแล้ว ทว่านี่คือหลานชายของซ่งเทียน ซ่งซาน ดังนั้นเมื่อเขาเดินออกมา พวกทหารยามก็พากันกลัวหัวหด ไม่กล้าถามอะไรมากความ ก่อนจะปล่อยไป …นี่ก็เท่ากับว่าการแทรกซึมเข้าจวนของซ่งเทียนประสบความสำเร็จไปมากกว่าครึ่งแล้ว

ถังหยินสั่งให้รถม้าเดินหน้าต่อไป เพราะว่าประตูหน้ามันสะดุดตามากเกินไป ดังนั้นจึงตรงไปยังประตูด้านหลังแทน

ด้วยรถม้าจำนวนมากที่นำมา มันจึงจอดปิดทางทั้งหมด ทำให้ผู้อื่นไม่อาจเข้าออกได้อีก

ร่างปลอมยกมือเคาะประตูอยู่สักพัก ก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวด้านหลังบานประตู ไม่นานนักมันก็ถูกเปิดออกพร้อมกับพลทหารถือหอกที่วิ่งกันออกมามากมายกับพลธนูมากกว่า 2 ร้อยนายที่เข้าประจำการบนกำแพง

“พวกเจ้าทำอะไร ? คิดจะก่อกบฏหรือ ?!” ร่างปลอมถาม

ได้ยินแบบนี้พวกทหารก็เงยหน้ามองซ่งซาน ก่อนที่นายกองผู้หนึ่งจะชูคบเพลิงขึ้น และหลังจากพิจารณารูปร่างของซ่งซาน เขาก็พลันตะโกนบอก “ใช่ท่านแม่ทัพจริง ๆ ด้วย”

ซ่งซานมองหน้านายกองผู้นั้นแล้วถาม “อู่กวน เจ้าทำอะไรกัน ?”

นายกองที่ถูกเรียกชื่อรีบวิ่งมาทำความเคารพ “ท่านแม่ทัพ ? ทำไมท่านถึงกลับมาทางด้านหลังกัน ? แล้วทำไมถึงได้มีรถม้ามากมายแบบนี้ ?”

“เจ้าถามมากเกินไปแล้ว นี่เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่การเงินการคลังหรือไงกัน !” ซ่งซานกลอกตาแล้วรีบเดินตรงเข้าไป ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมหลบทางให้แต่โดยดี เพราะเขารู้ดีว่าชายคนนี้มีศักดิ์เป็นถึงหลานชายของอ๋องเลยทีเดียว

จากนั้นร่างแยกของเฉิงจินและทุกคนก็เข้ามาภายในได้สำเร็จ

หลังจากถูกบ่นจากซ่งซาน อู่กวนก็มีสีหน้าที่ตื่นตระหนก หากแต่เขาก็ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ ได้แต่รีบวิ่งตามไปด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิดและปั่นยิ้มเต็มที่ “ข้าน้อยกังวลเรื่องของท่านก็เท่านั้นเอง หวังว่านายท่านจะไม่โกรธข้าน้อยนะขอรับ”

“ฮึ” ซ่งซานเย้ยหยั่นและพูดขึ้นช้า ๆ “ข้าได้รับคำสั่งจากลุงหวังมาว่าให้พาพวกเหลี่ยงซิง อู่หยู และจี้หยางย้ายออกจากที่นี่”

อู่กวนไม่ได้ประหลาดใจสักเท่าไหร่ “อย่างนี้นี่เอง พวกเราจะพาเขาไปที่วังหลวงกันสินะ ?”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?” ซ่งซานถามด้วยความตะลึง

“เป็นเพราะทีแรกองค์ชายใหญ่เข้ามาบอกให้พาอู่เหมยไปกับเขาที่วังหลวงน่ะขอรับ”

“อะไรนะ ?” ซ่งซานสูดหายใจด้วยความตกใจ องค์ชายใหญ่ ? ซ่งอู่คนนั้นน่ะหรือ ? แล้วทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ ?

ซ่งซานเองก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลของซ่งอู่ นอกจากนี้ก็ยังมีญาติอีกคนหนึ่งที่ชื่อ ซ่งเวิน

เมื่อเห็นสีหน้าแบบนี้ อู่กวนก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ท่านแม่ทัพไม่รู้หรือ ?”

ซ่งซานรีบตอบกลับทันที “ข้าจะไม่รู้ได้ยังไงกัน ข้าก็แค่ถามเพื่อความแน่ใจก็เท่านั้นเอง แต่จริง ๆ แล้วข้าเองก็สนใจในตัวอู่เหมยเหมือนกันนั่นแหละ ดังนั้นข้าจะไม่ปล่อยให้เขาได้ไปก่อนหรอก”

อู่กวนส่ายหัวอย่างรวดเร็ว เขาไม่คิดว่าเจ้านายของตัวเองจะบ้ากามได้มากขนาดนี้ ต่อให้เป็นเจ้าสาวของลุงตัวเอง เขาก็จะเอาให้ได้

ทั้งสองพูดคุยกันไปจนถึงสถานที่คุมขัง

ไม่มีใครล่วงรู้ถึงสถานที่ลับแห่งนี้ มันอยู่ข้างใต้จวนของตระกูลซ่งที่เป็นคุกใต้ดินขนาดใหญ่ อันเป็นสถานที่ที่เขาเอาไว้ใช้ฝึกข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์และมากความสามารถทั้งหลาย

หลังจากกินวิญญาณของซ่งซานไป ชายหนุ่มก็ได้ความทรงจำมาด้วย ทำให้ถังหยินคุ้นเคยกับเส้นทางนี้ราวกับเป็นสวนหลังบ้านของตัวเอง และยิ่งเดินลึกลงไปเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบเห็นเข้ากับทหารประจำการมากขึ้นไปทุกที

เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา เหล่าขุนนางกับพวกทหารทุกคนก็พากันทำความเคารพให้กับเขาก่อนหลีกทางให้

และเมื่อมาถึงห้องหลัก ซ่งซานก็เห็นเข้ากับโรนินที่ซ่งเทียนส่งมาประจำการเองกับมือ

พลังของโรนินทั้ง 2 คนนี้อยู่ในระดับปราณบรรพกาล และรอบ ๆ ตัวเขาก็มีผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ อีก บ่งบอกได้เลยว่าทางซ่งเทียนนั้นลงเงินก้อนโตทีเดียว เพื่อจ้างพวกโรนินที่เก่งกาจมากมายเพื่อปกป้องตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มีโรนินไว้คุ้มกันคุกใต้ดินแบบนี้

ตามปกติแล้วทั้งสองก็มักชินชากับท่าทีของซ่งซานที่เข้ามาดูนักโทษสาว ๆ ในนี้อยู่แล้ว แต่ประเด็นในตอนนี้ก็คือถังหยินกำลังปลอมตัวอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่อย่างไร

ห้องพักของโรนินมีลักษณะธรรมดา มีเตียงให้ 2 เตียง และข้างในนั้นมีชายวัยกลางคน 2 คนอาศัยอยู่

เมื่อเห็นว่าซ่งซานกับทหารเดินเข้ามา พวกเขาก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคำนับให้ “ท่านแม่ทัพซ่ง ท่านมาทำอะไรดึกดื่นแบบนี้ ?”

ซ่งซานหัวเราะแล้วมองพวกเขาด้วยหางตา “พาตัวพวกเขาออกไป”