ตอนที่ 150 เหวินเชี่ยนเชี่ยนจากเทียนไห่

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ขับรถจากอวิ๋นโจวไปถึงเทียนไห่ใช้เวลาเพียงแค่สองชั่วโมงครึ่ง

ครั้งนี้เย่เฉินขับรถช้าๆ แล้วสามชั่วโมงต่อมาทั้งสองคนก็ถึงที่เทียนไห่

เทียนไห่เป็นเมืองนานาชาติระดับโลก ชาวต่างชาติทั้งหลายข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกล ก็ต้องมาชมภาพทิวทัศน์ที่แตกต่าง

อวิ๋นโจวอยู่ใกล้เทียนไห่ ตลอดสามปีที่ผ่านมา เย่เฉินมาที่นี่หลายครั้ง

ทว่าทุกครั้งเขาจะมาเป็นเพื่อนหวังเจียเหยา หนำซ้ำนอกจากอยู่โรงแรมแล้วก็ต้องไปซื้อของเป็นเพื่อนหวังเจียเหยา

จนมาวันนี้ก็ยังไม่ทันได้ดื่มด่ำกับสเน่ห์ของเมืองนี้ให้ดีๆ

ตอนนี้เขามีเวลามากมายที่จะได้ไปสัมผัสมันกับหวังเจียเหยา

เมื่อขับรถเข้าพื้นที่เขตเทียนไห่ เย่เฉินก็พบว่าถนนหนทางในเมืองนี้เป็นระเบียบเรียบร้อย คนขับรถต่างก็มีมารยาท อาจเกี่ยวข้องกับการลงโทษที่เข้มงวดของเมืองเทียนไห่

เราจะสามารถเห็นคนขาว คนดำหรือคนบางคนที่ดูเหมือนเป็นคนจีนซึ่งที่จริงแล้วอาจเป็นคนเกาหลีหรือญี่ปุ่นอยู่เต็มถนนไปหมด

ฉินหงเหยียนเปิดกระจกที่นั่งข้างคนขับ หล่อนชี้ไปที่ตึกสูงเสียดยอดฟ้าแล้วกล่าว “เย่เฉินเคยไปที่นั่นหรือยัง?”

เย่เฉินปรายตามองแล้วกล่าว“ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกเหรอ? ไม่เคยไปเลย”

ฉินหงเหยียนกล่าวพร้อมยิ้ม “คืนนี้ลองไปดูกันไหมล่ะ? ห้องชมวิวอยู่ที่ชั้น 97 สูง 439 เมตร! ได้ยินอยู่ข้างในนั้นมองโลกด้านล่างน่าจะรู้สึกดีมากทีเดียว!”

“ได้เลย” เย่เฉินเองก็อยากจะสัมผัสเหลือเกิน

ไม่ใช่เพราะเขาไม่เคยเห็นถึงได้อยากไป

แต่เป็นเพราะเมื่อหลายปีก่อนพื้นที่ตั้งของศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกเป็นของตระกูลเย่

ไม่เพียงแค่ที่นี่เท่านั้น มีอีกหลายแห่งรวมไปถึงธนาคาร ห้างสรรพสินค้าบางส่วนในตอนนี้ ตระกูลเย่เคยซื้อเอาไว้ก่อนนี้

ตอนนั้นคุณปู่ของเย่เฉินลงทุนในโปรเจ็กต์จำนวนมากที่เทียนไห่ สามารถพูดได้ว่าเป็นเรียกลมเรียกฝนได้เลย

ธุรกิจของหลิ่วหย่วนหางในตอนนั้นยังเป็นธุรกิจขนาดเล็กอยู่เลย

คุณปู่ของเย่เฉินช่วยคนในเทียนไห่เอาไว้ไม่น้อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นตอนนี้ยังอยู่เทียนไห่หรือเปล่า แล้วเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?

และในเวลานี้เองมือถือของฉินหงเหยียนก็ดังขึ้น

“เชี่ยนเชี่ยนโทรมาน่ะ”

ฉินหงเหยียนมองมือถือแล้วรายงานเย่เฉิน

ฉินหงเหยียนในตอนนี้นั้นเป็นแฟนสาวในอุดมคติสุดๆ แค่โทรศัพท์เข้าก็รายงานเย่เฉินทันที

ที่จริงแล้วเย่เฉินเชื่อใจฉินหงเหยียนอย่างมาก หล่อนไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้

เชี่ยนเชี่ยนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉินหงเหยียน หล่อนทำบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เป็นผู้หญิงเก่ง เถ้าแก่เนี้ยที่ประความสำเร็จอย่างมาก

และหล่อนเป็นคนที่ชวนฉินหงเหยียนมาเทียนไห่

“ฮัลโหลเชี่ยนเชี่ยน เพื่อนรัก วันนี้เธอมาถึงเทียนไห่แล้วใช่ไหม?”

เหวินเชี่ยนเชี่ยนมักจะเรียกฉินหงเหยียนว่าเพื่อนรักอยู่ตลอด

“ฉันมาถึงแล้วเพิ่งจะเข้าเมือง”

“อะไรนะ? คิดไม่ถึงว่าเธอจะมาถึงแล้ว! เธอบอกว่าจะมาตอนกลางคืนไม่ใช่เหรอ? รีบส่งโลเคชั่นมาเลยนะ เดี๋ยวฉันไปรับ!”

“ไม่ต้องหรอกฉันขับรถมา”

“งั้นเธอมาหาฉันที่บริษัทแล้ว มาอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ เดี๋ยวคืนนี้เลี้ยงข้าว”

วางสายแล้วฉินหงเหยียนก็หันมองเย่เฉินอย่างเหนื่อยหน่าย “เกรงว่าคืนนี้เราคงจะไม่ได้ไปชมวิวกันที่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกแล้วล่ะ”

เย่เฉินถามด้วยรอยยิ้ม “เพื่อนสนิทคุณคนนั้นนัดคุณใช่ไหม?”

ฉินหงเหยียนพยักหน้า “อืมเดิมทีกะว่าเราสองคนจะไปเดินเล่นกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยบอกหล่อนใครจะไปรู้ว่าหล่อนจะโทรมาเร่งฉันยิกๆ”

เย่เฉินพอจะมองออกว่าทั้งสองคนน่าจะสนิทกันมาก

ดังนั้นเย่เฉินก็ขับรถพาฉินหงเหยียนไปที่บริษัทของเหวินเชี่ยนเชี่ยน

พอมาถึงตึกซินเม่าเพิ่งจะเข้าไปในตัวตึก ก็มีผู้หญิงที่แต่งตัวทันสมัย สวมชุดกระโปรงสีชมพู ทาลิปสติกสีสดเดินมาหาฉินหงเหยียน

“หงเหยียน!”

“เชี่ยนเชี่ยน”

เมื่อทั้งสองคนเจอกันก็โผเข้าดอกกันถึงขนาดที่จุมพิตกันเลยทีเดียว

ฉินหงเหยียนโดนเหวินเชี่ยนเชี่ยนจับจูบ อีกทั้งยังจูบปากด้วย

นี่ทำให้เย่เฉินเก้อเขินอย่างมาก ฉินหงเหยียนเป็นแฟนเขาแต่กลับโดนคนจับมาจูบ…

ถึงแม้ว่าเหวินเชี่ยนเชี่ยนจะเป็นผู้หญิง แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันตงิดๆ

“โอ้ยปวดหัว ใต้ตึกบริษัทเธอ เธอยังทำแบบนี้อีก”

ฉินหงเหยียนเองก็ทำอะไรไม่ได้

เหวินเชี่ยนเชี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจอเธอนานเลยนะ ในที่สุดเธอก็มาหาฉันที่เทียนไห่สักที ต่อไปพวกเราก็จะได้นั่งดื่มเหล้านนั่งเม้าท์กันสักที!”

เย่เฉินเคยได้ยินฉินหงเหยียนเล่าว่าหล่อนกับเหวินเชี่ยนเชี่ยนรู้จักกันบนเรือตอนอยู่ต่างประเทศ ตอนนั้นทั้งสองคนสภาพจิตใจย่ำแย่สุดๆ พวกหล่อนต่างก็กำลังดื่มเหล้าที่บาร์แล้วก็เริ่มคุยกัน

ใครจะรู้ว่าพอคุยกันขึ้นมาจะคุยกันทั้งคืน

ทั้งสองคนอายุไม่ต่างกันมาก ต่างก็อายุไม่ถึง 30 ปี ส่วนเหวินเชี่ยนเชี่ยนนั้นโตกว่าสองสามปี

ส่วนนิสัยของพวกหล่อนก็เป็นผู้หญิงเก่งเหมือนกัน พวกหล่อนสองคนไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอ แถมยังเป็นคนทำงานเก่งกันอีกด้วย

ตอนนี้เหวินเชี่ยนเชี่ยนมีบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ตั้งชื่อโดยชื่อตนเองแห่งหนึ่ง แถมยังจ้างดาราผู้หญิงที่กำลังมาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ยอดขายถล่มทลายใช้ได้เลย

ฉินหงเหยียนแนะนำเหวินเชี่ยนเชี่ยน “เชี่ยนเชี่ยนฉันมีคนจะแนะนำให้รู้จัก เขาชื่อเย่เฉิน แฟนฉันเอง!”

เหวินเชี่ยนเชี่ยนมองเย่เฉินด้วยสายตาประเมิน วันนี้เย่เฉินแต่งตัวธรรมดา เขาใส่เสื้อยืดธรรมดา แล้วใส่กางเกงขายาวลินินและรองเท้าแตะ

หนำซ้ำเขายังไม่ใส่เครื่องประดับราคาแพงอะไร เช่นพวกนาฬิกา กำไลหรือของพวกแหวน

ในฐานะที่เป็นคนในวงการแฟชั่น เหวินเชี่ยนเชี่ยนเองก็ไม่ค่อยจะประทับใจในตัวผู้ชายที่แต่งตัวแบบนี้เท่าไหร่นัก

เพราะถ้าไม่ใช่เพราะคุณจนก็เพราะไม่มีเงิน ไม่อย่างนั้นจะไม่มีของแบรนด์เนมติดตัวเลยสักชิ้นได้ยังไง?

“สวัสดี”

เหวินเชี่ยนเชี่ยนโบกมือทักทายเย่เฉินตามมารยาท

เหวินเชี่ยนเชี่ยนและฉินหงเหยียนสนิทสนมกันขนาดนี้ ฉินหงเหยียนชมเหวินเชี่ยนเชี่ยนมาตลอด เย่เฉินยังคิดว่าอีกฝ่ายจะจับมือตนเองเสียอีก

เขาเตรียมจะจะยื่นมือออกไปหาถึงได้พบว่าอีกฝ่ายไม่ได้อยากจะสนิทสนมกับตนเองมากมายนัก

“สวัสดีครับ” เย่เฉินเองก็โบกมือเท่านั้น

“หงเหยียนรีบตามฉันมาเลย ตอนนี้ที่บริษัทของเรากำลังมีไลฟ์สดอยู่ เธอมาเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”

เหวินเชี่ยนเชี่ยนดึงมือฉินหงเหยียนให้เดินเข้าไปในลิฟต์

เย่เฉินเองก็เดินตามเข้าไป

พอมาถึงชั้น 13 อันเป็นที่ตั้งบริษัทของเหวินเชี่ยนเชี่ยนก็พบว่าคนส่วนมากในบริษัทเป็นผู้หญิง

ผู้ชายเองก็มีเหมือนกัน แต่ทั้งการแต่งกายและกลิ่นหอมจากร่างกายพวกเขานั้นไม่ได้ต่างจากเหล่าผู้หญิงสักเท่าไหร่

ทุกคนเหมือนกำลังยุ่งๆ เดินไปเดินมาขวักไขว่ เย่เฉินเองก็เดินไม่กี่ก้าวก็เดินชนผู้หญิง 3 คน ผู้ชาย 1 คน

“นี่บริษัทอะไร?”

สถานการณ์แบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นในหัวเซิ่งกรุ๊ปของเขาแน่นอน

ขอแค่เป็นสถานที่ที่เขาปรากฏตัว เหล่าพนักงานต่างก็ต้องหลบให้

แต่พนักงานของบริษัทนี้กลับกล้าชนกระทั่งเหวินเชี่ยนเชี่ยน…

เหวินเชี่ยนเชี่ยนซ้ำร้ายกว่า หล่อนลากฉินหงเหยียนไปที่ห้องอีกแห่งหนึ่ง ในห้องมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังไลฟ์สดอยู่ตรงหน้าจอมือถือ

“ที่แท้ก็กำลังไลฟ์สดขายของ”

เย่เฉินมักจะไถดูแอพพลิเคชันพวกนั้นบ่อยๆ ถึงรู้ว่าการไลฟ์สดขายของในตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก

เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าของบริษัทผิตภัณฑ์เสริมความงามจะทำเรื่องแบบนี้ด้วยตนเอง

หลังจากเข้าไปในห้อง เหวินเชี่ยนเชี่ยนก็เดินไปหาเย่เฉินแล้วพูดกับเขา “นายชื่อ…ชื่ออะไรนะ?”

“ผมชื่อ…”

ตอนที่เย่เฉินกำลังจะเปิดปากพูดนั้นเอง

“เฮ้อ ช่างเถอะ นายนั่งตรงนี้อย่าเดินเพ่นพ่าน พวกเรากำลังจะไลฟ์สด อย่าเดินเข้ามาในจอไลฟ์นะเข้าใจไหม?”

เหวินเชี่ยนเชี่ยนมองเย่เฉิน

เย่เฉินพยักหน้ารับ “ได้”

จากนั้นหวินเชี่ยนเชี่ยนก็คว้าแขนฉินหงเหยียนแล้วทั้งสองคนก็ปรากฏตัวในจอภาพไลฟ์สดทันที!