เย่เฉินแอบเหล่มองจอโทรศัพท์ก็พบว่าคนเข้าชมไลฟ์สดมีถึงหมื่นกว่าคน

อีกทั้งบนจอภาพทุกคนยังกำลังคอมเม้นท์

“ทำไมเหมยฉียังไม่มาอีกล่ะ!”

“ปักหมุดรอพี่เหม่ยฉีคนสวย!”

“อยากเจอเหม่ยฉี! อยากเจอเหม่ยฉี!”

ที่จริงเหม่ยฉีคนนี้เป็นดาราที่กำลังโด่งดัง และเป็นแขกที่เหวินเชี่ยนเชี่ยนชวนมาไลฟ์สดในวันนี้

เดิมนัดกันว่าจะไลฟ์ตอนเวลานี้ แต่มีเรื่องเล็กน้อยทำให้ขัดข้องเพราะตอนนี้รถติดอยู่

ดังนั้นเหวินเชี่ยนเชี่ยนจึงลากฉินหงเหยียนมาช่วยกู้สถานการณ์

เย่เฉินพอจะเดาเป้าหมายของเหวินเชี่ยนเชี่ยนได้แต่ว่าเขายังกังวลใจเล็กน้อย

นั่นเพราะก่อนนี้ฉินหงเหยียนติด Hot search ของเวยป๋ออีกทั้งยังมีข่าวไม่ดีจำนวนมาก

เย่เฉินกังวลใจว่าอาจจะมีชาวโซเชียลด่าหล่อนในห้องไลฟ์สด ยังไงเสียเกรียนคีย์บอร์ดในตอนนี้ไร้มารยาทกันสุดๆ

ทว่าดูแล้วเหมือนเย่เฉินจะคิดมากไป

ฉินหงเหยียนเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจ แต่คนที่เข้ามาดูไลฟ์สดนั้นเป็นพวกแฟนคลับดารา คนในวงการแฟชั่น ไม่มีใครรู้จักด้วยซ้ำว่าฉินหงเย่เป็นใคร

เหวินเชี่ยนเชี่ยนดึงฉินหงเหยียนเข้าไปในกล้องแล้วกล่าว

“เพื่อนๆ ทุกท่านคะ ฉันแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับรองประธานคนสวยของบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงามเหวินเชี่ยนหัว ฉินหงเหยียนค่ะ! ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของฉันด้วยค่ะ!”

ทันทีที่ฉินหงเหยียนปรากฏตัวขึ้นในกล้อง ผู้ชมไลฟ์สดก็ตื่นเต้นกันทันที

“แม่งเอ้ย! พี่สาวคนนี้สวยจังเลย! คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้บริหารด้วย? ชอบพี่เขาสุดๆ!”

“หล่อนเป็นดาราใช่ไหม? บุคลิกภาพดีสุดยอดเลยใช่ไหมล่ะ?”

“ขอไอดีพี่สาวหน่อยคร้าบ!”

“บริษัทหวินเชี่ยนที่เจ๋งสุดๆ ผู้บริหารหญิงคนสวยสองคนคือคุณเหวินกับคุณฉิน ในเทียนไห่คงไม่มีคนอื่นแล้วมั้ง ฮ่าๆ !”

ในห้องไลฟ์สดมีแต่คอมเม้นท์ชื่นชม

ฉินหงเหยียนมองตนเองในหน้าจอมือถือ แล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เพราะเปิดฟิลเตอร์มากเกินไป จนทำให้หน้าดูปลอมจนเห็นได้ชัดจึงกล่าวถาม

“ปิดฟิลเตอร์ได้ไหม?”

เหวินเชี่ยนเชี่ยนชะงักไป แล้วปิดพวกฟิลเตอร์ในแอพพลิเคชันทั้งหมดทิ้ง

หลังจากปิดฟิลเตอร์ไปแล้ว ความสวยของเหวินเชี่ยนเชี่ยนลดลงอย่างรวดเร็ว 20 ส่วน แต่ฉินหงเหยียนกลับสวยขึ้น 20 ส่วน!

“แม่งเอ้ย! คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีผู้หญิงที่ไม่ใช้ฟิลเตอร์ด้วย! นี่สิถึงจะเป็นคนสวยตัวจริง!”

“ปิดฟิลเตอร์ทิ้งแล้วยังสวยขนาดนี้เลยเหรอ? หลงรักเลย!”

“พี่หงเหยียน ฉันรักพี่นะคะ!”

เย่เฉินมองไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ฉินหงเหยียนเป็นคนสวยมากจริงๆ ต่อให้มาถึงเทียนไห่อันเป็นสถานที่ที่มีผู้หญิงสวยๆ เยอะแยะแบบเทียนไห่ ก็ยังสามารถโดดเด่นกว่าหญิงสาวคนอื่นอยู่ดี

ในฐานะที่เป็นแฟนของหล่อน เย่เฉินเองก็รู้สึกภาคภูมิใจอย่างมาก

เหวินเชี่ยนเชี่ยนกล่าวกับหน้าจอมือถือ “แฟนคลับของเหม่ยฉีคะ อย่าเพิ่งร้อนใจไป หล่อนกำลังอยู่ระหว่างทางค่ะ ก่อนที่เหม่ยฉีจะมา ให้พี่หงเหยียนของพวกคุณ รองผู้บริหารหญิงคนใหม่ของบริษัทเรามาลองลิปสติกหลายๆ สีก่อนดีไหม? ”

การปรากฏตัวของฉินหงเหยียนเหมือนว่าจะชนะใจคนทั้งห้องไลฟ์สดได้อย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างก็ชื่นชมหญิงสาว

จากนั้นเหวินเชี่ยนเชี่ยนก็หยิบเอาลิปสติกที่บริษัทหล่อนเป็นคนผลิตออกมา ช่วยฉินหงเหยียนเช็ดลิปสติกที่ทาเอาไว้ทิ้ง จากนั้นก็ช่วยทาลิปสติกให้ฉินหงเหยียนด้วยตนเอง

ทาลิปสติกไปพลางอธิบายสรรพคุณของลิปสติก สีลิปรวมไปถึงราคา

หลังจากฉินหงเหยียนทาลิปสติกแล้วในห้องไลฟ์สดก็เต็มไปด้วยเสียงชื่นชม

“สวรรค์ ลิปสติกแท่งสีเงินรุ่นนี้ พี่หงเหยียนทาแล้วสวยจริงๆ!”

“ทำให้ดูขาวสุดยอด คุณภาพดีจริงๆ เหมาะสมกับคนเอเชียจริงๆ ต้องซื้อแล้ว!”

“ริมฝีปากของพี่หงเหยียนมีอยู่จริงเหรอ? อยากมีบ้างจัง! อยากจุ๊บหล่อน!”

“อยากจุ๊บพี่หงเหยียนด้วย+1!”

ในคอมเม้นท์ไม่เพียงแต่จะเต็มไปด้วยความเยินยอ แต่ผู้ชนในห้องไลฟ์สดก็ยังส่งของขวัญมาให้ฉินหงเหยียนไม่หยุด

เย่เฉินลูบคาง ขมวดคิ้วแล้วคิดในใจ

“คอมเม้นท์พวกนี้ทำไมถึงได้เหมือนกันไปหมดแบบนี้นะ? ซื้อบอทหรือเปล่าเนี่ย?”

เย่เฉินเองก็เข้าใจในสายงานไลฟ์สดนี้อย่างมาก

ห้องไลฟ์สดจะต้องมีกระแสตอบรับที่ดี ถึงจะสามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนมากให้มาซื้อของ ดังนั้นบริษัทถึงต้องจ้างบอทมาช่วยปั่นก็เป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้

กระทั้งเน็ตไอดอลทั่วไปจะไลฟ์สดยังต้องจ้างบอทมา ส่งของขวัญให้ตนเอง

บริษัทใหญ่แบบของเหวินเชี่ยนเชี่ยนย่อมต้องทำแบบนี้

ดังนั้นเย่เฉินจึงชันตัวลุกขึ้นเดินออกจากห้อง เพราะอยากดูว่าตัวหน้าม้าที่จ้างมาอยู่ในบริษัทหรือเปล่า

เพิ่งจะเดินออกมาก็พบว่ามีอีกห้องอยู่ติดกัน ประตูของอีกห้องนั้นไม่ได้ปิดสนิท เย่เฉินจึงเดินเข้าไป

เย่เฉินเห็นประตูก็ผลักออกน้อยๆ ก็พบว่าในนั้นมีผู้ชายที่แต่งตัวจะชายก็ไม่ใช่จะหญิงก็ไม่เชิง

แต่คิดไม่ถึงว่าด้านหน้าเขาจะมีมือถือหลายสิบเครื่อง!

และภาพที่ปรากฏบนจอมือถือเป็นภาพห้องไลฟ์สดของเหวินเชี่ยนเชี่ยนและฉินหงเหยียน!

“เป็นอย่างที่คิดจริงด้วย” เย่เฉินยิ้มเรียบๆ คาดว่านี่ก็น่าจะเป็นบอทในไลฟ์สด

เย่เฉินเดินเข้าไปเงียบๆ ผู้ชายคนนั้นกำลังจดจ่อกับการส่งของขวัญ จึงไม่ทันสังเกตเห็นเย่เฉินที่เดินเข้าไป

เย่เฉินยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดไม่จา เพื่อจะดูว่าชายคนนั้นทำอะไรกันแน่

และในเวลานี้เองฉินหงเหยียนก็ลองลิปสติกแท่งแรกแล้ว กำลังจะลองลิปสติกแท่งที่สอง

จากนั้นผู้ชายที่ชายก็ไม่ใช่หญิงก็ไม่เชิงก็เริ่มร้อนรน

เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขากดมือถือ “ลิปสติกสีชมพูรุ่นนี้สวยเกินไปแล้วเนี่ย! เห็นแล้วอยากจุ๊บจริงๆ!”

จากนั้นเขาก็หยิบมือถืออีกเครื่องขึ้นมาพิมพ์ต่อ “ใช่ๆ สวยเกินไปแล้วเนี่ย โดยเฉพาะตอนอยู่บนปากพี่หงเหยียน อยากจุ๊บจริงๆ!”

พอพิมพ์เสร็จเขาก็เปลี่ยนมือถือ

“พี่หงเหยียน ผมจะจุ๊บพี่ให้ตายเลย จุ๊บๆ”

ในตอนที่กำลังจะหยิบมือถือเครื่องที่ 4 นั้นเองเย่เฉินก็เดินเข้าไปขวางเขา

เย่เฉินทนมองต่อไม่ไหวแล้ว!

คนที่ถูกจ้างมาเป็นบอทเขาเคยเห็น แต่ไม่เคยเห็นที่น่าขยะแขยงขนาดที่พิมพ์เลอะเทอะอะไรขนาดนี้!

ผู้ชายคนนั้นหันมามองเย่เฉินจากบนลงล่างอย่างประเมินในที “นายเป็นใคร? นายไม่ใช่คนในริษัทเราใช่ไหม? ออกไปเลยๆ ใครให้นายเข้ามา?”

เป็นเพราะผู้ชายในบริษัทแต่งหน้ากันทุกคน ดังนั้นชายคนนั้นแค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเย่เฉินที่หน้าสดคนนี้ไม่ใช่คนในบริษัทตนเอง

เย่เฉินถาม “นายก็คือบอทที่ถูกจ้างมาสินะ?”

ผู้ชายหัวเราะคิกคัก “บอทเหรอ? ตลกชะมัด ดูให้ดีๆ ฉันน่ะเป็นผอ. ฝ่ายขายระดับสูงของบริษัทเหวินเชี่ยนเชี่ยน ผอ. เข้าใจไหม?”

ชายคนนั้นหยิบนามบัตรสั่งทำที่สวยงามโชว์ให้เย่เฉินดู

บนนามบัตรนั้นมีภาพของเขา และชื่อที่โดดเด่นอย่างมาก เขาชื่อจินฉ่าว

เย่เฉินเองก็ไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นบอทธรรรมดาหรือว่าจะผอ. แผนกไหน เขากล่าวว่า “คุณจะถือว่าเป็นการส่งเสริมการขายของผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร แต่อย่าพูดจาน่าขยะแขยงแบบนั้นใส่หงเหยียน”

จินฉ่าวกลั้นหัวเราะจนตัวโยนแล้วกล่าว “แหมนายเป็นใครเนี่ย? ฉันจะพูดอะไรกับฉินหงเหยียนแล้วเกี่ยวอะไรกับนาย?”

เย่เฉินตอบกลับ “ผมเป็นแฟนหล่อน”

เหมือนจินฉ่าวได้ยินเรื่องตลก เขาระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ นายเป็นแฟนหล่อน? นายเป็นแฟนฉินหงเหยียนเหรอ?

“น้องชายกำลังละเมอล่ะสิ? ดูสภาพตัวเองเถอะ แต่งตัวอะไรเนี่ยไม่มีแบรนด์เนมสักตัว นายเนี่ยนะ จะเป็นแฟนของคุณฉินรองผู้บริหารของเราเหรอ? คนอย่างนายไม่มีแม้แต่คุณสมบัติจะเป็นพนักงานทำความบริษัทของเราด้วยซ้ำไป!”