ตอนที่ 273 จะต้องสำแดงฤทธิ์แน่! / ตอนที่ 274 นายกล้าไหมล่ะ?

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 273 จะต้องสำแดงฤทธิ์แน่!

 

 

ณ ห้องถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการ ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนจ้องมองสถานการณ์รถแข่งของเฮ่อเล่อเฟิงบนหน้าจอแล้วอดถอนหายใจไม่ได้

 

 

เฮ่อสยงส่ายหน้าพร้อมพูดว่า “คุณพ่อ พ่ออย่าโทษเสี่ยวเฟิงเลยนะครับ ถึงยังไงเขาก็ไม่มีเนวิเกเตอร์ เขาจะวิ่งได้ที่โหล่ มันก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ”

 

 

เฮ่อติ้งคุนถอนหายใจครั้งหนึ่ง ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “คงได้แต่ฝากความหวังไว้ที่สมาชิกทีมคนอื่นแล้วล่ะ หวังว่าพวกเขาจะช่วยสนับสนุนให้หมิงไข่สลัดรถแข่งของทีมอื่นหลุดไปได้ วิ่งได้อย่างราบรื่นตลอดเส้นทาง…”

 

 

ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนหมดหวังกับเฮ่อเล่อเฟิงโดยสิ้นเชิง ไม่ให้ความสนใจอีกต่อไป

 

 

“พ่อครับ วางใจเถอะ หมิงไข่ไม่มีปัญหาแน่ครับ” เฮ่อสยงพูดระคนหัวเราะ

 

 

 

 

 

 

 

ห้องวีไอพีหมายเลขสาม

 

 

ตอนนี้ สมาชิกทีมซีเอ็ชวัน ทุกคนกำลังจ้องจอโทรทัศน์

 

 

“พระเจ้า ไอ้หนุ่มเฮ่อเล่อเฟิงนั่นเข็นไม่ขึ้นจริงๆ คุณหลินไปเป็นเนวิเกเตอร์ให้เขา เสียเที่ยวเปล่าแล้วจริงๆ สนามนี้ต้องได้ที่โหล่ ไม่พ้นตามนี้แน่”

 

 

“ก็นั่นสิ แม้แต่สตาร์ทก็ยังช้ากว่าคนอื่น ไม่กล้าเร่งความเร็วมาตลอดเส้นทาง แล้วนี่จะไล่ตามได้ยังไง ฉันเดาว่าคนอื่นวิ่งไปแล้วสองรอบ เขายังอยู่ที่รอบแรกอยู่เลย”

 

 

“น่าเสียดายคุณหลินเหลือเกิน ต่อให้เป็นนักแข่งรถที่มีฝีมือดีอีกสักแค่ไหน พอเป็นเนวิเกเตอร์ก็หมดหนทางที่จะพลิกสถานการณ์เหมือนกัน”

 

 

มู่มู่หัวเราะพร้อมพูดว่า “ที่จริงนี่มันก็ช่วยไม่ได้ ถึงยังไงหลินเยียนก็เป็นนักแข่งรถชั้นยอดคนหนึ่ง พอเป็นเนวิเกเตอร์ก็ทำได้แค่เป็นผู้ช่วยและให้ความร่วมมือนักแข่งเท่านั้น ฝีมือของนักแข่งไม่ได้เรื่อง เนวิเกเกเตอร์จะทำอะไรได้”

 

 

 

 

 

 

 

ห้องวีไอพีหมายเลขหนึ่ง

 

 

เว่ยสวีเฟิงจ้องมองหน้าจอโทรทัศน์ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย พูดขึ้นมาว่า “สถานการณ์ของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อตอนนี้ถือว่าอยู่อันดับล่างสุด เฮ่อหมิงไข่นั่นเร็วมากที่สุด อยู่ใกล้อันดับต้นๆ มากที่สุด แต่ข้างหน้าเฮ่อหมิงไข่ยังมีรถอีกสามคัน”

 

 

ฉีเซ่าหยวนแค่นเสียงเย็นชาครั้งหนึ่ง “จะรีบร้อนไปทำไม นายรอดูไปเถอะ รถของเฮ่อเล่อเฟิงคนนั้นจะต้องสำแดงฤทธิ์แน่!”

 

 

“สำแดงฤทธิ์?” เว่ยสวีเฟิงกลอกตาค้อนฉีเซ่าหยวน “ที่โหล่ สำแดงฤทธิ์ด้วยชีวิต?”

 

 

“ฉันไม่สน! ฉันบอกว่าเขาทำได้ เขาก็ต้องทำได้!” ฉีเซ่าหยวนพูดอย่างมีน้ำโห

 

 

เว่ยสวีเฟิง “…”

 

 

ไอ้หนุ่มฉีเซ่าหยวนคนนี้นี่วันนี้เพี้ยนหรือเปล่านะ?

 

 

…  

 

 

สนามแข่งเส้นทางบนเขา

 

 

ความเร็วของรถแข่งสีเงินที่เฮ่อเล่อเฟิงขับอยู่ช้าลงทันที

 

 

“เพิ่มความเร็ว” หลินเยียนบอก

 

 

“พี่เยียน ข้างหน้าเป็นทางโค้งบนเขานะครับ!” เฮ่อเล่อเฟิงรีบเอ่ยปาก

 

 

“ฉันให้นายเร่งความเร็วไงเล่า!” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิงอย่างเย็นชา

 

 

ถ้าเขายังทำแบบนี้ต่อไป ให้ขอยอมแพ้ไปเลยจะดีกว่า

 

 

เขาจะมีฝีมือแย่ก็ได้ แต่ต้องเชื่อฟัง!

 

 

ถ้าฝีมือก็ไม่ได้ แถมยังไม่เชื่อฟังอีก การแข่งสนามนี้ต้องแพ้แน่นอน

 

 

“ก็ได้ครับ…”

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หลินเยียนในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกกลัวอยู่บ้าง

 

 

บรื้น!

 

 

ชั่วพริบตาที่คันเร่งถูกเหยียบจนมิด ความเร็วของรถสีเงินก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุดภายในชั่วพริบตา ไล่ตามรถแข่งที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่บนทางโค้งบนเขาเช่นเดียวกัน

 

 

“พี่เยียน ใกล้จะถึงทางโค้งบนเขาแล้ว อันตรายมากนะครับ!” สติสัมปชัญญะทำให้เฮ่อเล่อเฟิง อดเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยไม่ได้

 

 

“ฟังคำสั่งฉัน” หลินเยียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงถอนหายใจทันที

 

 

ช่างเถอะ อย่างไรเสียก็ที่โหล่อยู่แล้ว ยังไงก็ได้

 

 

…  

 

 

ราวสิบวินาทีต่อมา รถแข่งที่เฮ่อเล่อเฟิงขับก็ไล่ตามรถแข่งของทีมรถแข่งเหล่าทังที่อยู่ตรงหน้า

 

 

อย่างไรก็ตามมือซ้ายของคนขับรถแข่งทีมเหล่าทังกลับยื่นออกมาจากหน้าต่างรถแล้วคว่ำนิ้วโป้งลง คล้ายว่ากำลังเยาะเย้ยเฮ่อเล่อเฟิงอยู่

 

 

“บัดซบ!” เฮ่อเล่อเฟิงสบถออกมาคำหนึ่ง

 

 

“แซงเขา” หลินเยียนเอ่ย

 

 

“แซงยังไงล่ะครับ!” เฮ่อเล่อเฟิงพูดพร้อมขมวดคิ้ว

 

 

“ขับรถชิดภูเขา หักขวาเก้าสิบองศา” หลินเยียนออกคำสั่ง

 

 

“ไม่สนแล้ว อัด มัน!” เฮ่อเล่อเฟิงกัดฟันกรอด เคลื่อนที่ตามคำสั่งของหลินเยียน

 

 

 

 

 

ตอนที่ 274 นายกล้าไหมล่ะ?

 

 

เมื่อเห็นว่ารถแข่งสีเงินที่เฮ่อเล่อเฟิงขับอยู่กำลังจะพุ่งถึงตัวภูเขา นักแข่งรถที่อยู่ข้างหน้าก็เร่งความเร็ว บังคับรถไปทางด้านขวาเพื่อขวางการแซงของเฮ่อเล่อเฟิง

 

 

ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อแข่งกับทีมรถแข่งใต้สังกัดเหล่าทังมาหลายครั้ง ดังนั้นนักแข่งรถทีมเหล่าทังจึงเคยศึกษาสไตล์ของเฮ่อเล่อเฟิง ไม่ว่าจะเป็นฝีมือในการแข่งรถหรือว่าอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ในรถแข่งเฮ่อเล่อเฟิง ถือว่าแย่ที่สุดในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อ แต่สไตล์ในวันนี้กลับต่างจากเดิมอย่างยิ่ง

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงจะสงบเรียบร้อยและระมัดระวังตัวมากบนเส้นทางแข่งรถ โดยเฉพาะการแข่งแรลลี่นอกสนามแบบนี้ก็จะยิ่งเป็นมากขึ้น แต่วันนี้กลับกล้าแซงที่โค้งหักศอกบนเขา ทำให้นักแข่งทีมเหล่าทังรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง

 

 

เพียงแต่เขาจะปล่อยให้เฮ่อเล่อเฟิงแซงไปง่ายๆ แบบนี้ได้อย่างไรกันเล่า

 

 

………

 

 

“ไม่ได้…เขาไม่ให้ผม…”

 

 

ขณะนี้เฮ่อเล่อเฟิงกำลังขมวดคิ้วมุ่น กะจะผ่อนคันเร่ง ล้มเลิกการแซงโดยอัตโนมัติ

 

 

“ทำต่อไป” หลินเยียนพูดเสียงเย็นชา

 

 

“หา…พี่เยียน ถ้าทำต่อไปจะชนรถที่อยู่ข้างหน้านะครับ!” เฮ่อเล่อเฟิงรีบพูดขึ้นมา

 

 

ในฐานะที่เป็นนักแข่ง เฮ่อเล่อเฟิงย่อมมีวิจารณญาณของตัวเอง และสถานการณ์แบบนี้ไม่มีเหตุผล  ใดที่จะให้ขับรถแซงได้เลย

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

เธอยอมแล้ว ทำไมถึงมีนักแข่งรถที่ไม่เอาไหนขนาดนี้ได้นะ

 

 

การแซงรถคันข้างหน้าในระยะที่ใกล้ตัวภูเขาแบบนี้ ไม่ต้องใช้ทักษะที่ดีมากเลยด้วยซ้ำ

 

 

มิหนำซ้ำเจ้านักแข่งของเหล่าทังคนนั้นก็แค่พอใช้ได้ วิธีการขวางแบบนี้หลับตาก็ยังแซงได้เลย ไม่มีฝีมือเลยสักนิด

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงเป็นแบบนี้ จะเป็นนักแข่งที่รั้งท้ายของบรรดานักแข่งรถระดับล่างๆ อีกทีก็ไม่แปลกแม้แต่น้อย

 

 

“ถ้านายไม่อยากให้ทีมรถแข่งของคุณตาถูกยุบ งั้นก็ต้องฟังฉัน ถ้านายรู้สึกว่าการแข่งครั้งนี้จะแพ้ก็ไม่เป็นไร นายจะจอดรถข้างทางเลยก็ได้” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิง แววตาเย็นยะเยือก

 

 

“เฮ้อ พี่เยียน…ถือว่าผมขอร้องพี่ล่ะ อย่าก่อกวนอีกเลย พี่ไม่รู้จักการแข่งรถเสียหน่อย ถ้าทำตามที่พี่บอกจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เส้นทางบนเขาแบบนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา มันจะเป็นอุบัติเหตุใหญ่นะครับ!” เฮ่อเล่อเฟิงพูดพลางขมวดคิ้ว

 

 

ตอนนี้หลินเยียนถอนหายใจด้วยความรู้สึกจนใจเล็กน้อย

 

 

ขณะนี้พวงมาลัยของรถแข่งอยู่ในมือเฮ่อเล่อเฟิง ต่อให้เธอเก่งอีกแค่ไหน ถ้าไม่มีสิทธิควบคุมพวงมาลัย บวกกับเฮ่อเล่อเฟิงไม่เชื่อฟังเลยสักนิด ต่อให้เจ้าสวรรค์มาเองก็เสียแรงเปล่าอยู่ดี

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงคนนี้เป็นคนที่เข็นไม่ขึ้น เป็นไม้ผุที่แกะสลักไม่ได้โดยสิ้นเชิง!

 

 

“จึ๊ๆ” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิง แค่นเสียงเย้ยหยัน “เสี่ยวเฟิง ด้วยระดับอย่างนาย มิน่าล่ะถึงเป็นที่โหล่ในการแข่งรถ”

 

 

พอได้ยินคำพูดนี้ของหลินเยียน เฮ่อเล่อเฟิงก็อึ้งเล็กน้อย “พี่เยียน นี่พี่หมายความว่ายังไง… พี่เยียน พี่ไม่รู้เรื่องแข่งรถเลยสักนิด ผมจะไปทำเรื่องเสี่ยงอันตรายขนาดนั้นเพราะความคับข้องใจได้ยังไงกัน!”

 

 

พอได้ฟังหลินเยียนก็ส่ายหน้าพร้อมพูดว่า “คับข้องใจอะไรกัน เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีมากกว่า รถแข่งคันข้างหน้านั่นดูถูกนายขนาดนี้ นายไม่รู้สึกรู้สาเลยหรือไง แล้วนายลองดูเขาอีกทีสิ ทางขวาของรถที่เขาขับอยู่ห่างจากตัวภูเขาอย่างน้อยก็ห้าเมตรขึ้นไป รถนายกว้างเท่าไหร่ ห้าเมตรงั้นเหรอ”

 

 

ไม่รอให้เฮ่อเล่อเฟิงเอ่ยปาก หลินเยียนก็หัวเราะเบาๆ ออกมาครั้งหนึ่ง “ช่างเถอะ รีบวิ่งให้จบรอบนี้ จากนั้นนายก็ปล่อยฉันลงเถอะ พี่สาวนายนั่งรถคนไม่เอาถ่านไม่ได้”

 

 

“พี่เยียน ทะ…ทำไมพี่พูดแบบนี้ พี่เคยแตะต้องรถแข่งงั้นเหรอ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแท้ๆ ยังกล้ามาสั่งผมซี้ซั้วอีก!” เฮ่อเล่อเฟิงโมโห

 

 

“คนที่ไม่เคยแตะต้องรถแข่งอย่างฉันยังกล้าแซงเขาเลย นายกล้าไหมล่ะ” หลินเยียนเย้ยหยัน