บทที่ 175 ใครมันสร้างปัญหาให้ฉัน!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบัน

กระแสตอบรับ DLC ค่อนข้างดี ถึงเกมฐานทัพกลางทะเลจะโดนด่านิดหน่อย แต่ก็มีการปล่อยแพตช์ใหม่ไปอย่างรวดเร็วในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา เพื่อสร้างระบบให้คะแนนแอ็กเคานต์สำหรับใช้ซื้ออาวุธในตำนานล่วงหน้า

อาวุธในตำนานเปิดขายแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือน ส่วนผู้เล่นจะถูกแบ่งเป็นสามระดับคะแนน

การให้คะแนนจะนำเกณฑ์หลายๆ อย่างมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเวลาที่ใช้เล่นเกม ความประพฤติในเกม และเกณฑ์อื่นๆ เพื่อประเมินคะแนนและแบ่งผู้เล่นออกเป็นสามระดับ

อาวุธในตำนานจะแบ่งขายสามล็อต

ผู้เล่นที่อยู่ในระดับสามจะมีสิทธิ์จองหนึ่งร้อยกระบอกแรกก่อน ผู้เล่นระดับสองจะได้จองล็อตที่สองอีกหนึ่งร้อยกระบอก ส่วนผู้เล่นระดับหนึ่งจะได้จองสามร้อยกระบอกที่เหลือ

ผู้เล่นที่อยู่ในระดับเดียวกันจะมีโอกาสในการจับจองอาวุธในตำนานแตกต่างกันเล็กน้อย คะแนนแค่นิดเดียวก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของอาวุธในตำนานได้มากขึ้น

สัดส่วนผู้เล่นในแต่ละระดับคือ 1:2:10 คะแนนยิ่งเยอะก็ยิ่งมีโอกาสเป็นเจ้าของอาวุธในตำนานสูง

ส่วนผู้เล่นใหม่ที่มีคะแนนน้อยก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้าของอาวุธในตำนานเลย เพียงแค่โอกาสจะน้อยกว่าคนอื่นๆ

นอกจากนั้นแล้ว ตัวเกมยังมีคะแนนระดับ 0 ไว้สำหรับแอ็กเคานต์พ่อค้าแม่ค้า เนื่องจากคนกลุ่มนี้ไม่ได้เข้ามาเล่นเกมจึงไม่มีสิทธิ์ซื้ออาวุธในตำนาน

หลังจากอัปเดตระบบให้คะแนน เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็มีผลกระทบต่อตัวเกมน้อยลง

ถึงจะหยุดผู้เล่นไม่ให้ขายแอ็กเคานต์ไม่ได้ เพราะมีผู้เล่นหลายคนออกมาปล่อยขายแอ็กเคานต์คะแนนระดับสองระดับสามในราคาสูงลิ่ว แต่ก็หยุดพ่อค้าแม่ค้ามือไวไม่ให้หาผลประโยชน์จากตัวเกมได้

มูลค่าแอ็กเคานต์ในแพลตฟอร์มซื้อขายน่าจะเหวี่ยงไปมา แต่สักพักก็จะค่อยๆ อยู่ตัว

กระแสตอบรับจากผู้เล่นเป็นไปในเชิงบวก ถึงหลายคนจะยังไม่พอใจกับการจำกัดจำนวนการขายอยู่ แต่ความไม่พอใจนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป

เพราะถึงจะไม่ได้เพิ่มจำนวนหรือยกเลิกการจำกัดจำนวนขาย แต่ระบบให้คะแนนที่เพิ่มเข้ามาใหม่ก็ทำให้มีความยุติธรรมมากขึ้น

ทางฝั่งฉางหยางเกมส์ก็ยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

พวกเยว่จือโจวทำตามที่เผยเชียนสั่งเสร็จเรียบร้อย ถึงเกมจะกลับมามีกระแสอีกครั้ง แต่พอไม่มีพวกวาฬช่วยอัดฉีดเงิน รายได้ของเกมก็ร่วงกราว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำกำไรได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมียอดขายเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นหลังเพิ่มนโยบายให้ส่วนแบ่งกำไรกับนักร้อง แต่รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาก็ยังไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งห้าสาขายังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

เฟยหวงสตูดิโอใช้เงินทุนตั้งต้นและกำไรที่ได้มาไปจนหมด พวกเขาทุ่มเงินทำสารคดีจนเงินติดลบ เถิงต๋าต้องเข้าไปช่วยกลบหนี้ให้

กิจการโมหยูเดลิเวอรี่ย่ำแย่มาก เหมือนมีไว้เพื่อส่งอาหารให้พนักงานเถิงต๋าเท่านั้น พอมีออเดอร์เข้ามาน้อย เชฟกับพนักงานส่งอาหารก็ได้แต่นั่งเตะฝุ่นไปวันๆ ธุรกิจนี้ก็ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

ยอดขาดทุนจากโปรเจ็กต์เหล่านี้ช่วยหักลบกับยอดกำไรจากเกมของเถิงต๋าได้อย่างง่ายดาย

ถึงรอบบัญชีนี้จะมีระยะเวลาแค่สองเดือน แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาสุดหวาดเสียวสำหรับเผยเชียน

ตอนแรกเฉินเหล่ยโผล่มา เกือบจะทำให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพลิกกลับมาทำกำไร โชคดีที่เผยเชียนไปเจอเข้าก่อนเลยกอบกู้สถานการณ์ได้ทัน

ต่อมาหลินหวานช่วยลดค่าเช่าให้เถิงต๋าไปได้มากโข เผยเชียนถึงกับเจ็บหนัก โชคดีที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอจะรับไหว

เขาหาตัวคนร้ายเจอแล้ว จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นในอนาคตได้

เผยเชียนหยิบสมุดเล่มเล็กออกมาขีดเขียนคิดคำนวณอย่างจริงจัง

ถึงเงินทุนระบบจะยังอยู่ในสภาพขาดทุน แต่วันที่ 28 วันจันทร์สุดท้ายของเดือนก่อนถึงรอบปิดบัญชีจะมีรายได้อีกก้อนจากเกมของเถิงต๋าโอนเข้าบัญชี

เผยเชียนคำนวณไม่ได้แน่ชัดว่าเงินจะเข้ามาเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครรู้ว่าสัปดาห์ที่จะถึงนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีก

เขาทำได้แค่คำนวณตัวเลขคร่าวๆ จากข้อมูลสถิติบนแพลตฟอร์มเกม และพยายามหาทางเพิ่มค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะทำให้บริษัทขาดทุนให้ได้มากที่สุด

ถึงสถานการณ์ปัจจุบันจะดูไม่ค่อยดีนัก แต่ใช่ว่าจะไม่มีหวังเลย

ที่มุมหนึ่งของร้านอินเทอร์เน็ต

หลี่สือนั่งจิบกาแฟไปพร้อมเฝ้าดูเผยเชียน

“ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเป็นของบริษัทเถิงต๋า บอสยังเด็กอยู่เลย

“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ”

หลี่สือแวะมาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูบ่อยๆ ในฐานะลูกค้าประจำ เขาเห็นเผยเชียนแวะเวียนมาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้จริงๆ แล้วคือบอสของร้านอินเทอร์เน็ตแห่งนี้

หลังจากขุดคุ้ยข้อมูลอยู่สองสามวัน หลี่สือก็พบว่าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีความเชื่อมโยงกับบริษัทเถิงต๋า นอกจากนี้ยังรู้ตัวตนของบอสใหญ่สุดลึกลับของเถิงต๋าได้จากท่าทีของหม่าหยางและจางหยวนเวลาพูดคุยกับเผยเชียน

หลี่สือกังวลอยู่หน่อยๆ ว่าเผยเชียนจะเป็นทายาทตระกูลร่ำรวยหรือมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดาหรือเปล่า แต่พอตรวจสอบดูก็ไม่พบอะไร

จากข้อมูลที่ได้มา หลี่สือเดาว่าเผยเชียนน่าจะร่ำรวยจากการทำเกม พอไม่รู้จะเอาเงินมาลงตรงไหนก็เลยเอามาทุ่มเปิดร้านอินเทอร์เน็ต

หลี่สือมั่นใจยิ่งขึ้น

พวกเด็กๆ มักจะมองข้ามอะไรไปง่ายๆ

บอสเผยอาจจะเป็นมืออาชีพด้านการสร้างเกม เก่งกาจในแวดวงนี้ แต่เขาไม่น่าจะเก่งเรื่องการบริหารธุรกิจหน้าร้าน

แถมตอนนี้บอสเผยยังขีดๆ เขียนๆ อะไรลงสมุดอยู่ก็ไม่รู้ ดูไม่มืออาชีพเลย

ทำอะไรอยู่นะ

น่าจะกำลังคำนวณยอดขาดทุนของร้านอินเทอร์เน็ตอยู่

ดูจากสีหน้าที่เคร่งเครียดแล้ว เขาน่าจะไม่พอใจกับการที่ร้านอินเทอร์เน็ตขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แถมยังดูเหมือนจะคิดหาไอเดียดีๆ ไม่ออกด้วย

หรือเขาควรจะเข้าไปเจรจาธุรกิจกับบอสเผยดี

หลี่สือยกกาแฟขึ้นจิบพร้อมคิดเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย

เขาอยากลงทุนกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมานานแล้ว แต่กลัวว่าบอสใหญ่ที่คุมกิจการนี้อยู่จะปฏิเสธ เลยตัดสินใจรอให้ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขาดทุนให้มากกว่านี้ก่อนค่อยเข้าไปยื่นข้อเสนอ

ตอนแรกหลี่สือตั้งใจจะรออีกสักสองสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือน แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว เขาไม่น่าจะต้องรอนานขนาดนั้น

ไหนๆ บอสใหญ่ก็กำลังประสบปัญหาอยู่ ถือเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าไปลองเชิงดู

รอต่อไปอาจจะเสียโอกาสทองนี้ไปได้

ถ้าจู่ๆ บอสใหญ่เกิดขายกิจการให้คนอื่นขึ้นมาก็ขาดทุนกันพอดี

คิดได้อย่างนั้น หลี่สือก็จัดปกคอเสื้อก่อนจะลุกออกไปโทรศัพท์

เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของบริษัทด้านการลงทุน หลี่สือจึงเข้าหาเผยเชียนตรงๆ ไม่ได้ เพราะจะดูเร่งรีบและขาดความเป็นมืออาชีพ

เขาตั้งใจจะสั่งให้ลูกน้องติดต่อไปหาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก่อนว่าอยากเจรจาลงทุนด้วย จากนั้นค่อยหาโอกาสเหมาะๆ เข้าไปคุย ทำแบบนี้จะเหมาะสมและถูกหลักการมากกว่า

จริงๆ แล้วโปรเจ็กต์ลงทุนส่วนใหญ่จะเข้ามาหาหลี่สือเอง

นายทุนจากหลากหลายบริษัทมักจะขนเอกสารข้อมูลตั้งใหญ่เข้ามาขอพบหลี่สือเพื่อขอให้เข้าร่วมลงทุนด้วย แต่ส่วนใหญ่หลี่สือก็แค่อ่านคร่าวๆ แล้วปัดตักไป เก็บไว้แค่ไม่กี่โปรเจ็กต์ที่สนใจจริงๆ

ธุรกิจแบบร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถือเป็นข้อยกเว้น

หลี่สือจุดบุหรี่สูบเงียบๆ ด้านนอกร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูขณะรอฟังข่าวดีจากลูกน้อง

เผยเชียนมองลายมือหวัดๆ ของตัวเองที่เขียนคำนวณดูคร่าวๆ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะทำให้บริษัทขาดทุนได้สองถึงสามแสนหยวน

จะเป็นตามนี้ได้ต้องไม่มีใครสร้างเรื่องในวินาทีสุดท้าย

ถ้ามีรายได้ไม่คาดฝันเข้าบัญชีมา สถานการณ์คงจะเลวร้ายมากๆ

หลังจากคำนวณดู เผยเชียนก็พอจะหายใจได้ทั่วท้อง ที่ยุ่งมือเป็นระวิงตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้เปล่าประโยชน์ เขาเห็นชัยชนะอยู่ไม่ไกล!

ระหว่างที่กำลังผ่อนคลายจิตใจ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เผยเชียนหยิบขึ้นมาดู พบว่าเลขาซินเป็นคนโทรมา

“บอสเผยคะ บริษัทลงทุนฟู่หุยติดต่อมา บอกว่าอยากจะร่วมลงทุน…”

เผยเชียน “ปฏิเสธไป”

เลขาซิน “ทางนู้นไม่ได้จะลงทุนกับบริษัทเถิงต๋า แต่อยากร่วมลงทุนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูค่ะ บริษัทลงทุนฟู่หุยถือว่าเป็นบริษัทเงินทุนที่ดี…”

เผยเชียน “ปฏิเสธไป”

เลขาซิน “ได้ค่ะ”

เผยเชียนวางสายทันที

จะร่วมลงทุนร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเหรอ

บ้ารึเปล่า ฉันมีธุรกิจที่ขาดทุนได้เรื่อยๆ อยู่แค่อย่างเดียว ถ้าแกเข้ามาลงทุนด้วยก็เท่ากับมาป่วนกันน่ะสิ

จริงๆ เลย ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ใครมันคิดจะสร้างปัญหาให้ฉันกัน!

หลี่สื่อสูบบุหรี่อยู่ตรงประตูร้านอินเทอร์เน็ต เขารอลูกน้องติดต่อกลับมาด้วยความผ่อนคลายสบายใจ

ตามปกติอีกฝ่ายจะต้องตอบตกลงอย่างยินดี พอจัดแจงเวลาเจรจาพูดคุยกันได้ หลี่สือก็จะใช้ประสบการณ์การลงทุนที่สั่งสมมาเป็นเวลานานโน้มน้าวอีกฝ่ายให้รับเงินทุนจากเขาเพิ่ม…

บุหรี่ยังไม่ทันหมดมวน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“บอสหลี่คะ อีกฝ่ายตอบปฏิเสธค่ะ”

หลี่สือไปไม่ถูก จู่ๆ ก็พูดอะไรไม่ออก

ไม่คิดจะให้โอกาสฉันได้เข้าไปเจรจาเลยเหรอ

ทำไมหักดิบกันแบบนี้

สูบบุหรี่ยังไม่หมดมวนเลย!

ไม่ใช่แล้ว ปกติมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิ!