ตอนที่ 345 วุ่นวายจนหัวใจปั่นป่วน / ตอนที่ 346 ที่จริงเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้ว

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 345 วุ่นวายจนหัวใจปั่นป่วน

 

 

ดอกกุหลาบกับไฟประดับเต็มห้อง ชายหนุ่มสง่างามอย่างไม่มีใครเทียบได้ นี่เขากำลังสารภาพรักเหรอ กำลังบอกว่าเขาชอบเธอเหรอ

 

 

ถ้าหาก…วันนี้ไม่ได้ไปที่สถานีตำรวจ ถ้าหากเธอไม่ได้รู้ว่าคนที่ถูกฆ่าคนนั้นเป็นพ่อของเขา ถ้าหากไม่รู้ว่าการที่เขามาอยู่ข้างเธอนั้นเพราะอยากจะสืบเรื่องราวทุกอย่างของอาจารย์ เธอในตอนนี้น่าจะเดินเข้าไปข้างตัวเขาในทันที แล้วเปิดกล่องของขวัญ หยิบเนคไทมาผูกที่คอของเขา

 

 

แต่ว่าในตอนนี้

 

 

เธอคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างชวนให้รู้สึกเหมือนโดนประชด

 

 

เธอไม่ชอบให้ความรักมีความรู้สึกอื่นปนเปมากเกินไป เหมือนกับเธอที่ไม่แน่ใจว่าทุกสิ่งที่เขาทำในวันนี้เป็นเพราะมีจุดประสงค์อื่นหรือไม่กันแน่

 

 

ฟังจือหันไม่ใช่คนที่เรียบง่ายมาแต่ไหนแต่ไร

 

 

ความรู้สึกที่ฟังจือหันมีต่อเธอ แต่ก่อนเธอคาดเดาว่าเขาชอบเธอ

 

 

ตอนนี้เธอกลับไม่มั่นใจเลย

 

 

ไม่มั่นใจว่าเพื่ออยากแน่ใจว่าการตายของพ่อเขาจึงสามารถทำได้ถึงจุดนี้ใช่หรือไม่

 

 

ผู้ชายคนหนึ่งที่คาดเดาได้ยากอย่างยิ่ง อย่าตัดความเป็นไปได้อย่างหนึ่งที่เขาชอบทำตามใจชอบอย่างเด็ดขาด

 

 

อวี๋กานกานยืนอยู่ที่เดิม นิ่งอึ้งเป็นเวลานานแต่ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใด

 

 

อีกทั้งไม่รู้ว่าเธอกำลังประหลาดใจหรือว่าตกใจ แววตาของฟังจือหันรับรู้ถึงความผิดปกติตอนที่ก้าวไปหาเธอ อวี๋กานกานวิ่งไปแล้ว หลังจากนั้นก็ล็อคประตูห้องนอนจากด้านใน

 

 

วุ่นวาย

 

 

หัวใจปั่นป่วน

 

 

ความคิดยุ่งเหยิง

 

 

ในสมองคล้ายกับแป้งเปียก ใคร่ครวญอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับฟังจือหันยังไง

 

 

ทำไมเขาไม่พูดให้เร็วหรือไม่พูดให้ช้ากว่านี้ ทำไมต้องมาสารภาพรักกับเธอในวันนี้ด้วย

 

 

อวี๋กานกานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้ตนเองสงบและใจเย็นขึ้น

 

 

แต่พอหลับตา ในสมอง หัวใจหรือแม้แต่อากาศที่หายใจอยู่ล้วนเป็นของฟังจือหันทั้งหมด

 

 

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความให้กับหลินจยาอวี่ ถามหลินจยาอวี่ว่านอนรึยัง

 

 

หลินจยาอวี่ตอบข้อความมาไวมาก

 

 

อวี๋กานกานจึงส่งไปอีกหนึ่งข้อความ ถามว่าหลินจยาอวี่สามารถมารับเธอตอนนี้ได้หรือไม่ เธออยากไปพักที่บ้านหลินจยาอวี่ไม่กี่วัน

 

 

แม้หลินจยาอวี่จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ยังไม่ถามออกไป บอกเพียงแค่บ้านทั้งสองห่างกันไม่มาก อีกครึ่งชั่วโมงเธอก็จะไปถึง

 

 

อวี๋กานกานใช้ความเร็วที่สุดเก็บกระเป๋าเดินทางของตนเอง

 

 

ตอนที่เธอออกมา ฟังจือหันยังคงยืนอยู่ที่ห้องนั่งเล่น และอยู่ในตำแหน่งตอนนั้น

 

 

สายตามองมาที่กระเป๋าเดินทางของเธอ ฟังจือหันที่มีใบหน้าหล่อเหลานิ่งเรียบเหมือนกับน้ำแข็งตอนนี้เกิดรอยแตกขึ้นมาเสียแล้ว เขาก้าวเท้ามาตรงหน้าของอวี๋กานกานพลางขมวดคิ้วเข้มเล็กน้อยและเป็นครั้งแรกที่เรียกชื่อของเธอ “อวี๋กานกาน”

 

 

อวี๋กานกานเชยตาขึ้นมองชายหนุ่มที่มีใบหน้าจริงจังราบเรียบ “เป็นอะไรไป”

 

 

“คุณเป็นอะไรไป”

 

 

“ฉัน…ไม่เป็นไร” อวี๋กานกานส่ายหน้า

 

 

ท่าทางของเธอช่างไม่เหมือนกับไม่เป็นอะไรจริงๆ ฟังจือหันส่งเสียง “อืม” ออกมาอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นนัยน์ตามองที่กระเป๋าเดินทางของเธอ สื่อว่าถามว่ากำลังทำอะไร

 

 

อวี๋กานกานมีท่าทางเข้าใจในทันที จะยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ยิ้ม “จยาอวี่กับลู่เสวี่ยเฉินกำลังจะแต่งงานกันแล้ว”

 

 

“ผมรู้ครับ”

 

 

“เธอกลัวการแต่งงาน อยากให้ฉันไปอยู่เป็นเพื่อน ตอนนี้กำลังรอฉันอยู่ข้างนอก”

 

 

อวี๋กานกานพูดจบ เตรียมจะก้าวออกไป ผลคือยังไม่ทันได้ก้าวไปไกลก็ถูกฟังจือหันดึงแขนเอาไว้ หลังจากนั้นถือโอกาสโอบเธอเข้ามาในอ้อมแขน

 

 

ร่างกายอุ่นร้อน ใจเต้นรัว ทำให้อวี๋กานกานใจกระตุก พอรู้ตัวก็อยากจะสลัดออกไป

 

 

ฟังจือหันออกแรงเล็กน้อย นุ่มนวลแต่ก็เต็มไปด้วยความเอาแต่ใจพลางควบคุมความต้องการอย่างแรงกล้า

 

 

อวี๋กานกานถูกเขารวบไว้ในอ้อมแขน ขยับไม่ได้โดยสมบูรณ์ เธอถลึงตามองเขา “คุณทำจะอะไร”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 346 ที่จริงเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้ว

 

 

ในห้องยังคงมีแสงไฟประดับสีอบอุ่นที่สาดส่องไปตามตัวเขา ชายหนุ่มก็ยิ้มน้อยๆ ให้กับเธอ ภายใต้แสงไฟสลัวทำให้ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ชวนเคลิบเคลิ้ม “จะกลับมาเมื่อไหร่”

 

 

ภาพหวานชื่น ชายหนุ่มแสนอบอุ่น หัวใจที่อ่อนโยน

 

 

อวี๋กานกานขยับริมฝีปากอยากจะพูดตรงๆ ว่าเธอจะไม่กลับมาอีกแล้ว ผลคือเพิ่งจะขยับปากก็ถูกฟังจือหันโน้มตัวลงมาจูบ ให้เธอเผยอริมฝีปากอย่างเอาแต่ใจ ลากไล้ไปตามลิ้นของเธอย่างลึกซึ้ง

 

 

จูบนี้ทั้งรุนแรงและเปี่ยมด้วยความรักลึกซึ้งเหมือนกับเจือความเจ็บปวดและความคิดถึงที่กัดกร่อนไปถึงกระดูก โอบกอดเธอเอาไว้แน่น อยากจะให้เธอแนบกาย

 

 

จูบที่แสนยาวนาน ตอนที่อวี๋กานกานเกือบจะหายใจไม่ทัน ฟังจือหันถึงได้ค่อยๆ ปล่อยเธอ

 

 

อวี๋กานกานโดนจูบจนริมฝีปากแดงก่ำ แก้มก็แดงซ่านเช่นกัน

 

 

แต่ใจของเธอกลับหนาวเย็น

 

 

ยอมรับอย่างหมดหนทางเหมือนกับเหยียบลงไปบนกระจกที่แตก

 

 

เธอพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อผลักฟังจือหัน “ฉันไม่รู้ว่าอาจารย์ฉันอยู่ที่ไหนจริงๆ ต่อให้คุณใช้วิธีอะไร ฉันก็ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้น”

 

 

คำพูดที่ไม่มีที่มาที่ไปนี้ทำให้ฟังจือหันนิ่งงันไปทั้งตัว

 

 

นัยน์ตาเขาจับจ้องเธอไม่วางตาเหมือนกับมองเธอได้อย่างทะลุประโปร่ง

 

 

อวี๋กานกานก้าวถอยหลังไม่กี่ก้าวพลางยิ้มให้เขาอย่างจนปัญญาแล้วลากกระเป๋าเดินทางของตนเองออกไป

 

 

 

 

ตอนที่หลินจยาอวี่เห็นอวี๋กานกาน ตกใจมากจริงๆ

 

 

เจอกันตอนกลางวันเธอยังท่าทางสดใส ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ชัดๆ ตอนนี้กลับดูต่างกันลิบลับ เธอรีบลงจากรถ รับกระเป๋าเดินทางของอวี๋กานกานพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “คุณเป็นอะไรไป”

 

 

อวี๋กานกานส่งยิ้มให้เธอแล้วปัดมือของหลินจยาอวี่ เพราะให้คนท้องมารับเธอแล้ว ไม่ควรให้คนท้องมาช่วยเธอยกกระเป๋าอีกเด็ดขาด

 

 

ตลอดทางที่กลับไปค่อนข้างเงียบมาก อวี๋กานกานเอาแต่มองด้านนอกหน้าต่างตลอดเหมือนกับปล่อยจิตวิญญาณของตนเองร่องลอยไป

 

 

หลินจยาอวี่ไม่ได้ถามเธอ

 

 

เมื่อกลับถึงบ้าน หลินจยาอวี่ก็ยังคงไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่ให้อวี๋กานกานพักผ่อนให้เต็มที่

 

 

นึกว่าอวี๋กานกานแค่ทะเลาะกับฟังจือหันมา

 

 

ดึกมากแล้วแต่อวี๋กานกานกลับนอนไม่หลับ

 

 

กว่าจะหลับลงได้ไม่ง่ายเลย แต่เมื่อหลับกลับฝันร้าย ในฝันอาจารย์ตายแล้ว ถูกคนร้ายฆ่า สภาพน่ากลัวสยดสยอง อวี๋กานกานตกใจตื่นในทันที

 

 

น้ำตานองหน้า

 

 

ปู่บอกว่าโชคเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนอย่างหนึ่ง คนเราอยากอธิษฐานขอพรให้ตนเองนั้นจึงสมปรารถนายากจำเป็นต้องดีที่สุดเปรียบดังสายน้ำจึงจะสามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้เป็นเรื่องดีได้ เปลี่ยนโชคร้ายให้เป็นโชคดี

 

 

ในขณะนี้เธออยากจะใช้โชคที่มีทั้งหมดของตนเองมาแลกกับความปลอดภัยของอาจารย์

 

 

หลินจยาอวี่นึกว่าหากอวี๋กานกานพักผ่อนหนึ่งคืนอาการน่าจะไม่เป็นไรแล้ว แต่ผลคือที่เห็นในวันถัดมาสีหน้าแย่ยิ่งกว่าเดิมจึงรู้สึกตกใจ

 

 

ครั้งนี้เธอทนไม่ไหวแล้วจริงๆ “คุณเป็นอะไร เกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมหน้าตาซีดเซียวอย่างนี้”

 

 

อวี๋กานกานยกยิ้ม “ไม่มีอะไร ก็แค่เมื่อคืนนอนหลับไม่ค่อยสบาย วางใจเถอะ ฉันไม่เป็นไร”

 

 

เธอจะปรับตัวเอง

 

 

เพียงแต่เมื่อวานเจอเรื่องราวหนักเกินรับไหว เธอจึงคิดไม่ตกไปบ้าง

 

 

หลินจยาอวี่ขมวดคิ้วพลางเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณทะเลาะกับสามีมาใช่ไหม”

 

 

อวี๋กานกานส่ายหน้า “ที่จริงเราไม่ใช่สามีภรรยากันอยู่แล้ว”

 

 

หลินจยาอวี่ตั้งใจรอฟัง เธอควรเล่าความจริงของความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฟังจือหัน