ตอนที่ 347 เพราะว่าชอบถึงได้โกรธ / ตอนที่ 348 พ่อของเด็กคือใคร

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 347 เพราะว่าชอบถึงได้โกรธ

 

 

อวี๋กานกานเล่าว่าเธอกับฟังจือหันรู้จักกันได้อย่างไร และโดนคนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นสามีภรรยากัน การที่พ่อของฟังจือหันถูกฆ่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาจารย์ของเธอ แต่เธอเชื่อว่าอาจารย์ไม่มีทางฆ่าคนอย่างเด็ดขาด อีกทั้งเหตุการณ์ที่เจอในตอนนี้เป็นไปได้ว่าอาจารย์อาจถูกฆ่าและยังมีอีกหลายเรื่อง

 

 

เมื่อบอกทั้งหมดให้กับหลินจยาอวี่แล้ว

 

 

หลินจยาอวี่ตกตะลึง

 

 

ใบหน้าและนัยน์ตางดงามดูคาดไม่ถึง

 

 

เธอโมโหเสียยิ่งกว่าอวี๋กานกาน เอาหมอนในมือฟาดไปด้านข้างแรงๆ พร้อมกับเอ่ยด้วยสีหน้าบูดบึ้ง “ฟังจือหันเกินไปแล้วจริงๆ เขาเป็นแบบนี้ต่างอะไรกับคนสารเลว”

 

 

ความประทับใจในสาวงามดุจภูเขาน้ำแข็งกลายเป็นสาวงามร้อนดังไฟในเพียงพริบตา

 

 

อวี๋กานกานตกใจกับความเปลี่ยนแปลงอย่างแรงของหลินจยาอวี่

 

 

เธอมองหลินจยาอวี่ด้วยความตกตะลึง “…”

 

 

คงเทียบคนสารเลวไม่ติด ฟังจือหันค่อนข้างดีกับเธอ

 

 

หลินจยาอวี่เอ่ยอย่างเย็นชา “ฉันนึกว่าเขาเป็นสามีของคุณ นึกว่าเขาจะปกปิดฐานะเพราะว่ารักคุณ คิดยังไงก็คิดไม่ถึงเลยว่าเขากำลังโกงความรักของคุณ”

 

 

อวี๋กานกานส่งเสียงอ่าออกมา “…”

 

 

ฟังจือหันก็คือผู้ชายห่วยๆ คนหนึ่งงั้นเหรอ แต่เมื่อมานึกถึงความหมายของฟังจือหัน เหมือนเขาต้องการอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตจริงๆ

 

 

หลินจยาอวี่พูดด้วยความโมโห “เพื่อที่จะสืบความจริงเรื่องพ่อของตัวเองถูกฆ่า ทำไมถึงต้องรับคนๆ หนึ่งเป็นภรรยาล่ะ”

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

นั่นสิ เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขามีหลากหลายวิธีในการตามหาความจริง เพราะอะไรถึงต้องเลือกวิธีนี้กัน

 

 

“เขาก็ไม่กลัวว่าจะอันตรายถึงชีวิตด้วย” หลินจยาอวี่ขมวดคิ้วน้อยๆ และมองอวี๋กานกานอย่างตื่นตระหนก “พวกคุณได้ป้องกันกันหรือเปล่า”

 

 

อวี๋กานกานเอ่ยถามอย่างงุนงง “ป้องกัน?”

 

 

หลินจยาอวี่พูดอย่างจริงจัง “คุณอย่าให้ตัวเองตั้งท้องโดยเด็ดขาดเลย อย่าเสียเปรียบเหมือนกับฉัน”

 

 

ตั้งท้อง?

 

 

หลินจยาอวี่เข้าใจอะไรผิดไปใช่ไหม คงไม่นึกว่าเธอกับฟังจือหันแม้จะไม่ใช่สามีภรรยาแต่ก็เกิดเรื่องจริงระหว่างสามีภรรยาขึ้นแล้วหรอกนะ

 

 

อวี๋กานกานรีบร้อนเอ่ย “เรื่องนั้น ไม่ใช่แบบที่คุณคิดทั้งนั้น พวกเราไม่ได้…”

 

 

หลินจยาอวี่ตกใจ “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันมานานขนาดนั้นอยู่ด้วยกันก็นานแล้ว คุณอย่าบอกฉันนะว่าพวกคุณสองคนแม้แต่จูบกันก็ยังไม่เคย”

 

 

อวี๋กานกานเสียงอึกอักอยู่ในลำคอ

 

 

ใบหน้าแดงซ่านพร้อมกับพูดไม่ออก

 

 

หลินจยาอวี่นึกว่าเป็นเรื่องจริงแล้ว ความแปลกใจกระจายทั่วทั้งหัวใจ

 

 

เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ พวกเขาดูสนิทสนมกันมากๆ ความใกล้ชิดแบบนั้นแสร้งทำไม่ได้หรอก

 

 

อีกทั้งฟังจือหันก็เป็นผู้ชายชอบบงการขนาดนั้น เป็นไปได้ยังไงที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

 

 

หรือเป็นเพราะฟังจือหันชอบกานกานมากเกินไปจริงๆ ถึงได้บังคับไม่ลงหรือไม่ใช้เล่ห์เหลี่ยมเลย ไม่อย่างงั้นผู้ชายสองหน้าอย่างฟังจือหันเป็นไปไม่ได้เลยที่กานกานหนีออกมาโดยไร้ร่องรอย

 

 

เธอกุมมือของอวี๋กานกาน “งั้นคุณโกรธ อารมณ์ไม่ดีเป็นเพราะคุณชอบเขาแล้วเหรอ”

 

 

อวี๋กานกาน “…”

 

 

แน่นอนว่าเป็นเพราะชอบ

 

 

หากไม่ชอบ เธอก็คงไม่โกรธไปทั้งใจ ไม่ยอมอยู่ที่บ้านเขา

 

 

หากไม่ชอบ เธอก็คงไม่เจ็บไปทั้งใจ เกิดความรู้สึกเหมือนโดนหลอก

 

 

ความเสียใจ ความผิดหวังและโมโหอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหลากหลายผสมปนกันไปก็ไม่ใช่เพราะว่าชอบเหรอ

 

 

เดิมทีความรู้สึกของอวี๋กานกานเบาลงไปบ้าง หลังจากที่ได้คุยกับหลินจยาอวี่ก็ดีขึ้นเยอะในชั่วขณะ

 

 

แม้จะเป็นเรื่องหยุมหยิม ความจริงจัดระบบความคิดแล้วก็จะพบว่าเพียงแค่อาจารย์กลับมา ปัญหาทุกอย่างก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปแล้ว

 

 

ช่วงกลางวัน

 

 

หลินจยาอวี่ได้รับสายจากลู่เสวี่ยเฉินชวนเธอออกมากินข้าว

 

 

หลินจยาอวี่ไปถึงตรงเวลา พอถึงร้านอาหารก็เห็นว่าในห้องนอกจากลู่เสวี่ยเฉินยังมีฟังจือหัน…

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 348 พ่อของเด็กคือใคร

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินเลิกคิ้วพลางเอ่ยถามหลินจยาอวี่เบาๆ “เสี่ยวอวี๋ล่ะ”

 

 

นิ้วเรียวยาวของเธอแนบกลีบปาก นัยน์ตาเหมือนกับเจือรอยยิ้มที่ไม่อาจพูดได้

 

 

“เธอไม่สบาย ตอนนี้นอนอยู่ที่บ้านแหละ” หลินจยาอวี่จงใจพูดแบบนี้และยังมองฟังจือหันด้วยสายตาเย็นชา

 

 

ไม่สบาย? สองพยางค์นี้ทำให้ฟังจือหันมุ่ยคิ้ว เขาไม่ได้พูดอะไร จู่ๆ ก็ลุกออกไปเลย

 

 

พอฟังจือหันไปแล้ว ลู่เสวี่ยเฉินก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว หน้าตามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น “แซ่ฟัง นายก็มีวันนี้ด้วย”

 

 

หลินจยาอวี่มองลู่เสวี่ยเฉินอย่างเฉยชา “นี่คุณเป็นเพื่อนประสาอะไร”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินเอนไปด้านหลังพิงกับพนักเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน “ใครบอกคุณว่าแซ่ฟังเป็นเพื่อนของผม เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าแซ่ฟังเป็นศัตรูของผม โอกาสเห็นเขาเสียหน้าแบบนี้ยากมาก ผมจะไม่หัวเราะอารมณ์ดีได้ยังไง”

 

 

“แต่ว่ากานกานอารมณ์ไม่ดี”

 

 

“มีอะไรให้อารมณ์ไม่ดีกัน”

 

 

ผู้ชายล้วนเป็นคนหลายใจ หลินจยาอวี่คิดว่าพูดเรื่องความรู้สึกกับเขาไปก็เหมือนจะเสียเวลา

 

 

เธอลุกขึ้น “ฉันไม่หิว คุณกินไปคน…” เดียว

 

 

อาจเพราะว่าลุกขึ้นเร็วเกินไป คำสุดท้ายหลินจยาอวี่ยังไม่ทันพูดจบตรงหน้าก็พร่าเลือน

 

 

เธอรีบใช้มือค้ำโต๊ะเอาไว้

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินที่อยู่ตรงข้ามรับรู้ถึงความผิดปกติของเธออย่างว่องไวจึงรีบยื่นมือไปประคองไหล่หลินจยาอวี่อย่างเร็ว

 

 

“คุณเป็นอะไรไป”

 

 

“ฉันเวียนหัว…” ภาพตรงหน้ากลายเป็นสีดำ หลินจยาอวี่หลับตาลง หัวเอียงซบไปบนหน้าอกของลู่เสวี่ยเฉิน

 

 

ผู้หญิงบอบบางหมดแรงซบอยู่ในอ้อมอก ลู่เสวี่ยเฉินรู้สึกว่าหัวใจเหมือนมีอะไรสักอย่างมาบีบรัด

 

 

“ผมจะรีบพาคุณไปโรงพยาบาล” เขาอุ้มหลินจยาอวี่ขึ้นมาในท่าเจ้าหญิงและพาไปส่งที่โรงพยาบาลด้วยความไวที่สุด

 

 

หลังจากตรวจเลือด หมอบอกให้ทั้งสองไม่ต้องเป็นกังวลไป

 

 

“เป็นเพราะน้ำตาลในเลือดต่ำ หญิงตั้งครรภ์ทั่วไปสามารถพบความดันเลือดต่ำได้ มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ นี่เป็นอาการปกติของคนตั้งครรภ์ในช่วงแรก ดังนั้นเวลาตั้งครรภ์จะต้องใส่ใจกับการเสริมสร้างโภชนาการและต้องทำใจให้สบาย อย่ากดดันมากเกินไป อย่าตึงเครียด…”

 

 

ตั้งแต่ออกมาจากโรงพยาบาลหลินจยาอวี่ก็ดีขึ้นมากแล้ว

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินเห็นสีหน้าเธอยังคงซีดเซียวอยู่บ้างจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ตอนนี้ยังเวียนหัวอยู่ไหม”

 

 

หลินจยาอวี่สบเข้ากับสายตาเจือความห่วงใย แววตาของเธออ่อนลงพลางตอบด้วยเสียงเบา “ไม่เวียนหัวแล้ว เพียงแค่รู้สึกคลื่นไส้นิดหน่อย รอสักพักกินลูกพลัมเข้าไปก็ดีขึ้นแล้ว”

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินเอ่ยถามอีกครั้ง “ทนไหวไหม”

 

 

หลินจยาอวี่ส่งเสียง “อืม” เบาๆ

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินเห็นท่าทางของเธอจู่ๆ ก็นึกคำถามหนึ่งขึ้นมาได้ที่แต่ก่อนเขาไม่เคยถามหลินจยาอวี่เลย “พ่อของเด็กรู้ว่ามีเขาอยู่ไหม”

 

 

หลินจยาอวี่ส่ายหน้า

 

 

“ทำไมคุณไม่บอกเขา”

 

 

“ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร” สายตาของหลินจยาอวี่มองออกไปนอกหน้าต่าง

 

 

“คุณไม่รู้?” ลู่เสวี่ยเฉินตกใจ

 

 

แม้แต่พ่อของเด็กเป็นใครก็ยังไม่รู้ เธอจะอุ้มท้องได้ยังไงและเพราะอะไรถึงต้องคลอดเด็กคนนี้ ขอเพียงเป็นผู้หญิงฉลาดสักนิดต่างก็รู้ว่าเด็กคนนี้เก็บเอาไว้ไม่ได้”

 

 

“ก็คือที่นั่นก่อนหน้านี้…ตอนนั้นดื่มหนักไปแม้แต่ทิศเหนือใต้ออกตกยังแยกไม่ออก หลังจากตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็เกิดขึ้นไปแล้วและผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไป”

 

 

เธอปล่อยวางแล้ว น้ำเสียงราบเรียบไร้คลื่นเหมือนกำลังเล่าเรื่องของคนอื่น

 

 

ลู่เสวี่ยเฉินมองตามนิ้วเรียวยาวของหลินจยาอวี่ไปที่คลับแห่งหนึ่งซึ่งเป็นศูนย์รวมกินดื่มเที่ยวประดับตกแต่งอย่างหรูหรางดงาม

 

 

นี่มันไม่ใช่ที่วันนั้น เขาโดนผู้หญิงน่าเกลียดข่มขืนหรอกเหรอ