“ปัง……”

เสียงดังสนั่นอีกเสียงหนึ่ง ราวกับพื้นเรียบๆเกิดเสียงระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นเช่นนั้น

ร่างกายของสวีซานเหนียงถอยหลังไปสองสามก้าว สีหน้าซีดขาว ชายหนุ่มกลับกระอักเลือดสดออกมา อวัยวะภายในทั้งหมดปั่นป่วนอย่างรุนแรง หากว่าไม่ได้ค้ำกำแพงไว้ เกรงว่าจะล้มลงไปนานแล้ว

“นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะใช้วิธีการต่อสู้ชนิดนี้ใช้ชีวิตสู้กับชีวิตฝืนดันทุรังสู้กับข้า เจ้ารู้หรือไม่ ถ้าสู้ต่อไป ข้าจะไม่ตาย แต่เจ้าจะตายอย่างไม่ต้องสงสัยเป็นแน่”

“ชีวิตต้อยต่ำชีวิตหนึ่งเท่านั้น ตายก็ตายเถอะ” ชายหนุ่มฝืนบังคับกดความหวานคาวในลำคอลงไป พยายามทำให้ตัวเองดูเป็นปกติขึ้นมาเล็กน้อย

สวีซานเหนียงคำรามอย่างโกรธเคือง “นางมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้ากันแน่?”

“ความสัมพันธ์อะไรก็ไม่มี เพียงแค่ไม่อยากให้เจ้าได้กระดิ่งทลายวิญญาณไปก็เท่านั้น”

“ดีมาก บัญชีนี้ พวกเราเจ็ดผีแห่งภูเขายินจะจดจำไว้ เจ้าก็รอการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งของพวกเราเถอะ”

แววตาของสวีซานเหนียงเผยแววความดุร้ายออกมา จ้องมองกู้ชูหน่วนและชายหนุ่ม ในตาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง สุดท้ายไม่รู้ว่านึกอะไรได้ จึงจากไปด้วยความเคียดแค้น

ทันทีที่นางจากไป ชายหนุ่มกุมทรวงอกไว้แน่น ในปากก็กระอักเลือดออกมาอย่างมากมายอีก ขาสองข้างก็คุกเข่าลงไปอย่างควบคุมไม่ได้ ราวกับว่ากำลังแบกรับความเจ็บปวดอะไรอย่างมหาศาลอยู่

“เจ้าไม่เป็นไรหรอกนะ”

กู้ชูหน่วนโยนเมล็ดแตงทิ้ง เดินไปข้างกายเขา

“ปัง…….”

มือสองข้างของชายหนุ่มคว้าไว้ทันที พิณสีหมึกที่เหลืออยู่ค้ำคอของนางไว้ กล่าวอย่างเย็นชาว่า “มอบกระดิ่งทลายวิญญาณออกมา”

“อวัยวะภายในของเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดแล้ว หากว่าไม่รักษาให้ดีจะอันตรายถึงชีวิตได้ง่ายมาก ประจวบเหมาะ ข้ามียาที่สามารถรักษาเจ้าได้”

“เอากระดิ่งทลายวิญญาณมอบออกมา”

“ไม่ใช่ว่าข้าไม่มอบ แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งมาอีกแล้ว เจ้าดูสิ”

กู้ชูหน่วนชี้ไปสถานที่ไกลๆ ตรงนั้นอีกห้าสิบถึงหกสิบเข้ามาอีกแล้ว เห็นว่าอยู่ในสภาพล้อมรอบ ล้อมรอบพวกเขาไว้แล้ว

ชายหนุ่มยันร่างกายที่บาดเจ็บ กัดฟันยืนขึ้น ร่างกายอันผอมบางเหยียดตรง เผชิญหน้ากับยอดฝีมือสี่ห้าสิบคนด้วยสายตาที่เย็นชา

“ที่พวกเรามาหาคือนาง ไม่อยากตายก็รีบไสหัวไป” ชายชุดดำชี้ไปทางกู้ชูหน่วน

ชายหนุ่มพูดน้อยเย็นชา แต่ร่างกายกลับมั่นคงดั่งหินก้อนใหญ่เช่นนั้นไม่ไหวติง

ไม่จำเป็นต้องพูดจา เขาตั้งใจไว้ดีแล้ว

“รนหาที่ตาย”

คนชุดดำตะคอกด้วยความโกรธเสียงหนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งถือง้าวกรีดนภา ต่างพากันโจมตีไปทางชายหนุ่ม

ทักษะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของชายหนุ่มคือการโจมตีทางเสียง แต่พิณสีหมึกถูกสวีซานเหนียงทำลายแล้ว จึงทำได้เพียงแข็งชนแข็งกับพวกเขา

ทั้งคืนในซอยเล็กๆเต็มไปด้วยเสียงการต่อสู้ ประชาชนที่อยู่ใกล้ๆหวาดกลัวจนไม่กล้าออกจากบ้าน

เลือดสาดกระเซ็น กระจายขึ้นมากลางอากาศล้วนเป็นแขนขาที่ขาดสะบั้น

เสียงร้องแหลมอันน่าเวทนาดังโหยหวนต่อเนื่องไม่ขาดสาย

ผมสีหมึกของชายหนุ่มไม่รู้ว่าเปรอะเปื้อนด้วยน้ำเหงื่อหรือน้ำเลือด เหนียวติดอย่างหนาแน่น แทบจะสามารถบีบออกมาเป็นน้ำได้

บนร่างของเขาก็ถูกมีดฟันไปไม่น้อย เลือดสดไหลออกมาช้าๆ

เห็นได้ชัดว่ายืนหยัดไม่ไหว แต่เขาก็ยังคงพยายามปกป้องกู้ชูหน่วนต่อสู้พุ่งออกจากวงล้อมอย่างสุดชีวิต

“ไล่ตาม……”

“ให้ตายสิ ข้าก็รู้ว่าจะต้องมีคนประสงค์ร้ายต่อเจ้า ยังดีที่ข้าหวนกลับมาแล้ว”

สถานที่ที่ไม่ไกล ไม่รู้ว่าเซียวหยู่เซวียนปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นชายหนุ่มพยายามปกป้องกู้ชูหน่วนสุดชีวิตฉากนั้น อดที่จะซาบซึ้งไม่ได้

พัดสีหมึกโบกระบำ เข้าร่วมการต่อสู้ นี่จึงทำให้ชายหนุ่มลดความกดดันลงไปได้เล็กน้อย

ไม่ง่ายที่จะโจมตีจนนักฆ่าถอยไปกลุ่มหนึ่ง ชั่วแวบเดียวก็มาอีกกลุ่มแล้ว

ทั้งคืน พวกเขาก็ไม่รู้ว่าต้องพุ่งออกจากวงล้อมซักกี่วงล้อม

เซียวหยู่เซวียนลงมือโดยไร้ความกังวล แต่ชายหนุ่มไม่ว่าจะถูกมีดฟันไปมากน้อยเท่าไหร่ ลงมือก็ยังเหลือทางหนีทีไล่ไว้เล็กน้อย ไม่เอาชีวิตคน เกรงว่าจะตีคนจนบาดเจ็บ

เซียวหยู่เซวียนอดด่าทอไม่ได้ “คนพวกนี้ไม่ใช่คนดีสักหน่อย เขาต้องการจะฆ่าพวกเรา เจ้ายอมให้ทุกทางเพราะอยากให้พวกเขาฟันพวกเราตายหรือไง?”

ชายหนุ่มก็ไม่ตอบ เพียงแต่นอกจากเจ็ดผีแห่งภูเขายินคนกลุ่มนั้นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโหดเหี้ยมทำความผิดใหญ่หลวงแล้ว เขาก็ไม่ได้เอาชีวิตผู้ใดอีกเลยสักชีวิตเดียว

เซียวหยู่เซวียนโมโหจนแทบจะระเบิดและจากไป

บนร่างของชายหนุ่มและเซียวหยู่เซวียนล้วนมีบาดแผลมากมาย แต่กู้ชูหน่วนกลับไม่ได้รับบาดเจ็บซักน้อย

สละชีวิตเพื่อปกป้องครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้กู้ชูหน่วนซาบซึ้งใจแล้ว

เมื่อเห็นว่ามีนักฆ่าอีกกลุ่มล้อมเข้ามาอีก นางยกมือเปล่าขึ้น เข็มเงินสิบกว่าเล่มออกไปพร้อมกัน เข็มเงินทุกเล่มล้วนโจมตีไปบนจุดตายของพวกเขาอย่างแม่นยำ

“ปักปักปัก…….”

นักฆ่าล้มลงไปหนึ่งคนต่อด้วยอีกคน

เซียวหยู่เซวียนเบิกตาโพลง

“แม่เจ้า เจ้ามีความสามารถนี้ ทำไมเพิ่งจะใช้ออกมาตอนนี้?”