บทที่ 209 กลุ่มคนผู้ยอดเยี่ยม

ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน

สกุล​ใหญ่​มี​คน​เยอะ​ลูกหลาน​ก็​มาก​ ​ปัญหา​ก็​มาก​ตาม​ไป​ด้วย​ ​ตั้งแต่​เด็ก​มักจะ​ถูก​สอน​ไม่​ให้​แสดง​อารมณ์​ต่างๆ​ ​บน​สีหน้า​ ​นาย​หญิง​รอง​เกิด​ใน​สกุล​ใหญ่​ ​เฉิน​ต้า​เหนียง​ยิ่ง​ติดตาม​รับใช้​ท่าน​แม่เฒ่า​มา​แต่​เล็ก​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​สอง​คน​ไม่​ควร​เปิดเผย​สีหน้า​ออกมา​เช่นนี้

อวี​้​ถัง​กับ​คุณหนู​สวี​หันมา​มองหน้า​กัน

จากนั้น​พวก​นาง​ก็​เห็น​เฉิน​ต้า​เหนียง​ซอยเท้า​ไล่ตาม​ไป​ ​คว้า​ข้อมือ​ของ​นาย​หญิง​รอง​เอาไว้​ ​แล้ว​เอ่ย​เสียง​เบา​กับ​นาย​หญิง​รอง​อยู่​หลาย​ประโยค

นาย​หญิง​รอง​เดือดดาล​กว่า​เก่า​ ​แล้ว​ตอบกลับ​เฉิน​ต้า​เหนียง​ด้วย​เสียง​แผ่วเบา​ไม่​ต่างกัน

เฉิน​ต้า​เหนียง​สอดส่าย​สายตา​ไปร​อบ​ด้าน​อย่าง​ระแวดระวัง

เพราะว่า​หันหลัง​ให้​กับ​พวก​อวี​้​ถัง​ ​บวก​กับ​อวี​้​ถัง​คิด​ว่า​แม้นา​งกับ​คุณหนู​สวี​จะ​มายื​นอยู​่​ที่นี่​โดยไม่ตั้งใจ​ ​แต่​อย่างไร​ก็​รู้เห็น​ความลับ​ของ​ผู้อื่น​ ​ย่อม​รู้สึก​ไม่สบายใจ​อยู่​บ้าง​ ​ตอนที่​เฉิน​ต้า​เหนียง​หัน​ซ้าย​แล​ขวานาง​จึง​ลาก​คุณหนู​สวี​ให้​มา​หลบ​หลัง​ต้น​การบูร​ ​เฉิน​ต้า​เหนียง​ไม่​เพียง​มองไม่เห็น​นาง​ ​คิดไม่ถึง​ว่ายัง​จะ​ลาก​นาย​หญิง​รอง​เดิน​มาทาง​ต้น​การบูร​อีก

อวี​้​ถัง​ลอบ​ตะโกน​ว่า​แย่​แล้ว

คุณหนู​สวี​บีบ​มือ​อวี​้​ถัง​อย่างแรง​ด้วย​ความตึงเครียด​ ​กลาง​มือ​นาง​ชุ่ม​เหงื่อ​ ​ทั้ง​ยัง​สั่นเทา​น้อย​ๆ

เห็นชัด​ว่านาง​ไม่เคย​เจอ​เรื่อง​เช่นนี้​มาก​่อน​

อวี​้​ถัง​คิด​ว่า​ตัวเอง​ทำให้​คุณหนู​สวี​พลอย​ลำบาก​ไป​ด้วย​ ​จึง​คว้า​ไหล่​ของ​นาง​ไว้​ ​แล้ว​ส่งสายตา​ปลอบโยน​ไป​ให้

คุณหนู​สวี​ถึง​ค่อย​สงบใจ​ลง​ได้

อวี​้​ถัง​ถอนหายใจ​โล่งอก

ได้ยิน​เสียง​เฉิน​ต้า​เหนียง​ที่​กำลัง​มุ่งหน้า​ทาง​นี้​กล่อม​นาย​หญิง​รอง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​จะ​ไป​ขุ่นเคือง​อัน​ใด​กับ​สกุล​นั้น​เจ้า​คะ​?​ ​ล้วน​เป็น​กบ​ใน​กะลา​ทั้งสิ้น​ ​วางอำนาจ​บาตรใหญ่​อยู่​ใน​เมืองฝู​โจว​เล็ก​ๆ​ ​นั่น​จน​เคยตัว​ ​ไม่รู้​ว่า​เหนือ​ฟ้า​ยัง​มี​ฟ้า​ ​เหมือน​คนยัง​มีย​อด​คน​ ​ท่าน​ก็​คิด​เสียว​่า​ฟัง​หมา​มัน​เห่า​ไป​ ​ได้ยิน​แล้วก็​จบ​ ​อย่า​ได้​เก็บ​มา​ใส่ใจ​เลย​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​ไม่เห็น​ว่า​ท่าน​แม่เฒ่า​ก็​หน้า​เปลี่ยนสี​หรือ​เจ้า​คะ​?​ ​แต่​เพราะ​สกุล​นั้น​หน้าหนา​ไร้ยางอาย​จน​มอง​ไม่​ออก​ ​นายท่าน​สาม​ของ​เรา​ไม่มีทาง​ปล่อย​พวก​นั้น​ไว้​แน่​ ​ท่าน​วางใจ​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”

หลังจาก​คับ​ข้อง​หมองใจ​ ​นาง​หญิง​รอง​คล้าย​จะ​สงบอารมณ์​ได้​บ้าง​ ​นาง​พยักหน้า​แล้ว​กด​เสียงต่ำ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไม่ต้อง​บอก​นายท่าน​สาม​หรอก​ ​ทุกคน​ต่าง​อยู่​กัน​พร้อมหน้า​ ​จะ​มา​แตกหัก​มองหน้า​ไม่​ติด​เพราะ​เรื่องเล็ก​น้อย​ย่อม​ไม่​คุ้ม​ ​เพราะ​ข้า​เอง​ที่​เลือดขึ้นหน้า​ ​กลัว​ว่า​จะ​คุมตัว​เอง​ไม่อยู่​ ​หลุด​คำไม​่​น่าฟัง​ออก​ไป​ ​ถึง​ได้​หลบ​ออกมา​แบบนี้​ ​ตอนนี้​ข้า​ดีขึ้น​แล้ว​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​ห่วง​ ​ข้า​ยืน​พัก​อยู่​ตรงนี้​ครู่หนึ่ง​เดี๋ยว​ตาม​เข้าไป​ ​ทาง​นั้น​ยัง​มีเรื่อง​รอ​ให้​เจ้า​ไป​จัดการ​อีก​มาก​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​สนใจ​ข้า​แล้ว​”

เฉิน​ต้า​เหนียง​หัวเราะ​ ​“​จะ​มี​อะไร​สำคัญ​ไป​กว่า​ท่าน​อีก​เจ้า​คะ​ ​พวกเรา​ต่าง​รู้ดี​ว่า​ท่าน​เห็นแก่หน้า​ทุกคน​ถึง​ไม่ได้​อาละวาด​ออก​ไป​ ​ข้า​อยู่​คุย​เป็นเพื่อน​ท่าน​ตรงนี้​ดีกว่า​ ​พอได้​ระบาย​ออกมา​ ​อารมณ์​ก็​คงดี​ขึ้น​เอง​เจ้าค่ะ​”

นาย​หญิง​รอง​ผงกศีรษะ​รับ​ ​สีหน้า​ราบเรียบ​ขึ้น​กว่า​เก่า​ ​“​แต่ก่อน​ตอน​ข้า​อยู่​เมืองหลวง​ก็​เคย​ได้ยิน​ว่า​สกุล​เผิ​งบ​้า​อำนาจ​ ​ไม่​คิด​ว่า​สกุล​พวกเขา​จะ​ระราน​ผู้อื่น​ถึงขั้น​นี้​ ​ในเมื่อ​ต้องการ​ดอง​กับ​สกุล​เรา​ ​เช่นนั้น​ก็​ส่ง​คน​มา​ขอ​หมั้น​หมายดี​ๆ​ ​สิ​ ​มี​อย่างที่​ไหน​กลับ​เรียก​คุณหนู​สี่​คุณหนู​ห้า​เข้าไป​ให้​พวกเขา​ชี้นิ้ว​เลือก​?​ ​ไม่​กลัว​ลิ้น​จะ​หลุด​เสียบ​้าง​หรือ​ไร​?​”

พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​คล้าย​ว่า​คิด​อะไร​บางอย่าง​ออก​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เกิดมี​อารมณ์​ขึ้น​มา​อีก​ ​“​ไม่ได้​ ​ข้า​ต้อง​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ท่าน​พ่อ​และ​ท่าน​พี่​ฝั่ง​มารดา​ข้า​ไว้​ด้วย​ ​เหล่า​สตรี​จะ​ทำการ​อัน​ใด​ ​ไม่​อาจ​คิด​เอง​ตัดสินใจ​เอง​ได้​ ​ไม่แน่​นี่​อาจ​เป็น​แผน​ของ​สกุล​เผิง​?​ ​บัดนี้​พวกเรา​สกุล​เผย​ไม่มีใคร​เป็น​ขุนนาง​ใน​เมืองหลวง​ ​สกุล​เผิ​งอาจ​คิด​ว่า​พวกเรา​ไม่มี​คน​ให้​พึ่งพา​ ​ไม่เช่นนั้น​คง​ไม่​เอ่ย​วาจา​เสิบ​สาน​แบบนี้​ ​พวกเขา​ถึงขนาด​กล้า​ชี้นิ้ว​เลือก​คุณหนู​สกุล​เรา​เช่นนี้​แล้ว​ ​หาก​เขา​ยัง​ไม่​อยาก​ยุ่ง​อีก​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​คงรักษา​หน้า​เขา​ไว้​ไม่ได้​ ​ให้ท่าน​ตา​ท่าน​อา​ของ​พวก​นาง​ออกหน้า​แทน​ก็แล้วกัน​”

ยัง​มีคุณ​หนู​สี่​ทาง​นั้น​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​ไป​บอก​ความ​ไว้​ด้วย

ต่อให้​ลูกหลาน​สกุล​เผิง​ยื่น​ตำแหน่ง​สะใภ้​ของ​ผู้นำ​สกุลมา​ให้​ ​สกุล​ของ​พวก​นาง​ก็​ไม่มีทาง​ตอบรับ​ให้​บุตรสาว​แต่ง​เข้าไป​แน่​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​คุณหนู​สกุล​เผย​ของ​พวกเรา​มิใช่​ว่า​ให้​คุณชาย​สกุล​เผิง​เลือก​ได้​ตามใจชอบ​รึ​?​ ​คุณหนู​สกุล​เรา​หา​ได้​มีเรื่อง​ใด​เสื่อมเสีย​จน​ออกหน้าออกตา​ไม่ได้​เสียหน่อย​”

อวี​้​ถัง​กับ​คุณหนู​สวี​อด​จะ​หันมา​แลกเปลี่ยน​สายตา​กัน​ไม่ได้

มิน่า​นาย​หญิง​รอง​จึง​ได้​หัว​ฟัด​หัว​เหวี่ยง​ขนาด​นี้

แต่​ท่าน​แม่เฒ่า​ทาง​นั้น​ ​เกรง​ว่า​จะ​ไม่​อาจ​กล้ำกลืน​ได้​ง่ายๆ​!

ไม่รู้​ว่า​ท่าน​แม่เฒ่า​จะ​เป็น​อย่างไรบ้าง​?

สอง​คน​หันไป​มอง​ทาง​โถง​หลัก​พร้อมกัน​อย่าง​ไม่ได้​นัดแนะ

จี้​ต้า​เหนียง​ร้อนใจ​เหมือน​ถูก​ไฟ​รน

หาก​นาย​หญิง​รอง​เอาเรื่อง​นี้​ไป​บอก​บิดา​และ​พี่ชาย​ที่อยู่​จิน​หลิง​จริงๆ​ ​เรื่องราว​คง​ลุกลาม​ใหญ่โต​แน่

แน่นอน​ว่า​ ​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​รอง​มิใช่​จะ​ต่อกร​ได้​ง่ายๆ​ ​แต่​คุณหนู​เป็น​คน​ของ​สกุล​เผย​ ​หาก​ต้อง​ให้​คนนอก​มาป​กป​้​อง​ ​ถ้า​เรื่อง​นี้​ถูก​ลือ​ออก​ไป​ ​สกุล​เผย​ยัง​มีหน้า​ไป​พบ​ใคร​ได้​อีก​?

จี้​ต้า​เหนียง​กล่อม​แล้ว​กล่อม​อีก​ ​ถึง​ได้​หยุด​นาย​หญิง​รอง​ไว้​ได้​ ​ทั้ง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ท่าน​อาจ​ไม่รู้​จัก​นิสัย​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​ ​แต่​นายท่าน​สาม​ทาง​นั้น​ท่าน​คง​รู้ดี​กระมัง​?​ ​เรื่อง​นี้​ไม่มีทาง​จบ​ง่ายๆ​ ​แบบนี้​แน่​เจ้าค่ะ​”

นาย​หญิง​รอง​ร้อง​ ​“​อืม​”​ ​เสียง​หนึ่ง​ ​“​ข้าว​่า​พวกเขา​ไม่ได้​มาสาน​ไมตรี​หรอก​ ​คงมา​ผูกปม​แค้น​เสียมา​กก​ว่า​!​”

จี้​ต้า​เหนียง​ไม่กล้า​วิจารณ์​มาก​ ​นาง​รับคำ​อย่าง​ขอไปที​ ​แล้ว​ฟัง​นาย​หญิง​รอง​กร​่น​ด่า​สกุล​เผิง​ต่อ​อีก​หลาย​ประโยค​ ​สอง​คน​ถึง​ได้​ปรับ​สีหน้า​อารมณ์​ใหม่​ ​แล้ว​กลับ​เข้า​โถง​หลัก​ไป

อวี​้​ถัง​กับ​คุณหนู​สวี​ได้​แต่​ถอนหายใจ​เฮือก​ ​ตอนนั้น​เอง​ถึง​รู้​ว่า​ไหล่​ของ​ตน​แข็ง​เกร็ง​ไป​หมด

“​ยังดี​นะที​่​พวก​นาง​ไม่เห็น​!​”​ ​คุณหนู​สวีต​บอก​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เอ่ย​อย่าง​โล่งใจ

อวี​้​ถัง​คิด​ว่า​สถานที่​แห่ง​นี้​ช่าง​มี​แต่​เรื่อง​วุ่นวาย​ ​เหมือน​ที่​จี้​ต้า​เหนียง​พูด​เอาไว้​ไม่ผิด​ ​การ​ออกมา​เดินเล่น​ข้างนอก​ไม่​ค่อย​จะ​ปลอดภัย​นัก

“​พวกเรา​กลับ​ห้องน้ำ​ชากัน​เถอะ​!​”​ ​นาง​เอ่ย​ ​“​ฟัง​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​พูด​เรื่อง​ขนม​ก็​น่าสนใจ​อยู่​หรอก​”

คุณหนู​สวี​กลับ​ไม่​ค่อย​เต็มใจ​ ​“​นาย​หญิง​รอง​ไม่​กลับมา​แล้ว​แน่ๆ​ ​หากว่า​พวก​นาง​มา​อีก​ ​พวกเรา​ก็​ไม่ต้อง​ลุกลน​เหมือน​อย่าง​เมื่อ​ครู่​ ​พวกเรา​นั่งเล่น​ที่นี่​สักพัก​เถอะ​!​ ​ข้าว​่า​สกุล​เผิง​เกิดเรื่อง​แบบนี้​ขึ้น​ ​อีก​เดี๋ยว​ท่าน​แม่เฒ่า​คง​หมดอารมณ์​จะ​สนทนา​กับ​พวกเรา​แล้ว​”

คาด​ว่า​พวก​นาง​อาจจะ​ต้อง​รอ​อีก​พักใหญ่​เลย

อวี​้​ถัง​คิด​ว่าที่​นาง​พูดมาก​็​มีเหตุผล

คุณหนู​สวี​ยิ้มแฉ่ง​พลาง​เปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ​ยก​เรื่อง​สกุล​หยาง​กับ​สกุล​อวี​้​มา​พูดว่า​ ​“​สกุล​ข้า​นั้น​เจ้า​คง​รู้อยู่​แล้ว​ ​เพราะ​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​ข้า​กับ​คุณหนู​รอง​บ้าน​สาม​สกุล​เผย​หมั้น​หมาย​กัน​ ​ดังนั้น​พวกเรา​ถึง​ได้มา​ที่​สกุล​เผย​ ​แต่​ข้า​ได้ยิน​คนใน​จวน​พูด​กัน​ว่า​ ​พวก​เจ้า​นั้น​เพราะ​บิดา​เจ้า​กับ​นายท่าน​สาม​สนิท​กัน​ ​เจ้า​เอง​ก็ได้​รับ​ความ​เอ็นดู​จาก​ท่าน​แม่เฒ่า​ด้วย​ถูกชะตา​ ​ถึง​ได้​เดิน​เข้าออก​สกุล​เผย​ได้​ ​จริง​หรือไม่​?​”

อวี​้​ถัง​พยักหน้า​รับ

คุณหนู​สวี​ถาม​ต่อว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ได้​เจอ​นายท่าน​สาม​สกุล​เผย​บ่อย​หรือไม่​?​ ​เขา​เป็น​คน​อย่างไร​?​ ​ข้า​ได้ยิน​คนอื่น​พูด​กัน​ ​บอกว่า​เขา​รูปงาม​นัก​หรือ​?​ ​แล้ว​เขา​หมั้น​หมาย​หรือยัง​?​”

น้ำเสียง​นั่น​ ​คล้าย​ว่า​สนอกสนใจ​เผย​เยี​่​ยน​เป็น​ที่สุด

อวี​้​ถัง​อด​จะ​มอง​นาง​ซ้ำ​หลาย​ที​ไม่ได้

คุณหนู​สวี​เฉลียวฉลาด​ดัง​คาด​ ​แค่​เห็นท่า​ที​ของ​นาง​ก็​เดา​ออก​ว่า​คิด​อะไร​อยู่​ ​คุณหนู​สวี​เม้มปาก​ยิ้ม​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไม่ใช่​ข้า​นะ​!​ ​ข้า​หมั้น​แล้ว​ ​แต่​สกุล​ข้า​กับ​สกุล​หลี​เป็น​ญาติ​กัน​ ​ข้า​กับ​ญาติ​ผู้​พี่​ผู้​น้อง​หลาย​คน​ของ​สกุล​หลี​ล้วน​สนิทสนม​ ​ตอนนั้น​ท่าน​อา​ข้า​อยาก​ดอง​กับ​สกุล​เผย​ ​ผล​ปรากฏ​ว่านาย​ท่าน​สาม​สกุล​เผย​ตอบ​ปฏิเสธ​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​เบะ​ปาก​ ​“​ท่าน​อา​ข้า​ยัง​พูด​ทำนอง​ว่า​คุณหนู​สกุล​หลี​ให้​เขา​เลือก​ได้​ตามใจ​ ​ทำเอา​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​หลี​เลือดขึ้นหน้า​ ​เรียก​ท่าน​อา​ไป​ต่อว่า​อย่างรุนแรง​ ​จากนั้น​งานแต่ง​ของ​ญาติ​ผู้​พี่​สาม​กับ​ญาติ​ผู้​พี่​สี่​ก็​ไม่​ค่อย​ราบรื่น​ ​เพราะ​คำพูด​นั้น​เอง​ ​ญาติ​ผู้​พี่​สี่​ของ​ข้า​ถึง​ได้​ใช้อุบาย​บางอย่าง​กับ​นายท่าน​สาม​สกุล​เผย​ ​จน​ถูก​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​หลี​สั่ง​ขัง​ไว้​ที่​ศาล​บรรพชน​”​ ​จากนั้น​ก็​เล่า​ต่อว่า​ ​“​พิธี​บรรยาย​ธรรม​มี​อะไร​น่าฟัง​กัน​ ​ข้า​ก็​แค่​อยาก​เห็น​ว่านาย​ท่าน​สาม​สกุล​เผย​มีหน้า​ตา​อย่างไร​ ​ถึง​ดันทุรัง​จะ​ตามมา​ให้​ได้​!​”

อวี​้​ถัง​คอแห้ง​ไป​หมด​ ​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ไปรู​้​ความลับ​บางอย่าง​เข้า​โดยไม่ตั้งใจ​ ​หาก​ฟัง​คำขอ​งคุณ​หนู​สวี​แยกกัน​นาง​ยัง​พอ​เข้าใจ​ ​แต่​ถ้า​รวม​หน้า​หลัง​เข้าด้วยกัน​แล้ว​กลับ​ฟัง​ไม่​ค่อย​รู้เรื่อง

คุณหนู​สวี​เห็น​ว่า​อวี​้​ถัง​คล้าย​ได้รับ​ความ​แตกตื่น​ ​ก็​หัวเราะ​ฮ่า​ๆ​ ​ทั้ง​กระซิบ​บอกต่อ​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​ไม่เชื่อ​รึ​?​ ​ด้านนอก​ต่าง​ลือ​กัน​ว่า​สกุล​หลี​ไม่เห็น​สกุล​เผยอ​ยู่​ใน​สายตา​ ​นั่น​เพราะ​สกุล​เผย​เปิดทาง​ลง​ให้​สกุล​หลี​ต่างหาก​ ​หากว่า​สกุล​เผย​ผิด​ต่อสกุล​หลี​จริงๆ​ ​สกุล​เผย​จะ​ยังสุข​สบาย​ไร้​เรื่องราว​แบบนี้​รึ​?​ ​ข้าว​่า​เจ้า​ไม่รู้​อะไร​สัก​อย่าง​ ​ข้า​เล่า​ความจริง​ให้​ฟัง​เลย​ก็แล้วกัน​ ​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ ​ก็​คือ​สะใภ้​สาม​ของ​ญาติ​ผู้​พี่​ข้า​ ​เป็น​หลานสาว​ฝั่ง​มารดา​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​หลี​ ​นับเป็น​คุณหนู​ของ​สกุล​อิน​แห่งฮ​วาห​ยาง​ ​ตอนนี้​ท่าน​ข้าหลวง​ไหว​อัน​ ​ก็​คือ​หลานชาย​สายตรง​ของ​นาย​หญิง​สาม​ ​หลาย​วันก่อน​ ​สกุล​เผย​ก็​ยืมมือ​สกุล​อิน​ยึด​เรือ​ของ​สกุล​เผิง​ ​ไม่อย่างนั้น​สกุล​เผิง​จะ​คิด​ดอง​กับ​สกุล​เผย​รึ​?​”

อวี​้​ถัง​ค้นพบ​ว่า​สมอง​ของ​ตนเอง​ไม่พอ​ใช้งาน​เสีย​แล้ว

นาง​กุม​หน้าผาก​ ​เอ่ย​ว่า​ ​“​เจ้า​รอเดี๋ยว​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​ต้อง​ไป​อ่าน​ผัง​สกุล​ก่อน​”

คุณหนู​สวี​ยิ่ง​หัวเราะ​ถูกใจ

นาง​พูด​อย่าง​เจ้าเล่ห์​ว่า​ ​“​น้องสาว​คนดี​ ​เจ้า​พา​ข้า​ไปดู​ว่านาย​ท่าน​สาม​สกุล​เผย​หน้าตา​เป็น​อย่างไร​ ​ข้า​จะ​วาด​ผัง​สกุล​ให้​เจ้า​แผ่น​หนึ่ง​ ​เจ้า​จะ​ได้​รู้​ว่า​คน​สกุล​ไหน​เกี่ยวดอง​กับ​คน​สกุล​ไหน​บ้าง​!​”

อวี​้​ถัง​แค่​หลุดปาก​พูด​ไป​อย่างนั้น​ ​นาง​คิด​ว่านา​งกับ​ผัง​สกุล​ไม่มี​อะไร​ให้​ข้องเกี่ยว​กัน​ ​คง​ไม่น่า​จะ​ได้​ใช้

นาง​กระเซ้า​คุณหนู​สวี​ว่า​ ​“​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​รอง​คงยิ่ง​ใหญ่​มาก​ใช่ไหม​?​ ​หากว่า​ข้า​ไป​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​นาย​หญิง​รอง​ ​นาง​คง​ยอม​บอก​ข้า​แน่ๆ​”

คุณหนู​สวี​หัวเราะ​อย่าง​ไม่เห็นด้วย​ ​“​นาง​เล่า​ให้​สนุก​สู้​ข้า​ไม่ได้​หรอก​!​ ​แถม​ข้า​ยัง​เล่าเรื่อง​น่าสนใจ​อื่นๆ​ ​ให้​เจ้า​ฟังได้​อีกด้วย​!​”

อวี​้​ถัง​ตอบ​ว่า​ ​“​สรุป​คือ​ข้า​ไม่รู้​อะไร​สัก​อย่าง​ ​ไม่รู้​ด้วยว่า​ที่​เจ้า​เล่า​มามัน​ถูก​หรือ​ผิด​?​”

คุณหนู​สวี​ยัง​ยั้ง​อารมณ์​ของ​ตน​อยู่​ ​“​เอาอย่าง​นี้​ไหม​ ​เจ้า​รอส​อง​สาม​วัน​ ​ดู​ว่า​มี​ใคร​รู้​เยอะ​กว่า​ข้า​อีก​ ​พวกเรา​ค่อย​มา​ว่า​กัน​ใหม่​?​”

ช่าง​มั่นใจ​เสีย​เหลือเกิน​นะ

อวี​้​ถัง​ปล่อย​เสียงหัวเราะ​ฮ่า​ๆ​ ​ออกมา

คุณหนู​สวี​พลัน​กระตุก​ชาย​เสื้อ​ของ​อวี​้​ถัง​ ​ทำ​มือ​บอกใบ้​ให้​นาง​เงียบเสียง

อวี​้​ถัง​หันขวับ​ไป​ทาง​ลาน​เรือน​อย่าง​ไม่รู้​ตัว

เห็น​เพียง​นาย​หญิง​รอง​ที่​ถูก​ล้อมรอบ​ด้วย​จี้​ต้า​เหนียง​กับ​เฉิน​ต้า​เหนียง​ ​กำลัง​เดิน​ไป​ส่ง​เหล่า​หญิง​งาม​ผู้สูงศักดิ์​ออกจาก​ประตู

คุณหนู​สวี​กระเถิบ​เข้ามา​ติด​ข้าง​หู​อวี​้​ถัง​ ​บอก​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เห็น​นาย​หญิง​ที่​ใส่​เสื้อคลุม​สีแดง​ขลิบ​ทอง​หรือไม่​ ​คน​นั้น​คือ​นาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​เผิง​ ​แต่ว่า​นาง​ไม่​ค่อย​มีส​มอง​เท่าไร​ ​ทำ​อะไร​ก็​รู้จัก​แต่​บีบบังคับ​ ​สู้​นาย​หญิง​สาม​สกุล​เผิง​ไม่ได้​ ​คน​ข้างๆ​ ​ที่​ใส่​เสื้อคลุม​สีน้ำเงิน​ขลิบ​ทอง​นั่น​ต่างหาก​ที่​เก่งกาจ​ ​ถูก​น้อง​สะใภ้​ของ​ตัวเอง​คุม​ไว้​ยัง​ไม่รู้​ตัว​อีก​ ​คนที​่​หน้าขาว​ๆ​ ​อวบ​ๆ​ ​นั่น​คือ​นาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​ซ่ง​ ​คน​นี้​คุย​ง่าย​ ​แต่​สกุล​ซ่ง​นั้น​มีนาย​หญิง​สี่​เป็น​คนดู​แล​สกุล​ ​ส่วน​คนที​่​กำลัง​คุย​กับ​นาย​หญิง​รอง​อยู่​ ​ดูท่า​อ่อนแอ​บอบบาง​ ​แต่​ท่าน​เม​่​ข้า​บอกว่า​นาง​ฉลาด​เป็น​กรด​ ​ตอนนั้น​ที่นาย​ท่าน​สี่​ขึ้น​รับ​ตำแหน่ง​ ​นับว่า​เป็นผล​งาน​ของ​นาง​ครึ่งหนึ่ง​ ​นาย​หญิง​กับ​สะใภ้​ของ​สกุล​ซ่ง​ ​ไม่มีใคร​กล้า​หือ​กับ​นาง​สัก​คน​ ​ยัง​มีนาย​หญิง​อายุ​น้อย​ที่​ใส่​ผ้าไหม​หังโฉว​สีชมพู​แล้ว​ปักปิ่น​ระย้า​นั่น​ ​หึๆ​ ​เป็น​พี่สาว​ข้า​เอง​ ​นาง​แต่ง​ให้​กับ​สกุล​เผิง​ ​เป็น​สะใภ้​รอง​ของ​สกุล​เผิง​ ​ส่วน​คนอื่น​ที่​เหลือ​ ​ข้า​ไม่รู้​จัก​แล้ว​”

อวี​้​ถัง​มองตาม​แต่​ไม่ได้​ส่งเสียง

คุณหนู​สวี​หันไป​มอง​นาง​แล้ว​กะพริบตา​ใส่​ ​คล้าย​จะ​บอกว่า​ ​‘​เห็น​ไหม​ ​ข้า​รู้​เยอะ​เช่นนี้​ ​เจ้า​ยัง​ไม่​รีบ​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​ข้า​อีก​’

อวี​้​ถัง​ตะลึง​ไป

คุณหนู​สวี​ผู้​นี้​ ​เป็น​คนที​่​น่าสนใจ​เหลือเกิน

นาง​ถาม​ว่า​ ​“​สกุล​สวี​ของ​ท่าน​มี​ความเป็นมา​อย่างไร​รึ​?​”

————————————————————-