บทที่ 210 ซับซ้อน

ห้วงเวลาบุปผาผลิบาน

ได้ยิน​อวี​้​ถัง​ถาม​เช่นนี้​ ​คุณหนู​สวี​พลัน​เลิก​คิ้ว​ลำพอง​ ​แต่กลับ​แสร้ง​โบกมือ​คล้าย​ไม่ใส่ใจ​ ​“​ไอ​หยา​ ​พวกเรา​ก็​เป็น​ครอบครัว​ขุนนาง​ธรรมดา​ทั่วไป​ ​สมัย​บิดา​ของ​ปู่ทวด​แล้วก็​ท่าน​ทวด​มี​ขุนนาง​ที่​เก่งกาจ​หลาย​คน​ ​ตอนนี้​น่ะ​หรือ​ ​ก็​มีท​่า​นลุง​ท่าน​อา​ไม่​กี่​คนที​่​ทำงาน​ใน​ราชสำนัก​ไป​วัน​ๆ​ ​เท่านั้น​แหละ​”

นี่​ไม่​คล้าย​ว่า​แค่​ทำงาน​ไป​วัน​ๆ​ ​สัก​เท่าไร​!

อวี​้​ถัง​เม้มปาก​ยิ้ม​ ​คิด​ว่า​หาก​นาง​ถาม​ลึก​ลง​ไป​กว่านี​้​ ​คุณหนู​สวี​จะ​รู้สึก​ว่านาง​เสียมารยาท​หรือไม่​ ​จึง​อด​จะ​ลังเล​ไป​พัก​หนึ่ง​ไม่ได้​ ​ระหว่าง​นั้น​จึง​เกิด​ความ​เงียบ​ขึ้น​ระหว่าง​คน​ทั้งคู่

อย่างไร​คุณหนู​สวี​ก็​อายุ​ยังน้อย​ ​ทั้ง​ข่มอารมณ์​ไม่​ค่อย​อยู่​ ​นาง​กังวล​ว่า​อีก​เดี๋ยว​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​จะ​เรียก​พวก​นาง​เข้าพบ​ ​นาง​ก็​จะ​ไม่มี​โอกาส​ได้​สนทนา​กับ​อวี​้​ถัง​เช่นนี้​อีกแล้ว​ ​จึง​ตัดสินใจ​เอ่ย​ว่า​ ​“​สกุล​ข้า​อยู่​ที่จื​๋​อลี​่​ใต้​ ​จะ​ว่า​ไป​ ​ก็​นับเป็น​คนบ้าน​เดียว​กับ​นาย​หญิง​รอง​สกุล​เผย​ ​แต่​สกุล​ข้า​ย้าย​ไป​อยู่​เมืองหลวง​ตั้งแต่​รุ่น​ทวด​ ​แม้​จะ​รู้จัก​กับ​นาย​หญิง​รอง​สกุล​เผย​ ​แต่​ไม่​ค่อย​ได้​ไปมาหาสู่​กัน​เท่าไร​”

นาง​คิด​ว่า​เมื่อ​นาง​พูด​ออก​ไป​แบบนี้​ ​อวี​้​ถัง​ต้อง​นึกออก​แล้ว​ว่า​สกุล​ของ​พวก​นาง​คือ​ใคร

เพราะว่า​ตอนนี้​ ​ต่อให้​เป็น​ขุนนาง​ยศ​สูง​เพียงใด​ ​แต่​ตอน​เกษียณอายุ​ก็​ต้อง​กลับ​ไป​ภูมิลำเนา​เก่า​ ​นอกจาก​สร้าง​ความดี​ความชอบ​ยิ่งใหญ่​ ​ถึง​จะ​ได้รับ​พระราชทาน​ที่​ให้​อยู่​ใน​เมืองหลวง

และ​ผู้​ที่​เข้า​เงื่อนไข​ดังกล่าว​ ​ตั้งแต่​ก่อตั้ง​ราชวงศ์​มา​ ​สำหรับ​นามสกุล​สวี​นั้น​ ​มี​แค่​พวก​นาง​เพียง​สกุล​เดียว

นาง​พยายาม​โอ้อวด​ความเป็นมา​ของ​สกุล​ตน​อย่าง​อ่อนน้อม​ที่สุด​แล้ว

แต่​อวี​้​ถัง​ก็​ยัง​ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​เสียที

ทว่า​นาง​เป็น​คนฉลาด​ ​รู้ทัน​ว่า​คุณหนู​สวี​คง​ละอาย​ที่จะ​เยินยอ​ตนเอง​ตรงๆ​ ​แต่​ความจริง​ ​ใน​วาจา​ก่อนหน้า​นั้น​ก็ได้​บอก​ความเป็นมา​ของ​สกุล​สวี​เอาไว้​หมด​แล้ว

คุณหนู​สวี​เป็น​เด็กสาว​ที่​น่าสนใจ​อย่างมาก​ ​อวี​้​ถัง​ค่อนข้าง​ชื่นชม​คน​นิสัย​เช่น​นาง​ ​ครุ่นคิด​ว่า​ต่อให้​ตอนนี้​นาง​จะ​ซักถาม​อย่างละเอียด​ ​แต่​บาง​เรื่อง​จำต้อง​ให้​คนที​่​รู้​ผัง​สกุล​อธิบาย​ให้​ฟัง​ก่อน​จึง​จะ​ใช้ได้​ ​นาง​มอง​หัว​คิ้ว​ของ​คุณหนู​สวีที​่​ยึกยัก​ไปมา​ ​ราวกับ​กำลัง​บอกว่า​ ​ใครๆ​ ​เขา​ก็​รู้กัน​หมด​ว่า​สกุล​สวี​เป็น​สกุล​เช่นไร​ ​นาง​เกิด​นึก​สนุก​ ​จึง​แกล้ง​คุณหนู​สวี​เล่น​ ​แสร้ง​ตีหน้า​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ทันที​ ​แล้ว​ส่งเสียง​ ​“​อ้อ​”​ ​โดย​หน้า​ไม่​เปลี่ยนสี​ ​เอ่ย​ถาม​อย่างประหลาดใจ​ว่า​ ​“​ช่าง​ซับซ้อน​นัก​!​ ​มารดา​เลี้ยง​ของ​คุณชาย​หยาง​เป็น​ญาติ​กับ​สกุล​ท่าน​ ​สกุล​ท่าน​ก็​ยัง​เป็น​ญาติ​กับ​สกุล​หลี​และ​สกุล​เผิ​งอีก​ทอด​ ​ตอนนี้​ยัง​เป็น​คนรู้จัก​เก่าแก่​กับ​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​รอง​อีกด้วย​…​ข้า​ยัง​ได้ยิน​ว่า​ ​มารดา​เลี้ยง​ของ​คุณชาย​หยาง​เป็น​ญาติ​กับ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ด้วย​”​ ​นาง​เอ่ย​ ​จากนั้น​ก็​มอง​คุณหนู​สวี​ด้วย​สายตา​นับถือ​ ​“​หากว่า​เปลี่ยนเป็น​ข้า​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่รู้​แล้ว​ว่า​ต้อง​เรียก​ใคร​ว่า​อะไร​บ้าง​”

ดวงตา​ของ​คุณหนู​สวีทอ​แสง​วาบ​อยู่​หลาย​ที

น้อง​อวี​้​ควรจะ​แสดง​ความชื่นชม​นับถือ​ต่อสกุล​สวี​ของ​นาง​มิใช่​หรือ​?​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​แจกแจง​สายสัมพันธ์​ของ​แต่ละ​สกุล​ออกมา​เล่า​?

อวี​้​ถัง​มอง​ท่าทาง​ของ​คุณหนู​สวี​ ​ไม่​ง่าย​กว่า​จะ​กลั้น​เสียงหัวเราะ​เอาไว้​ได้​ ​แล้ว​พูด​เรื่องเหลวไหล​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ต่อว่า​ ​“​บ้าน​ของ​พวก​เจ้า​อยู่​ที่จื​๋​อลี​่​ใต้​ ​ก็​หมายความว่า​ติดๆ​ ​กัน​กับ​แถบ​เจียง​หนาน​ ​สกุล​ท่าน​เป็น​ญาติ​กับ​สกุล​หยาง​และ​สกุล​เฉียน​ข้า​ไม่​แปลกใจ​ ​แต่​ทำไม​อา​หญิง​ของ​เจ้า​ถึง​แต่ง​ไป​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​โน่น​ล่ะ​?​ ​หรือว่า​อา​หญิง​ย้ายถิ่น​ฐาน​ไป​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​?​”

คุณหนู​สวี​ร้อนใจ​ทนไม่ไหว​ ​รีบ​เอ่ย​ว่า​ ​“​ไม่ใช่​ๆ​ ​สกุล​เผิ​งกั​บส​กุล​ข้า​ล้วนแต่​มี​คนรับ​ราชการ​ใน​ราชสำนัก​ ​ท่าน​พ่อตา​ของ​อา​หญิง​ข้า​กับ​ท่าน​อา​รอง​ข้า​สอบ​ติด​รุ่น​เดียวกัน​ ​ภายหลัง​ก็ได้​ไป​ประจำการ​ที่ลั​่ว​หยาง​เหมือนกัน​อีก​ ​ถึง​ได้​แต่งงาน​เกี่ยวดอง​กัน​”

อวี​้​ถัง​ไม่ยอม​ให้​นาง​พูด​ต่อ​ ​ฟัง​ถึง​ตรงนี้​ก็​รีบ​ตัดบท​นาง​ทันที​ ​“​ข้า​รู้​ว่านาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​เผย​มาจาก​สกุล​หยาง​ ​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​คุณหนู​รอง​สกุล​เผย​ก็​นามสกุล​หยาง​เหมือนกัน​ ​ไม่รู้​ว่า​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​กับ​คุณหนู​รอง​สกุล​เผย​มี​ความเกี่ยวพัน​กัน​หรือไม่​?​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​สกุล​หยาง​ก็​เป็น​สกุล​ใหญ่​ ​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ต้อง​เป็น​สกุล​ที่​ยิ่งใหญ่​มาก​กระมัง​?​ ​แต่ก่อน​ตอนที่​คุณหนู​ห้า​ให้​ข้า​สอน​นาง​ทำ​ดอกไม้​ผ้า​ ​ข้า​ยัง​นึก​ว่า​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​รอง​แค่​มีพี​่​น้อง​ที่​รับราชการ​อยู่​เมือง​จิน​หลิง​เท่านั้น​ ​แต่​ดู​จาก​ท่าทาง​ของ​นาย​หญิง​รอง​แล้ว​ ​คงจะ​ไม่ใช่​สกุล​สามัญ​ทั่วไป​แน่​?​”

คุณหนู​สวี​ได้ยิน​ก็​เหล่​ตาม​อง​อวี​้​ถัง​ที​หนึ่ง​ ​ทำ​หน้า​เหมือน​จะ​บอกว่า​ ​‘​เจ้า​ไป​ได้ยิน​คำพูด​เหลวไหล​นี้​มาจาก​ใคร​กัน​’​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​“​สกุล​ฝั่ง​มารดา​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​จะ​ไป​เทียบ​ชั้น​กับ​สกุล​หยาง​แห่งถง​หลู​ได้​อย่างไร​?​ ​บรรพบุรุษ​ของ​สกุล​หยาง​แห่งถง​หลู​เคย​มี​คน​เป็น​ขุนนาง​ขั้น​หนึ่ง​มาก​่อน​ ​แต่​สกุล​หยาง​แห่ง​ติ้ง​หยวน​ของ​พวกเขา​นั้น​ค้าขาย​แพร​ไหม​มาตั​้ง​แต่​สาม​รุ่น​ก่อน​แล้ว​ ​ทำเป็น​แสดง​ต่อ​คนภายนอก​ว่า​ตน​เป็น​สกุล​บัณฑิต​ ​รับราชการ​ ​นั่น​เป็นเรื่อง​ของ​คนรุ่นหลัง​รุ่น​ที่สอง​สาม​แล้ว​ต่างหาก​ ​จากนั้น​ถึง​ดอง​กับ​สกุล​เผย​ ​ได้รับ​การ​ประคับประคอง​จาก​สกุล​เผย​จน​เดิน​มาถึง​จุด​นี้​ได้​อย่างราบรื่น​!​”​ ​เล่า​ถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ทำ​หน้าตื่น​เต้น​คล้าย​จะ​นินทา​คน​กับ​อวี​้​ถัง​ ​กระซิบกระซาบ​ข้าง​หู​อวี​้​ถัง​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​บอก​ให้​ ​อย่า​ได้​มองว่า​นาย​หญิง​ใหญ่​วางท่า​เหมือน​คุณหนู​สกุล​สูงศักดิ์​ ​ทั้งเป็น​บุตรสาว​ของ​สกุล​ผู้ทำ​พิธี​บวงสรวง​ ​ความจริง​เรื่องเล่า​เรียน​มิได้​เก่งกาจ​อะไร​เลย​ ​แต่ก่อน​ตอนที่​นาง​อยู่​เมืองหลวง​ ​ครั้งหนึ่ง​ที่​งาน​ชม​บุปผา​ต่อ​กลอน​ของ​สกุล​จาง​ ​ต้อง​ดื่ม​สุรา​รอบ​วง​ ​แต่ละ​รอบ​นาง​ก็​ผ่าน​ไป​อย่าง​ทุลักทุเล​ ​ภายหลัง​เพราะ​ต่อ​กลอน​ไม่ไหว​ ​ยัง​แกล้ง​เมา​แต่​ถูก​ผู้อื่น​จับได้​ ​ที่นาง​แต่ง​กับ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​เผย​ได้​นับว่า​ไม่เลว​แล้ว​ ​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​เพราะ​ใบหน้า​ดวง​นั้น​ของ​นาง​ ​ดังนั้น​ ​บิดา​ข้า​จึง​ค่อนข้าง​ดูแคลน​นายท่าน​ใหญ่​ของ​พวกเขา​อยู่​บ้าง​…​”

จะ​บอกว่า​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​ค่อนข้าง​โง่​รึ

ภายใน​เวลา​เพียง​สอง​เค​่อ​ ​อวี​้​ถัง​กลับ​รู้เรื่องราว​ต่างๆ​ ​มากกว่า​เรื่อง​ที่​ตน​รู้​มาต​ลอด​สอง​ชาติ​รวมกัน​เสียอีก

นาง​หัวเราะ​เหอะ​ๆ​ ​ละอายใจ​เกิน​กว่า​จะ​วิจารณ์​นาย​หญิง​ใหญ่​ได้​ ​เพียง​เอ่ย​ว่า​ ​“​ต่าง​คน​ต่าง​ชอบ​ต่างใจ​ ​เรื่อง​แบบนี้​ใคร​จะ​พูด​ให้​ชัดเจน​ได้​เล่า​”

อวี​้​ถัง​รู้สึก​ว่า​คำพูด​ของ​ตน​ช่าง​ฟัง​ยิ่งใหญ่​นัก​ ​ไม่​อาจ​หา​ข้อบกพร่อง​ได้​เลย​ ​ใคร​จะ​คิด​ว่า​เพิ่ง​พูด​จบ​ ​คุณหนู​สวี​พลัน​สวน​กลับมา​ทันที​ ​“​ที่แท้​เรื่อง​นี้​เจ้า​ก็​รู้อยู่​ก่อน​แล้ว​!​”

เรื่อง​ไหน​อีก​ล่ะ​?​!

อวี​้​ถัง​จับต้นชนปลายไม่ถูก​ ​ไม่รู้​ว่า​ตนเอง​ไป​แตะ​ถูกส่วน​ไหน​ของ​คุณหนู​สวี​เข้า​ ​คุณหนู​สวี​จึง​เริ่ม​กระซิบกระซาบ​อีก​รอบ​ว่า​ ​“​มี​ครั้งหนึ่ง​ข้า​ได้ยิน​ท่าน​แม่​กับ​ป้า​สะใภ้​คุย​กัน​ ​บอกว่า​นาย​หญิง​ใหญ่​ภายนอก​แสร้ง​เป็นสุขุม​เรียบร้อย​ ​วางท่า​ให้​ผู้อื่น​เกรงขาม​ ​แต่​ความจริง​ออดอ้อน​เก่ง​เกิน​ใคร​ ​เดิน​ได้​ไม่​กี่​ก้าว​ก็​ต้อง​หันไป​บอก​กับ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​เผย​ว่า​ปวด​เท้า​อย่าง​โน้น​อย่างนี้​ ​ท่าน​แม่​ข้า​บอกว่า​ ​ไม่​แปลกที่​นาง​จะ​ใช้ชีวิต​ราบรื่น​สม​ดั่ง​ใจ​”

แต่​เมื่อไร​้​ซึ่ง​สามี​ ​ชีวิต​ของ​นาง​ก็​คง​ไม่​สุขสบาย​เหมือน​วัน​เก่า​แล้ว​!

อวี​้​ถัง​คิด​ว่า​หาก​นาง​พูด​เช่นนั้น​ออก​ไป​ตอนนี้​อาจจะ​ดู​เกินไป​หน่อย​ ​จึง​ส่งเสียง​ ​“​อืม​”​ ​คล้อยตาม​คุณหนู​สวี​ไป​ ​ทว่า​ใน​ใจ​ก็​คิดถึง​เรื่อง​ของ​เผย​เยี​่​ยน

สกุล​หลี​ทำ​ถึงขนาด​นี้​แล้ว​ ​ทำไม​เผย​เยี​่​ยน​ถึง​ไม่ยอม​ตกลง​แต่ง​กับ​สกุล​หลี​อีก​?

เพราะ​คุณหนู​สกุล​หลี​หน้าตา​ธรรมดา​เกินไป​?​ ​หรือ​เพราะ​นิสัย​แย่มาก​?

แต่​นาง​คบหา​กับ​คุณหนู​สวี​ได้​อย่างราบรื่น​ ​จึง​ไม่สมควร​จะ​เป็น​เช่นนั้น

นาง​อด​จะ​ถาม​ไม่ได้​ว่า​ ​“​คุณหนู​สกุล​หลี​หน้าตา​สะสวย​หรือไม่​?​”

คุณหนู​สวี​ชั่วขณะหนึ่ง​คล้าย​ตั้งตัว​ไม่ทัน​ ​เอ่ย​ด้วย​ความ​ทอดถอนใจ​กึ่ง​อับจน​ว่า​ ​“​เจ้า​รู้​ไหม​ว่า​ทำไม​ท่าน​แม่​ข้า​ต้อง​วิจารณ์​เรื่อง​นาย​หญิง​ใหญ่​?​ ​เพราะว่า​พี่ชาย​คนโต​ของ​ข้า​ก็​เหมือนกับ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​เผย​ ​เขา​ก็​แต่ง​กับ​หญิง​ที่​ไม่มี​อะไร​ดีน​อก​จาก​หน้าตา​ ​ท่าน​แม่​ข้า​กลัว​จะ​ตาย​ว่า​หลานชาย​สอง​คน​จะ​เหมือนกับ​บุตรชาย​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​เผย​ ​ถึง​ได้รับ​หลาน​ทั้งสอง​คน​ไป​เลี้ยงดู​ด้วยตัวเอง​…​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​พี่ชาย​คนโต​ของ​ข้า​ต้อง​คอย​เป็น​คนกลาง​ระหว่าง​ท่าน​แม่​กับ​พี่สะใภ้​ ​พี่สะใภ้​ข้า​ ​ก็​คือ​สกุล​สาขา​ของ​สกุล​หลี​นั่นแหละ​!​”

คุณหนู​ผู้​นี้​ ​ไม่ว่า​สิ่งใด​ก็​กล้า​พูด​ออกมา​จน​หมด​!

อวี​้​ถัง​จน​ไม่รู้​ว่า​ต้อง​ทำ​อย่างไร​ดี​แล้ว

คุณหนู​สวี​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​อวี​้​ถัง​ฟัง​ไม่​กระจ่าง​ ​รีบ​อธิบาย​ว่า​ ​“​เจ้า​รู้​ใช่ไหม​ว่า​ใต้เท้า​หลี​เป็น​ถึง​ทั่นฮ​วา​ของ​รุ่น​นั้น​?​ ​ตอน​สนาม​สอบ​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​ก็​สอบ​ได้ที่​สามสิบ​กว่า​ ​แต่​สกุล​หลี​ของ​พวกเขา​ ​ที่​เลื่องชื่อ​มิใช่​ใต้เท้า​หลี​ผู้​เป็น​ถึง​เก๋อ​เหล่า​หรอก​ ​แต่​ขึ้นชื่อ​เรื่อง​หญิง​งาม​ต่างหาก​ล่ะ​!​”

มีเรื่อง​แบบนี้​ด้วย​รึ​?​!

แล้ว​ทำไม​เผย​เยี​่​ยน​ถึง​ไม่​ยินยอม​เล่า​?

หาก​เป็น​คนอื่น​ ​ย่อม​คิด​ว่า​เผย​เยี​่​ยน​สมอง​ไม่ดี​แน่​ ​แต่​อวี​้​ถัง​กลับ​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​เผย​เยี​่​ยน​เต็มเปี่ยม​ ​นาง​คิด​ว่า​เรื่อง​ระหว่าง​เผย​เยี​่​ยน​กับ​สกุล​หลี​ต้อง​มี​เงื่อนงำ​อื่น​อีก

เพียงแต่​นาง​ไม่รู้​เลย​ว่า​ตน​จะ​มีโอกาส​ได้​รู้​ถึง​เงื่อนงำ​ที่ว่า​ไหม

พอคิด​แบบนี้​ ​อวี​้​ถัง​พลัน​รู้สึก​หม่นหมอง

แต่ว่า​ ​คุณหนู​สวี​รู้เรื่อง​มากมาย​จริงๆ​ ​ด้วย

หาก​นาง​อยากรู้​แผนผัง​วงศาคณาญาติ​ ​บางที​อาจ​ต้อง​มา​ฟัง​คุณหนู​สวี​เล่า​จริงๆ​ ​ก็ได้

อวี​้​ถัง​วางหน้า​จริงจัง​ ​กำลังจะ​ขอ​คำ​ชี้แนะ​จาก​นาง​สัก​หลาย​ประโยค​ ​ก็​เห็น​นาย​หญิง​รอง​ที่​ส่ง​แขก​เสร็จ​แล้ว​เดิน​นำ​จี้​ต้า​เหนียง​ไป​ทาง​ห้องน้ำ​ชา

นี่​จะ​ไป​เชิญ​พวก​นาง​ให้​เข้าพบ​ท่าน​แม่เฒ่า​หรือ

สอง​คน​กระเด้ง​ตัว​ลุก​ทันที​ ​จัดแจง​เสื้อผ้าอาภรณ์​ ​แล้ว​สาวเท้า​สวบ​ๆ​ ​ไป​ทาง​ห้องน้ำ​ชา

นาย​หญิง​รอง​มา​เชิญ​พวก​นาง​ไป​ดื่ม​ชาตา​มที​่​คาด​เอาไว้​ ​เมื่อ​เห็น​คุณหนู​สวี​กับ​อวี​้​ถัง​กลับมา​จาก​ด้านนอก​ ​ไม่​เพียง​ไม่​ตั้ง​ข้อสงสัย​ ​ยัง​ถาม​อย่าง​ห่วงใย​อีกว่า​ ​“​ไป​ไหน​มากั​นล​่ะ​?​ ​ข้า​พบ​ว่า​ลาน​ด้านหลัง​ปลูก​กุหลาบ​ไว้​หลาย​ต้น​ ​กำลัง​บาน​เต็มที่​เลย​ ​ถ้า​พวก​เจ้า​มี​เวลา​ก็​ลอง​ไป​ชมดู​ได้​”

สอง​คน​ต่าง​รู้สึก​ผิด​ ​มี​หรือ​จะ​กล้า​พูดมาก​ ​ได้​แต่​รับคำ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​อย่างนอบน้อม​ ​แล้ว​ตาม​ผู้อาวุโส​ไป​พบ​ท่าน​แม่เฒ่า

หน้าต่าง​โถง​หลัก​เปิดกว้าง​ ​ลม​เย็น​พัด​เบาบาง​ ​ใน​ห้อง​อากาศ​เย็นสบาย

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​เอน​พิง​หมอน​ใบ​ใหญ่​อยู่​บน​ตั่ง​ไม้ยาว​ ​สีหน้า​อบอุ่น​ ​ดวงตา​ทอ​ประกาย​ยิ้ม​ ​ดู​อารมณ์ดี​และ​ปล่อยตัว​อิสระ​ ​ไร้​ซึ่ง​ร่องรอย​ว่าที่​แห่ง​นี้​เคย​เกิดเหตุ​การณ์​ที่​ทำให้​นาย​หญิง​รอง​ต้อง​วิ่งหนี​ออก​ไป

“​เมื่อวาน​หลับ​สบายดี​หรือไม่​?​”​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​ถาม​อย่าง​เป็นห่วง​ ​“​ให้​พวก​เจ้า​รอ​เสียนาน​ ​จี้​ต้า​เหนียง​ได้​ชงชา​ชั้นดี​ให้​พวก​เจ้า​ดื่ม​หรือไม่​?​”

“​ไม่​เพียง​ชาดี​ ​ขนม​ก็​อร่อย​มาก​เจ้าค่ะ​”​ ​คน​สกุล​เฉิน​หัวเราะ​เบา​ๆ

นางอายุ​มากกว่า​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​ ​นาย​หญิง​สาม​สกุล​หยาง​จึง​ปล่อย​ให้​คน​สกุล​เฉิน​เป็นตัวแทน​ตอบ​คำของ​ท่าน​แม่เฒ่า​อย่างนอบน้อม

ไม่พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​แค่​ลักษณะ​ท่าทาง​เช่นนี้​ ​ก็​มองออก​ถึง​ความ​ไม่ธรรมดา​ของ​คน​สกุล​อิน​แล้ว

ทุกคน​คุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​ไป​พักใหญ่​ ​กระทั่ง​ท่าน​แม่เฒ่า​คนอื่นๆ​ ​นาย​หญิง​ ​สะใภ้​และ​เหล่า​คุณหนู​สกุล​เผย​มากั​นพร​้​อม​หน้า

ทุกคน​ต่าง​หันหน้า​มาทัก​ทาย​ปราศัย​กัน

อวี​้​ถัง​เห็น​นาย​หญิง​ใหญ่​สกุล​เผย​แล้ว

นาง​มีสา​วรับ​ใช้​หน้าตา​สะสวย​ประคอง​อยู่​ ​ท่าทาง​สงบเสงี่ยม​พูดน้อย

เหล่า​สตรี​สกุล​เผย​ต่าง​กีดกัน​นาง​ออกจาก​วง​สนทนา​ทั้ง​โดยตั้งใจ​และ​ไม่​ตั้งใจ​ ​หา​ได้​ชักชวน​นาง​พูดคุย​เท่าไร​นัก

อวี​้​ถัง​ลอบ​จดจำ​ไว้​ใน​ใจ

รอ​จน​ทุกคน​นั่งลง​อีกครั้ง​ ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​ก็​ให้​คน​ไป​เชิญ​อาจารย์​อู๋​เห​นิง​พระ​ชั้นสูง​จาก​วัด​เส้า​หลิน​ใต้​เข้ามา

ผิวกาย​ของ​เขา​ดำคล้ำ​ ​เป็น​ชาย​อายุ​ห้าสิบ​กว่า​ที่​มี​รูปร่าง​ผอมแห้ง​ ​สวม​จีวร​ผ้า​หยาบ​สีเทา​แสน​จะ​ธรรมดา​ ​สีหน้า​เคร่งขรึม​ ​พูดจา​สั้น​กระชับ​ ​เสียงก้อง​เหมือน​ระฆัง​ ​สะท้าน​สั่น​อยู่​ข้าง​หู​ ​ทำเอา​เหล่า​สตรีที​่​อยู่​ตรงนั้น​พากัน​ตกอกตกใจ

อวี​้​ถัง​คิด​ว่า​ตอน​เขา​สนทนา​ธรรม​ ​ทุกคน​จะ​ต้อง​ได้ยิน​อย่างชัดเจน​แจ่มแจ้ง​แน่

อู๋​เห​นิง​รู้​เจตนา​ของ​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​แต่แรก​ ​ทว่า​เขา​ก็​ไม่ได้​พูดมาก​ ​เริ่ม​จาก​เล่าเรื่อง​ราว​สั้น​ๆ​ ​ใน​คัมภีร์​ให้​ทุกคน​ฟัง​ ​จากนั้น​ก็​ให้​เณร​น้อย​ที่​ติดตาม​มา​หยิบ​ยันต์​คุ้มภัย​ให้​พวก​นาง​เลือก​ ​และ​แจ้ง​ว่า​พิธี​ภาวนา​จะ​ทำ​ตอน​ช่วง​เที่ยง​ของ​พรุ่งนี้​ ​“​นี่​เป็น​เพียง​พิธี​ทางธรรม​เล็ก​ๆ​ ​หนึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​เสร็จสิ้น​แล้ว​ ​วันนี้​ต้อง​ให้​นาย​หญิง​และ​คุณหนู​ทุกท่าน​ชำระ​กาย​ให้​สะอาด​ ​งด​อาหาร​ติด​คาวเลือด​ ​กินเจ​ตลอด​หนึ่ง​วัน​เป็น​ใช้ได้​”

ทุกคน​ประสานเสียง​รับคำ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​ยันต์​คุ้มภัย​ที่​อู๋​เห​นิง​ให้​มา​พิจารณา​อย่างละเอียด

อู๋​เห​นิง​พา​เณร​น้อย​ขอตัว​เดิน​จากไป

ทุกคน​เริ่ม​ถกเถียง​กัน​ว่า​พรุ่งนี้​จะ​ทำอาหาร​เจกัน​เอง​หรือ​จะ​ขอให้​วัด​เจา​หมิง​จัดการ​ให้

อวี​้​ถัง​เพิ่งจะ​รู้​ตอนนี้​เอง​ว่า​ ​เหล่า​สตรี​ของ​สกุล​เผย​ขึ้น​เขา​มา​ ​ยัง​จะ​พา​พ่อครัว​ติด​มาด​้วย

มิน่า​นายท่าน​สาม​ถึง​ให้​พวก​นาง​ติดตาม​เหล่า​สตรี​สกุล​เผย​เข้า​วัด

เรื่อง​กิน​เรื่อง​อยู่​ล้วน​สะดวกสบาย​ยิ่ง​!

อวี​้​ถัง​รู้สึก​เป็นสุข​นัก

คน​สกุล​อู่​แห่ง​หู​โจว​เดินทาง​มาถึง​วัด​เจา​หมิง​แล้ว​ ​เหล่า​สตรี​สกุล​อู่​ให้​หญิง​รับใช้​มาส​่ง​เทียบ​เชิญ​แก่​ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย

ท่าน​แม่เฒ่า​สกุล​เผย​หัวเราะ​ ​“​อยู่​ใน​วัด​ไม่ต้อง​มาก​พิธี​หรอก​ ​ให้​พวกเขา​เข้ามา​กัน​เถอะ​!​”

————————————————————-