ตอนที่ 620 ตื่นเต้นกับใจตรงกัน

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

เรื่องที่เจอมาในช่วงหลายวันนี้ได้กระตุ้นจิตใจเสี่ยวเชี่ยนเป็นอย่างมาก เมื่อวานเธอมีความคิดอยากจะแต่งงานกับเขา แค่รอให้เขามาขอแต่งงานทำลายอุปสรรคที่อยู่ในจิตใจอย่างสุดท้าย แต่พอผ่านเรื่องในวันนี้ อุปสรรคนั้นก็ได้สลายไปแล้ว ตอนนี้เธออยากจะเป็นฝ่ายบอกเขาก่อนว่าเธอจะแต่งงานด้วย

 

 

แต่เธอกลับโทรไม่ติด เขาปิดเครื่อง

 

 

โทรไปหาที่หน่วยก็บอกว่าเขาไม่อยู่

 

 

แล้วเขาก็ขาดการติดต่ออีกแล้ว

 

 

เสี่ยวเชี่ยนที่คิดได้แล้วก็เกิดความรู้สึกตื่นเต้น เธอแทบอยากจะไปหาเขาทันที ครั้งนี้เธอคิดได้แล้ว เธอจะเป็นฝ่ายบอกเขาก่อนเรื่องแต่งงาน เพื่อเป็นการชดเชยให้เขาในชาติก่อน

 

 

แต่ว่าอวี๋เสี่ยวเฉียงเอ๋ย นายอยู่ที่ไหนกัน?

 

 

อวี๋เสี่ยวเฉียงกำลังคร่ำเคร่งกับการวางแผนขอแต่งงานอันยิ่งใหญ่ เมื่อคืนหลังจากที่เสี่ยวเชี่ยนบอกเขา เขาก็เริ่มคิดหาวิธีทันที หลังจากที่จัดการเอกสารเรื่องย้ายแล้ว สมองของเขาก็ศึกษาแต่เรื่องแผนขอแต่งงาน

 

 

สุดท้ายก็คิดแผนที่เพอร์เฟคสุดๆออกมาได้ เขาคิดว่าหลังจากใช้แผนนี้เสียวเหม่ยจะชอบเขามากขึ้นอย่างแน่นอน!

 

 

ขณะที่อวี๋หมิงหลางกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น บรรดาพี่น้องทหารของเขาก็ไม่ได้อยู่ว่าง โดยมีหวางย่าเฟยเป็นหัวโจก

 

 

พวกเขากำลังวางแผนการใหญ่

 

 

“ทีมที่หนึ่งรับผิดชอบแผนแทรกซึมเข้าไปในสถานีวิทยุ ทีมที่สองรับหน้าที่งานโอบล้อมด้านนอก ทีมที่สามรับหน้าที่ ‘แสร้งโจมตี’ เตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ช่วงสำคัญช่วงสุดท้าย ทุกคนมั่นใจไหม?” หวางย่าเฟยเป็น ‘ตัวตั้งตัวตี’ ในแผนใหญ่ครั้งนี้

 

 

คนเหล่านี้มีความสามารถมาก นอกจาก011ที่อยู่ระหว่างพักรอเรียกตัวแล้ว ยังมีตำรวจสืบสวนพิเศษที่อยู่ระหว่างพักผ่อนถูกเรียกตัวมาด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีทหารจากหน่วยเก่าของหวางย่าเฟยก็ถูกเรียกมา

 

 

ทุกคนต่างอยู่ในช่วงเวลาพักผ่อน ไม่กระทบต่องาน

 

 

พวกเขากำลังจะดำเนินแผน ‘ลับสุดยอด’ และแผนนี้ปิดบังไว้ไม่ให้อวี๋หมิงหลางกับเสี่ยวเชี่ยนรู้

 

 

เวลาห้าทุ่มครึ่ง เสี่ยวเชี่ยนจัดรายการวิทยุในฐานะเหม่ยเหวย

 

 

ตอนนี้สิ่งที่เธอคิดในใจก็คือ ตามหาอวี๋หมิงหลางให้เจอแล้วบอกเขาเรื่องแต่งงาน

 

 

ส่วนอวี๋หมิงหลางในเวลานี้ได้เปลี่ยนไปใส่ชุดทหารเต็มยศยืนอยู่ตรงที่ที่เขาเคยมาดักดูคนร้ายโรคจิต ในมือถือโทรศัพท์อย่างแน่วแน่มองไปที่สถานีวิทยุ คืนนี้ เขาจะต้องทำให้เสียวเหม่ยชอบเขามากขึ้นให้ได้!

 

 

ส่วนพรรคพวกของหวางย่าเฟยได้ก่อตั้งทีมงานเฉพาะกิจขึ้นมาชื่อว่า ‘ทีมก่อการรักพิเศษ’ พวกเขาแบ่งเป็นสามทีมโอบล้อมรอบตึกสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งนี้ เป้าหมายของพวกเขาในคืนนี้มีเพียงสิ่งเดียว นั่นก็คือ ช่วยอวี๋หมิงหลางขอแต่งงานให้สำเร็จ!

 

 

ตอนนี้คนทั้งสามกลุ่มล้วนมีวัตถุประสงค์แบบเดียวกัน แต่วิธีต่างกัน ภายใต้สถานการณ์ที่พวกเขาต่างไม่รู้ความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย พวกเขาต่างรอเวลาที่จะได้ใช้แผนของตัวเองเพื่อทำให้ค่ำคืนนี้มีสีสัน!

 

 

“แสงไฟยามค่ำคืนส่องสว่างให้กับเมืองใหญ่ ท่ามกลางความวุ่นวายคุณและดิฉันได้มาพบกันในพาสเวิร์ดหัวใจ สวัสดีค่ะทุกคนดิฉันเหม่ยเหวย คืนนี้พวกคุณสบายดีกันไหมคะ?”

 

 

เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเสี่ยวเชี่ยนพูดจบรายการพาสเวิร์ดหัวใจก็เริ่มขึ้น

 

 

ในขณะเดียวกันอวี๋หมิงหลางกำลังถือโทรศัพท์อยู่ เขาจะโทรไปสายด่วนรายการพาสเวิร์ดหัวใจ!

 

 

ส่วนหวางย่าเฟยในเวลานี้ได้ใช้หูฟังติดต่อกับสมาชิกทีมหนึ่ง “พร้อมหรือยัง?”

 

 

สมาชิกทีมหน่วยรบพิเศษที่แทรกซึมเข้าไปในสถานีแล้วตอบกลับมา “พร้อมครับ!”

 

 

“แน่ใจว่าสายของพวกเราเชื่อมต่อกับสายของสถานีเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

 

 

“แน่ใจครับ! นอกจากพวกเราแล้วใครก็โทรเข้าไปไม่ได้!”

 

 

อวี๋หมิงหลางกดโทรไป แต่ปรากฏว่าได้ยินแต่เสียงสัญญาณไม่ว่าง

 

 

นี่มันอะไรกันวะ?

 

 

โทรศัพท์ของสถานีโทรเข้าไม่ติด?

 

 

ใช่ นี่เป็นขั้นแรกของทีมก่อการรักพิเศษ ตัดสายจากภายนอกที่จะโทรเข้าไปให้หมด มีแค่พวกเขาที่โทรเข้าไปได้!

 

 

หวางย่าเฟยออกคำสั่งต่อ “ทีมสองเริ่มประจำตำแหน่งได้ ทีมสามเตรียมโทรศัพท์!”

 

 

ทีมสามก็คือหวางย่าเฟย

 

 

เขาโทรเข้าไปอย่างคล่องแคล่ว ผู้กำกับรับสายอย่างรวดเร็ว

 

 

จะไม่ให้เร็วได้ไงก็คนอื่นโทรไม่ติดนี่ ทุกสายที่เชื่อมกับสถานีถูกพี่ทหารตัดหมดแล้ว!

 

 

ผู้กำกับพูดจาอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ รายการพาสเวิร์ดหัวใจยินดีรับใช้ ไม่ทราบว่าคุณต้องการปรึกษาเรื่องอะไรคะ?”

 

 

“คืออย่างนี้นะครับ พี่ชายผมกับว่าที่พี่สะใภ้รักกันดีมาก แต่ทั้งสองคนตัดสินใจแต่งงานกันไม่ได้สักที ผมอยากจะปรึกษากับคุณเฉิน—เหม่ยเหวยหน่อยน่ะครับ” เกือบหลุดปากไปแล้ว

 

 

“ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่ สายของคุณจะถูกส่งเข้าไปยังเหม่ยเหวยนะคะ!” ผู้กำกับโอนสายเข้าไปพลางสงสัย วันนี้มันอะไรกัน ทำไมเพิ่งมีโทรเข้ามาแค่สายเดียว?

 

 

ปกติไฟสัญญาณจากโทรศัพท์ตั้งหลายเครื่องกระพริบไม่มีหยุด มีแต่คนโทรเข้ามาขอคำปรึกษา!

 

 

ไฟกระพริบสิแปลก ทหารหน่วยรบพิเศษมีแต่คนเก่งๆ ขึ้นเขาลงห้วยกันมาไม่รู้ตั้งเท่าไร เข้าไปในตึกสถานีได้ประหนึ่งไม่มีคนอยู่ แล้วนับประสาอะไรกับแค่เรื่องตัดสายโทรศัพท์ นี่เป็นวิชาที่พวกเขาต้องเรียนทั้งนั้น จิ๊บๆ!

 

 

ถ้าอวี๋หมิงหลางรู้ว่าทหารของเขานำความรู้ที่เขาสอนมาตัดสายโทรศัพท์จนทำให้เขาโทรเข้าไปไม่ติดเขาคงไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

 

อวี๋หมิงหลางไม่มีวิทยุจึงไม่รู้ว่ารายการดำเนินไปถึงไหน สายของหวางย่าเฟยถูกโอนเข้าไปในห้องออกอากาศแล้ว อวี๋หมิงหลางยังคงกดโทรเข้าไปไม่หยุดโดยหวังว่าตัวเองจะโทรติด—บางทีคู่สายอาจจะมีคนโทรเข้าไปมาก?

 

 

ผู้กำกับมองโทรศัพท์ที่นิ่งเงียบ ในใจรู้สึกงงงวย อะไรกันเนี่ย สายเสีย? งั้นสายแรกโทรเข้ามาได้ไง?

 

 

พึลึก…

 

 

“สวัสดีค่ะ ดิฉันเหม่ยเหวยค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนรับสายของหวางย่าเฟย

 

 

“สวัสดีครับเหม่ยเหวย ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อยครับ”

 

 

“เชิญพูดค่ะ” เสียงคุ้นๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหน? เสี่ยวเชี่ยนเกิดความสงสัย

 

 

“คืออย่างนี้ครับ พี่ชายผมกับว่าที่พี่สะใภ้รักกันดีมาก แต่ทั้งสองก็ลีลาไม่ยอมแต่งงานกันสักที พวกเราทุกคนก็ร้อนใจอยากถามหน่อยครับว่าทำไงดี ถึงจะทำให้พี่สะใภ้ของพวกเราดีใจแล้วยอมแต่งกับพี่ชายผม”

 

 

“คุณผู้ฟังท่านนี้ อนาคตของคุณยังอีกไกล มีเรื่องที่สวยงามรอคุณอยู่ แล้วเหตุใดถึงเอาสายตาไปมองเรื่องของคนอื่นล่ะคะ? พี่ชายกับพี่สะใภ้คุณมีโชคชะตาของตัวเอง เมื่อวาสนานั้นมาถึงพวกเขาก็จะครองรักกัน คุณเป็นคนนอกสิ่งที่ให้ได้ก็คือคำอวยพรแค่นั้นก็พอแล้วค่ะ”

 

 

เสี่ยวเชี่ยนยังนึกไม่ออกว่าเสียงนี้เคยได้ยินที่ไหน เพราะเสียงของคนเราพอผ่านโทรศัพท์ก็จะเปลี่ยนไป เธอจึงมองว่าคนที่โทรเข้ามานี้เป็นผู้ฟังทั่วไป

 

 

“ไม่! ไม่พอครับ! พวกเราทุกคนได้รับการฝึกสอนจากพี่ชายคนนี้ ให้แค่คำอวยพรจะพอได้ยังไง? พวกเราทุกคนเริ่มต้นจากนกตัวเล็กๆ ถูกเขาฝึกจนเติบโตกลายเป็นนกปีกใหญ่ ตอนนี้เขาจะไปแล้ว แล้วจะไม่ให้พวกเราทำเพื่อเขาได้ยังไงครับ?”

 

 

ผู้ฟังคนนี้เริ่มมีอารมณ์แล้ว เสี่ยวเชี่ยนดื่มน้ำให้ชุ่มคอ รักษาหลักการของตัวเอง พูดตรงจุดโดยไม่สูญเสียอารมณ์ขัน ชี้นำได้ตรงใจ “แล้วพวกคุณคิดจะช่วยยังไงคะ? เรื่องของความรักต่อให้ซับซ้อนแค่ไหนก็เป็นแค่เรื่องของคนสองคน ผู้ชายที่แม้แต่ขอแต่งงานยังทำไม่ได้ยังคิดจะให้พี่น้องช่วยอีกเหรอคะ งั้นตอนเข้าหอไม่ต้องตามไปช่วยด้วยเหรอคะ?”

 

 

เธอเป็นคนวาทะเด็ดมาตลอด พี่ทหารที่รอคำสั่งอยู่ด้านนอกได้ยินแล้วก็พากันหน้าแดง คนที่รับผิดชอบด้านเทคนิคถามขึ้น “ท่อนนี้ตัดทิ้งได้ไหม อย่าให้หัวหน้ากลางได้ยินเข้านะ…”