บทที่ 323 ไปจวนของแม่ทัพใหญ่ + บทที่ 324 กลับสู่หมู่บ้านไป๋ซาน

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

บทที่ 323 ไปจวนของแม่ทัพใหญ่

เซียวชวี่เฟิงมองหนานกงเยี่ยนพลางคิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่ แต่จู่ๆ หนานกงเยี่ยนก็หัวเราะเสียงดัง “กระหม่อมเลิกยุ่งเกี่ยวกับพวกเขามากว่าสิบปีแล้วพ่ะย่ะค่ะ วันนี้ กระหม่อมต้องการจะมาเจอหนิงเมิ่งเหยาเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวชวี่เฟิงไม่แสดงความเห็นใดๆ ก่อนจะมองอีกฝ่าย “ถ้าเช่นนั้นแล้ว ข้าก็ขอให้ผู้สำเร็จราชการโชคดี”

หนานกงเยี่ยนตกตะลึง ก่อนจะสรุปความได้ในไม่ช้าว่า หากผู้เป็นฮ่องเต้ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน เขาก็ควรพิจารณาสละราชบัลลังก์ได้แล้ว

“ถ้าเช่นนั้น กระหม่อมขอน้อมรับคำอวยพรจากฝ่าบาทด้วยความซาบซึ้งยิ่งพ่ะย่ะค่ะ” หนานกงเยี่ยนยิ้มพลางเอ่ยขึ้นพร้อมกับหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น

“ผู้สำเร็จราชการไปพักผ่อนในจวนชั่วคราวก่อนเถิด วันพรุ่งนี้ ข้าจะให้ฉีเทียนพาท่านไปจวนแม่ทัพใหญ่” เขามีจุดประสงค์ในการทำเช่นนี้

แม้ว่าหนิงเมิ่งเหยาจะพอรู้มาบ้างว่าหนานกงเยี่ยนอาจเป็นท่านพ่อของตน แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่อยากยอมรับอยู่เล็กน้อย จึงดีกว่าหากให้หญิงสาวมีเวลาเตรียมตัวรับความจริง ทั้งนี้เพื่อมิให้พวกเขาต้องอึดอัดใจเมื่อพบหน้ากันอย่างกะทันหันอีกด้วย

หนานกงเยี่ยนเองก็รู้ดีว่าเซียวชวี่เฟิงคิดเช่นไร จากตำแหน่งของหนิงเมิ่งเหยาแล้วนั้น ทำให้นางรู้เรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย

“กระหม่อมขอรบกวนเซียวฮ่องเต้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้องเกรงใจ พาผู้สำเร็จราชการไปพักผ่อนในจวนชั่วคราวก่อนเถิด”

หลังจากส่งเขาเสร็จแล้ว เซียวชวี่เฟิงก็ครุ่นคิดต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะวางสิ่งของในมือลง แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปจวนแม่ทัพใหญ่

“เทียนช่าง เมิ่งเหยา ข้าคิดว่าพวกเจ้ารู้สาเหตุที่ข้ามาที่นี่อยู่แล้ว” เซียวชวี่เฟิงมองทั้งสองคนอย่างเคร่งขรึม

“ท่าน…”

“หนานกงเยี่ยนมาถึงแล้ว และเขาจะมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้”

หนิงเมิ่งเหยาขมวดคิ้วและรู้สึกไม่ชอบใจนัก

“ข้า…ไม่อยากเจอเขา” หญิงสาวก้มศีรษะลง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางจึงพูดขึ้นจนทุกคนอึ้ง

เซียวชวี่เฟิงมองนางอย่างหน้านิ่วคิ้วขมวด “ทำไมเล่า”

“ไม่มีเหตุผลอะไร” หนิงเมิ่งเหยาไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ให้มากความ เดิมทีนางเคยสัญญากับร่างเดิมของตนเองว่าจะตามหาพ่อแม่ให้ แต่เมื่อท่านพ่อผู้ให้กำเนิดก็ออกตามหานางเช่นกัน หญิงสาวจึงรู้สึกสับสนและหวาดกลัวที่จะพบเจอเขา ทั้งนี้นางกลัวว่าจะรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปีนั้น

เซียวชวี่เฟิงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เฉียวเทียนช่างก็ห้ามเอาไว้ “ชวี่เฟิง พวกเรารับรู้แล้ว แต่ท่านกลับวังหลวงไปก่อนเถิด”

ตอนนี้ ความคิดของหนิงเมิ่งเหยาว้าวุ่นนัก หากเซียวชวี่เฟิงยังบังคับหญิงสาวเช่นนี้ นางอาจโกรธเคืองได้

เซียวชวี่เฟิงมองท่าทีถมึงทึงของหญิงสาว ก่อนจะผงกศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ “ข้ากลับก่อนก็แล้วกัน เมิ่งเหยา ลองใคร่ครวญให้ถี่ถ้วนเถอะ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว สักวันหนึ่งเจ้าก็จะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนี้อยู่ดี”

หนิงเมิ่งเหยาเงียบและไม่พูดอะไร นางเข้าใจความหมายของเซียวชวี่เฟิงดี และรู้ว่าเขาพยายามจะบอกอะไร หนานกงเยี่ยนตามหาลูกสาวมาหลายปี จนตอนนี้เขาก็พบนางแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอมแพ้ง่ายๆ แม้ว่าวันพรุ่งนี้เขาจะไม่พบหญิงสาว แต่ตราบใดที่นางยังอยู่ที่นี่ หนานกงเยี่ยนก็จะตามหานางจนพบอย่างแน่นอน แม้ว่าวันพรุ่งนี้นางจะไม่เจอเขา แต่สุดท้ายแล้ว สักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องพบเจอกันอยู่ดี

หลังจากเซียวชวี่เฟิงจากไป เฉียวเทียนช่างก็มองดูภรรยาของตน “หากพรุ่งนี้ เจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่ เราก็ไปข้างนอกกัน หรืออาจจะไปพักที่หมู่บ้านไป๋ซานสักสองสามวันก็ได้นะ”

หนิงเมิ่งเหยายังคงเงียบอยู่นาน จนในที่สุดนางก็ผงกศีรษะ

“ตกลง”

นางยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ จึงยังไม่ต้องการจะเจอกับหนานกงเยี่ยน

คืนนั้น เฉียวเทียนช่างจัดหีบสัมภาระของพวกเขา และหลังจากประตูเมืองเปิดในช่วงเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น พวกเขาก็ขี่ม้าออกจากเมืองไป

เมื่อเซียวฉีเทียนพาหนานกงเยี่ยนมา พวกเขาก็ได้รับแจ้งว่าทั้งสองไม่อยู่ที่บ้าน

หลังจากได้ยินดังนั้น หนานกงเยี่ยนผู้เต็มไปด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น ก็อึ้งไปในทันใด

หลินจือโยวสบตากับเซียวฉีเทียน ก่อนจะโบกมืออย่างไม่อาจช่วยอะไรได้ “เมื่อวานนี้ อารมณ์ของพี่สะใภ้หวั่นไหวนัก นายท่านจึงพานางไปข้างนอกสองวัน หลังจากสภาพจิตใจของพี่สะใภ้ไม่ฟุ้งซ่านแล้ว พวกเขาจะกลับมาอย่างแน่นอน ผู้สำเร็จราชการขอรับ นายท่านให้ข้าแจ้งว่าโปรดให้เวลากับพี่สะใภ้อีกสักหน่อยเถิดขอรับ”

หนานกงเยี่ยนผงกศีรษะเงียบๆ หากเป็นเขา ก็คงจะทำเช่นเดียวกับหนิงเมิ่งเหยา เขาไม่อาจกล่าวโทษนางได้ เพราะเขาปล่อยให้เด็กน้อยต้องลำบากมานานหลายปี เขาเสียใจกับเด็กคนนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะต่อต้านและปฏิเสธการพบหน้าเขา

บทที่ 324 กลับสู่หมู่บ้านไป๋ซาน

“เข้าใจแล้ว” หนานกงเยี่ยนเพียงหวังว่าจะได้พบกับหนิงเมิ่งเหยา ก่อนหน้านี้เขารู้สึกประหม่าและตั้งหน้าตั้งตารอคอย แต่ไม่คิดเลยว่านางจะหนีจากไปก่อนที่จะได้เจอหน้ากัน

แม้ว่าเขาจะรู้สึกเคว้งคว้างและผิดหวัง แต่ก็ไม่โกรธเลยสักนิด หากเพียงเป็นกังวลเล็กน้อยว่านางจะหนีหน้าเขาไปเรื่อยๆ

“ผู้สำเร็จราชการ ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก เมิ่งเหยายังรู้สึกว้าวุ่นอยู่ก็เท่านั้น” เมื่อเซียวฉีเทียนเห็นหนานกงเยี่ยนผิดหวังและเป็นกังวล ก็อดปลอบประโลมไม่ได้

หนานกงเยี่ยนฝืนยิ้ม “ข้ารู้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะข้าร้อนใจเกินไปน่ะ”

หลังออกมาจากเมืองหลวงแล้ว ชายหญิงทั้งสองก็ไม่รีบร้อนนัก เดิมทีพวกเขาวางแผนจะใช้เวลาสองวันในการเดินทางไปหมู่บ้านไป๋ซาน แต่พวกเขาก็แวะพักอยู่ตลอด จนทำให้ใช้เวลาถึงสี่วัน

เมื่อมาถึง หนิงเมิ่งเหยายืนอยู่ในลานบ้านเล็กๆ ที่เรียบง่ายและสวยงามของตน นางรู้สึกว่าไม่ได้กลับมาที่นี่เป็นเวลานานแล้ว

แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง เมื่อมาถึงที่นี่ ก็ดูเหมือนว่าปัญหาต่างๆ ในเมืองหลวงจะหายวับไปทันตา

เฉียวเทียนช่างรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นผู้เป็นภรรยายิ้มได้

“กลับบ้านกันเถอะ” ในจิตใจของเฉียวเทียนช่างนั้นรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านที่แท้จริงของพวกเขา ส่วนจวนแม่ทัพใหญ่ในเมืองหลวงนั้นเป็นเพียงที่พำนักชั่วคราวเท่านั้น

บ้าน…ใช่ นี่คือบ้านของพวกเขา

หญิงสาวกอดแขนชายหนุ่มก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน และเห็นเจี่ยงเฉวียนเดินออกมาพอดี เมื่อชายชราเห็นพวกเขาทั้งสองคนก็นึกว่าฝันไป

“คุณหนู นายน้อย พวกท่านกลับมาทำไมหรือขอรับ หรือว่าพวกท่านโดนรังแก” หลังจากเจี่ยงเฉวียนเห็นพวกเขาก็ร้อนรนทันที

สิ่งแรกที่ชายชราคิดคือที่นั่นทั้งสองคนถูกคนอื่นรังแกหรือไม่

สมองของหนิงเมิ่งเหยาหนักอึ้ง ก่อนจะมองข้ารับใช้อย่างพูดไม่ออก “ลุงเจี่ยง พวกเราดูเหมือนคนที่ถูกรังแกได้ง่ายๆ หรือ”

เจี่ยงเฉวียนผงกศีรษะเล็กน้อย “ถ้าเช่นนั้นข้าก็สบายใจ คุณหนู นายน้อยรีบไปพักเถิดขอรับ ข้าทำความสะอาดบ้านแล้ว พวกท่านสามารถพักผ่อนได้ทันทีขอรับ” เจี่ยงเฉวียนรู้สึกมีความสุขอย่างมากที่เห็นหน้าทั้งสองอีกครั้ง หลังจากที่พวกเขาจากไปเป็นเวลาหลายเดือน

หนิงเมิ่งเหยาพยักหน้า “ลุงเจี่ยง อย่าลำบากเลย หากท่านจัดการคนเดียวไม่ไหว ก็ขอแรงคนอื่นๆ สักสองสามคนมาช่วยก็ได้”

“หลังจากชิงจู๋และคนอื่นๆ จากไป ข้าก็ขอให้คนสองสามคนมาช่วยแล้วขอรับ” เขารู้ว่าหญิงสาวให้ความสำคัญกับบ้านหลังนี้อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงดูแลรักษามันอย่างดี

หนิงเมิ่งเหยาผงกศีรษะอย่างโล่งใจ “เทียนช่าง เข้าไปดูข้างในกันเถอะ”

“ตกลง” เฉียวเทียนช่างรู้ว่าในขณะนั้นหญิงสาวยังมิได้ปลดปล่อยตัวเอง เขาจึงไม่เร่งเร้าให้นางพักผ่อน ทั้งยังเดินดูรอบๆ ด้วยกันกับนางอีกด้วย

สองสามีภรรยามุ่งหน้าไปยังสระน้ำก่อนเป็นอันดับแรก ไข่ปลาที่เพิ่งฟักส่องแสงวิบวับสะท้อนกับแสงอาทิตย์ จากนั้นพวกเขาจึงไปดูพื้นที่เพาะปลูก ก่อนจะพบหยางอี้ที่กำลังจัดการให้คนงานทำความสะอาดสวนอยู่ เขาชะงักเมื่อเห็นทั้งคู่

“เมิ่งเหยา เทียนช่าง พวกเจ้ากลับมาแล้วหรือ แล้วกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” เขารีบสั่งงานกลุ่มคนข้างๆ ก่อนเดินมาหาหนิงเมิ่งเหยาและเฉียวเทียนช่าง

หยางอี้รู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนสบายดี

“เราเพิ่งกลับมาถึงวันนี้ พี่ใหญ่หยางสบายดีหรือไม่” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

หยางอี้ผงกศีรษะ “ข้าสบายดี ช่วงนี้จื้อเอ๋อร์ก็เรียนหนังสือได้ดี ส่วนเล่อเล่อก็กลับมาทุกสิ้นเดือน พวกเราทุกคนต่างสบายดี”

ตอนนี้ ชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านไป๋ซานต่างดีขึ้น จนคนในหมู่บ้านอื่นๆ ต่างมองพวกเขากันอย่างอิจฉา เพราะผู้คนที่นี่เต็มไปด้วยความสุข

หมู่บ้านแห่งนี้ผ่านคืนวันต่างๆ ไปได้ด้วยดี ทุกคนที่พบเจอกันต่างพูดคุยเรื่องนี้ การทะเลาะเบาะแว้งก่อนหน้านี้ก็ดูเหมือนจะสงบลง ขณะนี้หมู่บ้านไป๋ซานเต็มไปด้วยความสงบสุขและรักใครสามัคคี

หมู่บ้านละแวกใกล้เคียงต่างต้องการปรองดองกับหมู่บ้านไป๋ซาน พวกพ่อสื่อแม่สื่อทั้งหลายต่างแวะเวียนมาหาหญิงสาว ชายหนุ่ม และผู้ที่ถึงวัยอันควร จนเหล่าชาวบ้านต่างพึงพอใจอย่างยิ่ง

หลังจากหนิงเมิ่งเหยาฟังคำจากหยางอี้ ก็ผงกศีรษะ และไม่รบกวนเพื่อให้เขาทำงานต่อให้เสร็จ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เยี่ยมเลย ถ้าเช่นนั้นข้าก็สบายใจ”

หยางอี้มองทั้งสองคน “ครั้งนี้พวกเจ้าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนรึ หรือจะไม่จากไปอีกแล้ว”

“พวกเราจะอยู่เพียงสองสามวัน เพียงแค่กลับมาดูสิ่งต่างๆ เท่านั้น” หนิงเมิ่งเหยาตอบอย่างอดไม่ได้ ขณะคิดถึงเรื่องที่เมืองหลวง

หากเป็นไปได้ นางก็ไม่อยากจะกลับไปที่นั่นอีก