เล่มที่ 6 บทที่ 177 ชัยชนะตกอยู่ในเงื้อมมือของใคร

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ดาบเย็นยะเยือกแทงเข้ากลางอกของคุณหนูหวัง

  เลือดสีแดงสดพวยพุ่งออกจากร่าง

  หลินเมิ้งหยาปรายสายตาเย็นชาไปทางผู้หญิงตรงหน้า ใบหน้านวลเผยให้เห็นความระแวดระวัง

  “ชายาอวี้ ดูซิ ข้าฆ่านางแทนเจ้าแล้ว เจ้าจะต้องขอบคุณข้าใช่หรือไม่?”

  ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าด้านข้างขององค์หญิงหมิงเยว่แปลกประหลาดจนน่าหวาดกลัว

  ดวงตาคุณหนูหวังเหลือกกว้าง ทว่าลมหายใจเริ่มรวยรินก่อนจะสิ้นลม

  “เจ้าคิดว่าข้าควรขอบใจเจ้าอย่างนั้นหรือ?”

  มองดูองค์หญิงหมิงเยว่ดึงดาบออกอย่างไม่ลังเล บนพื้นเกิดแอ่งเลือดสีเข้ม ดวงตาของหลินเมิ้งหยาเจือแววหวาดกลัวเล็กน้อย

  คิดไม่ถึงเลยว่าหมิงเยว่จะฆ่าคนด้วยตัวเองเช่นนี้

  “เจ้าจะขอบคุณก็ได้ หรือไม่ขอบคุณก็แล้วแต่ ข้าเพียงแต่ช่วยเจ้าฆ่าคนที่เป็นศัตรูกับเจ้า ข้าคิดว่าชายาอวี้ถือคติมีบุญคุณต้องทดแทน มีความแค้นต้องชำระเสียอีก ฉะนั้นข้าจึงเตรียมรับคำขอบคุณของชายาอวี้”

  ดวงตาของหมิงเยว่เผยให้เห็นแผนการชั่วร้ายระคนบ้าคลั่ง

  หลินเมิ้งหยามองฝ่ายตรงข้ามอย่างระแวดระวัง ป๋ายซูคอยคุ้มครองนางอยู่ใกล้ๆ เท้าเริ่มขยับถอยหลัง

  “เจ้าต้องการสิ่งใดตอบแทนเล่า?”

  มองดูใบหน้าประสงค์ร้ายของหมิงเยว่ หลินเมิ้งหยารู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้ามิได้ต้องการเพียงคำขอบคุณ

  “ข้าต้องการ…ชีวิตของเจ้า”

  หมิงเยว่ยกดาบขึ้น หลินเมิ้งหยาผงะไปเพราะความบ้าคลั่งที่แสดงออกทางสีหน้าของนาง

  “อย่าคิดแตะต้องนายหญิงของข้า”

  ป๋ายซูมิใช่คนปวกเปียก แม้จะไม่มีอาวุธอยู่ในมือแต่นางกลับพุ่งตัวเข้าไปด้วยความกล้าหาญ

  แต่สิ่งที่ทั้งสองคาดไม่ถึงก็คือหมิงเยว่มิได้มีฝีมือธรรมดาเลย

  แม้ว่าจะต่อสู้ได้ไม่ดีเท่าป๋ายซู

  แต่เพราะในมือของนางถือดาบคมกริบ แม้แต่ป๋ายซูเองก็โอดครวญขมขื่นในใจ

  ทั้งสองผลัดกันรุกผลัดกันรับ แม้แต่หลินเมิ้งหยายังอดตื่นตะลึงไม่ได้

  “คนที่เจ้าอยากฆ่าคือข้า อย่าทำร้ายคนของข้า”

  แม้วิทยายุทธ์ของป๋ายซูจะสูงมาก ทว่าหมิงเยว่เองก็มิได้ด้อยไปกว่ากัน

  หลินเมิ้งหยาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอบอบบางอย่างหมิงเยว่จะมีฝีมือมากขนาดนี้

  บางทีนางอาจประเมินหมิงเยว่ต่ำเกินไป

  “ได้ เช่นนั้นเจ้าจงมาให้ข้าฆ่าเสีย ข้าจึงจะปล่อยสาวใช้ของเจ้าไป”

  เพียงพริบตาเดียว ป๋ายซูเข้ามายืนขวางหน้าหลินเมิ้งหยา จ้องหมิงเยว่เขม็ง

  บนร่างกายของนางมีบาดแผลมากมาย

  หากยังสู้ต่อไปเกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องดี

  “นายหญิง อย่านะเจ้าคะ ข้าเป็นองครักษ์ของท่าน แม้ตัวจะตายแต่ก็จะไม่ละเลยต่อหน้าที่”

  ป๋ายซูเตรียมตัวสละชีวิตแล้ว อันที่จริงขณะที่ทั้งสองกำลังปะทะกัน นางตั้งใจส่งเสียงดังและเคลื่อนไหวให้มากที่สุด

  แต่ด้านนอกกลับไม่มีใครเข้ามาตรวสอบ

  หลินเมิ้งหยาเดาว่าองค์หญิงหมิงเยว่จะต้องเป็นผู้ลงมือทำอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน

  “ไม่ เจ้าจะสละชีวิตของตัวเองไม่ได้ หมิงเยว่ เจ้าต้องการชีวิตของข้า ข้าอยู่นี่แล้ว เจ้ามาเอาไปเถิด”

  ใบหน้าเย็นชา ตัดสินใจเผชิญหน้ากับความตาย

  ป๋ายซูยังคงยืนขวางหน้าเจ้านายของตนเอง ดูเหมือนนางตัดสินใจที่จะละทิ้งชีวิตของตนเองเพื่อช่วยหลินเมิ้งหยา

  หมิงเยว่ไม่เคยคิดจะปล่อยหลินเมิ้งหยาไป

  นางยกดาบขึ้น ก้าวไปข้างหน้า

  “เจ้าต้องสัญญากับข้า หากฆ่าข้าแล้ว เจ้าต้องปล่อยคนของข้าไป”

  หลินเมิ้งหยาจ้องหมิงเยว่เขม็ง หมิงเยว่ไม่ลังเลเลยที่จะพยักหน้าลง

  แต่พวกนางรู้ดี วันนี้ไม่ใช่เวลาตายของพวกนางแต่คนที่จะต้องตายคือหมิงเยว่

  “ป๋ายซู หลบ!”

  ในช่วงเวลาสำคัญหลินเมิ้งหยาผลักป๋ายซูออก

  หมิงเยว่แค่นหัวเราะเสียงเย็น เตรียมแทงดาบ

  ทว่านางคิดไม่ถึงเลยว่ารอยยิ้มมีเลศนัยจะปรากฏบนใบหน้าของหลินเมิ้งหยา

  วินาทีต่อมาหลินเมิ้งหยาหยิบผงสีขาวซัดใส่หมิงเยว่

  ป๋ายซูรีบดึงตัวหลินเมิ้งหยาออก ผงสีขาวเหล่านั้นจึงฟุ้งกระจายอยู่บนร่างของหมิงเยว่เพียงผู้เดียว

  “นี่มันอะไรกัน? เจ้าทำอะไรข้า?”

  หมิงเยว่รีบขยับตัวหนี ปัดผงสีขาวที่ติดตามร่างกายออกเป็นพัลวัน

  ดวงตาของนางเบิกกว้าง จ้องหน้าหลินเมิ้งหยาเขม็ง

  “คิดจะจัดการฆ่า? เจ้ายังกล้าพูดประโยคนี้ออกมาอีกหรือ? ข้าจะบอกเจ้าให้ เจ้าอย่าตกใจไปล่ะ ไม่อย่างนั้นพิษที่อยู่บนร่างเจ้าจะยิ่งรุนแรง”

  หลินเมิ้งหยาโยนกล่องเล็กๆ ลงบนพื้น แม้จะจ้องมองหมิงเยว่ด้วยความระแวดระวัง ทว่าน้ำเสียงกลับแสดงออกถึงความมั่นใจ

  “นี่คือพิษอะไร? เจ้าทำอะไรข้า?”

  คัน….คันจนแทบอยากจะลอกผิวหนังออกมา

  ราวกับว่าทุกอณูรูขุมขนถูกชอนไชอย่างไรอย่างนั้น

  แม้นางจะเป็นคนแข็งแรงแต่ก็ทนไม่ไหว สุดท้ายจึงโยนดาบลงพื้นและพยายามเกาไปทั่วร่าง

  “นี่? เป็นเพียงอุปกรณ์ป้องกันตัวเท่านั้น จะบอกความจริงเจ้าให้ก็ได้ หากมิได้รับยาถอนพิษจากข้า เจ้าคงต้องลอกผิวหนังของตนเองออกมาจนหมดตัว”

  หลินเมิ้งหยามิได้ขู่หมิงเยว่ นี่คือสิ่งที่นางได้เรียนรู้จากป๋ายหลี่รุ่ย

  ชื่อเสียงของป๋ายหลี่รุ่ยไม่ธรรมดาเลย

  พิษที่เขาใช้เป็นเพียงพิษธรรมดาแต่กลับมีอานุภาพรุนแรง

  ยาชนิดนี้ชื่อว่ายาเลาะเนื้อลอกหนัง

  เพียงได้ยินชื่อก็ไม่ธรรมดาแล้ว

  “ข้าจะฆ่าเจ้า รีบเอายาถอนพิษมาเดี๋ยวนี้!”

  หมิงเยว่ยังคงแสดงท่าทียิ่งผยอง

  ทว่าใบหน้าของนางกลับถูกพิษร้ายเล่นงาน

  คัน! คันไปถึงกระดูก

  ขณะที่คิดจะเกา หลินเมิ้งหยากลับร้องห้ามเอาไว้

  “อย่าใช้มือเกาเลย เจ้าจะยิ่งคันกว่าเดิม สุดท้ายแม้แต่ผิวหนังของเจ้าก็จะหลุดออกมาด้วย”

  หลินเมิ้งหยามิได้ล้อเล่น ยาชนิดนี้มีส่วนผสมของพิษจากสัตว์สามชนิดและยาสมุนไพรอีกหลายอย่าง

  ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามคันจนอยากตาย

  “เจ้า…เอายาถอนพิษมาให้ข้าเดี๋ยวนี้ ข้าสัญญาว่าจะไม่ฆ่าเจ้า”

  หมิงเยว่คันจนถึงหัวใจ นางหมดสิ้นท่าทางโกรธแค้นหลินเมิ้งหยา ขอเพียงได้ยาถอนพิษมาไม่ว่าจะให้นางทำอะไรก็ยอม

  “นี่คือท่าทางขอร้องของเจ้า?”

  หลินเมิ้งหยาเบี่ยงกายหลบด้านหลังป๋ายซู แม้หมิงเยว่จะมิอาจโจมตีได้แล้วแต่นางยังไม่วางใจ

  “ได้ เจ้าบอกมาว่าจะต้องทำเช่นไร”

  แม้ไม่อยากยินยอมแต่เพราะตกอยู่ในเงื้อมมือของหลินเมิ้งหยา นางจึงต้องจำใจกล่าว

  ทว่ามือกลับยกขึ้นเการ่างกายอย่างอดไม่ได้

  หากมิใช่เพราะนางพยายามควบคุมตัวเองไว้ ป่านนี้นางคงลอกผิวหนังของตนเองออกมาแล้ว

  “ข้าขอถามเจ้า เจ้าวางแผนนี้กับใคร? เจ้ายังมีแผนอะไรอีก?”

  แม้จะเดาได้อยู่แล้วว่าหมิงเยว่ร่วมมือกับไท่จื่อ

  แต่การที่กล้าลงมืออย่างอุกอาจเช่นนี้ นางไม่เชื่อหรอกว่าเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับไท่จื่อ

  หมิงเยว่ลังเล หลินเมิ้งหยาจึงแสร้งเดินหนี

  “ในเมื่อเจ้าไม่จริงใจ ข้าเองก็ไม่อยากเสียเวลา ป๋ายซู ไปกันเถอะ”

  หลินเมิ้งหยาเผยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก คิดไม่ถึงเลยว่าจนกระทั่งตอนนี้หมิงเยว่ยังคิดแค้นนางอยู่

  “ข้าพูด…พูดแล้ว…ไท่จื่อ ข้าได้รับคำสั่งจากไท่จื่อ เขาบอกให้ข้าฆ่าเจ้าและสาวใช้ของเจ้า จากนั้น…จากนั้นให้บอกว่าเจ้ามีความสัมพันธ์กับองครักษ์แล้วถูกสาวใช้พบเข้า เหตุเพราะความอาย เจ้าจึงฆ่าสาวใช้! นี่คือแผนทั้งหมด เจ้าเองก็รู้ มีเพียงวิธีนี้เท่านั้น อ๋องอวี้จึงจะไม่กล้าคัดค้าน”

  หมิงเยว่โพล่งออกมา หลินเมิ้งหยาพอจะมองออกทั้งหมดแล้ว

  วันนี้นางพาป๋ายซูมาด้วย แม้เรื่องวิทยายุทธ์ของป๋ายซูจะถูกเก็บงำเอาไว้ แต่ก็ยังมีคนมองออกอยู่ดี

  หากนางกับป๋ายซูตายอยู่ที่นี่

  สุดท้ายไม่ว่าใครต่างก็ใส่ร้ายป้ายสีพวกนางได้ เพราะถึงอย่างไรศพก็มิอาจพูดได้

  นับว่าเป็นแผนที่ยอดเยี่ยม เหตุเพราะต้องเข้าวังป๋ายซูจึงไม่มีอาวุธ

  เขาส่งคุณหนูหวังมาลอบฆ่า จากนั้นให้หมิงเยว่มาเก็บกวาดให้เรียบร้อย

  ไท่จื่อคงเกลียดชังนางมากอย่างนั้นสินะ

  หากมิใช่เพราะนางพกยาพิษติดตัวเอาไว้เกรงว่าวันนี้ชีวิตของนางคงจบสิ้น

  “ข้า…ยังมีเรื่องของเยว่ถิง ไท่จื่อเป็นผู้วางแผนทั้งหมด”

  เมื่อเห็นสีหน้าไม่พึงพอใจของหลินเมิ้งหยา หมิงเยว่จึงสารภาพอีกครั้ง

  “โอ้? พูดมาซิ หากข้าพอใจ ข้าจะมอบยาให้กับเจ้า”

  ยกยาขวดเล็กขึ้นมา หลินเมิ้งหยาส่ายไปมาเพื่อล่อตาล่อใจหมิงเยว่

  นิ้วมือกำเข้าหากันแน่นจนเล็บแทงที่ฝ่ามือของตนเอง

  หมิงเยว่ถูกทรมานจนแทบเสียสติ น้ำตารินไหล แม้แต่น้ำมูกก็ไหลตาม

  ไม่มีครั้งไหนเลยที่นางจะรู้สึกอับจนหนทางเช่นนี้

  “ข้าบอก…ข้าบอกแล้ว….ก่อนที่พี่รองจะลงมือกับเยว่ถิง ไท่จื่อส่งรูปของเจ้าให้พี่รองดู ตอนนั้นพี่รองสั่งให้คนไปลักพาตัวเจ้าเพื่อทำให้เจ้ากลายเป็นคนของเขา”

  เรื่องนี้หลินเมิ้งหยาเดาเอาไว้แล้ว

  สายตาเผยให้เห็นความไม่พึงพอใจ

  “พูดมา เหตุใดพวกเขาจึงทำร้ายพี่เยว่ถิง”

  หมิงเยว่ไร้ซึ่งความลังเล

  “เพราะ…เพราะพวกเขาไม่รู้จะจัดการเจ้าอย่างไร ดังนั้นจึงใช้เยว่ถิงทำลายเจ้า”

  “ใครเป็นคนคิดเรื่องนี้”

  “ชายา…ชายารองตู๋กู”

  หมิงเยว่ร้องออกมา ตอนนี้นางคันทั่วทุกส่วนของร่างกาย

  นางอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป สติสัมปชัญญะแทบสูญสิ้น

  คิดไม่ถึงเลยว่าชายารองตู๋กูจะเป็นคนคิดแผนนั้น

  เป็นแผนการที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก พี่เยว่ถิงต้องตายอย่างทรมาน

  “ยาถอนพิษ…เอา…เอาให้ข้า”

  หมิงเยว่คันจนทนไม่ไหว เกาทุกส่วนของร่างกายเสมือนมีมดกัดอย่างไรอย่างนั้น

  “ให้เจ้า ได้ ข้าจะให้ยาถอนพิษแก่เจ้า”

  หลินเมิ้งหยาโยนขวดนั้นให้หมิงเยว่ แต่คิดไม่ถึงเลยว่ายาขวดนั้นจะว่างเปล่า

  “เจ้า…เจ้าหลอกข้า”

  หมิงเยว่ร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เหตุเพราะความคันดังนั้นนางจึงไร้เรี่ยวแรง

  “ข้าไม่ได้หลอกเจ้า แต่การถอนพิษนั้นง่ายดาย แค่ใช้น้ำล้างก็พอแล้ว ด้านนอกมีสระน้ำ เจ้าไม่ลองกระโดดลงไปเล่า มันคงช่วยได้”

  หลินเมิ้งหยาเอ่ยเสียงเย็น สีหน้าอำมหิต

  “น้ำ…น้ำ…”

  หมิงเยว่ส่งสายตาเคียดแค้น