บทที่ 180 เจ้าพุทธะเสียงอัสนีปิดด่านฝึกบำเพ็ญสนิท

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 180 เจ้าพุทธะเสียงอัสนีปิดด่านฝึกบำเพ็ญสนิท

ลงโทษคัดคัมภีร์กุศลมหาปราชญ์หมื่นจบ?

พอได้ฟังคำพูดของเจ้าพุทธะเสียงอัสนี ก็มีเหงื่อเย็นๆ ไหลตรงลงมาบนหัวโล้นของบุตรพุทธะขู่ตัว!

คัดคัมภีร์หนาขนาดนั้นหมื่นจบ นี่กะจะให้ข้าคัดจนหนังมือลอกเลยรึ

เมื่อคิดได้ดังนั้น บุตรพุทธะขู่ตัวก็รีบพูด “อาจารย์ ให้อภัยด้วย ศิษย์ไม่ได้เป็นคนเขียนบทสวดนี้”

พระพุทธทองคำใหญ่คีบดอกไม้จินพอหลัวพลางเอ่ยอย่างเฉยชา “อาจารย์รู้ อย่างเจ้าก็คงเขียนบทสวดที่คล้องจองกันไม่ได้หรอก รีบบอกอาจารย์มาว่าผู้ใดกันเขียนบทสวดนี้ นี่มันขัดกับหลักทำนองคลองธรรม บิดเบือนความหมายของพุทธศาสนา!”

บุตรพุทธะขู่ตัวกล่าว “คะ…คือว่าได้ยินคนพูดตอนฝันขอรับ”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีจ้องบุตรพุทธะขู่ตัว “ได้ยินใครพูดในความฝันรึ”

บุตรพุทธะขู่ตัวอึ้งไป จะตอบคำถามนี้อย่างไรดี

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีซักถามอีก “ลังเลอะไร หรือว่าจะเป็นฟางฉาง ตอนเจ้าฝันยังได้ยินเขาพูด ทำไม เจ้าเคยร่วมหลับตอนเตียงเดียวกับเขารึ”

บุตรพุทธะขู่ตัวพูดด้วยความจนปัญญา “อาจารย์เข้าใจผิดแล้ว ศิษย์หมายความว่าได้ยินคนพูดในความฝัน”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีครุ่นคิด “ก็ใช่ ฟางฉางกับเจ้าปกติก็เหมือนกัน เขียนบทสวดเช่นนี้ออกมาไม่ได้เช่นกัน”

จากนั้น เจ้าพุทธะเสียงอัสนีจ้องบุตรพุทธะขู่ตัวตรงๆ “บอกอาจารย์มาว่าใครเขียนบทสวดนี้”

บุตรพุทธะขู่ตัวมีสีหน้าอมทุกข์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ “อาจารย์ ศิษย์รับปากไว้ว่าจะไม่พูด”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้ด้วยรอยยิ้ม “เป็นผู้อาวุโสกับศิษย์ของฝ่ายเรารึ”

บุตรพุทธะขู่ตัวยังไม่ทันตอบก็เห็นประกายดวงตาลึกซึ้งของเจ้าพุทธะเสียงอัสนี “ไม่ใช่”

เขาจ้องขู่ตัวอีกพลางสอบถาม “เช่นนั้นเป็นคนแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นรึ แดนศักดิ์สิทธิ์ใด แดนศักดิ์สิทธิ์ยุทธ์แท้ แดนศักดิ์สิทธิ์เขตขุนเขา แดนศักดิ์สิทธิ์ปฐมกาล แดนศักดิ์สิทธิ์เอกภพนิรันดร์ แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก หรือว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์”

บุตรพุทธะขู่ตัวหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย รอยยิ้มบนหน้าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีมีความหลักแหลมมากขึ้นเรื่อยๆ “ใช่จริงๆ ด้วย! เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มอบบทสวดนี้ให้เจ้าล่ะสิ เขาก็เคยชำนาญการฝึกหลักธรรมะมาก่อนเช่นกัน

หืม ไม่อยากเชื่อว่าจะไม่ใช่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ หรือว่าจะเป็นจางอวิ๋นถิงล่ะ”

บุตรพุทธะขู่ตัวตะลึงไปเลย เขามองเจ้าพุทธะที่พึมพำกับตัวเองไม่หยุดด้วยความกังวลใจมาก

ไม่ได้กังวลว่าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีจะมีจิตผิดปกติ แต่ ไม่อยากเชื่อว่าอาจารย์จะคาดเดาได้ใกล้เคียงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!

ศิษย์พี่เสิ่นเทียน อาตมาไม่ได้พูดอะไรเลยจริงๆ แต่อาจารย์เหมือนจะชำนาญยอดวิชาอ่านใจเขาได้

“ไม่ใช่จางอวิ๋นถิง และก็ไม่ใช่ฟางฉาง หรือจะเป็นจางอวิ๋นซี บางทีอาจจะเป็น…เสิ่นเทียน!”

ในความคิดเจ้าพุทธะเสียงอัสนีมีใบหน้าหล่อเหลาเหนือธรรมดานั้นลอยขึ้นมา

ตอนนี้เขาจ้องสีหน้าของบุตรพุทธะขู่ตัวเขม็ง

หึ ใบหน้าของเจ้ามารผจญนี่ปกปิดเรื่องใดไม่ได้เลย

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้พลางถอนหายใจ “ที่แท้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เป็นคนเขียน”

ขู่ตัวพลันสงสัยในชีวิตพุทธศาสนาของตนขึ้นมา ‘ศิษย์พี่ อาตมาว่าอาตมาไม่ได้เผยความลับของท่านไปนะ’

เขาพูดอ้อนวอนว่า “อาจารย์ บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ใช่ศิษย์ฝ่ายเรา อีกทั้งนี่เป็นเพียงความฝัน ศิษย์ฝันเห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นี่ไม่เกี่ยวกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ถ้าอาจารย์จะลงโทษ ก็มาลงที่ศิษย์เลย!”

บุตรพุทธะขู่ตัวยังพูดไม่จบก็โดนเจ้าพุทธะเสียงอัสนีขัดก่อน “เสิ่นเทียนมีหน้าตาเหนือธรรมดา เหมือนกับเซียนลงมาเยือนจริงๆ อีกทั้งยังได้รับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานหลายพันชั่งมาได้ง่ายๆ เห็นได้ชัดว่ามีดวงชะตาไร้ที่สิ้นสุดอยู่กับตัว เป็นตัวเอกแห่งชะตาสวรรค์

บทสวดจากบุคคลระดับนี้ หรือว่าจะมีความเห็นในคัมภีร์กุศลมหาปราชญ์จริงๆ

เดิมทีไร้สรรพสิ่ง จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด เดิมทีไร้สรรพสิ่ง จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด

อมิตาภพุทธ พอซึมซาบบทสวดนี้ดีๆ แล้วก็มีหลักธรรมะอยู่เหมือนกัน เดิมทีไร้สรรพสิ่ง…ซี้ด สุดยอด สุดยอดเลย!”

สีหน้าของพระพุทธทองคำใหญ่เดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าเจ้าพุทธะเสียงอัสนีได้ตระหนักธรรมะอันลึกลับบางอย่างจากบทสวดนี้

เพียงแต่หลักธรรมในบทสวดนี้ขัดกับหลักธรรมหัวใจแห่งพุทธของตัวเขา

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีกำลังตระหนักรู้ ถกมรรคากับตัวเอง หรือก็คือแยกแยะความหมายของต้นโพธิ์!

เมื่อเห็นอาจารย์สีหน้าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้ว บุตรพุทธะขู่ตัวลนลานเล็กน้อย

เขาพูดเสียงเบาว่า “อาจารย์ บทสวดนี้สุดยอดจริงๆ รึ”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีคีบดอกไม้กล่าวว่า “ใช่ เสิ่นเทียนเด็กคนนี้มีสุดยอดสติปัญญาเลย! ไม่เคยท่องคัมภีร์กุศลมหาปราชญ์ แค่ฟังบทสวดเดียวก็รู้แจ้งได้ จนเขียนบทสวดบทใหม่นี้ได้ กระทั่งเกิดข้อคิดให้อาจารย์ หากเด็กคนนี้เข้าฝ่ายพุทธเรา ภายภาคหน้าจะต้องเป็นนักบวชศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอย่างแน่นอน เฮ้อ เหตุใดเขาถึงเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กัน”

บุตรพุทธะขู่ตัวเห็นพระพุทธทองคำใหญ่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความหงอยเหงาแล้วก็เอ่ยเสียงเบา “อาจารย์ นี่เป็นความฝัน เป็นความฝันของศิษย์”

พระพุทธทองคำใหญ่มองบุตรพุทธะขู่ตัวจากที่สูงอย่างเฉยชา ก่อนยื่นฝ่ามือสีทองยาวจั้งกว่าออกมาช้าๆ และจับเขาไว้ จากนั้นฝ่ามือพุทธอีกข้างถือกระบองไม้เล็กก่อนจะเคาะไปที่ศีรษะของขู่ตัวแรงๆ สามครั้ง

บุตรพุทธะขู่ตัวกุมหัวพลางพูดด้วยความตกใจและดีใจ “อาจารย์จะถ่ายทอดวิชาให้สามชั่วยามรึ”

เจ้าพุทธะเทียนซิ่วเอ่ยอย่างเย็นชา “อาจารย์จะเคาะหัวมู่อวี๋เจ้าต่างหาก! ไม่เรียนธรรมะปริศนาธรรมอะไร เอาแต่เรียนคำพูดหลอกคน ทั้งยังคิดจะหลอกอาจารย์อีกรึ

อาจารย์ออกไปท่องโลกมาตั้งแต่เยาว์วัย เห็นรูปแบบชีวิตคนมามากมาย มีความรู้อยู่ในมือจะโดนเจ้าหลอกได้รึ แล้วนี่เป็นความฝันของเจ้ารึ เวลาปกติก็อ่านพุทธคัมภีร์เยอะๆ เพิ่มพูนสติปัญญา ไปมั่วสุมกับเจ้าฟางฉางให้น้อยๆ หน่อย

ยิ่งมั่วสุมการตระหนักรู้ยิ่งลดลง คนอื่นเขาเอ่ยบทสวดตะลึงโลกมาเช่นนี้เจ้ายังไม่เข้าใจ ยังมีหน้ามาถามอาจารย์อีกรึว่าสุดยอดจริงๆ หรือ สุดยอดจริงหรือไม่เจ้าไม่เอากลับไปตระหนักรู้เองล่ะ เหตุใดข้าถึงได้รับคนโง่อย่างเจ้าเป็นบุตรพุทธะกันนะ

ถอยไป กลับไปหันหน้าเข้ากำแพงสามเดือน คัดคัมภีร์กุศลมหาปราชญ์เสีย”

บุตรพุทธะขู่ตัวทำหน้าเศร้า “ไหนว่าสุดยอดไม่ใช่รึ ไฉนยังต้องคัดอีกล่ะ”

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีถือไม้กระบอง “หากเจ้าบอกได้ว่ามันสุดยอดที่ใด ก็ไม่ต้องคัดอีก”

บุตรพุทธะขู่ตัวเห็นกระบองมู่อวี๋ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในมือเจ้าพุทธะเสียงอัสนีแล้วก็เหงื่อตก “อาจารย์ไว้ชีวิตด้วย!”

เจ้าพุทธะใช้ฝ่ามือเทพยูไลคว้าบุตรพุทธะขู่ตัวขึ้นก่อนจะตบออกไปจากพระอุโบสถ “ศิษย์ชั่ว ไสหัวไปหันหน้าเข้ากำแพง!”

………

หลังจากโยนบุตรพุทธะขู่ตัวออกจากพระอุโบสถแล้ว ในที่สุดเจ้าพุทธะก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย

โลกงดงามเช่นนี้ อาตมากลับฉุนเฉียวเช่นนี้ แบบนี้ไม่ดี ไม่ดี

หลังโคจรคัมภีร์กุศลอยู่หลายชั่วครู่ใหญ่แล้ว กลิ่นอายพลังบนผิวกายเจ้าพุทธะเสียงอัสนีก็กลับมาสงบลงอีกครั้ง

เพียงแต่ว่าในความว่างเปล่าเหมือนมีกลิ่นมะนาวหลงเหลืออยู่เล็กน้อย วนเวียนอยู่นานไม่สลายไป

เจ้าพุทธะเสียงอัสนีนั่งขัดสมาธิลง ปากพึมพำกับตัวเองไม่หยุด “กายดั่งต้นโพธิ์หรือ เดิมทีต้นโพธิ์ไร้ต้นหรือ อะไรถูกอะไรผิดกันแน่

น่าจะเป็นการรักษาตัวให้ห่างจากฝุ่นธุลีแดง หรือควรจะละวางความยึดมั่น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามชะตากัน เดิมทีต้นโพธิ์ใสสะอาด เดิมทีกระจกใสสะอาด จะเปื้อนธุลีได้ที่ใด อะไรคือใสสะอาด อะไรคือธุลี

หรือข้าจะเดินทางผิด เดินสวนทางกับธรรมะสูงสุดกัน ยึดมั่นในการรักษาพุทธศาสนาแต่ละทิ้งความเป็นมนุษย์ ใช่ความยึดมั่นนี้หรือไม่

หรือว่าแบบขู่ตัวนั่นต่างหากที่เป็นวิถีแห่งต้นโพธิ์ที่แท้จริง”

…….

ดอกไม้จินพอหลัวตรงระหว่างนิ้วมือเจ้าพุทธะเสียงอัสนีร่วงโรยทีละกลีบ ปรากฏการณ์ไร้ที่สิ้นสุดข้างหลังก็พังทลายลงเช่นกัน

เกิดกับดับ พุทธกับมารสองกลิ่นอายเกิดดับวนเวียนเป็นวัฏจักรอยู่บนผิวกายของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีไม่หยุด

ประตูใหญ่ของพระอุโบสถปิดลงช้าๆ เสียงของเจ้าพุทธะเสียงอัสนีดังออกมาจากในนั้น

“จากวันนี้ไปข้าจะปิดด่านบำเพ็ญเข้าฌาน หากยังพิสูจน์ต้นโพธิ์ไม่ได้จะไม่ออกฌาน อีกอย่าง มอบยอดป้ายคำสั่งพุทธะเสียงอัสนีให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน นักบวชและสามเณรทั้งหมดให้การต้อนรับอย่างดีที่สุด!”

………………………..