ตอนที่ 385 แฟนสาวที่พูดตามเหตุผล / ตอนที่ 386 เหมือนๆ กัน

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 385 แฟนสาวที่พูดตามเหตุผล 

 

 

อวี๋เยว่หานมองเธออยู่พักใหญ่ ก่อนจะขยับริมฝีปากบาง “ผมปฏิเสธได้ไหม” 

 

 

“ไม่ได้!” เมื่อได้ยินว่าเขาอยากปฏิเสธ เหนียนเสี่ยวมู่ทำตาดุก็ทันที! 

 

 

เธอยื่นมือไปประคองใบหน้าของเขา พร้อมกับหยิกแก้มเขาไปด้วย “ถ้าคนไม่รับปาก ฉันจะกลับไปเป็นโสดเดี๋ยวนี้!” 

 

 

อวี๋เยว่หาน “…” !! 

 

 

“คุณวางใจเถอะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบเล่นๆ แล้วก็เบื่อ ฉันมีเหตุผลมากนะ!” เหนียนเสี่ยวมู่เห็นว่าเขาไม่เถียง จึงถูไถอยู่ในอกของเขาอย่างสบายใจ 

 

 

จากนั้นก็คลำเอวที่ปวดเมื่อยของตัวเองป้อยๆ แล้วพูดว่า 

 

 

“กฎหมายตราสามดวงข้อแรก ถึงพวกเราจะเป็นแฟนกัน แต่เรื่องน่าอายแบบนี้ ต้องเคารพความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ถ้าฉันไม่ตกลง คุณก็ห้ามแตะต้องฉัน!” 

 

 

อะไรคือผู้ชายที่ไม่หักห้ามอารมณ์ อะไรคือตัวอย่างของความหนักหน่วง หลังจากผ่านเมื่อคืนมาแล้ว เธอก็เข้าใจ 

 

 

เมื่อผู้ชายอยู่บนเตียง ก็ดุร้ายกันทั้งนั้นแหละ! 

 

 

‘…ไม่อยากตอบตกลังรับกฎข้อแรกเลย ตอนนี้ทำเป็นไม่ได้ยินได้ไหม’ อวี๋เยว่หานคิดในใจ 

 

 

เขาทำให้เธอเป็นของตัวเองได้อย่างยากลำบาก แต่เพิ่งได้ลิ้มลองความหวาน มันกลับเป็นครั้งสุดท้าย 

 

 

“คุณพูดต่อสิ” 

 

 

“กฎข้อที่สอง คุณต้องยิ้มให้ฉันทุกวัน อย่างน้อยวันละสามครั้ง!” เหนียนเสี่ยวมู่พูด ก่อนจะหันหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของเขา แล้วบ่นอย่างเมินเฉย “ใบหน้าขาวๆ ที่น่ามองแบบนี้ แต่ทำหน้าตาเย็นชาทั้งวัน ฉันเห็นแล้วกลัว ไม่ดีกับสุขภาพจิตเลยสักนิด” 

 

 

‘…เพิ่งแย่งสิทธิ์ที่สมควรเป็นของตัวเองมาได้ ตอนนี้เข้าสู่ขั้นตอนตัดสินคดีแล้วเหรอเนี่ย’ ชายหนุ่มคิดในใจอีก 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่ได้สังเกตว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไป แต่ยื่นมือไปหยิกแก้มของเขา 

 

 

ก่อนจะดึงแก้มของเขาจนมีปรากฏมุมโค้งเหมือนรอยยิ้ม แล้วเธอก็หัวเราะออกมาด้วยความพึงพอใจ “แบบนี้น่ามองกว่าตั้งเยอะ แฟนฉันหล่อที่สุดในโลกเลย!” 

 

 

อวี๋เยว่หาน “…” 

 

 

ความไม่พอใจที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา พลันหายไปตามเสียงหัวเราะอันเรียบง่ายของเธอ 

 

 

มือใหญ่ของเขาขยี้เรือนผมของเธออย่างอ่อนโยน พลางเลิกคิ้ว “กฎข้อสุดท้ายคืออะไร” 

 

 

“ฉันจะให้โอกาสคุณใช้สิทธิ์ของแฟน!” เหนียนเสี่ยวมู่ยิ้มกริ่ม 

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋เยว่หานก็ตาเป็นประกายทันที! 

 

 

ดีมาก นับว่าเธอใจดีอยู่บ้าง 

 

 

ในหัวของเขาเริ่มคิดถึงเงื่อนไขของ ‘ความสุข’ ในรูปแบบต่างๆ… 

 

 

แต่ทันใดนั้น กลับได้ยินเธอพูดว่า “สร้างความสุขให้แฟน คุณน่าจะรู้นะ ว่าต้องทำยังไง” 

 

 

‘….สิทธิ์ของแฟนที่คุณว่า หมายถึงเรื่องนี้เหรอ’ อวี๋เยว่หานคิดในใจ 

 

 

ความสุขบนเตียงนี่ นับไหมนะ 

 

 

“เอาล่ะ วันนี้ฉันนึกได้แค่สามข้อนี้ วันหลังมีความคิดใหม่ค่อยเพิ่มแล้วกัน!” 

 

 

‘…ไม่มีวันหลังแล้ว’ ชายหนุ่มบ่นในใจ 

 

 

เขายื่นมือกดฝังเธอไว้ในอกของเขา ก่อนจะก้มหน้าลงจูบเธอ จูบจนคนในอ้อมกอดถึงกับสติพร่าเลือน 

 

 

จากนั้นเขาก็กอดเธอจนแน่น ไม่ยอมปล่อย “คุณไม่เคยคิดเลยเหรอ ว่าทำตัวเองถึงได้ไปอยู่ที่โรงพยาบาล หรือว่าครอบครัวของคุณ…” 

 

 

“ฉันเคยสืบแล้ว” เหนียนเสี่ยวมู่ก้มหน้า ซบลงบนอกของเขา พลางพูดด้วยความน้อยใจ 

 

 

“หลังจากตื่นขึ้นมา ฉันลองอยู่หลายวิธีมาก แต่สุดท้ายก็สืบไม่พบอะไร” 

 

 

“…” 

 

 

“พอผ่านไปนานๆ เข้า มันก็กลายเป็นความเคยชิน” น้ำเสียงของเธอดูปลงอนิจจัง 

 

 

ครั้นดวงตาทั้งสองคู่สอดประสานกัน อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือไปประคองใบหน้าของเธอ “ต่อไปนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วนะ คุณยังมีผม” 

 

 

เขากระชับอ้อมแขน กอดหญิงสาวแน่นอย่างอบอุ่น 

 

 

เรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่สำคัญ ที่สำคัญในตอนนี้ คือเธอปรากฏตัวในชีวิตของเขาแล้ว 

 

 

ต่อจากนี้เขาเป็นครอบครัวของเธอ เป็นที่พึ่งพิงของเธอ 

 

 

สุดท้ายอวี๋เยว่หานก็เอ่ยปาก เพราะนึกอะไรขึ้นได้ “เหนียนเสี่ยวมู่ ต่อไปนี้ตอนที่ผมไม่อยู่ คุณห้ามดื่มเหล้าแม้แต่หยดเดียว!” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 386 เหมือนๆ กัน 

 

 

ไม่รู้ว่าทั้งสองคนอิงแอบกันอยู่บนโซฟานานเท่าไหร่ จนกระทั่งได้ยินเสียงท้องร้องของเหนียนเสี่ยวมู่ อวี๋เยว่หานถึงปล่อยเธอไป 

 

 

แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็อุ้มเธอด้วยท่าเจ้าหญิง ลงไปชั้นล่างอยู่ดี 

 

 

พ่อบ้านไม่อยู่ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สวมเสื้อผ้าของอวี๋เยว่หาน เธอร้อนใจอยากจะกลับไปที่ห้องของตัวเอง แต่เขากลับไม่ปล่อยเธอไป 

 

 

เขาอุ้มเธอเข้าไปในห้องอาหาร พร้อมกับกำชับให้ทางห้องครัวเตรียมอาหาร 

 

 

วันก่อนหญิงสาวยังลังเลอยู่ว่าจะรับคำสารภาพรักของเขาดีไหม แต่ผ่านเมื่อคืนมาแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาก้าวกระโดดมากทีเดียว 

 

 

เมื่อคิดได้ว่าตัวเองทำผิดโผเข้าใส่เขาเพราะฤทธิ์ไวน์ แถมเขายังกลืนกินเธอลงท้องด้วย เธอจึงรู้สึกใจฝ่ออย่างน่าประหลาด 

 

 

เพราะกลัวว่าหลังจากนี้จะมีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา 

 

 

“อวี๋เยว่หาน คุณปล่อยฉันลงก่อน ฉันกินข้าวเองได้!” พอเหนียนเสี่ยวมู่นั่งลง เธอก็เขยิบก้นหนีด้วยความไม่สบายใจ อยากจะหนีออกจากอ้อมกอดของเขา 

 

 

แต่เพิ่งขยับตัว อวี๋เยว่หานก็ยื่นมือมาโอบเอวเธอจากข้างหลังแล้ว 

 

 

จากนั้นเขาก็พูดเสียงทุ้มต่ำ เจือความแหบพร่าเล็กน้อย “นั่งดีๆ อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องป้อนผมให้อิ่มก่อนนะ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” ! 

 

 

ลามก 

 

 

ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ 

 

 

หลังจากหิวมาทั้งคืน เหนียนเสี่ยวมู่หมดความบันยะบังยังไปแล้วจริงๆ 

 

 

เธอยกชามโจ๊กมา ก่อนจะใช้ช้อนตัก แล้วเป่าให้เย็นด้วยความร้อนใจ 

 

 

ขณะที่กำลังจะใส่โจ๊กช้อนนั้นเข้าไปในปาก เธอพลันเห็นคนข้างกายขยับปากช้าๆ “ป้อนผมสิ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “..” !! 

 

 

หญิงสาวมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างจริงจังครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันว่าเขายังมีมือมีเท้า และไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ก่อนจะกินโจ๊กช้อนนั้นเข้าปากของตัวเองโดยไม่ลังเลสักนิด 

 

 

หลังจากเคี้ยวอยู่สองครั้ง เธอถึงกลืนลงไป 

 

 

จากนั้นก็มองเขาอย่างท้าทาย 

 

 

ไม่ป้อนหรอกย่ะ! 

 

 

“…” อวี๋เยว่หานหรี่ตาลง เขาเอี้ยวตัวไปข้างหน้า เตรียมจะจูบเธอ แต่หางตาเหลือบไปเห็นบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่สงสัยเหมือนกันว่าเขาเป็นอะไรไป แต่ก็เห็นร่างเล็กนุ่มนิ่มวิ่งเข้ามาจากข้างนอกเสียก่อน 

 

 

ใบหน้าลูบไข่ดูมีเลือดฝาดตื่นเต้นอยู่บ้าง 

 

 

เด็กหญิงวิ่งเข้ามาหา แล้วโผเข้าใส่อกของเธอ 

 

 

“พี่สาวคนสวย อุ้มๆ!” 

 

 

 เสี่ยวลิ่วลิ่วพูด พลางใช้ทั้งแขนและขาปีนขึ้นมาบนตัวเธอ 

 

 

พวกเขาทั้งสามคนในตอนนี้จึงเหมือนรูปปั้นพระอรหันต์ซ้อน 

 

 

อวี๋เยว่หานกอดเธอ ส่วนเธอกอดเสี่ยวลิ่วลิ่ว… 

 

 

พ่อบ้านซึ่งพาเสี่ยวลิ่วลิ่วเข้ามา ตะลึงลานอยู่ที่หน้าประตู 

 

 

ครั้นเห็นเหนียนเสี่ยวมู่สวมเสื้อผ้าของอวี๋เยว่หาน นั่นก็เป็นเหมือนข้อพิสูจน์การคาดเดาของตัวเอง ทำให้เขาอ้าปาก ตกใจจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว 

 

 

เขาอยากจะเข้ามาอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วไป แต่เสี่ยวลิ่วลิ่วกลับไม่ยอม 

 

 

“พี่สาวคนสวยหายไป เสี่ยวลิ่วลิ่วกลัว…” เด็กหญิงบ่นด้วยความน้อยใจ 

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่วพูดพลางขยับตัวไปมาอยู่ในอ้อมกอดของเหนียนเสี่ยวมู่ พร้อมกับยื่นมือไปโอบรอบคอของหญิงสาวเอาไว้ 

 

 

“เมื่อคืนพี่สาวคนสวยเป็นเด็กไม่ดี ไม่นอนอยู่ในห้องของตัวเอง!” 

 

 

“…” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พลันตัวแข็งทื่อ! 

 

 

มีคนจับได้เรื่องที่ไม่กลับห้องของตัวเองทั้งคืนแล้ว เป็นเรื่องที่น่าอายมากจริงๆ 

 

 

โดยเฉพาะเธอยังถือโอกาสโผเข้าใส่อวี๋เยว่หานในตอนกลางคืนอีกด้วย 

 

 

ตอนนี้เธอจะอธิบายกับเสี่ยวลิ่วลิ่วอย่างไรดี 

 

 

แต่หญิงสาวยังไม่ได้พิจารณาให้ดี เด็กหญิงในอกของเขาพลันเอียงคอ ก่อนจะพูดพึมพำ “ทำไมเสื้อผ้าของพี่สาวคนสวยถึงเหมือนๆ กันกับของพ่อล่ะ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” ! 

 

 

เธอลุกลี้ลุกลนไม่รู้ว่าควรพูดอะไร แต่อวี๋เยว่หานกลับยื่นมือมาอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วขึ้น แล้ววางลงบนเก้าอี้ข้างๆ 

 

 

จากนั้นเขาก็กอดหญิงสาวไว้ 

 

 

เมื่อมองเห็นใบหน้างุนงงของเสี่ยวลิ่วลิ่ว เขาจถึงจะเอ่ยปากอย่างเฉยชา 

 

 

“พี่สาวคนสวยไม่ได้หายไป แต่พ่อกลัวความมืด เธอเลยมานอนกับพ่อ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !! 

 

 

เสี่ยวลิ่วลิ่ว “…” !! 

 

 

พ่อบ้าน “…” !!