ตอนที่ 184 : ลูกแก้ววิญญาณไฟ

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 184 : ลูกแก้ววิญญาณไฟ

“ไหนลองเอาออกมาดูหน่อย”  หวังเย่าหรี่ตาลงและพูดขึ้น  “ แต่ฉันแนะนำว่าอย่าคิดตุกติก เพราะพวกนายทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

ตอนนี้มันดึกแล้ว อากาศที่นี่หนาวเย็นแต่หน้าผากของซ่งฉ่านกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต  “ใครจะกล้า ฉันรู้ตัวดี”

เขาใช้มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ามิติก่อนที่จะมีอัญมณีสีแดงขนาดเท่ากับกำปั้นปรากฏขึ้นมา อัญมณีนี่แผ่พลังไฟอันบริสุทธิ์ออกมา

“นี่มัน…”  หวังเย่าเตรียมใจไว้แล้วแต่ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับสมบัติแบบนี้เข้า

“น้องชาย นี่คือลูกแก้ววิญญาณไฟ มันอัดแน่นด้วยพลังธาตุไฟ มันอยู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ คุณค่าของมันเทียบกับเมืองเมืองหนึ่งเลยก็ว่าได้”

ซ่งฉ่านเห็นท่าทีแปลกใจของหวังเย่า  เขาก็สบายใจขึ้นมาทันทีแต่ในใจก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย

 “ฮึ่ม เด็กน้อย แกรอก่อนเถอะ ถึงฉันจะมีพลังต่อสู้กลาง ๆ แต่สัตว์อสูรของฉันมันก็มีความสามารถเหมือนกัน ภายในรัศมีหมื่นลี้ ฉันสามารถให้มันส่งข่าวให้ฉันได้ พี่ใหญ่ถันนำขนนกสีดำของสัตว์อสูรฉันไป 1 อัน เพียงแค่คิด ฉันก็สามารถรายงานทุกย่างได้แล้ว ถ้าหากเขารู้ว่าฉันตกอยู่ในอันตราย เขาจะต้องรีบเดินทางกลับมาอย่างแน่นอน บวกกับความเร็วของราชาอินทรีย์มังกรแล้ว การเดินทางกลับมาที่นี่คงกินเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ลูกแก้วไฟนี่แค่ตกอยู่ในมือแกชั่วคราวก็เท่านั้น”

หวังเย่าไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ เขารับลูกแก้ววิญญาณไฟเอาไว้ก่อนจะตรวจสอบพลังของมัน

เขารู้ว่าซ่งฉ่านได้ผูกมัดลูกแก้วนี่ไว้แล้ว มีแค่การฆ่าซ่งฉ่านเท่านั้นที่เขาจะได้ลูกแก้วนี่มาครอง

“ฮ่าฮ่า การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่าจริง ๆ ลูกแก้ววิญญาณดิน ลูกแก้ววิญญาณไฟ น่าทึ่งจริง ๆ มันมีสมบัติแบบนี้อยู่ที่ภูเขาผลไม้”

จู่ ๆ หวังเย่าก็คิดถึงชายที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคหัวเซี่ย นอกจากนี้เขายังเปิดวิหารหมื่นมังกรขึ้นมาทั้ง 36 เมื่อตอนกลาง เดือนที่ผ่านมา

ฉินเซียนนั้นแกร่งเท่ากับสัตว์อสูรระดับเทพขั้นต้นได้ สัตว์อสูรระดับเทพขั้นต้นมายังโลกนี้และถูกยับยั้งพลังเอาไว้ ดังนั้นฉินเซียนจึงสามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้

และเหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดถึงฉินเซียน ก็เพราะจ้าวแห่งวิหารไป่หลิงนั้นสามารถใช้ธาตุทั้งห้าได้

ข่าวลือบอกว่า เพราะเขามีลูกปัดห้าธาตุเป็นสมบัติ จึงทำให้เขาสามารถใช้พลังแบบนั้นออกมาได้

พื้นที่ของลูกแก้วธาตุนั้นกินระยะกว่า 100 ไมล์

ในพื้นที่นั้นเขาสามารถควบคุมพลังธาตุทั้งห้าได้ เขาสามารถใช้พลังเหล่านั้นรักษาทหารและเพิ่มพลังแก่ทหารได้

“ถ้าฉันรวบรวมลูกแก้วธาตุทั้งห้าได้ ฉันต้องแข็งแกร่งกว่านี้อย่างแน่นอน ถึงจะไม่สามารถจัดการกับสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์และเทพได้ แต่ก็น่าจะพอรับมือกับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิได้ “

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้ แน่นอนว่าจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วเขาก็ไม่อาจจะคิดเรื่องอื่นได้มากนัก

“ไอ้หนู ฉันจะให้ลูกแก้วไฟนี่กับแก แกจะไว้ชีวิตฉันมั้ย ? ”  ซ่งฉ่านถามขึ้นมา

“ได้ ฉันปล่อยนายไปก็ได้”

หวังเย่าพยักหน้าพร้อมกับเฉือนเข้าที่ลำคออีกฝ่าย

“แก …แกผิดคำพูด…ไอ้บัดซบ”  ซ่งฉ่านใช้มือกุมคอตัวเองไว้ด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“ใช่ ฉันโกหกแต่แล้วยังไง ? ”  หวังเย่าฮึดฮัดออกมา  “จากสมบัติที่แกให้มาแล้ว ฉันจะให้แกตายเร็ว ๆ ไม่งั้นแล้วด้วยบาปของแก แกคงโดนทรมานนานกว่านี้แน่”

สายตาของซ่งฉ่านสะท้อนความแค้นเคืองออกมาก่อนที่จะหม่นลง

ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงกลับหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า  “ฮ่าฮ่า ไอ้หมาแก่ ฉันรอวันนี้มานานแล้ว ฉันอยากให้แกตายอย่างทรมาน”

เธอลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่สนร่างกายเปลือยเปล่าของเธอ เธอเข้าไปดึงมือของซ่งฉ่านออกมาและหัวเราะขึ้น  “แกควรตายไปซะ”

ถึงเธอจะหัวเราะออกมาแบบนั้น แต่น้ำตาเธอก็ไหลอาบแก้ม

หวังเย่าแค่มองผ่าน ๆ เขาได้สนใจเธอและหันไปจัดการพวกโจรคนที่เหลือ

เขาไม่คิดจะปล่อยให้ใครรอด !

ชายตัวเตี้ยที่เพิ่งวิ่งออกจากบ้านไปกลับต้องทรุดลงไปนอนกับพื้น เพราะมีเข็มดำแทงทะลุหัวใจของเขา เข็มนั่นคือสกิลของตือโป๊ยก่ายที่แทงทะลุหัวใจอีกฝ่าย

“เมี๊ยว ! ”  การ์ฟิลด์ร้องออกมา

แมวนั่นได้กระโดดเข้าไปทับโจรทั้งสามคน ด้วยน้ำหนักตัวของมันแล้ว มันจึงทำให้ทั้งสามกลายเป็นแค่เศษเนื้อ

หงอคงใช้กระบองของมันฟาดใส่โจรคนหนึ่งจนอีกฝ่ายตัวระเบิดแตกออกเป็นชิ้น ๆ

นี่แสดงให้เห็นแล้วว่ากระบองนี่ทรงพลังแค่ไหน

หวังเย่าเองก็ไล่ตาม ด้วยแสงไฟจากตะเกียงและคบไฟโดยรอบนั้น เขาจึงได้ทำการยิงธนูเข้าใส่พวกโจรที่หนี

ด้วยทักษะของเขาตอนนี้แล้วก็ยากที่พวกโจรจะหนีได้

แน่นอนว่ายังมีคนที่หลบได้ เพราะแม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกโจรนี่ไม่ถึงระดับ B แต่ด้วยความช่วยเหลือหรือสกิลจากอสูรแล้ว พวกนั้นก็ยังป้องกันหรือสามารถหลบได้อยู่

แต่ความแข็งแกร่งของหวังเย่านั้นก็เหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นการต้านทานและดิ้นรนของโจรพวกนี้ต่างก็ไร้ค่า

สามนาทีต่อมาเขาก็จัดการโจรทุกคนจนหมด

จากนั้นเขาก็ให้การ์ฟิลด์ออกไปจัดการยามสองคนที่เฝ้าอยู่ที่ทางเข้า

โจรทั้งสองเห็นใบมีดที่พุ่งเข้ามา พวกเขาต่างก็แสดงสีหน้ากลัวออกมา แต่มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะหนีได้เลยและต้องตายไปสถานเดียว

ตอนนั้นนอกจากงเจียนหรง, เกาเฉียงและผีเสี่ยวเปียวที่ออกไปข้างนอกแล้ว โจรในหุบเขาแห่งนี้ก็ถูกฆ่าจนหมด

หวังเย่าได้เก็บเอากระเป๋ามิติของพวกโจร ก่อนจะทำการเปิดประตูถ้ำทั้งสามแล้วบอกให้พวกสาว ๆ ออกมา

“ออกมาได้แล้ว ฉันฆ่าพวกโจรทั้งหมดแล้ว”

พวกสาว ๆ ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นในหุบเขา หลายคนกล้าพอที่จะวิ่งมาที่ประตูเพื่อตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อพวกเธอเดินออกมาและพบกับศพที่กระจัดกระจายไปทั่วก่อนจะมองไปที่หวังเย่า แล้วโค้งให้เป็นการขอบคุณ

หลิงชิงซวินได้แสดงสีหน้าแปลกใจออกมาก่อนจะรีบมาขอบคุณหวังเย่า

“หวังเย่า นายช่วยเราไว้ได้จริงหรือ…นายคนเดียวเนี่ยนะ? “  เธอถามขึ้นมา

หวังเย่าพยักหน้าและพูดขึ้น  “ ใช่ แค่ฉันคนเดียวนี่แหละ…”