อวี๋หมิงหลางขอแต่งงานสำเร็จ ดีใจเสียยิ่งกว่าอะไร
เสี่ยวเชี่ยนเอาชนะโรคหวาดกลัวการแต่งงานได้แล้ว อารมณ์ก็เบิกบานเช่นกัน
พวกเขาบอกลาพี่น้องทหารของอวี๋หมิงหลาง เป็นอันจบสิ้นหน้าที่ในหน่วย011 อวี๋หมิงหลางมองส่งทุกคนจากไป พลางคิดในใจว่าลูกน้องของเขามีพัฒนาการที่น่าตกใจจริงๆ
เมื่อก่อนเขามองทุกคนเป็นเด็ก แค่ชั่วพริบตาเด็กพวกนี้ก็รู้จักใช้วิธีของตัวเองช่วยหัวหน้ากลางของพวกเขาขอสาวแต่งงานได้สำเร็จ
วิธีขอแต่งงานอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครนี้ไม่ได้หวือหวาสิ้นเปลืองเงิน ไม่ใช้อุปกรณ์ฟุ่มเฟือย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมกันก็แค่เงินค่าพลุ ถึงจะเกือบถูกอวี๋หมิงหลางทำเสียแผน แต่เพราะความซื่อบื้อนี้ยากที่จะปิดบังความจริงใจไว้ได้มิด แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
เสี่ยวเชี่ยนเชื่อว่าตัวเองนั้นเลือกไม่ผิด
เขาไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าที่มีลูกน้องมากมายให้ความเคารพ ยังเป็นผู้ชายที่ทำให้เธออบอุ่นด้วย ชาตินี้มีเขาก็เพียงพอแล้ว
เดิมคิดจะกลับบ้านไปฉลองกับเขาที่ขอแต่งงานสำเร็จ แต่อวี๋หมิงหลางกลับต้องกลับไปที่ค่ายทหาร พรุ่งนี้เขายังมีพิธีสำคัญ คืนนี้จำเป็นต้องกลับไป จึงต้องบอกลาเสี่ยวเชี่ยนอย่างเศร้าๆ
“พรุ่งนี้ผมเสร็จงานแล้วจะรีบไปยื่นคำร้องขอแต่งงาน พอทุกอย่างเสร็จแล้วจะรีบมานะ พวกเราไปจดทะเบียนกันก่อน จากนั้นเรื่องอื่นเดี๋ยวผมจัดการเอง”
เขาเตรียมไปยื่นคำร้องขอให้เสียวเหม่ยมาอยู่กับเขาด้วย ขอแค่แต่งงานแล้ว ด้วยตำแหน่งอย่างเขาสามารถขอบ้านพักได้หลังหนึ่ง ถึงตอนนั้นเสียวเหม่ยก็มาอยู่ได้
สถานะของเขาค่อนข้างพิเศษ ออกไปอยู่ที่อื่นไม่ได้ แต่ให้เสียวเหม่ยย้ายเข้ามาได้
ค่ายทหารอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเธอ ขับรถแค่ประมาณยี่สิบนาที บ้านมีรถไม่ต้องกลัวเรื่องนี้ พอคิดว่าจะได้อยู่ด้วยกันแล้วเขาก็มีความสุข
“จริงสิ ทำไมนายไม่ไปกับพวกหวางย่าเฟยล่ะ? ตกลงนายถูกย้ายไปไหนกันแน่?” เสี่ยวเชี่ยนเตรียมใจไว้แล้วว่าหลังแต่งงานคงต้องแยกกันอยู่ แต่เธอเชื่อว่าตัวเองทนความเหงาได้
“เจอกันครั้งหน้าผมมีเซอร์ไพรส์” เขาก้มลงไปหอมแก้มเธอแล้วหันหลังเดินจากไป
ถ้าเสียวเหม่ยรู้ว่าเขาย้ายมาอยู่เมืองนี้แล้วจะต้องดีใจอย่างแน่นอน เซอร์ไพรส์ใหญ่แบบนี้รอให้จดทะเบียนก่อนแล้วค่อยบอก~
อวี๋หมิงหลางคิดว่าเสียวเหม่ยจะต้องรักเขามากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีพลาด!
ปริศนาเรื่อง ‘เซอร์ไพรส์’ของเขาทำให้เสี่ยวเชี่ยนนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาพลางคิดว่าเซอร์ไพรส์อะไร?
วันต่อมาศาสตราจารย์หลิวโทรหาเธอบอกให้ไปหาที่มหาวิทยาลัย มีเรื่องจะคุยด้วย
พอไปถึงมหาวิทยาลัยเธอก็ไปเจอตัวศาสตราจารย์หลิวอยู่ที่ห้องทดลอง
“อาจารย์คะ เรียกหนูมามีเรื่องอะไรเหรอคะ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม
“ก็ไม่มีอะไรหรอก อาจารย์ที่ปรึกษาปริญญาเอกที่หาไว้ให้เธออีกไม่กี่วันจะบินกลับมาแล้ว ฉันเขียนจดหมายแนะนำตัวไว้ให้แล้ว เธอไปเตรียมเอกสารแล้วส่งเข้าอีเมลของเขา พอเขากลับมาก็จะได้นัดให้เจอกัน ตอนนี้เตรียมเรื่องนี้อาจดูเร็วไป เพราะยังตั้งอีกปีกว่าเธอถึงจะเรียนจบ แต่อีกฝ่ายเป็นคนเรื่องเยอะ เตรียมการล่วงหน้าจะได้ไม่ถูกใครชิงตัดหน้าไปก่อน”
จำนวนนักศึกษาปริญญาเอกที่อาจารย์แต่ละคนจะรับได้นั้นมีจำกัด รุ่นหนึ่งได้แค่1-2คน ถึงแม้นิสัยของเหล่าชีจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจใครหลายคน แต่มีชื่อเสียงมากทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นถ้าไม่รีบจองไว้ก่อนอาจถูกคนอื่นตัดหน้า จำเป็นต้องเตรียมไว้
ศาสตราจารย์หลิวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโยนระเบิดให้เสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนยืนอึ้งไปสักพักกว่าจะได้สติ
“อาจารย์…ที่ปรึกษาปริญญาเอกเหรอคะ?!”
“ใช่ ฉันหาให้เธอแล้ว”
“อาจารย์ หนูยังอยากอยู่กับอาจารย์นะคะ อยู่ดีๆทำไมเตะหนูออกไปล่ะคะ?”
ทางมหาวิทยาลัยก็ยินดีจะให้เธอเรียนต่อ ซึ่งเสี่ยวเชี่ยนเองก็ยังอยากอยู่กับศาสตราจารย์หลิว
“อยู่อะไร? อยู่กับฉันอยากให้ฉันเห็นเธอแต่งงานมีลูกงั้นเหรอ? ที่น่าแค้นกว่าก็คือเธอดูไม่ได้ตั้งใจในสิ่งที่เรียนเท่าไรแต่กลับรู้ในสิ่งที่ฉันตั้งหน้าตั้งตาเรียนมาทั้งชีวิต! รีบไปเลย ไปป่วนปีศาจเหล่าชีนู่น!”
อาจารย์ที่ปรึกษาที่ศาสตราจารย์หลิวแนะนำให้เสี่ยวเชี่ยนคนนี้เก่งมาก เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดในแวดวงวิชาการ เพียงแต่ด้านนิสัยอาจมีปัญหาหน่อย ศาสตราจารย์หลิวชั่งข้อดีข้อเสียแล้ว ถึงจะแอบเสียดายที่ต้องส่งศิษย์รักออกไป แต่เพราะอยากให้เสี่ยวเชี่ยนได้พัฒนามากกว่านี้ การเปลี่ยนอาจารย์ย่อมดีกว่า
“อาจารย์ หนูทำอะไรไม่ดีไปหรือเปล่าคะ อาจารย์ถึงได้ไล่หนูไปแบบนี้?”
เสี่ยวเชี่ยนไม่อยากไปจากอาจารย์ผู้มีพระคุณของตัวเอง
อาจารย์ที่มีวาสนาต่อกันทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้ อาจารย์ปฏิบัติกับเธออย่างไรเธอรู้ดีแก่ใจ
เดิมเธอคิดจะลงเรียนล่วงหน้าวิชาเรียนของนักศึกษาปริญญาเอก แต่ศาตราจารย์หลิวไม่เห็นด้วย อยากให้เธอมีพื้นฐานความรู้ในตอนนี้ให้แน่นๆก่อน ซึ่งเสี่ยวเชี่ยนเองก็เชื่อฟัง คิดมาตลอดว่ายังต้องอยู่กับอาจารย์เพื่อเรียนวิชาของปริญญาเอกไปอีกสักพัก แต่นึกไม่ถึงว่าอยู่ๆอาจารย์จะมาเตะเธอออกไปแบบนี้
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนมองมาด้วยสายตาวิงวอนศาสตราจารย์หลิวก็ปวดใจ เพื่ออนาคตของเสี่ยวเชี่ยนเธอจำเป็นต้องใจแข็ง
“เธอเป็นเด็กสามขวบยังไม่หย่านมหรือไง? จะติดตามฉันไปตลอดชีวิตเหรอ? ฉันไม่มีอะไรจะสอนเธอแล้ว ไปอยู่กับเหล่าชีมันดีต่ออนาคตเธอ ถึงฉันจะไม่อยากยอมรับ แต่เขามีชื่อเสียงมากกว่าฉันในระดับนานาชาติ เธอไปเรียนดอกเตอร์กับเขาย่อมมีอนาคตมากกว่า”
“หนูไม่ชอบให้อาจารย์พูดแบบนี้ หนูคิดว่าอาจารย์เป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว”
“เด็กคนนี้นี่ปกติไม่เห็นมีนิสัยแบบนี้ ทำไมอยู่ๆมาพูดอะไรชวนขนลุก?” ศาสตราจารย์หลิวถูกเสี่ยวเชี่ยนพูดเสียจนเริ่มแสบตา เด็กคนนี้เป็นคนให้ความสำคัญกับความรู้สึก ไม่เสียทีที่ดูแลมาหลายปี
แต่เพื่อตัวเสี่ยวเชี่ยนเธอจำเป็นต้องใจแข็ง
“เรื่องนี้กำหนดออกมาแล้ว อีเมลของเหล่าชีอยู่นี่ อย่างช้าเตรียมเอกสารภายในสามวันแล้วส่งให้เขา ถ้าฉันรู้ว่าเธอกล้าทำส่งๆหรือไม่ส่งไปล่ะก็ นิสัยฉันเป็นยังไงเธอน่าจะรู้ อย่าทำให้ฉันผิดหวัง!”
พูดจบก็โยนกระดาษให้ใบหนึ่งแล้วเดินออกไป
เสี่ยวเชี่ยนรู้จักนิสัยของอาจารย์ดี อาจารย์บอกให้เธอไป ถ้าอย่างนั้นเธอก็คงอยู่ไม่ได้แล้ว
เป็นวันที่น่าเซ็งจริงๆ เรื่องแรกก็เสี่ยวเฉียงต้องกลับหน่วย ต่อมาอาจารย์ก็บอกข่าวเธอเรื่องนี้ เสี่ยวเชี่ยนเก็บความโมโหไว้เต็มอกไม่มีที่ระบาย
“งั้นหนูไม่เรียนต่อแล้ว หนูเรียนจบปริญญาโทแล้วไปสอบระดับสองพอ ระดับหนึ่งรอหนูมีประสบการณ์แพทย์คลินิกถึงขั้นแล้วจะใช้วุฒิปริญญาโทไปสอบ”
คำพูดของเสี่ยวเชี่ยนหยุดเท้าของศาสตราจารย์หลิวได้สำเร็จ เธอหันหน้ามาด้วยความโกรธ
“ไหนพูดอีกทีซิ!”
เสี่ยวเชี่ยนเม้มปากอย่างไม่พอใจ “อาจารย์ไม่เอาหนูแล้ว จะเตะหนูทิ้ง งั้นหนูเรียนต่อจะมีความหมายอะไร!”
“ไร้สาระ!” ศาสตราจารย์หลิวเดินเข้ามา ยกมือขึ้น เสี่ยวเชี่ยนหลับตาปี๋พลางคิดในใจว่าถ้ากล้าก็เอาเลย ยังไงซะเมื่อชาติก่อนก็เคยถูกตบมาแล้ว!
ปรากฏว่าไม่เห็นฝ่ามืออาจารย์ฟาดลงมา เธอจึงลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย ก็เห็นศาสตราจารย์หลิวง้างมือค้างกลางอากาศ ดวงตาแดงกล่ำ
“เด็กไม่ได้เรื่อง ฉันโมโหเธอจนพูดไม่ออกแล้ว นั่นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเลยนะ เขาเก่งในด้านที่เธออยากเรียนปริญญาเอก เธอก็รู้ดีว่าวิชาที่เธอต้องเรียนต่อจากนี้เขาเก่งกว่าฉัน”
ชาตินี้เสี่ยวเชี่ยนได้เรียนในสิ่งที่ชาติที่แล้วต้องเรียนไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นปริญญาเอกเธอจึงอยากลองเรียนแขนงอื่นของจิตวิทยาดูเพื่อท้าทายตัวเอง ซึ่งอาจารย์ที่ศาสตราจารย์หลิวแนะนำให้นั้นเก่งทางด้านนั้นพอดี มีข้อได้เปรียบเรื่องข้อมูล
“หนูไม่อยากได้ใครทั้งนั้น หนูแค่อยากอยู่กับอาจารย์ อาจารย์ตบหนูเถอะค่ะ ตบเสร็จหนูก็จะอยู่กับอาจารย์”
ศาสตราจารย์หลิวทั้งโกรธทั้งขำ เธอเอามือลง เสี่ยวเชี่ยนหลับตาแต่ก็ยังไม่เจ็บสักที เธอรู้สึกได้ว่าศาสตราจารย์หลิวเอามือลูบใบหน้าเธอเบาๆ