บทที่ 206 เด็กมีอนาคตสอนได้

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 206

เด็กมีอนาคตสอนได้

หลินซีเหยียนก็ได้ยักคิ้วขึ้นมา “ดูเหมือนว่าคนในตำหนักของฮูหยินอินจะไม่ได้มีแต่คนโง่เสียทั้งหมดสินะ!”

เมื่อซิ่งเอ๋อได้ยินที่กล่าว ก็ได้ลงไปคุกเข่ากับพื้น “ฮูหยินอินอุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอมทารกในครรภ์มาเป็นอย่างดีแต่ก็กลับมีเหตุเช่นนี้ได้ ข้าน้อยจึงรู้สึกได้ว่าจะต้องมีอะไรแปลกๆเป็นแน่เจ้าค่ะ”

“เจ้าคงจะอยู่ดูแลฮูหยินอินอยู่ตลอด เจ้าพอจะพบอะไรผิดสังเกตเมื่อวานนี้บ้างหรือไม่?”

แล้วดวงตาของซิ่งเอ๋อก็ได้เต็มไปด้วยชั้นน้ำตา ดูเหมือนว่านางจะนึกอะไรบางอย่างออกได้ แต่นางก็ยังไม่กล้าพูดออกไป นางทำแค่เพียงมองไปที่คุณหนูรองที่อยู่ตรงหน้านางอย่างลังเลใจ

จนสุดท้ายหลังจากที่ยึกยักอยู่นาน นางก็ได้พูดออกมา “ข้าน้อยหวังว่าหลังจากที่พูดความจริงออกไปแล้ว คุณหนูรองจะช่วยรักษาชีวิตน้อยๆของข้านะเจ้าคะ”

หลินซีเหยียนก็ได้กล่าวอย่างอ่อนโยน “ได้สิข้าสัญญา”

เมื่อนางตอบตกลงไปแล้ว ซิ่งเอ๋อก็ได้เล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ รวมถึงเรื่องของขนมหวานที่ถูกส่งมาโดย ฮูหยินอวี้ด้วยท่าทางที่ตื่นกลัวราวกับแมวจรจัดในสวน

แต่พอฟังจนจบแล้วก็ยังไม่พบอะไรน่าสงสัย ซึ่งทำให้นางสงสัยขึ้นมาว่าอีกฝ่ายนั้นจะต้องมีอะไรแอบซ่อนอยู่เป็นแน่

“ในตอนที่ขนมหวานของฮูหยินอวี้ได้ส่งมอบมานั้น เมื่อตรวจสอบแล้วก็ไม่พบว่ามีอะไรอยู่ในนั้นเจ้าค่ะ”

หลังจากที่ทำเสียงในลำคอเบาๆ หลินซีเหยียนก็ได้หรี่สายตามองไปที่ซิ่งเอ๋อ “ถ้าไม่มีปัญหาอะไรในขนมหวาน แล้วปัญหามันอยู่ที่ไหนล่ะ?”

“คุณหนูรองคงไม่ทราบ ขนมหวานที่ส่งมาให้คุณหนูอวี้นั้นมีขนมดอกบัวรวมอยู่ด้วย ซึ่งในบรรดาขนมดอกบัวนั้นมียาตกลูกผสมอยู่ด้วย”

“แล้วทำไมเจ้าถึงไม่บอกฮูหยินอินเรื่องนี้?” ดวงตาของหลินซีเหยียนนั้นก็ได้นิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งในฐานะที่เป็นสาวใช้ของฮูหยินอินแล้ว ทำไมนางถึงยังนิ่งเฉยอยู่ได้

ซิ่งเอ๋อนั้นเก่งในเรื่องสังเกตคำพูดและสีหน้าอยู่แล้ว ในชั่วขณะนั้นเองที่นางรู้สึกได้ถึงสีหน้าไม่พอใจของคุณหนูรอง นางจึงได้รีบอธิบาย “ข้าได้บอกกับฮูหยินเรื่องนี้แล้ว แต่ฮูหยินกลับไม่เชื่อข้าเพราะเห็นข้าเป็นแค่สาวใช้เจ้าค่ะ”

หลังจากที่ยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ หลินซีเหยียนก็ได้เดินไปที่ตำหนักแล้วถามต่อ “ข้ายังสงสัยอีกเรื่อง แล้วเจ้ารู้ว่ามียาตกลูกได้อย่างไร?”

เมื่อได้ยินที่ถาม ท่าทีของซิ่งเอ๋อก็เหมือนทานอาหารเสีย แล้วก็ปรากฏสีหน้าที่เศร้าโศกของนางขึ้นมาราวกับนางนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ท่านพ่อของข้านั้นเป็นหมอ ฐานะของครอบครัวข้าน้อยแม้จะไม่ร่ำรวยแต่ก็พอมีพอกิน แต่แล้วก็มีคนใหญ่คนโตในเมืองหลวงมาสนใจข้าเข้า จึงได้คิดที่จะจับข้าไปเป็นเมียน้อยของเขา แต่ท่านพ่อไม่ยอมท่านจึงได้ส่งข้าน้อยให้มาเป็นสาวใช้ที่จวนมหาเสนาบดีเพื่อเป็นการปกป้องข้าน้อยเจ้าค่ะ”

ซิ่งเอ๋อที่อยู่ตรงหน้าหลินซีเหยียนนั้นก็เป็นคนสวยไม่น้อยจริงๆ หลินซีเหยียนจึงได้คิดว่านางนั้นอาจจะพูดความจริง “แล้ว ฮูหยินอินลงไปนอนตัวสั่นอยู่ที่สวนได้อย่างไร?”

“หลังจากที่ทานขนมเข้าไป ฮูหยินอินก็บอกรู้สึกแน่นหน้าอกและอยากที่จะออกไปเดินเล่นข้างนอก แต่จู่ๆก็มีแมวดำโผล่ออกมาตัดหน้า และตาของแมวดำตัวนั้นก็สีเขียวราวกับผีร้ายอีกด้วยเจ้าค่ะ”

ในขณะที่หลินซีเหยียนกำลังจะถามซิ่งเอ๋อ ก็ได้มีตัวตนที่น่าสงสัยวิ่งออกไปจากทางเข้าตำหนักอย่างเงียบๆ หลินซีเหยียนนั้นรู้สึกได้แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร

กลับกันนางก็ได้หันไปมองชิงอวี่ แล้วชิงอวี่ก็ผงกหัวแล้วจากนั้นก็ตามออกไป

ในขณะที่หลินซีเหยียนกับซิ่งเอ๋อกำลังพูดคุยกันเรื่องอื่นอยู่นั้น เสียงของฮูหยินอินก็ได้ดังมาจากข้างในห้อง สีหน้าของ ฮูหยินอินนั้นยินดีขึ้นมาเมื่อได้ยินว่าลูกน้อยของนางนั้นคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย

แต่ในขณะที่กำลังยินดีอยู่นั้น พอนางเห็นว่าที่ท้องของนางนั้นมีรอยผ่าอยู่ สีหน้าของนางก็ได้ซีดขึ้นมาทันที “ผ่าเอาลูกออกงั้นเหรอ? ท่านมหาเสนาบดีทำไมถึงช่างโหดร้ายเช่นนี้”

“ฮูหยินเจ้าคะ ได้โปรดหยุดโกรธก่อนเถอะเจ้าค่ะ ท่านกำลังอ่อนแอมากอยู่จะโมโหมากไม่ได้นะเจ้าคะ” ซิ่งเอ๋อก็ได้เกลี้ยกล่อมนางและประคองให้ฮูหยินอินลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ถือแก้วน้ำอุ่นมาและวางตรงหน้าของฮูหยินอิน แล้วจากนั้นก็มองไปที่ประตูอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ

เมื่อรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของซิ่งเอ๋อแล้ว ฮูหยินอินก็ได้วางแก้วน้ำลงแล้วกล่าว “มีใครอยู่ข้างนอกอย่างนั้นเหรอ?”

ซิ่งเอ๋อก็ได้ผงกหัว “เป็นคุณหนูรองที่มาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ ในครั้งนี้ที่ท่านได้ท่านหมอผีมารักษาให้ต้องขอบคุณคุณหนูรองเจ้าค่ะ”

ทันทีที่ฮูหยินอินได้ยินเช่นนี้ นางจึงได้รีบให้คนไปเชิญหลินซีเหยียนเข้ามาในห้อง แล้วจากนั้นนางก็ได้พยายามลุกขึ้น แต่หลินซีเหยียนก็ได้เดินเข้ามาแล้ววางมือของนางไว้ที่ไหล่ของ ฮูหยินอิน แล้วก็มีเสียงที่ฟังดูเยือกเย็นดังเข้าหูของนาง

“ฮูหยินอินไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ในเวลานี้สิ่งที่สำคัญคือการดูแลรักษาร่างกายของตัวเองให้หายดี”

เมื่อได้ยินที่กล่าว ฮูหยินอินก็ได้เลิกขยับตัวแล้วลงเอนนอนไปกับเตียงต่อ “ในครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณหนูรองจริงๆ ไม่อย่างนั้นในจวนมหาเสนาบดีแห่งนี้ เกรงว่าเขากับลูกในท้องของข้าคงจะกลายเป็นศพเน่าเปื่อยไปแล้ว”

หลินซีเหยียนก็ได้มองไปที่ฮูหยินอินที่ดูเหมือนจะขอบคุณนางอย่างจริงใจ หลินซีเหยียนจึงได้ยักคิ้วแล้วกล่าว “ฮูหยินคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุหรือมีคนทำกันแน่ล่ะ?”

ฮูหยินอินก็ได้เงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วจากนั้นก็กลับมามีสีหน้าไร้เรี่ยวแรงอีก “ข้าเป็นเพียงผู้หญิงตัวคนเดียวไร้ซึ่งคนพึ่งพา ต่อให้เป็นฝีมือคนจริงๆ ข้าจะไปทำอะไรได้?”

หลินซีเหยียนก็ได้ยักคิ้วแล้วยิ้มอย่างดูหมิ่น “ช่างเป็นคนถ่อมตัวจริงๆนะฮูหยินอิน เจ้าที่สามารถยึดครองหัวใจของมหาเสนาบดีหลินในเวลาอันสั้นด้วยท้องที่โย้นั้น แต่กลับบอกว่าไร้ซึ่งคนพึ่งพางั้นเหรอ?”

หลังจากที่กล่าวจบหลินซีเหยียนก็ได้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ประตูแล้วกล่าว “ถ้าฮูหยินอินอยากที่จะถูกรังแกเช่นนี้ต่อไป ก็เชิญเจ้าทนต่อไปเถอะ เรื่องในคราวนี้ข้าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย”

ก่อนที่หลินซีเหยียนจะเดินจากไป นางก็ได้ยินเสียงของ ฮูหยินอินที่ดังขึ้นมาอย่างเร่งรีบ “คุณหนูรองไปโปรดช่วยอยู่ก่อน อินเอ๋อไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นไรดี?”

หลังจากนั้นฮูหยินอินก็ทำได้แค่มองดูตัวตนของ หลินซีเหยียนที่ค่อยๆหายลับตานางไป

“เจ้าได้พูดทุกอย่างตามที่ข้าบอกให้พูดหรือเปล่า?” หลังจากนั้นสักพักใหญ่ เสียงของฮูหยินอินก็ได้ดังขึ้นมาในห้องเงียบๆห้องนั้น ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ซิ่งเอ๋อก็ได้ลงไปคุกเข่ากับพื้นและปรากฏความกลัวขึ้นมาในดวงตาของนาง “ซิ่งเอ๋อได้พูดไปตามที่ฮูหยินสั่งเรียบร้อยเจ้าค่ะ แต่คุณหนูรองนั้นดูเหมือนจะเป็นคนที่ฉลาดมาก ข้าจึงไม่ทราบว่านางนั้นเชื่อที่ข้าพูดหรือไม่เจ้าค่ะ”

ฮูหยินอินก็ได้ทำเสียงในลำคอแล้วจากนั้นก็ได้กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูหมิ่น “คุณหนูรองของเรานั้นเกลียดฮูหยินอวี้เอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่นางก็ไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆแน่”

หลังจากที่พูดจบนางก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกได้ นางมองไปรอบๆแต่ก็ไม่พบในสิ่งที่นางต้องการเลย จากนั้นนางก็ได้ถาม “ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าลูกของข้านั้นถูกช่วยเอาไว้ได้ไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมข้าถึงไม่เห็นเลย?”

ซิ่งเอ๋อที่ถูกถามเรื่องของนายน้อยก็ได้กล่าวอย่างยินดี “นายท่านนั้นให้ความสำคัญอย่างมากกับนายน้อย เข้าจึงได้พาตัวไปให้แม่นมพิเศษกับท่านหมอให้คอยดูแลเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ”

ต่างจากการดูแลที่ผ่านๆมา มหาเสนาบดีหลินนั้นได้แสดงถึงความห่วงใยนายน้อยคนนี้อย่างมาก ซึ่งความห่วงใยนี้หาได้ทำให้ฮูหยินอินยินดีไม่ แต่นางนั้นกลับรู้สึกกระวนกระวายในใจของนาง

“ตั้งแต่แรกข้าวางแผนที่จะเอาเด็กนั่นออกจากท้องข้า แต่ก็ไม่นึกว่าเจ้าเด็กนั่นจะดวงแข็งขนาดนี้”

หลังจากที่นึกถึงรอยแผลเป็นที่ท้องของนางแล้ว นางก็ยิ่งไม่ยินดีกับเด็กคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

นางจึงได้สั่งซิ่งเอ๋อ “เจ้าหาโอกาสเหมาะแล้วฆ่านายน้อยเสียก่อนที่นายท่านจะมาพบทีหลังว่า เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขา”