ตอนที่4 ไม่เคยได้ยินมาก่อน

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล]

ตอนที่4 ไม่เคยได้ยินมาก่อน NovelHall

ตอนที่4 ไม่เคยได้ยินมาก่อน

จ้าวเฉียนเห็นว่าทุกคนต่างจับจ้องมาที่เขาจนเป็นตนเดียว จึงยิ้มถามขึ้นว่า

“กินอิ่มกันแล้วใช่ไหม?”

ทุกคนต่างพยักหน้าทันทีโดยไว ให้สัญญาณว่าเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว

“ดีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉัน ดังนั้นก็ต้องทำให้แน่ใจว่าทุกคนอิ่มกันแล้ว น้อง เช็คบิล!”

พนักงานรีบตรงเข้ามาและเอ่ยปากตอบด้วยความเคารพว่า

“คุณชายจ้าว เดี๋ยวฉันจะรีบโทรหาผู้จัดการให้นะคะ”

จ้าวเฉียนพยักหน้าตอบ พนักงานคนนั้นรีบวิ่งออกไปอีกครา

เจวียงหยวนที่กำลังเลียมุมปาก เห็นจ้าวเฉียนนั่งสบายอารมณ์ก็คิดจะสร้างปัญหาให้ทันที

“ว้าว คุณชายจ้าว นายไปยืมเงินจ่ายเว็บไซต์ไหนมา บอกพวกฉันบ้างนะ บางทีเราอาจจำเป็นต้องกู้เงินมาใช้ในอนาคตเหมือนกัน”

“ฮ่าฮ่าๆ …”

ทุกคนที่ได้ยินเจวียงหยวนพูดแบบนั้น ต่างก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังขึ้นทันที

หากจ้าวเฉียนเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเลยตั้งแต่ตอนนี้ พวกเขาคงตกใจกันอย่างมากแน่นอน และคนอย่างหวังเฉียนและเจวียงหยวนที่ชอบกลั่นแกล้งเขา คงรีบเปลี่ยนสีมาเลียแข้งเลียขาเขาแทนแน่นอน

แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แค่จะให้พวกมันมาคุกเข่าต่อหน้ายังน้อยเกินไป ฉันต้องการที่จะเพลิดเพลินไปกับความสุขเมื่อได้ทรมานพวกมันอย่างช้าๆ ดังนั้นแล้ว จ้าวเฉียนจึงตัดสินใจปิดบังตัวตนที่แท้จริงต่อไป

“พอดีฉันโชคดีน่ะ ดันถูกล็อตเตอรี่เข้า”

พอทุกคนได้ยินว่าจ้าวเฉียนถูกล็อตเตอรี่ พวกเขาก็รีบถามต่อทันทีว่า เขาถูกรางวัลเท่าไหร่

“ก็ไม่มาก แค่ครึ่งล้าน”

พวกเพื่อนร่วมงานต่างส่งเสียงโหร้องด้วยความอิจฉาเจือรรังเกียจในบัดดล

โดยเฉพาะกับหวังเฉียงและเจวียงหยวน สีหน้าของพวกเขาตอนนี้ดูน่าเกลียดอย่างยิ่ง ราวกับว่า เงิน500,000หยวนเป็นของพวกตนเอง

แต่ในเวลานั้น เจียงเสี่ยวปิงร่างกายสั่นเทาทันทีที่ได้ยิน

“ฉันล่ะรู้สึกสังเวชจริงๆ อุตส่าห์ได้เงินก้อนเล็กๆ มากลับต้องมาสูญเปล่ากับเรื่องไร้สาระ? ยังมีใครโง่เท่านายอีกไหมบนโลกนี้? บ้านหลังหนึ่งหาถูกๆ ได้ในราคา500,000หยวน! ฉันไม่เคยเห็นใครโง่ขนาดนี้มาก่อน!”

จ้าวเฉียนหน่ายใจกับเจียงเสี่ยวปิงเต็มทนแล้ว จึงตอบกลับไปว่า

“นี่มันเงินของฉัน ฉันจะเอาไปใช้จ่ายยังไงก็ได้ตามต้องการ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาแส่กับเงินของฉัน? คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

“นี่แกว่าใครห่ะ?!”

เจียงเสี่ยวปิงลุกขึ้นพรวดขึ้นมาทันที ดูเหมือนกับเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องเงินแทนจ้าวเฉียน

ในฐานะแฟนคนปัจจุบันของเจียงเสี่ยวปิง หวังเฉียงออกหน้าแทนโดยทันที

“จ้าวเฉียง อย่าคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้เมื่อเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเย็น! รีบขอโทษเสี่ยวปิงเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจแล้วเหมือนกัน!”

ส่วนพวกเพื่อนร่วมงานต่างตะโกนส่งเสียงเชียร์ให้พวกเขาลงไม้ลงมือกัน แต่จ้าวเฉียนไม่เพียงไม่ขอปริปากขอโทษสักคำ แถมยังเมินทั้งคู่ และหันมาพูดกับทุกคนว่า จะชดเชยที่ทำให้บรรยากาศเสียโดยการพาไปทุกคนไปร้องเพลงที่ Emgrand KTV

ซึ่งคนพวกนี้เองก็ไม่พอใจกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอรู้ว่าจ้าวเฉียนถูกรางวัลใหญ่ หากไม่ผลาญเงินเจ้านี่จนหมด คงไม่มีใครนอนหลับแน่นอนในคืนนี้

จ้าวเฉียนที่เห็นแต่ละคนโห่ร้องดีใจก็อดสบถเย้ยหยันคนพวกนี้ภายในใจไม่ได้

ขณะนั้นเอง ผู้จัดการก็เดินเข้ามา

“คุณชายจ้าว เซ็นตรงนี้ได้เลย”

ผู้จัดการวางบิลตรงหน้าจ้าวเฉียนด้วยท่าทีสุภาพ พร้อมยื่นปากกาให้โดยมือทั้งสองข้างพร้อมท่าทีแสนนอบน้อม

จ้าวเฉียนหยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นตวัดสองสามครั้งเป็นอันเสร็จสิ้น

“โอเคเรียบร้อย ไปต่อกันเถอะ!”

จ้าวเฉียนลุกขึ้นและเดินออกไปทันทีหลังพูดจบ

ทุกคนต่างประหลาดใจกันอย่างมาก

เจวียงหยวนเดินไปถามผู้จัดการทันทีว่า

“จ้าวเฉียนแค่เซ็นชื่อเฉยๆ ใช่ไหม?”

“ใช่ครับ คุณชายจ้าวแค่เซ็นชื่อเฉยๆ”

“ให้ตายเถอะ! ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ได้คิดเงินเขาเลยแม้แต่น้อย! เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”

“ฮ่าฮ่าๆ …”

ผู้จัดการเหลือบมองเจวียงหยวนที่จากไปพร้อมเสียงหัวเราะกับเหล่าเพื่อนๆ สบถคำหนึ่งว่า ‘พวกโง่’

ในเมื่อตระกูลจ้าวมีหุ้นส่วนกับโรงแรมตงไห่ แล้วจะให้คุณชายจ้าวมาเสียเงินกับเรื่องแค่นี้ได้ยังไง?

ส่วนพวกเหวียงเฉียนที่ได้เห็นแบบนั้นก็ยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ว่า ชื่อของจ้าวเฉียนจะเป็นที่รู้จักในโรงแรมตงไห่ได้อย่างไร?

“เอาน่า ในเมื่อมันบอกว่าจะเลี้ยง เราก็แค่สนุกกันให้เต็มที่!”

“ใช่แล้ว ดูท่าแล้วมันเองก็เต็มใจเลี้ยง เราจะไปบังคับอะไรได้? ต่อไปก็ที่ Emgrand KTV ขอดูหน่อยสิว่า คราวนี้จะเสแสร้งอวดอะไรต่อหน้าพวกเราอีก!”

“ฮ่าฮ่า…”

ทุกคนเดินออกจากโรงแรมพร้อมเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“ผู้จัดการหวัง มีวิธีสั่งสอนเจ้าโง่นี่ให้หลากจำบ้างไหม อย่าน้อยก็ให้มันไม่อวดเบ่งกับพวกเราในอนาคต ฉันเบื่อเต็มทนแล้วที่เห็นมันหน้าใหญ่แบบนี้”

“ไม่ใช่เรื่องยากเลย พอไปถึงที่ที่ Emgrand KTV เราก็สั่งไวน์ราคาแพงๆ มาสั่งโหลสองโหล กินดื่มให้ตายกันไปข้าง! มันไม่มีเงินพอจ่ายค่าไวน์ของที่นั่นแน่นอน! เงินรางวัลคงเหลือไม่มากแล้ว แถมเจ้าของที่Emgrand KTVยังเป็นพี่หู่ ได้ข่าวว่าเขาเป็นคนที่โหดมาก หากมันไม่มีปัญญาจ่ายค่าไวน์ มันโดนลุมกระทืบแน่นอน คืนนี้ไม่เสียแขนก็ขา! ฮ่าๆๆ!”

หวังเฉียงที่คิดแผนได้ดังนั้นก๋คลี่ยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจยิ่ง และทำการเตี้ยมกับเพื่อร่วมงานทันที

ทางด้านเจียงเสี่ยวปิงยังดูเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย เธอเอ่ยถามกับหวังเฉียงขึ้นว่า

“เรื่องนี้ฉันเข้าใจ แต่ถ้าพี่หู่อะไรนั้นมาเรียกเก็บเงินกับเราแทนล่ะ?”

หวังเฉียงหยักหน้าและดึงเจียงเสี่ยวปิงมายังด้านหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เธอ เขากระซิบเสียงเบาว่า

“ตอนถึงเวลาจ่ายเงิน เราก็แค่สร้างข้อแก้ตัวขึ้นมาแล้วปล่อยให้จ้าวเฉียนอยู่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ขึ้นอยู่กับโชคของมันแล้ว และหากไม่สำเร็จพวกเราสองคนก็ชิงหนีไปก่อนแค่นั้นเอง”

พวกเขายืนอยู่หน้าโรงแรงตงไห่ จ้าวเฉียนก็ไปเรียกพนักงานให้ขับรถสปอร์ตของตนเข้ามาเทียบทันที

“รถคันนี้มีแค่สองที่นั่ง ก็เลยพาพวกนายไปด้วยไม่ได้ ไปเจอกันที่Emgrand KTV เลยละกัน”

หลังพูดจบจ้าวเฉียนก็ขับรถสปอร์ตออกไปทันที

“โอ้ คุณชายจ้าวนี่มันใช้เงินฟุ่มเฟือยดีจริงๆ อุตส่าห์ถูกรางวัลตั้งครึ่งล้าน แทนที่จะเอาไปซื้อบ้านหรือลงทุนตั้งตัว ดันมาผลาญกับเรื่องแค่นี้? อยากจะอวดรวยอะไรขนาดนั้น?”

คนที่พูดขึ้นมาคือเจวียงหยวน ความริษยาเกลียดชังถูกเขียนอยู่ทั่วใบหน้าของเขา

คิดเพียงว่า ในเมื่อจ้าวเฉียนไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเขาเลย แล้วทำไมจ้าวเฉียนถึงถูกรางวัลใหญ่ ในขณะที่เขาไม่เคยถูกเลยสักงวด?

คนอื่นๆ ต่างระเบิดเสียงหัวเราะทันที จ้าวเฉียนคนนี้มันไม่เคยคิดหน้าคิดหลัง สักแต่จะใช้เงินซื้อความสุขชั่วคราว

ในไม่ช้า ทุกคนก็เดินทางมาถึงEmgrand KTV

Emgrand KTV แห่งนี้เป็นสถานบันเทิงที่หรูหราที่สุดในเมืองนี้ และผู้คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญญาแม้แต่จะเหยียบย่างเข้ามาด้วยซ้ำ

ใครก็ตามที่ต้องการจะเปิดห้องส่วนตัว จำเป็นต้องใช้เงินไม่น้อยกว่าหลายหมื่นหยวน และนี่แค่เฉพาะค่าเปิดห้อง ค่าเครื่องดื่มต่างๆ ภายในสถานที่แห่งนี้เองก็ยังมีราคาแพงมากเช่นกัน มีเพียงระดับลูกคุณหนูคุณนายเท่านั้นที่มีเงินเหลือพอจะจับจ่าย และคนส่วนใหญ่ไม่สามารถจ่ายค่าเหล่านี้ได้เลย

หวังเฉียงพาทุกคนตรงเข้าสู่หน้าล็อบบี้ พนักงานต้อนรับหญิงที่เห็นแบบนั้นจึงเอ่ยปากถามขึ้นว่า พวกเขาได้จองห้องไว้ก่อนหรือไม่

หวังเฉียงตอบไปว่า

“มีเพื่อนร่วมงานของเราได้จองไว้ก่อนแล้ว ชื่อว่า จ้าวเฉียน”

“โอ้ ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของคุณชายจ้าวนี่เอง คุณชายจ้าวกำชับไว้ว่าทันทีที่เพื่อนของเขามาถึง ให้พาไปยังห้องVIPที่จองไว้ได้เลย เชิญทางนี้เลยค่ะ”

จากนั้นพนักงานหญิงคนนั้นก็พาพวกหวังเฉียงไปยังห้องVIPสุดหรู และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ทำเอาทุกคนรู้สึกตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง การตกแต่งภายในห้องนี้ช่างอลังการราวกับพระราชวังในละครก็ไม่เกินจริง

จ้าวเฉียนหันไปทักทายพวกเขาเล็กน้อย และบอกทุกคนว่า เชิญสั่งเครื่องดื่มอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ

หวังเฉียงและคนอื่นๆ ที่ได้ฟังดังนั้นก็แอบขำกันเล็กน้อย ตามที่พวกเขาวางแผนกันไว้ เจวียงหยวนเอ่ยปากสั่ง Lafite 1982 ซึ่งเป็นไวน์ราคาแพงที่สุดแล้วที่พวกเขาเคยรู้จักมา ในจำนวนสิบขวด

จ้าวเฉียนที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะขึ้นทันที เจวียงหยวนที่เห็นปฏิกิริยาอีกฝ่ายก็แสยะยิ้มอย่างดูถูกและเอ่ยถามขึ้นว่า

“ทำไม? มีอะไรไม่พอใจ?”

“ไม่คิดว่าพวกนายจะสั่งไวน์แดงราคาถูกแบบนั้นมากินในคืนนี้น่ะสิ Lafite 1982นี่มันน้ำล้างเท้าชัดๆ แต่ถ้าอยากกินกันก็สั่งมาสักสองขวดพอ ส่วนที่เหลือเดี่ญวฉันจัดการให้เองดีกว่า น้อง ขอ RomaneConti, PetrusPomerolและChateauMargaux มาอย่างละสองขวด พวกนายต้องลองไวน์พวกนี้ ชิมแล้วจะติดใจ!”

พนักงานหญิงคนนั้นยิ้มให้ทันที พลางกล่าวชื่นชมถึงรสนิยมของจ้าวเฉียนภายในใจ แต่คนอื่นๆ ที่ได้ฟังดังนั้นต่างตกตะลึงกันยกใหญ่ ทั้งชีวิตของพวกเขารู้จักแค่ Lafite และไม่เคยได้ยินชื่อไวน์ที่จ้าวเฉียนสั่งเมื่อครู่มาก่อนเลย

“จ้าวเฉียน นี่นายสั่งLafiteมาแค่สองขวด แล้วที่เหลือก็สั่งไวน์ขยะมาให้ดื่มกันนี่นะ?”

จ้าวเฉียนหัวเราะเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่พนักงานหญิงคนนั้นไม่สามารถทนฟังคนโง่อวดรู้ได้อีก เธอส่ายหัวเล็กน้อยและรีบกล่าวแนะนำไวน์แต่ละชนิดที่จ้าวเฉียนเพิ่งสั่งไปให้กับเจวียงหยวนและทุกคนฟังทันที

หลังจากได้ยินพนักงานสาวแนะนำเสร็จสรรพ ทุกคนต่างปั้นหน้าเหลือเชื่อ ไม่คิดเลยว่าจ้าวเฉียนจะเต็มใจสั่งไวน์ราคาสูงลิ่วขนาดนั้นให้พวกเขากิน แต่ว่า…จ้าวเฉียนไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน? เปิดอินเตอร์เน็ต?

ในขณะเดียวกัน คำพูดของเจียงเสี่ยวปิงก็ทำให้ทุกคนระเบิดหัวเราะเยาะลั่นอีกครั้ง

“จ้าวเฉียน นายนี่มันน่าเบื่อจริงๆ เลิกแสร้งทำเป็นอวดรวยได้แล้ว ฉันรู้ว่านายแอบเตรียมการล่วงหน้า พอพวกเรามาถึงก็แกล้งทำเป็นสั่งไวน์ชื่อแปลกๆ เหอะ เหอะ ทำแค่นี้มันไม่ได้ทำให้นายดูดีขึ้นแม้แต่น้อย! ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งทำให้ตัวเองดูโง่เข้าไปใหญ่!”

“ฮ่าฮ่า…”