บทที่ 217 คนไร้ทายาท

คำว่าคนไร้ทายาทเป็นคำต้องห้ามสำหรับจางต้าหู

เขามีลูกสาวสามคนติด อายุก็ไม่น้อยแล้ว กลับไม่มีลูกชายเลยสักคน! ซึ่งมีคนไม่น้อยในหมู่บ้านที่หัวเราะเยาะเขา

แม่เฒ่าจางแค่นเสียง “ในท้องนี่อาจจะเป็นตัวขาดทุนอีกคนก็ได้!”

จางต้าหูได้ยินแล้วลังเลขึ้นมา ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเดินเข้าไปหรือไม่เดินเข้าไปดี

จางซิ่วเอ๋อกวาดสายตามองแม่เฒ่าจาง แล้วจึงพูดด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ถ้าเป็นลูกชายล่ะ เด็กยังไม่ทันเกิด ใครก็ไม่รู้หรอกนะ ท่านพ่อ ท่านต้องรู้นะว่าถ้าแม่ข้าเป็นอะไรไป ตระกูลจางไม่ออกเงินให้ท่านแต่งเมียใหม่หรอก…..ถึงตอนนั้นท่านได้เป็นพ่อม่ายเฒ่าจริง ๆ แน่”

“อีกอย่าง ถ้าเด็กในท้องแม่ข้าตาย ก็ไม่มีผลกระทบมากมายกับคนอื่นหรอก ต่อให้ย่าข้าอยากได้หลานชาย แต่นางก็มีหลานชายแล้ว ขาดคนนี้ไปคนเดียวไม่เป็นไรหรอก…..แต่กับท่านพ่อแล้วไม่เหมือนกัน เด็กคนนี้จะเลี้ยงดูท่านตอนแก่เฒ่าในอนาคตนะ…..” จางซิ่วเอ๋อกล่าวต่อ

ผลลัพธ์ร้ายแรงสองอย่างที่จางซิ่วเอ๋อพูดถึง ทำให้จางต้าหูเครียดขึ้นมา

เขาไม่อยากเป็นพ่อม่าย! เขาไม่อยากเป็นคนไร้ทายาท!

ขนาดบัณฑิตจ้าวขี้โรคนั่นยังมีลูกชายตั้งคนหนึ่งเลย ไฉนเขาถึงต้องเป็นคนไร้ทายาทด้วย?

จางต้าเหอปริปากขึ้นในตอนนั้น “น้องสี่ เจ้าอย่าวิตกไป เมื่อกี้ข้าบอกแล้วไงว่าจะให้เป่าเกินเป็นลูกชายเจ้า!”

จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วขำพรืด พูดด้วยน้ำเสียงดูถูกหมิ่นหยามสุดขีด

นางไม่เคยมีความรู้สึกอะไรกับลุงสามคนนี้ของตัวเองอยู่แล้ว แม้จะไม่ได้มองเขาเป็นคนดี แต่นางก็ไม่เคยตั้งแง่อะไรกับลุงสามนัก แต่ตอนนี้มาคิด ๆ ดูแล้ว ที่เขาว่าคนเป็นผู้ใหญ่เป็นตัวอย่างไม่ดี คนเป็นเด็กจึงเลวตาม ที่จางเป่าเกินเลวได้ถึงเพียงนี้ จะไม่เกี่ยวกับจางต้าเหอได้อย่างไร?

“ท่านลุงสาม ท่านนี่วางแผนมาดีจริง ๆ เลยนะ! ถ้าพ่อข้าไม่มีลูกชาย จางเป่าเกินจะเลี้ยงดูพ่อข้าตอนแก่เฒ่าหรือไม่นั้นข้าไม่รู้ แต่ข้ารู้ว่าสมบัติของตระกูลจางต้องตกเป็นของจางเป่าเกินแน่ ๆ ….” จางซิ่วเอ๋อบอกเล่าความคิดในใจของจางต้าเหอออกมา

แม่เถาได้ยินแล้วจึงอึ้งงันไป และเข้าใจแล้วว่าทำไมจางต้าเหอถึงเอาแต่พูดว่าจะให้จางเป่าเกินไปเป็นลูกชายของจางต้าหู นางหงุดหงิดนิดหน่อย ทำไมจางต้าเหอถึงไม่รีบคุยกับตัวเองให้รู้เรื่องเล่า? หากรู้แต่แรกว่าเพราะเรื่องนี้ นางก็ไม่พูดขัดอะไรหรอก

จางซิ่วเอ๋อมองจางต้าหูและพูดขึ้น “ท่านพ่อ ท่านว่าลูกชายแท้ ๆ ที่เลี้ยงดูพ่อตอนแก่เฒ่ากับลูกชายที่บ้านอื่นยกให้ อย่างไหนดีกว่ากัน? ข้ากล้าพูดเลยว่าเรื่องที่จะไล่แม่ข้าออกไปในวันนี้ไม่ใช่ความคิดของท่านหรอก ไม่รู้ว่าท่านลุงสามและท่านป้าสามออกแรงเพื่อการนี้ไปตั้งเท่าไหร่…..”

จางซิ่วเอ๋อรู้จักจางต้าหูดี

ถึงจะไม่ใช่คนดีเด่นอะไร แต่เรื่องไล่แม่โจวออกมาไม่มีทางเป็นความคิดของจางต้าหูแน่ ๆ อย่างมากจางต้าหูก็แค่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

ส่วนด้านจางต้าเหอน่ะเหรอ? บางทีคนแรกที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาจะไม่ใช่พวกเขา แต่พอเห็นแม่โจวมีภัย จางต้าเหอและแม่เถาต้องเหยียบย่ำสุดแรงอยู่แล้ว ยิ่งจางต้าเหอมีความคิดเช่นนี้ด้วย

จางต้าหูได้ยินแบบนี้แล้วหรี่ตาลง หันไปมองจางต้าเหออย่างเกรี้ยวกราด “พี่สาม! พี่หมายความว่าอย่างไร?”

จางซิ่วเอ๋อพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว ต่อให้รอยหยักในสมองของจางต้าหูจะน้อยขนาดไหน เวลานี้ก็ฟังรู้เรื่อง

จางต้าเหอหวั่นใจไม่กล้าเผชิญหน้ากับจางต้าหู จึงพุ่งเป้าไปที่จางซิ่วเอ๋อ “จางซิ่วเอ๋อ! เจ้าเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจะไปรู้อะไร? ข้าว่าเจ้าไม่อยากให้บ้านนี้ได้ดีต่างหากถึงได้กลับมาปั่นป่วนให้วุ่นวาย!”

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับจางต้าเหอ แต่มองจางต้าหูพลางกล่าว “ท่านพ่อ ข้าขอถามพ่อแค่คำเดียว จะให้แม่ข้าเข้าบ้านไหม?”

“ให้สิ ทำไมจะไม่ให้….” จางต้าหูรีบบอก

จางซิ่วเอ๋อพูดจนเขาได้สติ จึงรู้ว่าตัวเองจะเสียลูกในท้องแม่โจวไปไม่ได้ ลูกคนอื่นจะมาดีเท่าลูกในไส้ตัวเองได้อย่างไร? อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็เริ่มสงสัยในเจตนาของจางต้าเหอแล้ว

ครั้งนี้จางซิ่วเอ๋อยุแยงได้สำเร็จมาก ถึงแม้สุดท้ายจางต้าหูก็แค่ถามคาดคั้นไปประโยคเดียวเท่านั้น แต่ก็สร้างความร้าวฉานให้สองพี่น้องได้

แม่เฒ่าจางร้องเสียงแหลม “จางต้าหู! นางเป็นตัวกาลกิณีขนาดนั้น เจ้าจะให้นางเข้าบ้านรึ?”

“ท่านแม่ ให้เหมยจื่อเข้าไปเถอะ” จางต้าหูพูดเสียงทุ้ม

เวลานี้จางซิ่วเอ๋อพยุงแม่โจวเดินเข้าไปข้างในแล้ว

แม่เฒ่าจางคิดจะขวาง แต่จางต้าหูเดินเข้ามาเปิดทางให้จางซิ่วเอ๋อ

แม่เฒ่าจางโดนจางต้าหูดึงไปข้าง ๆ ใบหน้านางเต็มไปด้วยความเดือดดาล “จางต้าหู! ข้าเลี้ยงเจ้ามาเสียข้าวสุกจริง ๆ!”

“จางซิ่วเอ๋อนังแพศยา เจ้าไปที่ไหนก็วอดวายที่นั่น!”

แม่เฒ่าจางตะโกนโหวกเหวก ถ้าเป็นจางซิ่วเอ๋อตอนปกติคงได้ตีกับแม่เฒ่าจางแล้ว อย่างไรเสียนางก็ไม่กลัวแม่เฒ่าจาง แต่ตอนนี้นางต้องเก็บแรงไว้ดูแลแม่โจวก่อน

แม่เฒ่าจางโดนเมินอย่างสิ้นเชิง

แม่เฒ่าจางด่าอยู่ตั้งนานยังไม่เห็นว่าใครจะตอบโต้ กลับยิ่งคิดยิ่งโมโห

หลังจากจางซิ่วเอ๋อพยุงแม่โจวให้นอนลงแล้ว ก็ห่มผ้าให้แม่โจวด้วย

ก่อนจะพูดกับจางต้าหูที่ยืนอยู่หน้าประตู “ถ้าท่านพ่อไม่อยากให้ท่านแม่ตายท้องกลม ก็ไปต้มน้ำกับซานหยาให้แม่ข้าที”

จริง ๆ จางซิ่วเอ๋อจะสั่งซานหยาเลยก็ได้ แต่นางคิดได้ว่าถ้าให้ซานหยาไปเองก็ไม่รู้ว่าคนตระกูลจางจะกลั่นแกล้งอย่างไรบ้าง มีจางต้าหูไปด้วยอย่างน้อยจะได้ให้คนพวกนั้นอยู่เฉย ๆ

ตั้งแต่จางต้าหูเห็นว่าเกิดเรื่องกับแม่โจว เขาก็ลนลานทำอะไรไม่ถูก

เขาไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำแต่อย่างใด แต่นิสัยเขาเป็นแบบนี้แหละ ชอบโดนคนอื่นจูงจมูก โดยเฉพาะคำพูดของมารดาเขายิ่งมีผล เพราะฉะนั้นยามที่คนตระกูลจางบอกจางต้าหูว่าต้องทำอย่างไรบ้าง จางต้าหูจึงอนุญาต

พอจางซิ่วเอ๋อมาและข่มขู่เขายกใหญ่ ต่อให้เขาจะไม่พอใจ แต่ก็ดูเหมือนรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร และไปต้มน้ำกับจางซานหยาจริง ๆ

ด้วยคำพูดเมื่อครู่ของจางซิ่วเอ๋อ ตอนนี้แม่เถาและจางต้าเหอก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก

หากพูดอะไรต่อไป ก็กลายเป็นว่าพวกเขาอยากกำจัดเด็กในท้องของแม่โจวจริง ๆ น่ะสิ?

ต่อให้ก่อนหน้านี้จางต้าเหอจะคิดแบบนี้จริง ๆ และตอนนี้แม่เถาก็ยังคิดแบบนี้อยู่ พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในจังหวะนี้แล้ว

ทั้งสองรวมถึงจางเป่าเกินจึงกลับไปในห้องตัวเอง

แม่เถาเอ่ยขึ้น “ต้าเหอ ทำไมท่านไม่รีบบอกข้า ถ้าท่านคุยกับข้าก่อน เมื่อครู่นี้ข้าคงไม่ขัดท่านหรอก จะตกลงตามนั้นเลย”

จางเป่าเกินร้อนใจขึ้นมา “ข้าไม่เลี้ยงเขาตอนแก่หรอกนะ!”

แม่เถามองจางเป่าเกินด้วยสายตาหงุดหงิดที่เขาไม่ฉลาด “เป่าเกิน เจ้าโง่หรืออย่างไร? ข้ากับพ่อเจ้าทำแบบนี้ก็เพื่อเจ้านะ!”

“เพื่อข้า?” จางเป่าเกินมองแม่เถาด้วยความสงสัย

จางต้าเหอจึงอธิบาย “ถึงตอนนั้นจะเลี้ยงเขาหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้าไม่ใช่หรืออย่างไร ต่อให้ต้องเลี้ยงดูเพื่อหน้าตาตัวเอง ก็แค่ให้ของกินง่าย ๆ อย่าให้เขาอดตายไวนักก็พอ ในภายภาคหน้าทั้งตระกูลจางก็ต้องเป็นของเจ้าไม่ใช่หรืออย่างไร ไม่อย่างนั้นหากย่าเจ้าตายไป ครอบครัวพวกเขาต้องแบ่งสมบัติไปครึ่งหนึ่งเชียวนะ ทั้งบ้าน ทั้งที่ดิน และทุกอย่างในบ้านต้องนำไปแบ่งกันหมด”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

รู้สึกเป็นท้อกับบ้านนี้เหลือเกิน อยากให้ซิ่วเอ๋อหลุดวงโคจรจากบ้านนี้ไปไกล ๆ แล้ว

ไหหม่า(海馬)