บทที่ 216 ชะตากรรมที่แม่โจวต้องเผชิญ

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 216 ชะตากรรมที่แม่โจวต้องเผชิญ

จางอวี่หมินแค่นเสียงเย็น “แม่เจ้า? ถ้านางแท้งในบ้านได้เป็นที่อัปมงคลแน่ ๆ”

เมื่อได้ยินจางอวี่หมินพูดแบบนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ใจหล่นวูบ นางหันมองจางต้าหูและกล่าวเสียงเย็นเยียบ “ข้าล่ะดูแคลนท่านนัก! ถึงท่านไม่สนใจภรรยาท่าน แต่ลูกในท้องภรรยาท่าน ท่านก็จะไม่สนใจด้วยเหรอ?”

พูดมาถึงตรงนี้ จางซิ่วเอ๋อก็ไม่สนสีหน้าเขียวปี๋ของจางต้าหู นางจูงจางซานหยากระแทกประตูออกไป

เสียงดังปึ้ง จนคนในห้องสัมผัสถึงความเดือดดาลของจางซิ่วเอ๋อกันได้หมด

แม่เฒ่าจางก่นด่าอย่างไม่พอใจ “ดูสิ ๆ นังตัวขาดทุนนี่อารมณ์ร้ายจริงเชียว! จางต้าหู! ถ้าเจ้าเอาตำลึงเงินมาจากจางซิ่วเอ๋อไม่ได้ ข้าว่าก็ไม่ต้องสนใจแม่โจวแล้ว! ถ้าเด็กในท้องคลอดออกมาเป็นตัวขาดทุนอีกคนอีกหน่อยจะทำอย่างไร? บ้านเราไม่วอดวายเลยรึ!”

จางเป่าเกินพึมพำขึ้นมา “ตอนนี้จางซิ่วเอ๋ออารมณ์ร้ายกว่าเมื่อก่อนอีกนะเนี่ย”

เขาได้เจอกับจางซิ่วเอ๋อเมื่อก่อนหน้านี้แล้วที่ตลาด และเสียเปรียบนางด้วย แต่เขาไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง

หนึ่งคือจะอธิบายเรื่องที่ตำลึงเงินหายยาก สองคือตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าจางซิ่วเอ๋อแต่งงานกับตระกูลแบบไหน จางซิ่วเอ๋อถึงแข็งข้อขึ้นขนาดนี้

ขออย่าได้เป็นพวกที่ต่อกรด้วยยากในหมู่บ้านเลย

จางเป่าเกินดูเป็นคนโหด แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนประเภทรังแกคนอ่อนแอแต่หวาดกลัวคนแข็งแกร่ง ก่อนที่จะรู้ตื้นลึกหนาบางของจางซิ่วเอ๋อ เขาก็ยังไม่กล้ารื้อฟื้นเรื่องคราวที่แล้ว

เมื่อคืนเขากลับมาถึงก็นอนเลย พอตื่นเช้ามาก็เกิดเรื่องแบบนี้ เขายังไม่ทันถามเลยว่าจางซิ่วเอ๋อแต่งงานกับคนแบบไหนกันแน่!

จางอวี่หมินได้ยินแล้วพูดอย่างดูถูก “นางก็ต้องอารมณ์ร้ายกว่าเมื่อก่อนสิ ตอนนี้นางมีชายชู้มากมายให้พึ่งนี่”

ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อไปถึงห้องเก็บฟืน และมองเข้าไปข้างใน

นางคิดไม่ถึงเลยว่าคนตระกูลจางจะอำมหิตขนาดนี้ ถึงกับทิ้งแม่โจวไว้ที่นี่!

ตอนนางถูกนำมาทิ้งไว้ที่นี่ยังพอเข้าใจได้ อย่างไรเสียจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่างก็ฆ่าตัวตายแล้ว ถือเป็นการตายที่อัปยศนัก

แต่แม่โจวล่ะ? ถึงอย่างไรก็เป็นภรรยาของจางต้าหูนะ ในท้องนางยังมีลูกอยู่ด้วย

ตอนนี้แม่โจวนอนอยู่บนกองฟางเละ ๆ สีหน้าซีดเผือดไร้เลือดฝาดอย่างสิ้นเชิง ท่าทางดูย่ำแย่มาก

จางซิ่วเอ๋อรีบเดินเข้าไป

จางซานหยาร้องไห้และพุ่งตัวเข้าไปแล้ว “แม่…..แม่…..ท่านเป็นอะไรไป?”

จางซิ่วเอ๋อปลอบโยน “ซานหยา เจ้าอย่าเพิ่งร้องไห้ เจ้าร้องไห้แบบนี้จะไปรบกวนท่านแม่เอานะ และจะทำให้ท่านแม่ร้อนใจตามไปด้วย เจ้าวางใจเถอะ มีพี่อยู่ไม่เป็นไรหรอก”

ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อก็ไม่รู้ว่าแม่โจวจะเป็นอย่างไร

แต่นางต้องปลอบจางซานหยา

ไม่อย่างนั้นหากเจ้าตัวเล็กเป็นอะไรไปอีก นางได้บ้าตายแน่ ๆ

ที่เวลานี้จางซิ่วเอ๋อใจเย็นได้ขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะจางซิ่วเอ๋อเลือดเย็นไม่สะทกสะท้าน ตรงกันข้าม นางร้อนใจมาก ร้อนใจเป็นที่สุด แต่นางรู้ว่าร้อนใจไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ เวลาแบบนี้คนที่พึ่งได้มีแต่นางคนเดียว

หากนางยังเอาแต่กระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก เช่นนั้นแล้วแม่โจว จางชุนเถา และจางซานหยาจะทำอย่างไร?

จางซิ่วเอ๋อเริ่มหลอมรวมเข้ากับครอบครัวนี้โดยไม่รู้ตัว นางถึงกับให้ตัวเองเป็นเสาที่ค้ำจุนครอบครัวนี้ด้วยซ้ำ รู้สึกเลยว่าไหล่ของตัวเองนั้นหนักอึ้ง

นางต้องรับผิดชอบภาระนี้ไว้ ต่อให้ภาระนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของนางก็ตาม

ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อรู้แล้วว่า ฐานะแม่ม่ายนี่ลำบากในหลาย ๆ เรื่องจริง ๆ

ถ้าตอนนี้นางมีสามีสักคน อย่างน้อยนางก็มีคนที่ช่วยออกความเห็นได้ มีที่พึ่งที่พอจะคลายความกดดันในใจลงได้บ้าง

จางซิ่วเอ๋อจับมือแม่โจวไว้ มือของแม่โจวเย็นจนน่ากลัว

นางเป็นผู้หญิงท้องโต นอนอยู่บนฟางหญ้าเย็นเยียบเช่นนี้ ไม่เป็นอะไรสิแปลก!

จางซิ่วเอ๋อเลิกกระโปรงของแม่โจวขึ้นดู มีรอยเปื้อนเลือดจาง ๆ อยู่บนกระโปรง แม้จะไม่มาก แต่ก็ทำให้จางซิ่วเอ๋อใจหาย!

คนท้องตกเลือด ต่อให้เป็นยุคปัจจุบันที่การแพทย์พัฒนาแล้วก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในยุคโบราณเลย!

อาจเพราะสัมผัสได้ว่ามีคนมา แม่โจวจึงค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา

“ท่านแม่…..” จางซิ่วเอ๋อเรียกอย่างปวดใจ

แม่โจวมองจางซิ่วเอ๋ออย่างตื้นตัน “ซิ่วเอ๋อ ไม่ต้องห่วงนะ แม่ไม่เป็นอะไร”

จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้อยากจะแหงนหน้าคำรามกับฟ้าจริง ๆ นี่น่ะเหรอไม่เป็นไร? ต้องให้ชีวิตหาไม่ก่อนใช่ไหมถึงจะเรียกว่าเป็นอะไร?

จางซิ่วเอ๋อเอ่ยเสียงแผ่ว “แม่ เราเข้าบ้านกัน ที่นี่หนาวเกินไป”

ในเมื่อจางซิ่วเอ๋อมาแล้ว จะยอมให้แม่โจวนอนอยู่บนพื้นต่อไปได้อย่างไร?

แม่โจวลังเลนิดหน่อย

จางซิ่วเอ๋อเข้าใจว่าแม่โจวนึกถึงคนตระกูลจางแล้วไม่กล้ากลับไป

จางซิ่วเอ๋อหรี่ตาและบอก “ท่านแม่ มีข้าอยู่ท่านไม่ต้องกลัว พวกเขาอยากจะทำอะไรก็ทำไปเลย ตอนนี้สิ่งที่เราต้องห่วงคืออย่าให้ไอหนาวเข้าร่างกาย ต่อให้ผู้ใหญ่ทนได้แต่เด็กในท้องก็ทนไม่ได้”

แม่โจวได้ยินแล้วพยักหน้า ลุกขึ้นอย่างยากลำบากด้วยแรงพยุงของจางซิ่วเอ๋อ

แม้ว่าจางซิ่วเอ๋อจะบอบบางไปหน่อย แต่มีกำลังไม่น้อยเลย บวกกับต่อให้แม่โจวท้องอยู่แต่เพราะเมื่อก่อนสุขภาพไม่แข็งแรง ตัวนางจึงเบาหวิว ถึงแม้จางซิ่วเอ๋อจะลำบากนิดหน่อย แต่ก็พยุงแม่โจวเข้าไปถึงลานบ้านและเดินไปทางห้องฝั่งตะวันตกได้

บัดนี้คนตระกูลจางกระโจนออกมากันหมด

จางอวี่หมินมองจางซิ่วเอ๋อด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “จางซิ่วเอ๋อ! นี่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? เจ้าจะให้นางไปแท้งในบ้านจนเป็นที่อัปมงคลรึ?”

จางซิ่วเอ๋อมองจางอวี่หมินด้วยสายตาเย็นชา คนพวกนี้เห็นชีวิตคนเป็นผักปลาจริง ๆ!

เห็นแก่ตัวเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่!

แม่เฒ่าจางก็กระโดดออกมา “จางซิ่วเอ๋อ เจ้าอย่าคิดว่าข้าไว้หน้าเจ้าแล้วเจ้าจะทำอะไรในบ้านนี้ก็ได้นะ เจ้าจะเป็นอย่างไรข้างนอกนั่นข้าไม่สน แต่ที่นี่คือบ้านตระกูลจางของเรา! เจ้าเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้วอย่าได้สาระแน!”

แม่โจวสีหน้าซีดเผือด ลืมตาขึ้นได้เพียงครึ่งเดียวอย่างอ่อนแรง นางพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถึงตอนนี้แล้วนางกลับพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าเพราะโกรธจนใจด้านชาหรือเพราะอ่อนแอเกินไป

ตอนนี้มีคนขวางอยู่ข้างหน้า จางซิ่วเอ๋อเดินผ่านไปไม่ได้

ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่ไกลจากบ้านผีสิงเกินไป จางซิ่วเอ๋อที่ไม่แน่ใจในอาการของแม่โจว คงได้พาแม่โจวไปที่บ้านผีสิงจริง ๆ

แต่เห็นได้ชัดว่าแม่โจวในตอนนี้ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลนัก จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้จึงปะทะกับคนตระกูลจาง

จางซิ่วเอ๋อทอดสายตาไปที่จางต้าหูที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าร้อนรนทว่าไม่กล้าเข้ามา “ท่านพ่อ”

จางต้าหูได้ยินแล้วตัวสั่นนิดหน่อย เขารู้สึกว่าคำเรียกนี้ของจางซิ่วเอ๋อช่างมีน้ำหนักหลายชั่ง

และก็ได้ยินจางซิ่วเอ๋อเน้นเสียงชัดถ้อยชัดคำ “ถ้าท่านพ่อยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ ก็อย่าเอาแต่ยืนมองแม่ข้าโดนรังแก ถ้าท่านพ่อยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ ก็อย่ายืนมองลูกชายของท่านตายไปต่อหน้า ไม่อย่างนั้นท่านก็จะเป็นคนไร้ทายาท…..”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

โห ทำกับแม่โจวขนาดนี้ มันน่าเรียกตระกูลทางแม่ของแม่โจวมากวาดล้างตระกูลนี้ทั้งตระกูลจริงๆ

ไหหม่า(海馬)