ตอนที่ 215 คาดหวังให้เกิดอุบัติเหตุ

แม่สาวเข็มเงิน

“ไอ้โยหนูน้อย ยังดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร ดีแล้วที่เจ้าไม่เป็นไร…” เจียงเหล่าหวู่พูดจาสับสน คำพูดเขาสลับไปสลับมาจนได้ถามอีกครั้ง “แล้วพี่ชายเจ้าล่ะ ?”

เจียงป่าวชิงตอบ “พี่พักฟื้นอยู่ที่บ้านเพื่อนในอำเภอจ้ะ”

หัวใจของเจียงเหล่าหวู่หดกลับลงไปในทรวงอกสักที ไม่ว่าจะเป็นจากความผูกพันหรือผลประโยชน์ เขาก็ไม่ต้องการให้ครอบครัวของเจียงป่าวชิงเป็นอะไรไป

ถ้าหากว่าครอบครัวของเจียงป่าวชิงเป็นอะไรไป เกรงว่าที่ดินห้าไร่ที่เขาเช่าเจียงป่าวชิงคงจะต้องถูกโอนไปให้ครอบครัวของท่านปู่เจียงกับหลีโผจื่อแน่นอน

ความต่างของค่าตอบแทนก็คงราวกับฟ้าและดิน

ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้เจียงเหล่าหวู่ยังเคยแอบคิดจะให้เจียงเฟยหรือหลานชายคนที่สามของเขาสู่ขอเจียงป่าวชิงกลับมาเป็นหลานสะใภ้อยู่เลย แต่เพราะหญิงแก่ที่บ้านยืนกรานคัดค้าน นอกจากนี้เจียงเฟย หลานชายคนที่สามของเขาคิดกับเจียงป่าวชิงแค่น้องสาวและไม่ยอมขอนางมาเป็นเมีย เจียงเหล่าหวู่เห็นว่าเจียงป่าวชิงเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับหลานชายคนที่สามของเขาจึงได้แล้วกันไป

ด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ เจียงเหล่าหวู่คงเป็นคนที่ไม่ต้องการให้ครอบครัวของเจียงป่าวชิงเป็นอะไรไปที่สุดแล้ว

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยย่นของเจียงเหล่าหวู่มีคำว่าทอดถอนใจเขียนอยู่เต็มไปหมด “เฮ้อ… บ้านก็ถูกไหม้จนไม่มีเหลือแล้ว แต่โชคดีที่คนไม่ได้เป็นอะไร ช่างเป็นเคราะห์ภัยที่มาอย่างไม่ทันรู้ตัวจริง ๆ”

เจียงป่าวชิงเป็นฝ่ายปลอบเจียงเหล่าหวู่บ้าง “ไม่เป็นอะไรเลยเจ้าค่ะ ข้า พี่หยุนชาน แล้วก็ฟ๋านฟ๋านต่างไม่ได้เป็นอะไร แม้แต่เจ้าเสี่ยวหวงกับเจ้าเสี่ยวป๋ายก็หนีจากภัยนี้ได้ เห็นได้ชัดว่าสวรรค์ปฏิบัติต่อเราเป็นอย่างดี”

เจียงเหล่าหวู่พยักหน้าอย่างปลื้มอกปลื้มใจ “เจ้าเป็นเช่นนี้ได้ก็ดีมากแล้วล่ะ ไม่เป็นอะไรน่ะดีแล้ว อนาคตจะต้องมีโชคอย่างแน่นอน ข้าว่าความผาสุขของพวกเจ้ารออยู่ข้างหน้านี่เองนะ”

เจียงเอ้อยาที่อยู่ด้านข้างเบะปากพลางพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “ไอ้ตัวซวยอย่างนางเนี่ยน่ะรึความผาสุขรออยู่ ? คนที่มาใกล้ชิดมารู้จักกับนางต่างก็ซวยกันทั้งนั้น ยังจะมาบอกว่ามีความผาสุขอีก ท่านปู่ห้า ข้าขอเตือนท่านสักหน่อย ท่านอยู่ให้ห่างจากไอ้ตัวซวยเจียงป่าวชิงหน่อยเถอะ ระวังอย่าให้เคราะห์ร้ายของนางแปดเปื้อนตัว ท่านไม่กลัวว่าบ้านของท่านจะถูกนางเล่นงานจนซวยไปด้วยหรือไง ?”

เจียงป่าวชิงไม่สนใจเจียงเอ้อยามาตลอดตั้งแต่แรกและปล่อยให้นางพูดไป แต่ตอนนี้ในคำพูดของเจียงเอ้อยากลับเกี่ยวโยงมาถึงเจียงเหล่าหวู่ เจียงป่าวชิงจึงด่ากลับไปตรง ๆ “เจียงเอ้อยา งั้นทำไมเจ้าถึงยังไม่รีบไสหัวไปล่ะ เจ้าจะยังมัวมาอยู่ใกล้ข้าขนาดนี้ทำไมอีก ? ไม่กลัวว่าข้าจะเล่นงานเจ้าตายเป็นรายต่อไปหรือไง ?”

เจียงเอ้อยาหน้าซีดทันที นางก้าวถอยหลังไปอย่างกังวล แต่จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าเจียงป่าวชิงกำลังด่านาง สีหน้านางน่าเกลียดเหลือจะทน

“เจียงป่าวชิง ข้ารอดูว่าเจ้ายังจะริอ่านอวดดีได้อีกนานแค่ไหน ?! บ้านเจ้าถูกไฟไหม้จนไม่เหลือแล้ว เหอะ! ข้ารอดูเลยว่าต่อไปเจ้ากับพี่ชายของเจ้าจะไปอยู่ที่ไหน ข้าขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าบ้านของข้าเพิ่งรับหมามาเลี้ยง คงรับเลี้ยงหมาป่าตาขาวอย่างเจ้ากับพี่ชายเจ้าอีกไม่ได้หรอก!”

เจียงป่าวชิงหัวเราะเยาะ นางไม่สนใจเจียงเอ้อยา

คิดว่านางอยากสนใจมากนักหรือไง!

เมื่อพูดถึงปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เจียงเหล่าหวู่เกิดความกลุ้มใจเล็กน้อย เขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องที่ว่ากันว่าเจียงป่าวชิง ‘เล่นงานญาติทั้งหก’ แต่เดิมทีเด็กบ้านเขาก็มีมากอยู่แล้ว และห้องยังน้อยด้วย

หลังจากที่หลานชายคนโตแต่งงาน พวกเขาก็สิ้นเปลืองเวลามากพอสมควรกว่าจะสร้างห้องดินเหนียวเพื่อให้อีกสองชีวิตได้พักอาศัยอยู่ ตอนนี้หลานชายคนที่สองก็ใกล้แต่งงานแล้ว ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาเรื่องห้องอย่างไร ตอนนี้ถ้าหากรับเลี้ยงสองพี่น้องอีกก็คงยิ่งมีอุปสรรคมากเข้าไปใหญ่

เจียงหยุนชานยังดีหน่อย ให้เขาไปอยู่กับพวกพี่น้องของเขาก็ได้ แต่เจียงป่าวชิงเป็นเด็กผู้หญิง จะให้นางมาเบียดกับเด็กพวกนั้นได้อย่างไร ทว่าถึงยังไงพวกเขาก็สร้างห้องไม่ได้แล้วจริง ๆ

ยิ่งไปกว่านั้น เจียงป่าวชิงกับเจียงหยุนชานยังรับทารกคนหนึ่งมาเลี้ยงด้วยอีก

เจียงเหล่าหวู่อ้าปากอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด

เจียงป่าวชิงมีความคิดใสแจ๋ว ท่าทางของท่านปู่ห้าแสดงออกมาออกจะชัดขนาดนั้น มีหรือนางจะไม่รู้ถึงคำพูดที่ท่านปู่ห้ายังไม่ได้พูดออกมา

นางกำลังจะบอกกับเจียงเหล่าหวู่ว่าไม่เป็นไรก็พลันเห็นชูเหล่าไท่พาหลานสาวสองสามคนของนางวิ่งมาทางนี้อย่างเร่งรีบเสียก่อน คนยังมาไม่ถึงแท้ ๆ แต่เสียงร้องไห้อันจอมปลอมลอยมาถึงก่อนแล้ว “ไอ้โย โฮ ๆ ๆ ฮือ ๆ หลานเล็กของข้า ทำไมชีวิตเจ้าถึงได้อาภัพเช่นนี้ ยังไม่ครบปีก็ถูกไฟคลอกตายเสียแล้ว ตระกูลเจียงรับเลี้ยงเจ้า แต่กลับทำให้เจ้าตาย ตระกูลเจียงต้องให้คำอธิบายกับข้า”

ทว่าร้องไห้อย่างโหยหวนเสร็จ ชูเหล่าไท่ก็เห็นเจียงป่าวชิงที่ถือเหล้าอยู่ในมือกำลังยืนมองนางจากตรงกลางซากบ้าน

ชูเหล่าไท่ตกใจตัวสั่นราวกับเจ้าเข้า “เจ้า! ไม่ใช่ว่าเจ้าถูกไฟคลอกตายไปแล้วรึ ?”

ในที่สุดเจียงป่าวชิงก็เห็นถึงพลานุภาพของข่าวลืออีกครั้ง คนในหมู่บ้านทั้งหมดคงคิดว่านางกับพี่ชายถูกไฟคลอกตายไปแล้ว และตอนนี้ที่ชูเหล่าไท่มาที่นี่ คาดว่าไม่ได้มาเพราะเสี่ยวฟ๋านฟ๋าน ฟังจากที่นางพูดว่าต้องการให้ตระกูลเจียงให้คำอธิบายกับนาง ก็เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่านางวางแผนอยากแบ่งมรดกโดยอาศัยชื่อของเสี่ยวฟ๋านฟ๋านเป็นตัวเชื่อม

เจียงป่าวชิงพูดยิ้ม ๆ “หึ ๆ นี่ท่านคงจะไม่เคยได้ยินว่าความหายนะทิ้งเอาไว้เป็นเวลาหลายพันปีสินะ ทำไมข้าต้องทำในสิ่งที่ท่านปรารถนาให้ท่านง่าย ๆ แบบนั้นด้วยล่ะ ?”

ลูกตาของชูเหล่าไท่กลอกไปมา ทั้งหมู่บ้านต่างกำลังเล่ากันว่าครอบครัวของเจียงป่าวชิงถูกไฟคลอกตายยกบ้าน และมีคนบอกว่าท่านปู่เจียงกับหลีโผจื่อคงนั่งดีใจแล้ว เพราะที่ดินห้าไร่ที่แบ่งออกไปนั้น จะได้นำกลับคืนมาได้อย่างถูกต้องสักที

ชูเหล่าไท่ไม่พอใจเอามาก ๆ หลานสาวคนเล็กของนางเข้าไปมีนามมีสิทธิ์อยู่ในเอกสารทรัพย์สินบ้านของตระกูลเจียง และได้เปลี่ยนชื่อเป็นเจียงฟ๋านฟ๋าน นี่ก็เท่ากับว่าเป็นคนของตระกูลเจียงแล้วสิ

ดังนั้น ที่ดินนั้นของตระกูลเจียง หลานสาวคนเล็กของนางก็ต้องได้รับส่วนแบ่งด้วยเช่นกัน

ในเมื่อไอ้ตัวสิ้นเปลืองกับครอบครัวของเจียงป่าวชิงตายอยู่ในทะเลเพลิง ถ้าอย่างนั้นนางที่เป็นย่าแท้ ๆ ของไอ้ตัวสิ้นเปลืองย่อมสามารถขอคืนส่วนแบ่งที่ดินที่เป็นของไอ้ตัวสิ้นเปลืองนั้นได้โดยธรรมชาติ

ชูเหล่าไท่คำนวณไว้อย่างละเอียดมาก แต่นางคิดไม่ถึงว่าเจียงป่าวชิงจะยังอยู่ดีแบบนี้ อีกอย่าง นางไม่เห็นความโศกเศร้าจากสีหน้าของเจียงป่าวชิงเลยสักนิด คิด ๆ ดูแล้วเจียงหยุนชานพี่ชายของนางกับไอ้ตัวสิ้นเปลืองนั่นก็คงจะยังอยู่ดีด้วยเช่นกัน

ชูเหล่าไท่พร่ำบ่นอยู่ในใจ เมื่อคืนตอนดึก บ้านหลังนี้ถูกไฟไหม้จนกลายเป็นสภาพเน่าอย่างที่เห็น แต่ทำไมนางยังอยู่ดีได้ล่ะ ?

ชูเหล่าไท่คิดหนักเสียจนทำให้รอยยิ้มที่นางยิ้มดูจอมปลอมมากขึ้นไปอีก “อ้อ งั้นก็เป็นความโชคดีในความโชคร้ายน่ะสิ แล้วหลานสาวของข้าอยู่ไหนล่ะ ?”

“หลานสาวของท่านที่ไหนกัน ?” เจียงป่าวชิงแก้ให้ถูกต้อง “นางคือน้องสาวที่ตระกูลเจียงของข้ารับเลี้ยงไว้และปรับเปลี่ยนนางเป็นของตระกูลเจียงของข้าอย่างถูกต้องตามกระบวนการแล้วต่างหาก นางชื่อเจียงฟ๋านฟ๋านซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับตระกูลชูของท่าน ส่วนนางอยู่ที่ไหนนั้น ท่านจะถามไปทำไม ? หรือว่าท่านอยากซื้อของใช้ประจำวันให้นาง ?”

เมื่อชูเหล่าไท่ได้ยินที่เจียงป่าวชิงพูด นางก็รู้ว่าเจียงป่าวชิงกำลังขอเงินจึงชักสีหน้าใส่ทันที “บอกว่าเป็นคนของตระกูลเจียงของเจ้า แล้วจะให้ตระกูลชูของข้าออกเงินได้ไงเล่า ? ไป ๆ ๆ กลับ!”

ชูเหล่าไท่ชักสีหน้าทิ้งท้ายพลางตวาดพวกหลานสาวที่ยืนเงียบมาตลอดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปด้วยความโมโห

เจียงเหล่าหวู่มองชูเหล่าไท่ที่จากไปด้วยความงุนงง “นางมาทำอะไรรึ ?”

“ไม่ต้องสนใจคนแบบนั้นหรอกเจ้าค่ะ” เจียงป่าวชิงพูดกับเจียงเหล่าหวู่ “ท่านปู่ห้าเจ้าคะ ข้าเตรียมกลับไปที่บ้านเพื่อนที่อยู่ในอำเภอแล้ว ท่านไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอื่น มันไม่ได้ร้ายแรงอะไรเลยเจ้าค่ะ”

เจียงเหล่าหวู่ร้อนใจเล็กน้อย “พักอยู่ที่ในอำเภอรึ ? ข้าได้ยินว่าที่ในอำเภอข้าวของไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แพงหมด ทองแดงที่เจ้ามียังพอใช้ไหมล่ะ ?”

เจียงป่าวชิงยังไม่ทันพูดอะไร เจียงเอ้อยาที่อยู่ด้านข้างก็ตาเป็นประกายและแย่งพูดขึ้นมา “เจียงป่าวชิง เพื่อนที่อยู่ในอำเภอของเจ้าใช่คุณชายจากตระกูลร่ำรวยคนนั้นหรือเปล่า ?!”

พูดเสร็จ นางยื่นมือออกมาหมายจะจับแขนเจียงป่าวชิง