ตอนที่ 291 ช่วยตระกูลเฮ่อโกงก็เท่านั้น
อีกด้านหนึ่ง เมื่อการแข่งขันจบลง เว่ยสวีเฟิงกับฉีเซ่าหยวนก็เดินออกมาจากห้องวีไอพี
“วะฮะฮ่าๆๆๆ ! ฉันชนะแล้ว! อย่าลืมเอาลายเซ็นของบอสมาให้ฉันนะ!” ฉีเซ่าหยวนพูดด้วยใบหน้ายินดี
การแข่งครั้งนี้ สำหรับเขามันช่างไร้ความตื่นเต้นโดยสิ้นเชิง
เมื่อเทียบกับความกระหยิ่มยิ้มย่องของฉีเซ่าหยวน สีหน้าเว่ยสวีเฟิงกลับดำราวกับก้นกระทะ “นี่มันเป็นไปได้ยังไง ตระกูลเฮ่อชนะได้ยังไง! เจ้าเศษสวะเฮ่อหมิงไข่นั่นกับไอ้คนตาขาวเฮ่อเล่อเฟิงไม่มีทางมีความสามารถมากขนาดนั้นแน่ ส่วนสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ก็มีแต่ขยะ ช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด…
แถมเฮ่อเล่อเฟิงยังใช้ท่าดั้งเดิมของเด๊ดบุชเชอร์ท่านั้นอีกด้วย ต่อให้เจ้าเด็กเฮ่อเล่อเฟิงนั่นฝึกอีกแปดร้อยปีก็ไม่มีทางทำได้
ส่วนกลยุทธ์ไร้ยางอายที่เขาให้ในรอบสุดท้ายนั่น ต่อให้เขาอยากเล่นลูกไม้ รอให้ผ่านไปรอบหนึ่งแล้วขวางรถสองอันดับแรกเอาไว้ แต่นั่นก็ต้องมีฝีมือระดับนั้นถึงจะทำได้!
ต้องรู้ว่าฝีมือของนักแข่งที่อยู่อันดับหนึ่งและอันดับสองนั้นเพียงพอที่จะบดขยี้เฮ่อเล่อเฟิงได้เป็นสิบรอบ แล้วเขาใช้อะไรไปขวางสองคนนั่น ปิดผนึกนักแข่งสองคน สุดท้ายก็ทำให้เจ้าเศษสวะเฮ่อหมิงไข่นั่นได้อันดับที่หนึ่ง?”
ภาพถ่ายทอดสดในสนามก็จ้องแต่นักแข่งเด่นๆ ไม่กี่คัน ภาพของตระกูลเฮ่อมีน้อยอย่างยิ่ง จู่ๆ เฮ่อหมิงไข่ก็คว้าแชมป์ได้ในช่วงสุดท้าย ผลลัพธ์นี้ไม่เพียงเว่ยสวีเฟิง ทว่ายังอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนอีกด้วย
ตอนนี้เฮ่อหมิงไข่ได้อันดับที่หนึ่ง แฟนรถแข่งกับสื่อทั้งหมดต่างประหลาดใจและให้ความสนใจอย่างยิ่ง หลังแข่งเสร็จแล้ว ทางคณะกรรมการและผู้จัดงานต้องปล่อยภาพที่สมบูรณ์อื่นๆ เพื่อฉายภาพการได้รับชัยชนะของเฮ่อหมิงไข่ซ้ำอีกครั้ง
คาดว่าคงต้องรอถึงตอนนั้นเท่านั้นถึงจะรู้ว่าเฮ่อหมิงไข่ได้แชมป์ได้อย่างไร
เมื่อฟังการวิเคราะห์น้ำไหลไฟดับของเว่ยสวีเฟิง ฉีเซ่าหยวนก็เกือบโพล่งออกมาไม่ได้ อย่าคิดอะไรเยอะแยะไปเลยน่า แค่เยวาลงสนามด้วยตัวเอง ช่วยโกงให้ตระกูลเฮ่อก็เท่านั้น!
“หรือว่าปัญหาจะอยู่ที่เนวิเกเตอร์ผู้หญิงของเฮ่อเล่อเฟิงคนนั้น…” เว่ยสวีเฟิงพูดพึมพำกับตัวเอง
สาเหตุของความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนเพียงหนึ่งเดียวในการแข่งครั้งนี้ของตระกูลเฮ่อเหมือนจะมีแค่เนวิเกเตอร์ที่เฮ่อเล่อเฟิงเปลี่ยนคนใหม่เท่านั้น…
ผู้หญิงที่บุคลิกดูเท่เหมือนบอสคนนั้น…
เมื่อฉีเซ่าหยวนได้ยิน อารมณ์ก็พลุ่งพล่านเล็กน้อย ในที่สุดหมอนี่ก็ฉลาดขึ้นแล้วอย่างนั้นเหรอ?
เพิ่งจะคิดไปแบบนี้ก็ได้ยินเว่ยสวีเฟิงพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “เป็นไปไม่ได้ คิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่แจกันดอกไม้ที่ใช้ดึงดูดความสนใจผู้คนเท่านั้น…”
วงการรถแข่งในปัจจุบันมีภาพลักษณ์ที่ฉาวโฉ่มาก นักแข่งรถหญิงเดิมทีก็มีน้อยอยู่แล้ว แถมมีหลายคนที่จงใจใช้นักแข่งรถหญิงสวยๆ หลายคนมาสร้างจุดสนใจให้ทีมรถแข่ง แต่ที่จริงแล้วไม่มีความสามารถอะไรเลย
ฉีเซ่าหยวน “…”
ฉีเซ่าหยวนหมดคำพูดโดยสิ้นเชิง พูดออกมาทันที “เว่ยสวีเฟิง ไม่ต้องพูดมากแล้ว ยอมรับความจริงเสียเถอะ! ถ้านายเสียดายรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นใบนั้นจริงก็ยกสร้อยที่อยู่บนคอเส้นนั้นของนายให้ฉัน ฉันไม่ถือสาอะไร!”
ฉีเซ่าหยวนพูดไปพลาง จ้องมองแผ่นป้ายกลมขนาดเล็กที่ห้อยอยู่บนคอเว่ยสวีเฟิงด้วยดวงตาเปล่งประกายไปพลาง
เมื่อเทียบกับรูปถ่ายพร้อมลายเซ็น ที่จริงแล้วเขาสนใจสร้อยคอที่เยวาเคยสวมเส้นนี้มากกว่า ต้องโทษที่ข่าวของเขาช้ากว่าเว่ยสวีเฟิงไปก้าวหนึ่ง ไม่รู้ว่าบอสมาร่วมงานเลี้ยงการกุศลในคืนนั้นด้วย ไม่อย่างนั้นจะให้หมอนี่ได้ไปได้อย่างไร
แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขาเป็นแฟนคลับที่เคยเห็นบอสตัวจริงเพียงคนเดียวเท่านั้น!
“นายฝันไปเถอะ!!!” เว่ยสวีเฟิงด่าฉีเซ่าหยวนทันที
ฉีเซ่าหยวน “นี่ เว่ยสวีเฟิง กล้าพนันก็ต้องกล้ายอมแพ้สิ นายคงไม่คิดจะโกงหรอกนะ?”
เว่ยสวีเฟิง “ไร้สาระ ตระกูลเฮ่อขี้โกง ใช้ลูกไม้หน้าไม่อายอะไรก็ไม่รู้ชัดๆ !”
ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินไปทะเลาะกันไปอยู่นั้น ทันใดนั้นเบื้องหน้าก็ปะทะเข้ากับคนคนหนึ่ง
หลินเยียนเห็นว่าทางนี้ไม่มีใครจึงถอดหมวดกันน็อก กลายเป็นว่าเพิ่งจะถอดหมวก เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเงาคนที่คุ้นเคยสองคนเดินออกมาจากห้องผู้ชมวีไอพี
หนึ่งในนั้นคือเจ้าหน้าที่คนเมื่อครู่ ส่วนอีกคนกลับเป็น…เว่ยสวีเฟิง…
ตอนที่ 292 นายมันแฟนคลับตัวปลอม
บอส!
พอเห็นหลินเยียน ฉีเซ่าหยวนแทบจะหลุดปากโพล่งออกมาด้วยอาการลิงโลดทันที ยังดีที่ยั้งไว้ได้ทัน
เว่ยสวีเฟิงคิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอหลินเยียนที่นี่ เขาจ้องมองใบหน้าหญิงสาว ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น “หลินเยียน…?”
ต่อมา เขากวาดสายตามองชุดนักแข่งรถสีเงินที่อยู่บนตัวหลินเยียน จากนั้นก็มองสัญลักษณ์ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อที่อยู่บนชุดอีกครั้งหนึ่ง วินาทีต่อมาเขาก็หน้าตาถมึงทึงทันที “เธอคือเนวิเกเตอร์ของเฮ่อเล่อเฟิงจากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อคนนั้น?!”
เว่ยสวีเฟิงคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเนวิเกเตอร์ของเฮ่อเล่อเฟิงคนนั้น ผู้หญิงที่เท่เหมือนบอสคนนั้น กลับเป็นหลินเยียน!
หลินเยียนพอเห็นเว่ยสวีเฟิงสีหน้าก็ย่ำแย่เล็กน้อย โลกช่างกลมซะจริงเชียว
“แค่ก คุณชายเว่ย บังเอิญจังเลยนะ!” หลินเยียนทักทายอย่างขอไปที
เว่ยสวีเฟิงจ้องหลินเยียน มองชุดนักแข่งรถสีเงินที่เธอสวมอยู่บนตัว ช่างรู้สึกขัดหูขัดตาอย่างยิ่งเสียจริง เขาพูดพลางหัวเราะเยาะเย้ยอย่างต่อเนื่อง “บังเอิญกับผีน่ะสิ! หลินเยียน! เธอสะกดรอยตามฉันอีกแล้วเหรอ?”
หลินเยียน “หา?”
“ฉันเคยเตือนเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าอย่าคิดเข้าใกล้ฉัน แล้วยังจะจงใจเลียนแบบเยวาอีก! คนอย่างเธอคู่ควรที่จะแตะต้องรถแข่งเหรอ คู่ควรที่จะใส่สีนี้เหรอ” เว่ยสวีเฟิงจับจ้องชุดนักแข่งรถของหลินเยียน สายตาประหนึ่งว่าอยากจะเผาชุดของเธอให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
หลินเยียนมุมปากเกร็งกระตุก พูดด้วยสีหน้าจนใจ “คุณชายคนนี้ คุณเป็นโรคจิตหลงผิด[1]หรือไง?”
“เหอะ มาเล่นเกมแสร้งปล่อยเพื่อจับ[2]กับฉันอย่างงั้นเหรอ งั้นเธอลองพูดมาสิว่าเธอปะปนเข้าไปอยู่ในทีมกระจอกสับปะรังเคอย่างทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อด้วยวัตถุประสงค์อะไร” เว่ยสวีเฟิงแสดงสีหน้าฉันมองเธอออกตั้งแต่แรกแล้ว
หลินเยียนเลิกคิ้ว “ไอ้ทีมกระจอกสับปะรังเคนี่เป็นของคุณตาฉัน ฉันมาช่วยทีมของคุณตา มีปัญหารึไง”
เว่ยสวีเฟิง “คิดไม่ถึงว่าเธอจะหลอกใช้แม้แต่คุณตาของตัวเอง!”
หลินเยียน “…”
ขณะนี้เอง ฉีเซ่าหยวนที่อยู่ด้านข้างซึ่งกำลังฟังบทสนทนาของคนทั้งสองยืนนิ่งอึ้งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
ตอนนี้เขาถึงเพิ่งนึกออก มิน่าตอนที่เขาเห็นหลินเยียนเมื่อครู่ถึงรู้สึกคุ้นตามากขนาดนั้น
หลินเยียน… หรือจะเป็นหลินเยียน นักแสดงสาวที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวซุบซิบกับเว่ยสวีเฟิงคนนั้น?
ที่แท้สถานะสำคัญอีกสถานะหนึ่งของบอสก็คือศิลปินในวงการบันเทิงอย่างนั้นเหรอ
ใช่แล้ว ไอ้หนุ่มเว่ยสวีเฟิงนั่นกำลังถ่ายหนังเรื่องหนึ่งกับหลินเยียนไม่ใช่หรือไง แถมยังแสดงเป็นคู่รักกันอีกด้วย!
พับผ่าสิ!
เจ้าบ้าเว่ยสวีเฟิงนี่!
เขาโชคดีอะไรขนาดนั้นนะ!
ได้มีข่าวซุบซิบกับบอสด้วย!
แถมได้แสดงเป็นคู่รักกับบอสอีกต่างหาก!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉีเซ่าหยวนก็โกรธจนแทบจะกัดฟันให้แหลกละเอียด
เพียงแต่เจ้างั่งเว่ยสวีเฟิงคนนี้กลับจำบอสไม่ได้เลยสักนิด!
เจ้าแฟนคลับตัวปลอม!
เว่ยสวีเฟิงควักโทรศัพท์มือถือพร้อมพูดอย่างโมโห “หลินเยียน เธอตายใจไปซะเถอะ! ตอนนี้ฉันปักหมุดข้อความเวยปั๋วที่เคยโพสต์ไว้ในตอนนั้นแล้ว! เชิญเธออ่านให้ดีๆ ทุกวัน ยอมรับความจริงซะบ้าง!”
“พับผ่าสิ เจ้าบ้าเว่ยสวีเฟิง นายรู้หรือเปล่าว่านายกำลังพูดอยู่กับใคร” ในที่สุดฉีเซ่าหยวนที่อยู่ด้านหลังก็ทนไม่ไหวบ้างแล้ว
“เธอเป็นใคร ไหนนายลองพูดมาให้ฟังสิ!” เว่ยสวีเฟิงถลึงตาใส่ฉีเซ่าหยวนทันที
“เธอคือ…”
เมื่อเห็นฉีเซ่าหยวนกำลังจะพูดออกมา หลินเยียนจึงยิ้มร่าพร้อมพูดต่อไปทันที “ไอ้หยา ถูกพวกนายรู้เสียแล้ว ฉันก็คือเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาไงล่ะ!”
เส้นเอ็นบนหน้าผากเว่ยสวีเฟิงเต้นตุบๆ “หลินเยียน! ถ้าเธอกล้าลบหลู่เทพธิดาของฉันอีก ฉันจะให้เธอได้เห็นดีแน่!”
สีหน้าฉีเซ่าหยวนเหมือนเห็นคนสมองมีปัญหา “เว่ยสวีเฟิง เธออาจใช่จริงๆ ก็ได้นะ …”
พูดยังไม่ทันจบก็ถูกเว่ยสวีเฟิงด่าใส่หน้า “ฉีเซ่าหยวน นายก็บ้าไปด้วยเหรอไง”
เว่ยสวีเฟิงเหมือนทนมองหลินเยียนมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เขาแค่นเสียง ‘หึ’ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็สาวเท้ายาวๆ พุ่งปราดออกไป
[1] โรคจิตหลงผิด มีความเชื่อหรือความคิดไม่ตรงกับความเป็นจริง
[2] แสร้งปล่อยเพื่อจับ หลอกให้ตายใจก่อนแล้วจึงจัดการ