ตอนที่ 293 ความช่วยเหลือจากเทพ / ตอนที่ 294 พี่ใหญ่ร่างกายอ่อนแอมาก

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 293 ความช่วยเหลือจากเทพ

 

 

หลินเยียนริมฝีปากหยักยก เผยสีหน้าว่าคิดเอาไว้อยู่แล้วออกมา ยิ่งเธอพูดแบบนี้ เว่ยสวีเฟิงกลับจะยิ่งไม่เชื่อ

 

 

ฉวยโอกาสตอนที่เว่ยสวีเฟิงเดินไปไกลแล้ว ฉีเซ่าหยวนรีบเข้าประชิดหลินเยียน “บอส เว่ยสวีเฟิงเขา…”

 

 

หลินเยียนทำท่ามือให้หยุดพูด “จำไว้ ต้องช่วยฉันรักษาความลับ”

 

 

ฉีเซ่าหยวนผงกศีรษะอย่างต่อเนื่อง ตอบอย่างเชื่อฟัง “จำได้ๆ ผมต้องรักษาความลับแน่! บอส คุณวางใจได้เลยครับ!”

 

 

แบบนี้หลินเยียนถึงจะพอใจ เธอยิ้มพร้อมเดินจากไป

 

 

พอหลินเยียนไปแล้ว ฉีเซ่าหยวนจ้องมองเงาแผ่นหลังของเทพธิดาอยู่เนิ่นนานถึงจะรู้สึกพอใจ

 

 

ขณะนี้เองจู่ๆ ฉีเซ่าหยวนก็นึกถึงคำพูดของเว่ยสวีเฟิงขึ้นมาได้ เมื่อกี้เว่ยสวีเฟิงพูดว่าปักหมุดโพสต์ไว้ในเวยปั๋ว มันคือโพสต์อะไรนะ?

 

 

ฉีเซ่าหยวนจึงเปิดเวยปั๋วด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต่อมาก็เห็นเนื้อหาของโพสต์นั้น

 

 

เว่ยสวีเฟิง [ชอบเธองั้นเหรอ? นอกเสียจากผมจะตาบอด!]

 

 

ฉีเซ่าหยวน “…”

 

 

ตอนนี้ความริษยาที่ฉีเซ่าหยวนมีต่อเว่ยสวีเฟิงกลายเป็นความรู้สึกเห็นใจอย่างยิ่งจนหมดสิ้น

 

 

ไม่รู้ว่าวันที่เว่ยสวีเฟิงรู้ความจริงจะมีความรู้สึกอย่างไร…

 

 

 

 

ภายในสถานที่เตรียมรถแข่ง

 

 

คนของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อกับทีม ซีเอ็ชวัน อยู่กันครบถ้วน สีหน้าของทุกคนต่างหนักอึ้งอยู่บ้าง

 

 

หลินเยียนเปลี่ยนชุดแล้วเช่นกัน กำลังเดินเข้ามา

 

 

“หลินเยียน! แกมันตัวซวย อยากก่อเรื่องจนทำให้ตระกูลเฮ่อเราบ้านแตกสาแหรกขาดถึงจะพอใจหรือไง! วันนี้ฉันต้องสั่งสอนแกให้ได้!” พอเฮ่อสยงเห็นหลินเยียนก็โมโหเดือดดาลทันที พูดพลางคิดจะพุ่งเข้าไปหาเพื่อตบหลินเยียนสักฉาดหนึ่ง

 

 

เพียงแต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็มีมือข้างหนึ่งยึดข้อมือเขาไว้อย่างแน่นหนา

 

 

ไม่รู้ว่าเผยอวี่ถังเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ “คุณเฮ่อสยง ลงมือกับผู้หญิงมันไม่ค่อยดีหรือเปล่าครับ”

 

 

บัดซบ! กลับกล้าลงมือกับพี่สะใภ้ใหญ่ของเขาได้!

 

 

เมื่อเห็นเผยอวี่ถัง เฮ่อสยงถึงมีสีหน้าผ่อนคลายลง เขาตอบกลับไปว่า “คุณชายเผย คุณก็เห็นแล้ว คราวนี้

 

 

หมิงไข่ของเราลำบากลำบน กว่าจะได้อันดับหนึ่งมาและไม่ทำให้คุณผิดหวังมันไม่ง่ายดายเลย แต่ใครจะรู้ว่าทั้งหมดนี้กลับถูกนังเด็กนี่ทำลายทิ้ง เห็นขัดว่ามันอยากทำร้ายตระกูลเฮ่อของเราจนตายนะครับ!”

 

 

เผยอวี่ถังเบะปาก เขาคาดหวังกับเฮ่อหมิงไข่ตอนไหนกัน?

 

 

ถ้ารู้แต่แรกคงไม่ขวางเขาแล้ว ถ้าพี่สะใภ้ใหญ่ลงมือด้วยตัวเอง คงอัดเขาจนเป็นอัมพาตครึ่งตัว

 

 

เฮ่อเล่อเฟิงที่อยู่ด้านข้างพอได้ยินคำพูดของเฮ่อสยงก็โมโหอย่างยิ่ง ลำบากลำบน กว่าจะได้อันดับหนึ่งมาอะไรกันเล่า?

 

 

เพราะได้รับ ‘ความช่วยเหลือจากเทพ’ ของพี่เยียนแท้ๆ เขาถึงได้อันดับหนึ่งมา โอเคหรือเปล่า?

 

 

เพียงแต่เขาพูดไป 800 รอบแล้ว ยังไม่มีใครเชื่ออีก

 

 

ตอนนี้ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนกำลังนั่งอยู่ด้านข้าง มองหลินเยียนด้วยสีหน้าอันหนักอึ้งแปลกประหลาดพร้อมพูดขึ้นมาว่า “วงการรถแข่งไม่ใช่วงการบันเทิง เสี่ยวเยียน คราวนี้หลานวู่วามเกินไปแล้ว”

 

 

เมื่อเฮ่อสยงได้ยินก็รีบด่าทอหลินเยียนอย่างมีน้ำโหทันที “วันๆ แกก็เอาแต่ทำตัวน่าขายหน้าอยู่ข้างนอก ทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลก็ช่างมันเถอะ แต่ยังเอาวิธีสกปรกในวงการบันเทิงมาใช้อีก

 

 

ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อของเราสมัยก่อนมีชื่อเสียงในประเทศขนาดไหน? ตอนนี้ตกต่ำถึงขั้นต้องใช้วิธีการชั้นต่ำอย่างการเกาะกระแส ต่อให้ดึงสปอนเซอร์มาได้ แต่ชื่อเสียงก็ย่อยยับจนหมดสิ้น ถึงเวลาแกจะให้ตระกูลเฮ่อเรามีที่ยืนอยู่ในวงการได้ยังไง! หน้าตาตระกูลเฮ่อถูกแกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว!”

 

 

“พอได้แล้ว” ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนพูดตัดบทเฮ่อสยง จากนั้นก็มองไปยังก็อดซีที่อยู่ด้านข้าง

 

 

สีหน้าผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนทั้งหนักอึ้งทั้งสลับซับซ้อน หลินเยียนก่อเรื่องเหลวไหลก็ช่างมันเถอะ แต่เขาคิดไม่ถึงว่า ก็อดซีกลับสนับสนุนคำพูดของหลินเยียนด้วย!

 

 

เฒ่าเฮ่อติ้งเฮ่อติ้งคุนพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ควรคิดว่าจะแก้ปัญหากันยังไงจะดีกว่า ก็อดซี ต้องขอโทษที่ลากทีมของคุณเข้ามาเดือดร้อนด้วยนะครับ”

 

 

 

 

ตอนที่ 294 พี่ใหญ่ร่างกายอ่อนแอมาก

 

 

ก็อดซีส่ายหน้าแล้วตอบว่า “ไม่ได้ทำให้เดือดร้อนอะไรหรอกครับ นี่เป็นการตัดสินใจหลังจากผมพิจารณาเป็นอย่างดีแล้ว”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของก็อดซี พวกของเฮ่อติ้งคุนกับเฮ่อสยงต่างมองหน้ากันไปมา

 

 

หรือว่า…ก็อดซีจะมั่นใจในตัวหมิงไข่มากขนาดนี้เชียว?

 

 

ระหว่างที่พูดอยู่นั้นสายตาของก็อดซีก็มองไปทางหลินเยียนโดยปราศจากความสงสัย เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “ผมมั่นใจกับทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อครับ”

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฮ่อสยงใบหน้าแดงสดใสราวกับได้รับยากระตุ้นทันที “คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าก็อดซีจะเห็นความสามารถของหมิงไข่มากขนาดนี้! คุณวางใจเถอะครับ หมิงไข่ต้องพยายามเพราะคำพูดนี้ของคุณแน่นอน!”

 

 

เฮ่อหมิงไข่ถูกก็อดซีชมต่อหน้าผู้คนขนาดนี้ก็รู้สึกภาคภูมิใจขึ้นมาทันที บวกกับเมื่อครู่เขายังพลิกสถานการณ์ได้อันดับหนึ่งมาได้อีก ความมั่นใจจึงยิ่งพุ่งพรวด “ก็อดซี ผมต้องไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ!”

 

 

ก็อดซี “…”

 

 

เผยอวี่ถัง “…”

 

 

ก็อดซีกับเผยอวี่ถังสบตากัน สีหน้ายากจะบรรยายได้

 

 

จะแข่งกันเดือนหน้าแล้ว เวลาแค่นี้ ต่อให้เขาพยายามอีกแค่ไหนก็คงไร้ประโยชน์

 

 

ก็อดซีเห็นหลินเยียนไม่พูดจาจึงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ช่างเถอะ ทางคณะกรรมการและผู้จัดงานต้องปล่อยภาพการแข่งที่มีรายละเอียดมากกว่านี้ออกมาแน่ ถึงเวลาพวกเขาก็จะรู้เองว่าที่เฮ่อหมิงไข่ชนะการแข่งครั้งนี้ได้เพราะพึ่งใบบุญของใครกันแน่

 

 

ในเมื่อครู่ก่อนหลินเยียนตกปากรับคำไปแล้ว อย่างนั้นก็แสดงว่าครั้งนี้เธอต้องลงสนามด้วยตัวเองแน่

 

 

เป็นไปไม่ได้ที่ซีเอ็ชวันจะเอาชนะดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู ตอนนี้เขาจึงทำได้แค่เชื่อมั่นในตัวหลินเยียน ลองเสี่ยงกันสักตั้งเท่านั้น

 

 

อันที่จริงหลินเยียนก็กำลังรู้สึกยินดีอยู่เช่นกัน เธอถูกแบนจากเวิลด์แชมเปียนชิป ไม่อาจเข้าร่วมการแข่งเวิลด์แชมเปียนชิปใดๆ ได้เลย ยังดีที่ระดับของการแข่งคราวนี้ต่ำเกินไป เป็นแค่การแข่งรอบคัดเลือก เธอจึงลงสนามได้

 

 

“อ้าว แย่จังเลย เดิมทีนึกว่าวันนี้พี่สะใภ้ใหญ่จะได้ลงสนามเสียอีก! กลายเป็นว่าถูกเรื่องบ้า ๆ พวกนี้ทำให้เสียเรื่องหมดเลย!” ฉวยโอกาสช่วงที่ก็อดซีกำลังคุยกับคนอื่น เผยอวี่ถังพูดกดเสียงต่ำข้างใบหูหลินเยียน “พี่เยียน ทำไมพี่มาเป็นเนวิเกเตอร์ของไอ้บ้าเฮ่อเล่อเฟิงนั่นได้ล่ะ! ผู้เล่นทำดาเมจตัวแบกทีมซึ่งได้รับตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า กลับไปเป็นผู้ช่วยให้กับคนไม่ได้เรื่องนั่น? มันจะเสียของเกินไปแล้วรึเปล่าเนี่ย!”

 

 

ที่จริงแล้วคราวนี้มันก็เสี่ยงอยู่บ้างจริงๆ

 

 

ทางหนึ่งเพราะคุณตาไม่มีทางให้เธอลงสนามในฐานะนักแข่งรถแน่นอน อีกทางหนึ่งการแข่งในวันนี้เป็นการแข่งแรลลี่ การแข่งในพื้นที่เปิดแบบนี้สิ้นเปลืองพลังกายมากเกินไป ด้วยสภาพของขาซ้ายของเธอในตอนนี้ไม่อาจลงสนามด้วยตัวเองได้

 

 

หลินเยียนไม่ได้อธิบายเช่นกัน

 

 

เธอสังเกตได้ว่าเผยอวี่ถังเปลี่ยนการเรียกเธอเป็น ‘พี่สะใภ้’ แล้ว สีหน้าเธอสลับซับซ้อนเล็กน้อย เธอไอเบาๆ และถามขึ้นมาว่า “ร่างกายพี่ชายเธอเป็นยังไงบ้าง?”

 

 

เมื่อเผยอวี่ถังได้ยินก็มีสีหน้ากลัดกลุ้มทันที “ทำการตรวจสลับซับซ้อนสารพัดอย่างมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ถือว่าอาการสงบลงชั่วคราวครับ เพียงแต่…”

 

 

หลินเยียน “เพียงแต่อะไร”

 

 

“แค่สงบลงชั่วคราวเท่านั้น สภาพร่างกายของพี่ชายผมตอนนี้เหมือนหินใหญ่ที่หนักเป็นตันซึ่งกำลังแขวนอยู่บนเส้นผมเส้นหนึ่ง ตึงมือมากๆ แถมอยู่ดีๆ เมื่อคืนพี่ใหญ่ผมก็เป็นลมไปอีกแล้ว”

 

 

หลินเยียนมีสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันที “เมื่อคืนยังเป็นลมด้วย? แล้วทำไมเธอไม่บอกตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างแล้ว”

 

 

เผยอวี่ถังตอบ “ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วครับ อันที่จริงก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาตั้งหลายครั้งแล้ว ชอบเป็นลมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่รู้ว่าเป็นอาการข้างเคียงของโรคที่มันแย่ลงรึเปล่า”

 

 

หลินเยียนครุ่นคิดเงียบๆ “พี่ใหญ่ของเธอเขา…ป่วยเป็นอะไรกันแน่”

 

 

เผยอวี่ถังกลอกตา จากนั้นก็ตอบเธอว่า “พี่ใหญ่ผมร่างกายอ่อนแอมากมาตลอด ปกติแล้วที่เขาไม่แสดงออกมาก็เพราะฝืนทนเอาไว้เท่านั้น เขารับความกระทบกระเทือนใดๆ ไม่ได้อีกแล้ว! โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกระทบกระเทือนที่เกิดจากความรักครับ!”