บทที่ 112 อสูรงูปีกเขียว
ในใจของหลัวซินกำลังหัวเราะเยาะ ทว่าสีหน้าที่ปรากฏออกมากลับไม่ได้แสดงความไม่พอใจใดๆ “ได้ ฉันจะไปล่ออสูรงูปีกเขียวมาเอง”
จางไห่เฟยแสยะยิ้มออกมา “น้องหลัวไม่ต้องห่วง ขอเพียงน้องกินยาแก้พิษนี้เข้าไป ก็ไม่ต้องกลัวหมอกพิษของเดรัจฉานนั่นอีก ขอแค่รีบวิ่งกลับมาให้ทันเท่านั้น อสูรงูก็จะติดค่ายกลของพวกเรา”
หลัวซิวพยักหน้าแล้วรับยาแก้พิษมาจากปากของจางไห่เฟย วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพของจุดตันเถียน กระตุกเบาๆ ทำให้เขารับรู้ถึงความอันตรายที่แผ่ซ่านออกมาจากยาแก้พิษที่อยู่ในมือของเขา
“ยาแก้พิษเม็ดนี้ไม่ปกติ” หลัวซิวหรี่ตา แต่เขาก็ไม่ได้พูดออกไป
“หลัวซิว……” ลู่เมิ่งเหยามองหลัวซิวด้วยความเป็นห่วง แม้ว่าเธอจะรู้ดีว่าพลังของหลัวซิวนั้นแข็งแกร่งมาก แต่อสูรงูปีกเขียวไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับโกวจินชวนได้
“วางใจเถอะ ผมไม่เป็นอะไรหรอก” หลัวซิวกล่าวปลอบ จากนั้นจึงเดินมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางของถ้ำอย่างระมัดระวัง
จางไห่เฟยกับเถียนกวงโหย่วสบตากัน เมื่อเห็นหลัวซิวเดินห่างไปไกลแล้ว มุมปากของพวกเขาจึงปรากฏรอยยิ้มเย็นๆ ขึ้นมา
ยิ่งเข้าใกล้ปากถ้ำมากเท่าใด กลิ่นคาวที่น่าสะอิดสะเอียนก็ยิ่งเข้มข้นขึ้น หลัวซิวได้ใช้กระแสสัมผัสพลังชีวิตสัมผัสรอบๆ ตัว ในโพรงถ้ำที่ใหญ่ที่สุด หลัวซิวสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่ลุกโชนราวเปลวเพลิงของอสูรงูปีกเขียวส่งตรงมาจากส่วนลึกสุดของโพรงถ้ำ
จิตวิญญาณและพลังชีวิตของอสูรกายนั้นห่างไกลจากจอมยุทธ์และมนุษย์มาก ดังนั้นจึงสัมผัสได้ถึงการมีตัวตนที่รุนแรงกว่า
ไม่นานนัก หลัวซิวก็หยุดอยู่ห่างจากโพรงไม่ถึงสิบเมตร ปราณของอสูรงูปีกเขียวที่อยู่ในโพรงจึงเข้มข้นขึ้นมาก
“มันเจอเราแล้ว”
หัวใจหลัวซิวกระตุกวูบ ตอนนั้นเขาไม่หลบซ่อนตัวตนอีก เขาปล่อยทุกอย่างออกมา ร่างของเขาปรากฏเศษเงาที่พุ่งตรงไปยังต้นโหวหยางที่อยู่อีกมุมหนึ่งด้วยความเร็วจี๊
เมื่อจางไห่เฟย เถียนกวงโหย่วและเหมียวเฟยเฟยที่อยู่ในมุมไกลๆ เห็นหลัวซิวพุ่งตัวไปยังต้นโหวหยาง สีหน้าจึงแปรเปลี่ยนเป็นความเหลือเชื่อ
ข้อแรกพวกเขาตกใจที่ความเร็วของหลัวซิวนั้นเร็วมากจนเศษเงาปรากฏ อีกข้อหนึ่งคือตกใจที่อสูรงูปีกเขียวมองเห็นเขาแล้ว แต่เขายังกล้าเข้าไปแย่งผลโหวหยางมาอีก เด็กหนุ่มคนนี้มีความบ้าระห่ำมากทีเดียว
“เขากลับมาไม่ได้แน่” จางไห่เฟยกล่าวอย่างเยือกเย็น
เขารู้ดีว่าความเร็วของอสูรงูปีกเขียวนั้นเร็วแค่ไหน หากตอนที่หลัวซิวโดนเจอตัวแล้วตัดสินใจหันหัวหนีออกมายังมีโอกาสหนีทัน แต่เขากลับวิ่งเข้าไปยังต้นโหวหยางอีก แน่นอนว่าเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
หากหลัวซิวตาย เขาจะส่งผู้หญิงแซ่ลู่คนนั้นเข้าไปต่อ แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียดายหากต้องเสียหญิงงามไป แต่หากเทียบกับผลโหวหยางแล้ว ผู้หญิงคนเดียวไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรเลย
“ฟู่!”
แรงอาฆาตหมายเอาชีวิตพุ่งทะยานออกมาจากโพรงดำทะมึนราวกับน้ำป่าที่ไหลทะลัก
ร่างของมันเป็นงูใหญ่ที่มีเกล็ดสีเขียวปกคลุมตลอดทั้งตัว ราวกับเป็นถังกักเก็บน้ำน้อยใหญ่ ส่วนหัวงูเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ ดวงตารูปเส้นตรงดิ่งอำมหิตเย็นยะเยือก
ที่ถูกเรียกว่าอสูรงูปีกเขียวเพราะด้านหลังของงูใหญ่ตัวนี้ มีส่วนปีกใสราวปีกจักจั่นที่หากมันคลี่ออก อสูรงูปีกเขียวตัวนี้จะเหาะเหินเคลื่อนที่อยู่กลางอากาศได้
หลัวซิวสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายน่าสยดสยองที่เข้มข้นมาจากด้านหลังของตัวเอง หลัวซิวจึงมั่นใจแล้วว่าอสูรงูปีกเขียวได้ปรากฏตัวออกมาแล้ว
อสูรงูปีกเขียวปักหลักอยู่ที่นี่เพราะผลโหวหยาง สรรพคุณความเป็นยาวิเศษของมันสามารถเพิ่มพลังให้กับมันได้ และนี่เองที่ทำให้มันทำใจกินผลโหวหยางลงไปไม่ได้สักที
และตอนนี้กลับมีคนคิดจะมาแย่งผลโหวหยางไปจากมัน อสูรงูปีกเขียวโมโหจนส่งเสียงร้องพลางอ้าปากกว้างๆ ของมันที่เต็มไปด้วยเลือดหวังจะเขมือบหลัวซิว
การเคลื่อนไหวของอสูรงูปีกเขียวนั้นรวดเร็วมาก มันส่ายหัวไปมาราวกับสายฟ้าสีเขียว
หลัวซิวไม่ได้หันกลับไปมอง แต่รับรู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ ที่ปะทะเข้าที่ตัวพลางส่งเสียงหวีดดัง เขายังคงไม่ตื่นตระหนก เขาสลับวิชาท่าร่างที่ตนมีภายในชั่วพริบตาเหลือทิ้งไว้เพียงเศษเงา
“ตู้ม!”
อสูรงูปีกเขียวงับโดนเพียงอากาศว่างเปล่าส่งผลให้ก้อนหินบางส่วนถูกมันงับแตกละเอียด ลำตัวงูที่ยาวถึงสิบจั้งเคลื่อนที่ออกมาจากโพรงถ้ำที่กำลังส่งเสียงระเบิด
ระยะห่างสิบกว่าเมตรได้หายวับไปภายในชั่วพริบตาของหลัวซิว หลังจากหลบการเขมือบของอสูรงูปีกเขียวได้แล้ว หลัวซิวก็รีบเพิ่มความเร็วแล้วยื่นมือออกไปเด็ดผลโหวหยางทั้งสี่มาอย่างรวดเร็ว
“ฟู่วว! ……”
อสูรงูปีกเขียวโมโห มันชูคอขึ้นแล้วอ้าปากพ่นหมอกพิษดำทะมึนที่เหม็นคาวคละคลุ้งออกมาปกคลุมไปทั่วร่างของหลัวซิว
หมอกพิษนี้ร้ายแรงมาก อากาศที่เป็นพิษทำให้เกิดเสียงปั้งๆ ออกมา เมื่อหมอกพิษที่น่ากลัวปกคลุมไปทั่วร่างของเขา หลัวซิวก็เริ่มสงสัยขึ้นมาอีกว่ายาแก้พิษนั้นใช้ได้จริงหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสงสัยด้วยว่าพวกจางไห่เฟยได้ใส่อะไรบางอย่างลงไปในนี้
หลัวซิวผนึกรวมปราณแท้ ร่างของเขาปรากฏเพลิงมรณะช่วงเวลาที่เปลวไฟสีดำปะทะเข้ากับหมอกพิษสีดำนั้น ก็มีเสียง ชี่ๆๆๆ ดังออกมา
แม้ว่าหลัวซิวจะกลั้นลมหายใจแล้ว แต่เขายังคงรู้สึกเวียนหัว เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าหมอกพิษของอสูรงูปีกเขียวนั้นรุนแรงมากแค่ไหน
ในช่วงเวลานั้น หลัวซิวไม่กล้าที่จะหยุด เขากระตุ้นวิชาท่าร่างเร็วเต็มขีดสุด และมุ่งหน้าเข้าไปทางจางไห่เฟยอย่างรวดเร็ว
เมื่อผลโหวหยางถูกแย่งไปแล้ว อสูรงูปีกเขียวไม่มีทางหยุดไล่กวด ทั้งคนทั้งงู ทั้งตัวใหญ่และตัวเล็กล้วนเคลื่อนตัวไปอย่างรวดเร็ว ทำให้อยู่ห่างจากค่ายกลน้อยลงเรื่อยๆ
“ไอ้หมอนี่ยังหนีออกมาได้อีกรึ” เถียนกวงโหย่วถลึงตา สถานการณ์ดังเช่นเมื่อครู่นี้หากเป็นเขาคงตายไปแล้วแน่
“เขาคงกินยาแก้พิษเข้าไปแล้วล่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่โดนงูกัดตาย แต่……” จางไห่เฟยหัวเราะเสียงเย็น
“มาแล้ว ทุกคนเตรียมพร้อม!”
ทันใดนั้นหลัวซิวก็ได้พุ่งทะยานเข้ามาในขอบเขตของค่ายกล ส่วนอสูรกายก็ได้สยายปีกสีใสของตัวเองออกมา ลำตัวงูมโหฬารลอยอยู่กลางอากาศด้วยระยะห่างเพียงสามฟุต มันบินทะยานด้วยความเร็วราวสายฟ้า
“ฟึ่บ!”
แสงสว่างสีขาวสว่างวาบขึ้นเป็นรูปร่างราวระฆังคว่ำ ครอบอสูรงูปีกเขียวเอาไว้ในพื้นที่เล็กๆ กลางอากาศ
จางไห่เฟยได้ใช้งานค่ายกลที่ตนจัดวางเอาไว้แล้ว
ในตอนนั้น จางไห่เฟย เถียนกวงโหย่ว เหมียวเฟยเฟยและลู่เมิ่งเหยาได้อยู่นอกบริเวณของค่ายกลแล้ว
แต่เมื่อจางไห่เฟยใช้งานค่ายกล กลับขังหลัวซิวกับอสูรงูปีกเขียวอยู่ภายในค่ายกลด้วยกัน
“หลัวซิวยังอยู่ข้างใน!”
สีหน้าของลู่เมิ่งเหยาแปรเปลี่ยน เธอตะโกนเข้าใส่จางไห่เฟยที่เป็นผู้ควบคุมค่ายกล “รีบปล่อยหลัวซิวออกมาสิ”
“หุบปาก!”
เถียนกวงโหย่วชักมีดออกมา พลางหันปลายมีดไปยังลู่เมิ่งเหยา “พี่ใหญ่กำลังควบคุมค่ายกล ห้ามรบกวน ไม่อย่างนั้นฉันจะแทงแกให้ตายเดี๋ยวนี้!”
ส่วนเหมียวเฟยเฟยก็มีสีหน้าไร้ความรู้สึก เธอหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งออกมาแล้วจ้องเขม็งไปทางลู่เมิ่งเหยา
“แก……พวกแก……” ตอนนี้ลู่เมิ่งเหยากำลังโกรธจัด
“ไม่มีใครช่วยมันได้ทั้งนั้น ยาแก้พิษเม็ดนั้นเดิมทีก็มีพิษร้ายแรงในตัวอยู่แล้ว ถ้าไม่มีไอหมอนั่นเป็นเหยื่อล่อ อสูรงูปีกเขียวจะโดนฆ่าตายได้ยังไง” เถียนกวงโหย่วแสยะยิ้มพลางกล่าว
เหตุการณ์ดำเนินไปตามแผนการที่พวกเขาวางเอาไว้ เมื่อดำเนินมาถึงตอนนี้ เถียนกวงโหย่วจึงไม่คิดจะปิดบังอะไรต่อไปอีก
เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของลู่เมิ่งเหยาพลันซีดเผือด เธอเข้าใจความหมายของเถียนกวงโหย่วทันที การที่พวกเขาให้หลัวซิวไปล่องูออกมาจากถ้ำนั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ แถมยาแก้พิษนั้นยังมีพิษซ่อนอยู่ในตัว หากหลัวซิวโดนอสูรงูปีกเขียวกลืนลงไป นั่นเท่ากับว่าอสูรงูก็จะโดนวางยาพิษตายไปด้วย