ในหม้อไฟบุ๋น ยาข้นหนืดกำลังก่อตัวเป็นเม็ดๆ

เปลวไฟที่เหมือนกับลูกไฟ กำลังลุกโชนอยู่ในหม้อไฟบุ๋น ช่วยให้ยาค่อยๆ กลายเป็นรูปร่าง

กลิ่นยาค่อยๆ หายไป ยาสีใสถูกกลั่นออกมา

ลู่ฝานลืมตา รู้สึกพอประมาณแล้ว ใช้ฝ่ามือซ้าย ตบลงไปเบาๆ บนหม้อไฟบุ๋น

“ออกมา!”

ทันใดนั้น ยาทั้งหมดเด้งออกมาจากหม้อไฟบุ๋น

เขายืนมือไปกวาด ยาหลายสิบเม็ด อยู่ในมือลู่ฝาน เขารีบเอาขวดกระเบื้องเคลือบออกมา ใส่ยาเข้าไปทีละเม็ด ขวดมีแสงสีขาวแวววาวสว่างขึ้นมา

ลู่ฝานเก็บหม้อไฟบุ๋น จากนั้นแบมือ ในมือเหลือยาขนาดเท่าหยดน้ำอยู่หนึ่งเม็ด

เพราะยาสมุนไพรธรรมดาเกินไป ทำให้ยาเม็ดเล็กขนาดนี้ แต่โชคดีที่จำนวนยาไม่น้อย เพียงพอให้ลู่ฝานใช้แล้ว

ลู่ฝานเอายาใส่เข้าไปในปาก

ฤทธิ์ยาทำงานในร่างกาย ลู่ฝานหลับตาลง สัมผัสการทำงานของฤทธิ์ยาในร่างกาย

ทันใดนั้น ลู่ฝานยกยิ้มมุมปาก

ประสิทธิภาพของยาจิตนิ่งเม็ดนี้ นับว่าไม่เลวจริงๆ เขารู้สึกว่าความอ่อนล้าในร่างกาย หายไปในพริบตา ขนาดสมองยังรู้สึกปลอดโปร่ง ความเจ็บปวดหายไปจนหมด

ลู่ฝานพยักหน้าเบาๆ แค่มีประสิทธิภาพ ลู่ฝานก็กล้าสู้กับเพลงเต๋าหนึ่งเดียวต่อไป

มีการช่วยเหลือจากยาจิตนิ่งหลายสิบเม็ดนี้ ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองมีโอกาสทำได้ถึงสามพันครั้ง

ลู่ฝานยิ้มแล้วมองกระดาษตรงหน้า เขามีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“เอ๊ะ”

จู่ๆ ลู่ฝานได้ยินเสียงลมข้างหู

เสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตรงสุดสายตา ลู่ฝานเห็นเงาคนวิ่งมาจากทางเดินภูเขา

ความเร็วของการเคลื่อนไหวร่างกาย เหมือนสายลมพัดผ่านหุบเขา

แสงสีเขียวไหลวนอยู่ข้างตัวทั้งสองคน เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้ ไม่ใช่นักบู๊

ลู่ฝานขมวดคิ้วเบาๆ เหาะเหินด้วยธาตุทั้งห้า เป็นผู้ฝึกชี่ทั้งสองคน

โดนดึงดูดจากการกลั่นยาของเขาเมื่อกี้เหรอ นี่มันวุ่นวายเล็กน้อยแล้วล่ะ

ลู่ฝานรีบเก็บกระดาษตรงหน้า เอาชุดคลุมดำกับหน้ากากออกมาจากแหวน และเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ซ่อนกระบี่หนักไร้คมเอาไว้ นี่คือการแต่งตัว เวลาเขาทำความรู้จักกับผู้ฝึกชี่

จากนั้นลู่ฝานเด้งตัวลงจากยอดเขาอวิ๋นซาน ใช้พลังสายลมเหาะเหิน ลงสู่พื้นดินอย่างมั่นคง หันหลังเข้าไปซ่อนตัวในป่า

ลู่ฝานหลบอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เขาใช้วิชาร่างผสานฟ้าดิน

จากการที่พละกำลังของเขาทะลุระดับขึ้น วิชานี้ยิ่งใช้ง่ายขึ้น ลู่ฝานยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เหมือนรวมเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดิน แม้อีกฝ่ายใช้พลังชีวิตค้นหา ก็ไม่น่าจะเจอร่องรอยของเขา

ไม่นาน ลู่ฝานเห็นผู้อาวุโสกับวัยรุ่นคนหนึ่ง เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ผู้อาวุโสสวมชุดคลุมสีขาว ปักรูปหยินหยางและธาตุทั้งห้าข้างบน ไว้เคราแพะ ตีนกาเต็มหน้า มีประกายซ่อนอยู่ในแววตา

ลู่ฝานรู้จักวัยรุ่นข้างๆ จ้าวซวี่ ที่เขาเคยดวลวิชายาด้วย

ลู่ฝานยิ้มบางๆ แล้วตั้งใจฟัง

เสียงจ้าวซวี่ลอยตามลมมา “อาจารย์ เหมือนเขาไปแล้ว”

ผู้อาวุโสที่จ้าวซวี่เรียกว่าอาจารย์ พูดอย่างราบเรียบว่า “เขาไปหลังจากเห็นเรา”

เสียงก้องกังวาน ผู้อาวุโสมองไปรอบๆ แล้วพูดว่า “ข้าชื่อเฟิงหลิง ไม่ทราบว่าสหายท่านใด กลั่นยาที่นี่ ออกมาคุยกันได้หรือไม่ ฉันไม่มีเจตนาร้าย”

เสียงดังก้องเขาอวิ๋นซาน ลู่ฝานไม่มีความคิดที่จะออกไป

แค่เห็นจ้าวซวี่ ลู่ฝานไม่มีทางคุยกับเขาได้อย่างปกติ ไม่ต้องพูดเรื่องอื่น แค่จ้าวซวี่เห็นหน้ากากเงินของเขา 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องมีสีหน้าอึมครึม ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อาวุโสที่ชื่อเฟิงหลิง เป็นอาจารย์ของจ้าวซวี่ด้วย

เฟิงหลิงมองไปรอบๆ แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ

เฟิงหลิงขมวดคิ้ว และตะโกนออกมาอีกครั้ง

“แม้โลกกว้างใหญ่ แต่ผู้ฝึกชี่มีแค่ไม่กี่คน ในเมื่ออยู่เส้นทางเดียวกัน ออกมาคุยกันได้หรือไม่ พูดคุยเรียนรู้กัน ฝึกฝนพลังชี่ด้วยกัน แลกเปลี่ยนสูตรยากัน ดีหรือไม่”

ลู่ฝานยังคงนิ่ง แม้เขาฟังออกว่าเฟิงหลิง ไม่มีเจตนาร้ายจริงๆ

จ้าวซวี่ขมวดคิ้วพูดว่า “อาจารย์ อีกฝ่ายไปแล้ว หรือไม่ก็ไม่อยากออกมา ทำไมต้องเรียกเขาอีก”

เฟิงหลิงหันมาพูดว่า “เจ้าโง่ แกคิดว่าในมณฑลหนิงโจว เจอผู้ฝึกชี่คนอื่นง่ายหรือไง ได้เจอสักคน นับว่าเป็นโชคดี ถ้าในมือเขามีสูตรยา ที่แลกเปลี่ยนกันได้ หรือไม่ก็วิชาผู้ฝึกชี่ ถือว่าเราโชคดีมาก”

จ้าวซวี่อ้าปากค้าง ไม่ได้พูดอะไร เขาอยากบอกอาจารย์มาก ว่าเขาเจอผู้ฝึกชี่ ในเมืองเล็กๆ อย่างเมืองเจียงหลิน แต่ไม่เพียงแค่ไม่ได้แลกเปลี่ยนสูตรยา หนำซ้ำยังเอายาเบญจธาตุของตัวเอง ให้เขาไปด้วย

แน่นอนว่าจ้าวซวี่ ไม่มีทางพูดเรื่องน่าอายแบบนี้ เขาหวังว่าชีวิตที่เหลืออยู่ จะเจอผู้ฝึกชี่หน้ากากเงินอีกครั้ง เขาต้องเอาชนะได้แน่นอน

เฟิงหลิงไม่ได้มีปฏิกิริยาใด ก้มหน้าเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ในเมื่อสหายไม่อยากเปิดเผยตัว งั้นอย่าโทษที่อาวุโสต้องค้นหา แม้เทือกฉิงเทียนเห็นได้ชัดเจน แต่เป็นถิ่นของสถาบันสอนวิชาบู๊ สหายเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ ดูจะผิดกฎเล็กน้อย ฉันจำเป็นต้องค้นหา ล่วงเกินแล้ว!”

พูดจบ เฟิงหลิงใช้วิชาฝ่ามือ พลังฟ้าดินรอบๆ เริ่มเปลี่ยนแปลง